คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
^
^
อ่าว อ่านจากอีกกระทู้ยังดูมีความสุขกับแฟนอยู่เลย กระทู้นี้จะคิดสั้นซะแล้ว
อย่าไปคิดสั้นเลยค่ะ ปัญหาต่าง ๆ ให้มองว่ามันท้าทาย เป็นสิ่งที่เข้ามาทดสอบชิวิตคุณเพื่อจะได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเรียนรู้การรับมือกับคนหรืออะไรก็แล้วแต่ ค่อย ๆ ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ตั้งสติ แล้วให้มองว่าไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ในโลกนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ความสุขผ่านเข้ามาในชีวิต เดี๋ยวความสุขก็จะค่อย ๆ ผ่านไป ความทุกข์และปัญหาก็เช่นกัน ถ้ามันผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เดี๋ยวมันก็จะค่อย ๆ ผ่านไป แค่ตัวเราอย่ากลัว อย่ายอมแพ้ ความตายนั้นรอเราอยู่แล้ว ไม่มีใครหนีความตายพ้นไปได้หรอก อย่ารีบร้อนไปพบมันเลย ใช้ชีวิตค่อยเก็บเกี่ยวความทรงจำ ทั้งสุขและทุกข์นั่นแหละ เรียนรู้ผู้คนที่ที่ดีกับเราและไม่ดีกับเรา ทั้งคนที่คิดดีกับเราและคิดร้ายกับเรา ทุก ๆ อย่าง คนทุกรูปแบบที่เข้ามาในชีวิตเราต่างก็มีข้อดีกับชีวิตเราทั้งนั้น คนที่คิดร้ายกับเราก็ทำให้เราได้รู้ว่ายังมีคนแบบนี้อยู่และทำให้เราเรียนรู้ที่จะรับมือยังไงกับคนแบบนี้ และคนที่คิดดีกับเราก็จะทำให้เรารู้สึกว่าโลกนี้ยังน่าอยู่อยู่และพอมองไปที่คนที่คิดดีกับเราเราก็จะมีกำลังใจ และสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะคนแบบไหน คนตัวเล็กหรือคนตัวใหญ่ ยากดีมีจน หรือมีพาวที่ยิ่งใหญ่มาจากไหน สุดท้ายแล้วก็หนีไม่พ้นจุดจบเดียวกันคือความตาย แถมพอถึงวันนั้นก็ไปกันแต่ตัวกันทั้งนั้น ไม่มีใครเอาวัตถุสิ่งของหรืออำนาจที่สะสมไว้ไปด้วยได้เลย สุดท้ายก็แค่วิญญาณ(ที่กลายเป็นพลังงาน)ออกจากร่างและร่างกายก็กลายเป็นขยะแค่นั้นเอง แก่งแย่งกันไปก็แค่นั้น ถ้าช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณรู้สึกหดหู่จนถึงขั้นรู้สึกอยากตาย ขอให้มองว่าความตายรอเราอยู่ค่ะ อย่าเพิ่งรีบร้อน ลองใช้ชีวิตแบบเก็บเกี่ยวความทรงจำดี ๆ กับผู้คนรอบตัวที่เค้ายังรักคุณดีกว่า โฟกัสไปที่คนกลุ่มนี้(กลุ่มคนที่หวังดี คิดดี และยังรักคุณ)ดีกว่าค่ะจะได้มีความสุขกับชีวิต กลุ่มคนที่คิดร้ายกับคุณก็ให้อภัยเค้าไปเพื่อตัวคุณเองจะได้ไม่เกิดความกดดัน หรือความกลัวแล้วทำให้ทุกข์ใจตัวเองเปล่า ๆ น่ะ
^
อ่าว อ่านจากอีกกระทู้ยังดูมีความสุขกับแฟนอยู่เลย กระทู้นี้จะคิดสั้นซะแล้ว
อย่าไปคิดสั้นเลยค่ะ ปัญหาต่าง ๆ ให้มองว่ามันท้าทาย เป็นสิ่งที่เข้ามาทดสอบชิวิตคุณเพื่อจะได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเรียนรู้การรับมือกับคนหรืออะไรก็แล้วแต่ ค่อย ๆ ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ตั้งสติ แล้วให้มองว่าไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ในโลกนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ความสุขผ่านเข้ามาในชีวิต เดี๋ยวความสุขก็จะค่อย ๆ ผ่านไป ความทุกข์และปัญหาก็เช่นกัน ถ้ามันผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เดี๋ยวมันก็จะค่อย ๆ ผ่านไป แค่ตัวเราอย่ากลัว อย่ายอมแพ้ ความตายนั้นรอเราอยู่แล้ว ไม่มีใครหนีความตายพ้นไปได้หรอก อย่ารีบร้อนไปพบมันเลย ใช้ชีวิตค่อยเก็บเกี่ยวความทรงจำ ทั้งสุขและทุกข์นั่นแหละ เรียนรู้ผู้คนที่ที่ดีกับเราและไม่ดีกับเรา ทั้งคนที่คิดดีกับเราและคิดร้ายกับเรา ทุก ๆ อย่าง คนทุกรูปแบบที่เข้ามาในชีวิตเราต่างก็มีข้อดีกับชีวิตเราทั้งนั้น คนที่คิดร้ายกับเราก็ทำให้เราได้รู้ว่ายังมีคนแบบนี้อยู่และทำให้เราเรียนรู้ที่จะรับมือยังไงกับคนแบบนี้ และคนที่คิดดีกับเราก็จะทำให้เรารู้สึกว่าโลกนี้ยังน่าอยู่อยู่และพอมองไปที่คนที่คิดดีกับเราเราก็จะมีกำลังใจ และสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะคนแบบไหน คนตัวเล็กหรือคนตัวใหญ่ ยากดีมีจน หรือมีพาวที่ยิ่งใหญ่มาจากไหน สุดท้ายแล้วก็หนีไม่พ้นจุดจบเดียวกันคือความตาย แถมพอถึงวันนั้นก็ไปกันแต่ตัวกันทั้งนั้น ไม่มีใครเอาวัตถุสิ่งของหรืออำนาจที่สะสมไว้ไปด้วยได้เลย สุดท้ายก็แค่วิญญาณ(ที่กลายเป็นพลังงาน)ออกจากร่างและร่างกายก็กลายเป็นขยะแค่นั้นเอง แก่งแย่งกันไปก็แค่นั้น ถ้าช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณรู้สึกหดหู่จนถึงขั้นรู้สึกอยากตาย ขอให้มองว่าความตายรอเราอยู่ค่ะ อย่าเพิ่งรีบร้อน ลองใช้ชีวิตแบบเก็บเกี่ยวความทรงจำดี ๆ กับผู้คนรอบตัวที่เค้ายังรักคุณดีกว่า โฟกัสไปที่คนกลุ่มนี้(กลุ่มคนที่หวังดี คิดดี และยังรักคุณ)ดีกว่าค่ะจะได้มีความสุขกับชีวิต กลุ่มคนที่คิดร้ายกับคุณก็ให้อภัยเค้าไปเพื่อตัวคุณเองจะได้ไม่เกิดความกดดัน หรือความกลัวแล้วทำให้ทุกข์ใจตัวเองเปล่า ๆ น่ะ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าเราฆ่าตัวตายที่ต่างประเทศจะเกิดอะไรขึ้น