

สวัสดีค่า เป็นรีวิวแรกลองมาเขียน เนื่องจากความประทับใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้รับความช่วยเหลือตลอดทริปนี้
เริ่มจาก อยู่ ๆ ก็ว่างหนึ่งวัน เลยเริ่มมีความคิดว่าอยากไปไหนไกล ๆ จากตัวเมืองซักที่ ภูพิงค์ ดอยสุเทพ ยังไม่เคยขึ้นหรอกค่ะ แต่รู้สึกมันใกล้อะ ตื่นเช้ามาก็เห็นวิวนี้แล้ว ฮา
กับไม่นานนี้เห็นมีรีวิวสตรอเบอรี่ผ่านตาไปแวบ ๆ ด้วยความที่ชอบอยู่แล้ว เลย เอาล่ะ จะไปเก็บสตรอเบอรี่ซักที่ เปิดหลายรีวิวก็เจอว่ามีหลายที่ที่สะเมิง และพอติดต่อที่ไร่ ก็พบว่ามีรุ่นแรกอยู่ (ลูกจะเล็ก ๆ)
โอเค ได้ที่เที่ยว สตรอเบอรี่เช็คแล้วก็มี
ปัญหาถัดไป... ไปยังไงต่อดี....
...
ถามว่ารถมีมั้ย มี แต่ไม่เคยขับขึ้นเขา วัน ๆ ขับวนแต่ในตัวเมือง หาร้านกาแฟ เช้าไปเย็นกลับตามประสาคนทำงาน
ไม่ค่อยกลัวกับการขับขึ้นเท่าไรนะ แต่กลัวการขับลง
เลยลองหาทางดูว่า มีวิธีไปไร่โดยไม่มีรถมั้ย ก็ได้คำตอบจากเจ้าของไร่ว่า มันมีค่าาา มันมี
แต่แทบบบบ ไม่เคยมีใครรีวิวไว้เลย ก็มีความหวั่นใจหน่อย ๆ เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องกลับไปทำงาน หากพลาดกลับมาไม่ได้นี่ซวยเลยนะ ฮือ
เกริ่นมาซะยาว เข้าเรื่องเลยดีกว่า ไปเที่ยวเก็บสตรอเบอรี่ สดจากไร่ กันที่สะเมิงกันเถอะค่าาา เป้าหมายวันนี้เราอยู่ที่
ไร่สตรอเบอรี่ไผ่สีทอง ค่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.strawberrychiangmai.com/
line id สำหรับติดต่อ : 47401117
เราเริ่มต้นกันที่ สถานีขนส่งประตูช้างเผือก ค่ะ
ที่นี่จะมีรถสองแถว รถแดง รถเหลือง อะไรมากมาย รถที่เราจะต้องนั่งไปคือ
รถสีเหลือง สาย เชียงใหม่ - สะเมิง - บ่อแก้ว
รถเที่ยวแรกที่ออกคือรอบ 08.50 น. จะรอช้าอยู่ไย ก็รีบขึ้นรอบแรกกันเถอะ~ (แต่ลืมถามมาว่า ออกทุกกี่นาที... )
โดยเวลาเดินทางจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ ไปถึงสะเมิง รวม ๆ ประมาณชั่วโมงครึ่งได้ รถเหลืองขับดีเลยนะคะ รถไม่เหวี่ยง นั่งแล้วไม่เมา ลมเย็น ๆ ปะหน้า ก็หลับระหว่างนั่งรถสบาย ๆ
พอซักประมาณ 11.00 น เราก็มาถึง อำเภอสะเมิง ค่าา
ถึงแดดจะร้อน แต่ลมหนาวเลยค่า ฟิน~
เราเองก็เลยเพิ่งได้คุยกะคนขับรถ ว่าจะขึ้นไปไร่ต่อ เพียงบอกชื่อไร่ คุณคนขับรถก็สามารถพาไปส่งได้ค่า เย่ พร้อมให้เบอร์นัดแนะเวลาไปกลับให้เรียบร้อย
สำหรับไร่ไผ่สีทอง เวลารถที่จะกลับลงมารับเราได้ที่ไร่ก็จะประมาณ 13.40 น. ดังนั้น เราก็จะมีเวลาเก็บสตรอเบอรี่ นั่งชิว ตากลมเย็น ๆ หน้าหนาว กินขนม วาดรูปเล่นซัก 2 ชั่วโมง
แต่ว่าหากจะเที่ยวต่อไกลกว่านั้น ก็มีทางเลือกเช่นเช่ามอไซค์แถวนั้น (ไม่ได้สอบถามราคาไว้นะคะ) และจะมีรถเหลืองอีกคัน ที่ขับจาก สะเมิง - เชียงใหม่ (ประตูช้างเผือก) ออกตอน 16.00 น. เที่ยวเย็นรอบเดียวค่ะ โดยตำแหน่งรถจะอยู่ตรงต้นไม้ใหญ่ข้างสำนักงานสาธารณสุขฯ ด้านบนค่ะ
จากนั้นก็ออกเดินทางไปยัง ไร่ไผ่สีทองกันค่า ไม่ไกลจากตรงที่ว่าการอำเภอ ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง
ลุยยยย สตรอเบอรี่จ๋า ข้ามาหาเจ้าแล้ววว
แต่ แต่ แต่.....
ข่าวร้ายของช่วงนี้คือ
ถึงสตรอเบอรี่รุ่นแรกจะออกบ้างแล้ว แต่เพิ่งโดนเก็บไปเยอะมาก ๆ เหมือนกันค่า แง ฉะนั้นวันนี้มาไร่เลยเหมือนเดินเล่น ไม่ค่อยมีให้เก็บเท่าไร T T"
สำหรับรุ่นแรกช่วงนี้จะทยอยออกในบางไร่ จะเป็นลูกเล็ก ๆ โดยไร่แถวนี้จะเป็นพันธ์พระราชทาน 80 พรรษา หมดเลยค่ะ
แต่ช่วงที่เป็นรุ่นที่สอง ที่ลูกจะโตขึ้น (ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทั้งที่เป็นพันธ์เดิม ต้นเดิม 555) คือช่วงปลายมกรา ที่คุณเจ้าของไร่แนะนำไว้คือวันที่ 20 มกรา หรือปลายกว่านั้นค่า จะเป็นช่วงที่จะมีลูกโตขึ้นเยอะ ๆ หวานฉ่ำ ลูกโต อร่อย
แต่การที่ไม่ค่อยมีให้เก็บก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินเล่นไร่ของเราและการตามหาสตรอเบอรี่ผู้เหลือรอดหรอกค่ะ ฮึก ฮือ
แด่สตรอเบอรี่ที่หายไป
คิดจะแอบกับเราหรอ ไม่พ้นสายตาเราหรอก แฮ่
แฝดสี่ลูกอ่อน
แต่ถึงจะเป็นสตรอเบอรี่พันธ์ 80 ไซส์จิ๋ว แต่ความอร่อยก็ไม่ลดน้อยลงเลยย ยังคงความหวานฉ่ำอมเปรี้ยวอยู่ค่า

มีความได้ปลอบใจมา เดินเล่นไปรอบ ๆ แทะไป 5555 (คุณเจ้าของไร่แซวว่าเป็น 'พันธ์กระดุม' เพราะลูกเล็กนิดนึง)
ใบไม้เล็ก ๆ คือซากของลูกแรกที่ลงท้องไปแล้ว~

มีดอกไม้สวย ๆ อยู่เยอะเลยค่ะ แต่ด้วยความสนใจแต่สตรอเบอรี่ เลยไม่ได้ถามมาอีกเช่นกันว่าคือดอกอะไร แต่เดาว่าน่าจะมีผลช่วยเรื่องดิน...มั้ง ?
และยังมีโซนพักผ่อน เป็นร้านอาหารคาเฟ่ เบเกอรี่ เล็ก ๆ ด้วยค่ะ เสียดายว่าไม่ได้ถ่ายมามากกว่านี้ เพราะตอนแรกคิดว่าคงเดินเล่นได้นิดหน่อยล่ะกลับมานั่งกินน้ำ กินหนม นั่งวาดรูปชิว ๆ แต่ว่า เผอิญภายใต้ความนกเล็ก ๆ ก็มีความโชคดี เลยไม่ได้กลับมาที่นี่ค่ะ แหะ
ด้วยความที่ก่อนหน้านี้คุณคนขับรถก็แนะนำว่า ถ้าเดินไปไม่ไกลก็มีร้านกาแฟ และคุณเจ้าของไร่ก็แนะนำว่าลองเดินเล่น ๆ ได้ จะรออะไร ก็เปิด google map หน้างานตรงนั้นนั่นแหละค่ะ
อุ้ย เห็นอะไรมั้ย มีอีกไร่ค่า มีอีกไร่ ///////
แต่แล้วก็อกหัก เพราะไร่นี้ยังไม่มีขึ้นเลย แง 55555 เราก็เลยเดินเลยไปที่ร้านกาแฟอิศรา แต่มองแล้ว อืม...กาแฟ ตอนนี้ร่างกายยังไม่อยากกาแฟ มองใน google map ยังมีร้านไอติม ลองเดินไปดูหน่อยละกัน
แถมลิ้งร้านอิศราค่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/IssaraHugPaCafe/
และแล้วเราก็เดินมาถึงร้าน Ice cream cafe @ สะเมิง ค่า
เป็นไอศครีม โฮมเมดทั้งหมด ไม่ใส่น้ำตาลด้วย แต่ใช้เป็นหญ้าหวานแทน ก็ยังมีรสหวานอยู่นะ หอม ๆ ดี นี่ก็เลยได้ทานเมนูแนะนำ ไอศครีมเสาวรส เปรี้ยว ๆ เย็น ๆ ให้ชื่นใจซะหน่อย หลังจากเผชิญแดดยามใกล้เที่ยงมา... (ไม่อยากจะคิดว่าถ้าไม่ได้มาช่วงอากาศเย็นนี่...อาจไหม้เกรียม)
มีเด็ก ๆ มานั่งกินด้วยกัน ฮา
นั่งอยู่ซักพัก ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ใน ๆ ก็มา ลองเดินเล่นอีกหน่อยละกัน ล่ะสะดุดเห็นว่ามีคาเฟ่หน้าตาดูน่าไปนั่งไม่ไกล เลยลุย เดินต่อ~
นั่นคือ Cafe de Mountain นั่นเอง
ระหว่างเดินไปก็เริ่มจะร้อนหน่อย ๆ เพราะเที่ยงได้แล้ว แต่ด้วยความอากาศหน้าหนาว มีลมเย็นมาเป็นพัก ๆ เราเลยสู้ค่ะ ฮึบ ! ยิ่งเห็นรูปใน google map ยิ่งแบบ ร้านนี้ต้องแวะไปซะหน่อย สวยดี แฮ่
เดินไปซักประมาณ 15 นาทีก็ถึงล่ะค่า
เมนูที่สั่งก็คือ thai style green tea latte แฮ่ ทาสชาเขียว
นอกจากจะถูกใจความชาเขียวของที่นี่ ที่ติดใจจนกิน ๆ เล่น ๆ เพลิน คือฟองนมนี่แหละค่ะ นุ่มม หอมมม อร่อยยย
ฟองนมมมม ฟองนมมมมมมมม ปกติไม่ได้เสพติดนะ แง ยอม ของที่นี่อร่อย
ตรงจุดนี้นี่แหละค่ะ เป็นอีกจุดที่ประทับใจการเดินเล่นมามั่ว ๆ แบบนี้ หลังจากได้สอบถามกะคุณเจ้าของร้าน เพราะ google แล้วก็เจอว่ามีไร่สตรอเบอรี่อีกที่คือไร่ดอย นก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/doinokstrawberryresort/
ตอนแรกก็ลังเลว่าจะเดินไป แล้วลุ้นว่าจะแป้วอีกมั้ย หรือกลับไปที่ไร่ไผ่ทอง กินหนม (อีกแล้ว ทริปกินมาก 555) วาดรูปเล่นดี
แต่แล้วคุณเจ้าของร้านก็เสนอว่าจะขับรถไปส่งที่ดอยนก เลยได้ไปตามล่าหาสตรอเบอรี่ต่อ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ

ใช้เวลาไม่นาน เราก็เลยมาถึงสวน ดอย นก อย่างรวดเร็วค่า แฮ่
สตรอเบอรี่จ๋าาาา หวังว่าข้าจะไม่นกเหมือนชื่อสวน 
และเราก็พบกับข่าวดีว่า...
มีสตรอเบอรี่ให้เก็บแล้วค่า เย่ พันธ์ 80 พรรษาเหมือนกัน ได้ชิมก่อนก็หวานฉ่ำอมเปรี้ยวอร่อยเหมือนกันเลย ฮือออ ดีใจในที่สุด สตรอเบอรี่จ๋า เราก็ได้เจอกันซะที
ด้วยความที่เรามาเอง นั่งรถมา คุณเจ้าของร้าน cafe de mountain ตอนแรกเลยว่าจะรอ ฮือ ขอบคุณนะคะ แต่ก็เพราะเราก็ติดต่อคุณคนขับรถเรียบร้อยแล้ว ก็เลยได้โทร และคุณเจ้าของสวนดอย นก ได้ช่วยบอกตำแหน่งที่จอดรถ เพื่อที่คุณคนขับรถจะได้เปลี่ยนมารับเราที่นี่แทนค่ะ
ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุก ๆ ท่านมาก ๆ นะคะ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือเราตลอดทริปขนาดนี้ T^T
และด้วยความกรี๊ดสตรอเบอรี่ ก็รีบวิ่งลงไปค่า กลางแดด 13.00 น. ก็ทำอะไรข้าไม่ได้ คนบ้าที่ไหนมันเก็บสตรอเบอรี่เวลานี้นะ 5555
ด้วยความฟิน ก็รีบเด็ด รีบถ่ายรูป ไม่ทันได้ใช้กล้องดี ๆ ไม่ทันกดโฟกัส ดูสิ สตรอเบอรี่ก็เบลอ โอ๊ย 5555
รู้ตัวอีกทีก็เกือบ 14.00 น ได้ไปประมาณครึ่งตะกร้า พร้อมรีบวิ่งมาชั่งน้ำหนัก จ่ายเงิน เพราะรถคุณขับรถมาแล้ว 555 เลยไม่ได้ถ่ายรูปอีกทีเลย แหะ ^^
จากนั้นรถก็ขับยาว ๆ แวะจอดที่อ.สะเมิง และกลับถึงเชียงใหม่เกือบ ๆ 16.00 ค่า
สรุปค่าใช้จ่ายหลัก ๆ
ค่ารถ เพียงรอบล่ะ 65 บาท !
ส่วนสตรอเบอรี่ตอนนี้อยู่ 25-30 บาท / กก. ค่า
***แนะนำว่า ควรเช็คเรื่องสตรอเบอรี่ให้ดีก่อนนะคะ ฮือ***
สุดท้ายนี้ ไม่มีรถ ก็อาจจะลำบากหน่อย ๆ แต่ช่วงนี้อากาศเย็น ๆ เดินก็ฟินระดับนึง ถ้าตัดเรื่องแดดตอนเที่ยงออกไปนะคะ...
แต่ถึงไม่มีรถ การเดินทางก็ไม่ลำบากเกินไปค่า โชคดีว่าได้เจอคนดี ๆ ให้ความช่วยเหลือตลอดด้วย ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
หวังว่ารีวิวเล็ก ๆ นี้ จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่า
ปล.หักหนึ่งดาว เพราะอดกลับไปกินหนมที่ไร่ไผ่สีทอง
[CR] เก็บสตรอเบอรี่ สดจากไร่ @ สะเมิง เจียงใหม่เจ้าา - ไม่มีรถ คนเดียว ก็เที่ยวได้
เริ่มจาก อยู่ ๆ ก็ว่างหนึ่งวัน เลยเริ่มมีความคิดว่าอยากไปไหนไกล ๆ จากตัวเมืองซักที่ ภูพิงค์ ดอยสุเทพ ยังไม่เคยขึ้นหรอกค่ะ แต่รู้สึกมันใกล้อะ ตื่นเช้ามาก็เห็นวิวนี้แล้ว ฮา
กับไม่นานนี้เห็นมีรีวิวสตรอเบอรี่ผ่านตาไปแวบ ๆ ด้วยความที่ชอบอยู่แล้ว เลย เอาล่ะ จะไปเก็บสตรอเบอรี่ซักที่ เปิดหลายรีวิวก็เจอว่ามีหลายที่ที่สะเมิง และพอติดต่อที่ไร่ ก็พบว่ามีรุ่นแรกอยู่ (ลูกจะเล็ก ๆ)
โอเค ได้ที่เที่ยว สตรอเบอรี่เช็คแล้วก็มี
ปัญหาถัดไป... ไปยังไงต่อดี....
...
ถามว่ารถมีมั้ย มี แต่ไม่เคยขับขึ้นเขา วัน ๆ ขับวนแต่ในตัวเมือง หาร้านกาแฟ เช้าไปเย็นกลับตามประสาคนทำงาน
ไม่ค่อยกลัวกับการขับขึ้นเท่าไรนะ แต่กลัวการขับลง
เลยลองหาทางดูว่า มีวิธีไปไร่โดยไม่มีรถมั้ย ก็ได้คำตอบจากเจ้าของไร่ว่า มันมีค่าาา มันมี
แต่แทบบบบ ไม่เคยมีใครรีวิวไว้เลย ก็มีความหวั่นใจหน่อย ๆ เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องกลับไปทำงาน หากพลาดกลับมาไม่ได้นี่ซวยเลยนะ ฮือ
เกริ่นมาซะยาว เข้าเรื่องเลยดีกว่า ไปเที่ยวเก็บสตรอเบอรี่ สดจากไร่ กันที่สะเมิงกันเถอะค่าาา เป้าหมายวันนี้เราอยู่ที่ ไร่สตรอเบอรี่ไผ่สีทอง ค่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเริ่มต้นกันที่ สถานีขนส่งประตูช้างเผือก ค่ะ
ที่นี่จะมีรถสองแถว รถแดง รถเหลือง อะไรมากมาย รถที่เราจะต้องนั่งไปคือ รถสีเหลือง สาย เชียงใหม่ - สะเมิง - บ่อแก้ว
รถเที่ยวแรกที่ออกคือรอบ 08.50 น. จะรอช้าอยู่ไย ก็รีบขึ้นรอบแรกกันเถอะ~ (แต่ลืมถามมาว่า ออกทุกกี่นาที... )
โดยเวลาเดินทางจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ ไปถึงสะเมิง รวม ๆ ประมาณชั่วโมงครึ่งได้ รถเหลืองขับดีเลยนะคะ รถไม่เหวี่ยง นั่งแล้วไม่เมา ลมเย็น ๆ ปะหน้า ก็หลับระหว่างนั่งรถสบาย ๆ
พอซักประมาณ 11.00 น เราก็มาถึง อำเภอสะเมิง ค่าา
เราเองก็เลยเพิ่งได้คุยกะคนขับรถ ว่าจะขึ้นไปไร่ต่อ เพียงบอกชื่อไร่ คุณคนขับรถก็สามารถพาไปส่งได้ค่า เย่ พร้อมให้เบอร์นัดแนะเวลาไปกลับให้เรียบร้อย
สำหรับไร่ไผ่สีทอง เวลารถที่จะกลับลงมารับเราได้ที่ไร่ก็จะประมาณ 13.40 น. ดังนั้น เราก็จะมีเวลาเก็บสตรอเบอรี่ นั่งชิว ตากลมเย็น ๆ หน้าหนาว กินขนม วาดรูปเล่นซัก 2 ชั่วโมง
แต่ว่าหากจะเที่ยวต่อไกลกว่านั้น ก็มีทางเลือกเช่นเช่ามอไซค์แถวนั้น (ไม่ได้สอบถามราคาไว้นะคะ) และจะมีรถเหลืองอีกคัน ที่ขับจาก สะเมิง - เชียงใหม่ (ประตูช้างเผือก) ออกตอน 16.00 น. เที่ยวเย็นรอบเดียวค่ะ โดยตำแหน่งรถจะอยู่ตรงต้นไม้ใหญ่ข้างสำนักงานสาธารณสุขฯ ด้านบนค่ะ
จากนั้นก็ออกเดินทางไปยัง ไร่ไผ่สีทองกันค่า ไม่ไกลจากตรงที่ว่าการอำเภอ ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง
ลุยยยย สตรอเบอรี่จ๋า ข้ามาหาเจ้าแล้ววว
แต่ แต่ แต่.....
ข่าวร้ายของช่วงนี้คือ
ถึงสตรอเบอรี่รุ่นแรกจะออกบ้างแล้ว แต่เพิ่งโดนเก็บไปเยอะมาก ๆ เหมือนกันค่า แง ฉะนั้นวันนี้มาไร่เลยเหมือนเดินเล่น ไม่ค่อยมีให้เก็บเท่าไร T T"
สำหรับรุ่นแรกช่วงนี้จะทยอยออกในบางไร่ จะเป็นลูกเล็ก ๆ โดยไร่แถวนี้จะเป็นพันธ์พระราชทาน 80 พรรษา หมดเลยค่ะ
แต่ช่วงที่เป็นรุ่นที่สอง ที่ลูกจะโตขึ้น (ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทั้งที่เป็นพันธ์เดิม ต้นเดิม 555) คือช่วงปลายมกรา ที่คุณเจ้าของไร่แนะนำไว้คือวันที่ 20 มกรา หรือปลายกว่านั้นค่า จะเป็นช่วงที่จะมีลูกโตขึ้นเยอะ ๆ หวานฉ่ำ ลูกโต อร่อย
แต่การที่ไม่ค่อยมีให้เก็บก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินเล่นไร่ของเราและการตามหาสตรอเบอรี่ผู้เหลือรอดหรอกค่ะ ฮึก ฮือ
คิดจะแอบกับเราหรอ ไม่พ้นสายตาเราหรอก แฮ่
แต่ถึงจะเป็นสตรอเบอรี่พันธ์ 80 ไซส์จิ๋ว แต่ความอร่อยก็ไม่ลดน้อยลงเลยย ยังคงความหวานฉ่ำอมเปรี้ยวอยู่ค่า
มีความได้ปลอบใจมา เดินเล่นไปรอบ ๆ แทะไป 5555 (คุณเจ้าของไร่แซวว่าเป็น 'พันธ์กระดุม' เพราะลูกเล็กนิดนึง)
มีดอกไม้สวย ๆ อยู่เยอะเลยค่ะ แต่ด้วยความสนใจแต่สตรอเบอรี่ เลยไม่ได้ถามมาอีกเช่นกันว่าคือดอกอะไร แต่เดาว่าน่าจะมีผลช่วยเรื่องดิน...มั้ง ?
และยังมีโซนพักผ่อน เป็นร้านอาหารคาเฟ่ เบเกอรี่ เล็ก ๆ ด้วยค่ะ เสียดายว่าไม่ได้ถ่ายมามากกว่านี้ เพราะตอนแรกคิดว่าคงเดินเล่นได้นิดหน่อยล่ะกลับมานั่งกินน้ำ กินหนม นั่งวาดรูปชิว ๆ แต่ว่า เผอิญภายใต้ความนกเล็ก ๆ ก็มีความโชคดี เลยไม่ได้กลับมาที่นี่ค่ะ แหะ
ด้วยความที่ก่อนหน้านี้คุณคนขับรถก็แนะนำว่า ถ้าเดินไปไม่ไกลก็มีร้านกาแฟ และคุณเจ้าของไร่ก็แนะนำว่าลองเดินเล่น ๆ ได้ จะรออะไร ก็เปิด google map หน้างานตรงนั้นนั่นแหละค่ะ
อุ้ย เห็นอะไรมั้ย มีอีกไร่ค่า มีอีกไร่ ///////
แต่แล้วก็อกหัก เพราะไร่นี้ยังไม่มีขึ้นเลย แง 55555 เราก็เลยเดินเลยไปที่ร้านกาแฟอิศรา แต่มองแล้ว อืม...กาแฟ ตอนนี้ร่างกายยังไม่อยากกาแฟ มองใน google map ยังมีร้านไอติม ลองเดินไปดูหน่อยละกัน
แถมลิ้งร้านอิศราค่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และแล้วเราก็เดินมาถึงร้าน Ice cream cafe @ สะเมิง ค่า
เป็นไอศครีม โฮมเมดทั้งหมด ไม่ใส่น้ำตาลด้วย แต่ใช้เป็นหญ้าหวานแทน ก็ยังมีรสหวานอยู่นะ หอม ๆ ดี นี่ก็เลยได้ทานเมนูแนะนำ ไอศครีมเสาวรส เปรี้ยว ๆ เย็น ๆ ให้ชื่นใจซะหน่อย หลังจากเผชิญแดดยามใกล้เที่ยงมา... (ไม่อยากจะคิดว่าถ้าไม่ได้มาช่วงอากาศเย็นนี่...อาจไหม้เกรียม)
นั่งอยู่ซักพัก ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ใน ๆ ก็มา ลองเดินเล่นอีกหน่อยละกัน ล่ะสะดุดเห็นว่ามีคาเฟ่หน้าตาดูน่าไปนั่งไม่ไกล เลยลุย เดินต่อ~
นั่นคือ Cafe de Mountain นั่นเอง
ระหว่างเดินไปก็เริ่มจะร้อนหน่อย ๆ เพราะเที่ยงได้แล้ว แต่ด้วยความอากาศหน้าหนาว มีลมเย็นมาเป็นพัก ๆ เราเลยสู้ค่ะ ฮึบ ! ยิ่งเห็นรูปใน google map ยิ่งแบบ ร้านนี้ต้องแวะไปซะหน่อย สวยดี แฮ่
เดินไปซักประมาณ 15 นาทีก็ถึงล่ะค่า
เมนูที่สั่งก็คือ thai style green tea latte แฮ่ ทาสชาเขียว
นอกจากจะถูกใจความชาเขียวของที่นี่ ที่ติดใจจนกิน ๆ เล่น ๆ เพลิน คือฟองนมนี่แหละค่ะ นุ่มม หอมมม อร่อยยย
ฟองนมมมม ฟองนมมมมมมมม ปกติไม่ได้เสพติดนะ แง ยอม ของที่นี่อร่อย
ตรงจุดนี้นี่แหละค่ะ เป็นอีกจุดที่ประทับใจการเดินเล่นมามั่ว ๆ แบบนี้ หลังจากได้สอบถามกะคุณเจ้าของร้าน เพราะ google แล้วก็เจอว่ามีไร่สตรอเบอรี่อีกที่คือไร่ดอย นก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนแรกก็ลังเลว่าจะเดินไป แล้วลุ้นว่าจะแป้วอีกมั้ย หรือกลับไปที่ไร่ไผ่ทอง กินหนม (อีกแล้ว ทริปกินมาก 555) วาดรูปเล่นดี
แต่แล้วคุณเจ้าของร้านก็เสนอว่าจะขับรถไปส่งที่ดอยนก เลยได้ไปตามล่าหาสตรอเบอรี่ต่อ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ
ใช้เวลาไม่นาน เราก็เลยมาถึงสวน ดอย นก อย่างรวดเร็วค่า แฮ่
สตรอเบอรี่จ๋าาาา หวังว่าข้าจะไม่นกเหมือนชื่อสวน
และเราก็พบกับข่าวดีว่า...
มีสตรอเบอรี่ให้เก็บแล้วค่า เย่ พันธ์ 80 พรรษาเหมือนกัน ได้ชิมก่อนก็หวานฉ่ำอมเปรี้ยวอร่อยเหมือนกันเลย ฮือออ ดีใจในที่สุด สตรอเบอรี่จ๋า เราก็ได้เจอกันซะที
ด้วยความที่เรามาเอง นั่งรถมา คุณเจ้าของร้าน cafe de mountain ตอนแรกเลยว่าจะรอ ฮือ ขอบคุณนะคะ แต่ก็เพราะเราก็ติดต่อคุณคนขับรถเรียบร้อยแล้ว ก็เลยได้โทร และคุณเจ้าของสวนดอย นก ได้ช่วยบอกตำแหน่งที่จอดรถ เพื่อที่คุณคนขับรถจะได้เปลี่ยนมารับเราที่นี่แทนค่ะ
ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุก ๆ ท่านมาก ๆ นะคะ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือเราตลอดทริปขนาดนี้ T^T
และด้วยความกรี๊ดสตรอเบอรี่ ก็รีบวิ่งลงไปค่า กลางแดด 13.00 น. ก็ทำอะไรข้าไม่ได้ คนบ้าที่ไหนมันเก็บสตรอเบอรี่เวลานี้นะ 5555
ด้วยความฟิน ก็รีบเด็ด รีบถ่ายรูป ไม่ทันได้ใช้กล้องดี ๆ ไม่ทันกดโฟกัส ดูสิ สตรอเบอรี่ก็เบลอ โอ๊ย 5555
รู้ตัวอีกทีก็เกือบ 14.00 น ได้ไปประมาณครึ่งตะกร้า พร้อมรีบวิ่งมาชั่งน้ำหนัก จ่ายเงิน เพราะรถคุณขับรถมาแล้ว 555 เลยไม่ได้ถ่ายรูปอีกทีเลย แหะ ^^
จากนั้นรถก็ขับยาว ๆ แวะจอดที่อ.สะเมิง และกลับถึงเชียงใหม่เกือบ ๆ 16.00 ค่า
สรุปค่าใช้จ่ายหลัก ๆ
ค่ารถ เพียงรอบล่ะ 65 บาท !
ส่วนสตรอเบอรี่ตอนนี้อยู่ 25-30 บาท / กก. ค่า
***แนะนำว่า ควรเช็คเรื่องสตรอเบอรี่ให้ดีก่อนนะคะ ฮือ***
สุดท้ายนี้ ไม่มีรถ ก็อาจจะลำบากหน่อย ๆ แต่ช่วงนี้อากาศเย็น ๆ เดินก็ฟินระดับนึง ถ้าตัดเรื่องแดดตอนเที่ยงออกไปนะคะ...
แต่ถึงไม่มีรถ การเดินทางก็ไม่ลำบากเกินไปค่า โชคดีว่าได้เจอคนดี ๆ ให้ความช่วยเหลือตลอดด้วย ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
หวังว่ารีวิวเล็ก ๆ นี้ จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่า
ปล.หักหนึ่งดาว เพราะอดกลับไปกินหนมที่ไร่ไผ่สีทอง