[กระทู้ระบายความคิด] ทุกวันนี้คุณมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร? ทำไมโลกใบนี้ถึงยังต้องมีคนอย่างคุณอยู่?

ทุกวันนี้คุณมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร? ทำไมโลกใบนี้ถึงยังต้องมีคนอย่างคุณ?

กระทู้นี้เป็นกระทู้ระบายความคิดที่ยังไม่ตกผลึกและเป็นการทบทวนตัวเองไปในตัว(อีกแล้ว)
อยากมีคนรับฟังและแลกเปลี่ยน เผื่อความคิดจะได้ตกผลึก หรือได้รับมุมมองใหม่ๆบ้าง (ถือว่าสงสารเด็กคนหนึ่งที่ไม่มีญาติผู้ใหญ่ให้พูดคุยปรึกษาก็แล้วกันนะคะ)

ตั้งแต่แม่จากไป เรารู้สึกชีวิตไร้ความหมายค่ะ

ก่อนนี้คิดว่าอยู่เพื่อเลี้ยงดูตอบแทนบุพการี แต่ตอนนี้พวกท่านจากไปหมดแล้วค่ะ
ตอนนี้ตัวเองไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว ไม่มีพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ยังไม่มีสามี ยังไม่มีลูก ไม่มีทรัพย์สินอะไรให้ต้องหวงแหน
พินัยกรรมเขียนไว้แล้ว บอกคนใกล้ชิดไว้แล้วว่าเมื่อวาระสุดท้ายมาถึงอยากให้จัดการเช่นไร ค่าใช้จ่ายให้ใช้จากเงินเก็บของเรา
บอกไว้ว่าหากป่วยระยะสุดท้ายหรือรอดมาก็ทำประโยชน์อะไรให้สังคมไม่ได้อีกแล้ว อย่าใส่ท่อ อย่าใช้ยากระตุ้น อย่าช่วยฟื้นคืนชีพ ปล่อยเราไปตามธรรมชาติ และตั้งใจไว้ว่าจะบริจาคร่างกายและอวัยวะทั้งหมด แล้วแต่ว่าถึงตอนนั้นจะเอาร่างเราไปทำอะไรได้บ้าง
ถ้ามีชิ้นส่วนที่เหลือต้องเอากลับมาจัดการเอง งานศพให้จัดแบบเรียบง่ายที่สุด ไม่ต้องสิ้นเปลือง ไม่ต้องซื้อที่สร้างฮวงซุ้ยอะไรให้เรา เราอยากเหลือแผ่นดินไว้ทำประโยชน์อย่างอื่น ให้เผาแล้วลอยอังคารไป (ใจจริงให้เอาไปทำเป็นปุ๋ยต้นไม้ แต่กลัวว่าจะทำให้คนอื่นหวาดกลัวเสียเปล่าๆ ต้นไม้ผีสิงอะไรอย่างงี้)
เงินที่เหลือให้เอาไปทำสาธารณะประโยชน์หรือทำนุบำรุงศาสนาตามแต่จะเห็นสมควร
คือคิดเผื่อไปถึงตอนตัวเองตายแล้ว
ให้อยู่ต่อก็อยู่ได้ แต่ถ้าตายตอนนี้ก็ไม่อาลัย

เราไม่แน่ใจว่านี่เราปลงชีวิตหรือหมดอาลัยตายอยากกันแน่
ทุกวันนี้เหมือนมีชีวิตไปวันๆ
ทำงานหาเงินดูแลตัวเองได้ ไม่เป็นภาระใคร ซื้อบ้านซื้อรถได้ท่องเที่ยวหาความสุขให้ตัวเองได้ แล้วยังไงต่อ? แค่ต่อลมหายใจไปวันๆ เสพสุขไปวันๆ เพื่อรอวันหมดอายุขัยงั้นหรือ?
ชีวิตที่เหมือนอยู่เพื่อตัวเองไปวันๆ มันช่างไม่มีความหมายเลย
ขาดฉันไปสักคนโลกนี้ก็ไม่เป็นไร ฉันอยู่ไปก็แค่ผลาญทรัพยากรโลกไปวันๆ

ก็ไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีหรือโชคร้ายที่ยังไม่ได้สร้างห่วงสามีหรือห่วงลูกมาคล้องคอตัวเอง

แต่เราไม่ฆ่าตัวตายหรอกนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วง
เราคิดว่าที่เรายังมีลมหายใจ แสดงว่าพระเจ้าหรือธรรมชาติ(หรืออะไรก็แล้วแต่)คงเห็นแล้วว่า ร่างกายเราหรือชีวิตที่เหลืออยู่ของเราคงยังมีคุณค่าบางอย่างต่อโลกใบนี้
ตอนนี้เราแค่ยังหามันไม่เจอ และกำลังพยายามหาอยู่

อยากรู้เหมือนกันว่า แรงบันดาลใจในการมีชีวิตอยู่ของแต่ละคนเป็นอย่างไร เผื่อในนั้นจะมีคำตอบของเราบ้าง

หรือบางทีหากเราขยายขอบเขตความรักของเราให้กว้างขึ้น
จากรักตัวเอง รักครอบครัว มาเป็นรักเมืองที่เราอยู่ รักประเทศ  รักโลก เราอาจจะกลับมาสนุกกับการมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อคนอื่นอีกครั้งก็ได้

ความรู้สึกสนุกกับการมีชีวิตเพราะได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นของเรา มันจบลงเมื่อพ่อแม่ปู่ย่าตายายของเราจากไปหมด(และเรายังไม่แต่งงานไม่มีลูก ยังไม่ได้สร้างครอบครัว) คงเป็นเพราะตอนนั้นขอบเขตความรักของเรามันจำกัดอยู่แค่การรักครอบครัว เมื่อบุพการีจากไปหมด เราจึงรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัวที่เราต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเขาอีกต่อไปแล้ว

ความรักครอบครัวของเราในตอนนั้นมันเป็นแรงผลักดันให้เรากล้าทำอะไรหลายๆอย่าง แม้จะยากลำบากและดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่เราก็ทำได้สำเร็จ เพราะเราอยากให้เขามีความสุข และเรามั่นใจในความรักของพวกเขา มั่นใจว่าเขาจะคอยเป็นกำลังใจให้เราเสมอ

ถ้าเราขยายขอบเขตความรักของเรามาเป็นรักเมืองที่เราอยู่ รักประเทศชาติ เราจะทำอะไรได้บ้างนะ และเราจะมั่นใจในตัวพวกเขาได้ขนาดไหนกันนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่