[CR] >>>กินๆ เที่ยวๆ กันแบบลงใต้ ไม่ลงน้ำ<<< แลเมืองตรัง ยลเมืองกระบี่

กระทู้รีวิว
ได้เวลารีวิวทริปเที่ยวไทยส่งท้ายปีกับ "ลงใต้ ไม่ลงน้ำ" ที่เมืองตรังและกระบี่ ค่ะ
หมักดองทริปนี้มาได้เดือนกว่าๆ ในที่สุดก็หาเวลามานั่งเขียนรีวิวได้สักที
ถ้าใครจะมาหาสาระว่าอุ้ยไปกระบี่ เที่ยวเกาะไหนดี ไปทะเลไหนสวย ทรายหาดไหนขาว ขอให้ข้ามกระทู้นี้ไปค่ะ
เพราะเราเลือกที่เที่ยวที่พักเอาที่เดินทางสะดวก รถไปถึงได้ง่ายไม่ต้องต่อเรือ เนื่องจากจขกท. เป็นสาวดอยผู้กลัวน้ำ
ยังไม่หายหวาดกลัวจากการลงเรือเที่ยว 4 เกาะที่ภูเก็ตเมื่อปีทีแล้ว งานนี้เลยขอเที่ยวเลาะแผ่นดินไปเรื่อยๆละกันค่ะ
มาติดตามดูค่ะว่า เราจะลงไปเที่ยวภาคใต้ แบบไม่ลงน้ำ กันอย่างไร
.
.
.
จุดเกิดเหตุของทริปนี้คือ โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินที่มีราคาน่าเย้ายวนของน้องนาง bangkok airways asia boutique airline
ที่ปล่อยโปรมาในราคา 690 บาท แล้วเราจะพลาดได้อย่างไร ด้วยสิทธิสมาชิกไฟเออร์โบนัส จองได้ก่อนลูกค้าทั่วไปด้วยนะคะ
ก็จัดการจองไป ได้ทั้งตั๋วกลับบ้านที่ลำปางมาแล้วหลายใบ แต่ๆไม่จบแค่นั้นเพราะคุณพี่สาวของเจ้าของกระทู้ โทรมาชักชวนว่าไปมั้ยๆ
เนี่ยเค้าว่าบางกอกแอร์เวย์มีบินเส้นทางเชียงใหม่-กระบี่ ด้วยนะ ไปกันมั้ย มีเหรอที่เราจะพลาด เราไม่ชอบเลยพวกของถูกๆ รีบกดดูราคาตั๋วอย่างไว
และด้วยบุญบารมีและความรักที่มีต่อข้าวต้มมัดของเล้าจ์บางกอกแอร์เวย์ก็ทำให้เราได้วันเวลาเที่ยวบินที่ถูกใจ และมีที่นั่งพอสำหรับสมาชิกทั้ง 7 คน
ในราคาที่น่ารักด้วยค่ะ รวมภาษีและค่าธรรมเนียมแล้ว เราสอยมาได้ในราคา 1,580 บาท/คน ซึ่งถูกมากค่ะ
แถมวันเดินทางยังเป็นช่วงอาทิตย์ที่หยุดยาว 23 ตค.ด้วยค่ะ

โดยทริปนี้ครอบครัวของจขกท. 6 คน บินมาจากเชียงใหม่ค่ะ แต่เครื่องจะแวะรับผู้โดยสารเพิ่มที่สุวรรณภูมิ ซึ่งจขกท. จะตามมาสมทบขึ้นในเที่ยวบินจากสุวรรณภูมิจนถึงกระบี่ค่ะ

ใช้เวลาบินไม่นาน ข้าวต้มมัดยังไม่ทันย่อย
เราก็มาถึงสนามบินกระบี่โดยสวัสดิภาพขอเปิดรูปแรกของทริปคู่กับน้องญาญ่า พรีเซนเตอร์ของสายการบินที่แปะอยู่บริเวณใกล้กับสายพานรับกะเป๋าเลยละกันนะคะ


หลังจากรับกระเป๋าเรียบร้อย ก็ไปรับรถกันค่ะ ทริปนี้ผู้ใหญ่ 5 เด็ก 2 สัมภาระอีกจำนวนมาก แรกเริ่มเดิมทีอยากจะหาเช่ารถตู้ขับเที่ยวค่ะ แต่พอหาข้อมูลดูแล้วรถตู้จะเป็นแบบเหมาพร้อมคนขับซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของเราค่ะ เลยมาลงตัวกันที่โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ นั่งกันได้พอดี แต่สัมภาระก็ต้องสะกดจิตตัวเองให้เอามาแต่น้อยของที่จำเป็นเท่านั้นห้ามขนเหมือนจะย้ายบ้าน


ออกจากสนามบิน วันแรกนี้เราจะไปแลเมืองตรังกันก่อนค่ะ
ดังนั้นที่เที่ยววันนี้ จะแวะระหว่างเส้นทาง กระบี่-ตรัง

โดยที่แรกมาแวะเติมพลังให้อิ่มท้องก่อนค่ะ ร้านขนมจีนโกจ้อย อยู่ไม่ไกลจากสนามบินกระบี่

เริ่มกันด้วยน้ำยาปู ที่หอมเครื่องแกงแบบใต้ เนื้อปูอาจไม่ได้มีมาเป็นก้ามๆแบบตามร้านอาหารใหญ่ๆ แต่ขอรับรองว่าชิมแล้วไม่ใช่น้ำยาวิญญาณปูแน่นอนค่ะ


พักเครื่องเคียงมีให้เลือกมากกมายเลยค่ะ บางชนิดเราก็ไม่รู้จักค่ะ ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่กับผักพื้นถิ่นภาคใต้
แต่ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ


นอกจากขนมจีนน้ำยากระทิ น้ำยาปู แกงเขียวหวานแล้ว ที่นี่เค้ายังมีห่อหมกที่รสชาติจัดจ้านอีกด้วยค่ะ


ส่วนบ้านไหนที่พาเด็กๆมาด้วย ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะที่ร้านนี้มีไก่ทอดกรอบอร่อยไว้เป็นทางเลือกให้เด็กๆ  หรือผู้ใหญ่ถ้าจะสั่งมาทานคู่กับขนมจีนก็ไม่ผิดกติกาค่ะ


มาแวะกันจุดต่อมาค่ะ สระมรกต ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่
สำหรับที่นี่เราจะต้องเสียค่าเข้า 20 บาท และห้ามนำขนม อาหาร เครื่องดื่ม เข้าไปนะคะ ใครนำมาต้องเอามาแขวนไว้ตรงหน้าทางเข้าก่อนค่ะ เที่ยวเสร็จแล้วค่อยมารับกลับไปค่ะ


ระหว่างทางเดินเข้าไปที่สระมรกต เราจะเจอสระที่ชื่อว่าสระแก้วก่อนค่ะ สระนี้ลงเล่นน้ำไม่ได้นะคะ





สระมรกต เป็นที่เที่ยวหนึ่งของกระบี่ที่เราอยากมามากค่ะ เพราะอยากจะมาดูสระน้ำใสๆ สีเขียวอมฟ้า แต่ๆพอมาถึงเล่นเอาความอยากนั้นหมดไปจนติดลบเลยค่ะ เพราะด้วยความที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง จึงทำให้คนเยอะมากๆค่ะ มีทั้งชาวไทยและต่างชาติ เล่นน้ำกันเต็มพื้นที่รอบๆขอบสระ
ส่วนตัวนี่แอบเสียดายพลังงานที่ใช้ในการเดินเข้ามาเลยค่ะ เพราะระยะทางค่อนข้างไกลเลยทีเดียว


จากนั้นมุ่งหน้าไปต่อที่เมืองตรังค่ะ
แน่นอนค่ะว่ามาเมืองตรังก็ต้องทานหมูย่าง เช้าวันใหม่ที่เมืองตรัง จึงเริ่มต้นด้วยหมูย่างและติ่มซำ
โดยวันนี้มีคุณลุงคุณป้าคนตรังที่รู้จักกันจะพาเราไปทานติ่มซำร้านอร่อยค่ะ
ซึ่งก็คือ " ร้านเรือนไทยติ่มซำ "


อร่อยจริงๆค่ะ เมนูก็หลากหลาย ได้ลองเกือบครบค่ะ เพราะไปกันหลายคน สั่งมาหลายอย่าง ด้วยความหิวเลยเป็นแบบถ่ายภาพหมู่แทนละกันนะคะ
ระบบการสั่งอาหารที่นี่ เราจะต้องไปเลือกติ่มซำเองบริเวณเคาร์เตอร์ที่มีเตานึ่งค่ะ เลือกเสร็จก็เอาป้ายเลขโต๊ะไปวางไว้บนกองติ่มซำ เดี๋ยวพนักงานเค้าจะนำไปนิ่งแล้วนำมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะค่ะ

ส่วนหมูย่างนั้น คุณป้าญาติคนตรังที่พาเรามาเลี้ยงอาหารเช้าแบบชาวตรังวันนี้ ไปซื้อมาจากร้าน พงศ์โอชา มาให้เราทานค่ะ
คุณป้าบอกว่าหมูย่างร้านนี้อร่อย คนต่อคิวเยอะ ป้าต้องออกไปซื้อไว้ให้ตั้งแต่เช้าตรู่เลยค่ะ





ทานอาหารเช้าเสร็จเราก็ไปต่อกันที่ สถานีรถไฟกันตัง อ. กันตัง จ. ตรัง
เป็นสถานีสุดท้ายของทางรถไฟฝั่งทะเลอันดามันค่ะ โดยตัวอาคารสถานีและชานชาลายังคงรักษาสถาปัตยกรรมแบบเก่าไว้อยู่
แต่ก็มีการทาสีปรับปรุงให้ยังคงไว้ซึ่งความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ค่ะ
พอดีเราไม่ถ่ายภาพเฉพาะตัวสถานีไว้ ขอยืมภาพที่มีคุณพ่อเป็นนายแบบมาลงแทนละกันนะคะ


มาถึงกันตังนอกจากจะมาชมสถานีรถไฟแล้ว อีกหนึ่งเป้าหมายของเราคือจะมาลองทานราดหน้าทะเลจานใหญ่ และจ้อปู
ที่คนตรังเค้ากำชับมาค่ะว่ามาแล้วต้องได้ลอง วันนี้เราไปลองกันที่ร้าน ล้อคุ้ง ร้านนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกันตัง ไม่ไกลจากสถานีรถไฟกันตังค่ะ
อร่อยสมคำล่ำลือค่ะ



กลับไปต่อกันที่กระบี่ค่ะ ลานปูดำ เขาขนาบน้ำ สุสานหอยล้านปีเราก็ไปเที่ยวมานะคะ แต่มีคนรีวิวเยอะแล้ว
จึงขอนำเสนอเฉพาะไฮไลท์ที่ประทับใจของจขกท. นะคะ
ซึ่งก็คือ   "ท่าปอม คลองสองน้ำ"  แหล่งท่องเที่ยว Unseen ในกระบี่
เพราะหลังจากผิดหวังจากสระมรกต ก็เปิดไปเจอรุ่นน้องมหาลัยอัพภาพในเฟสบุ๊คว่าไปเที่ยวที่นี่ ทำให้เราอยากไปตามรอยมากค่ะ
เพราะแค่เห็นภาพก็ชอบแล้ว และที่นี่ยังอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่เราพักที่อ่าวนาง  ก็เลยขอไปเที่ยวชมให้เห็นกับตาหน่อยค่ะว่าจะสวยจริงหรือไม่
ค่าเข้าชมสำหรับเด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท
ด้วยความเป็นที่เที่ยวกะทันหัน ไปแบบไม่รู้ว่าที่นี่คืออะไร เป็นมาอย่างไร
ไปถึงก็เกิดคำถามว่า คลองสองน้ำคืออะไร ถามชาวบ้านแถวนั้นก็ได้คำตอบมาทันทีว่า
คลองที่นี่ชื่อว่าคลองท่าปอม ส่วนที่เรียกว่าคลองสองน้ำ เพราะมีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ตอนช่วงเวลาน้ำลง น้ำจืดจากแหล่งต้นน้ำที่ไหลมาในคลองก็ไหลออกสู่ทะเล น้ำในคลองก็จะเห็นปีเขียวอมฟ้า ราวกับสีมรกต แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาน้ำขึ้น น้ำทะเลจะหนุนไหลเข้ามาในคลอง น้ำในคลองก็จะเป็นน้ำเค็มจนถึงน้ำกร่อย แต่ช่วงนี้น้ำจะขุ่นไม่ค่อยสวยใสค่ะ  

ใครที่จะไปเที่ยวที่นี่ยังไงลองเช็คเวลาน้ำขึ้นน้ำลงไปก่อนก็จะดีนะคะ เพราะถ้าไปแบบไม่มีข้อมูลแบบจขกท. นี่ทันเห็นจังหวะช่วงที่น้ำลงแบบตอนปลายๆ ได้เห็นน้ำสีเขียวสวยใสอยู่นิดเดียว แล้วก็ถึงเวลาน้ำขึ้น น้ำก็จะเริ่มขุ่น ภาพที่ถ่ายมาก็เลยจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ค่ะ



แม้น้ำจะใสไม่มาก แต่ทีนี่เงียบ สงบ คนไม่พลุกพล่าน ประหนึ่งว่าทั้งคลองเป็นของเรา
และที่ชอบมากคือมีเส้นทางวนเดินศึกษาธรรมชาติโดยรอบทั้งหมด ทำให้เด็กๆได้ไปศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนด้วยค่ะ
แต่ถ้ามีเด็กเล็กและซุกซนอาจต้องระวังนิดนะคะ เพราะทางเดินไม่มีราวกันตกค่ะ




จังหวะน้ำสีฟ้าใส ทันได้มาไม่กี่ภาพเองค่ะ




ใครที่จะมาเที่ยวกระบี่ ลองแวะมาเที่ยวที่นี่ดูนะคะ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาจริงๆค่ะ แต่มาแล้วก็อย่าลืมช่วยกันรักษาความสะอาด รักษาธรรมชาติที่สวยงามของที่นี่ไว้ให้อยู่กับเรานานๆนะคะ

ชื่อสินค้า:   ตรัง - กระบี่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่