ควรทำอย่างไรกับเพื่อนที่ยืมเงินแล้วไม่คืน

ความจริงเรื่องนี้ก็ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้วครับ ผมก็ค่อนข้างที่จะทำใจได้แล้วกับเงินก้อนนั้น และคิดว่าจะตัดเป็นหนี้สูญให้กับตัวเอง แต่การที่ผมต้องมาตั้งกระทู้ในพันทิปอีก มันเป็นเพราะผมมีเรื่องค้างคาใจที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินโดยตรง แต่เรื่องมันสืบเนื่องมาจากเรื่องเงินก้อนนั้นละครับ เลยมาตั้งกระทู้ เพราะอยากจะทราบความเห็นของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในพันทิปว่า แต่ละคนมีความคิดเห็นอย่างไรกับประเด็นที่ผมจะได้เล่าถึงต่อไปครับ

Background
ผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทกันมาก เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อยู่ ม.1 จนจบ ม.6 ผมค่อนข้างที่จะไว้ใจเพื่อนคนนี้ มากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ ตั้งแต่รู้จักกันมา ก็มีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดที่จะโกรธจนถึงขั้นตัดเพื่อนกัน เวลาล่วงเลยจนเข้ามหาวิทยาลัย ก็ยังติดต่อ ถามข่าวสารทุกข์สุกดิบกันอยู่เสมอ กลับบ้านก็นัดรวมกลุ่มกันตลอด จนมาถึงช่วงวัยทำงาน ก็ยังไปมาหาสู่กัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกันตลอด บางช่วงอาจจะห่างหายกันไป เพราะความวุ่นวายในชีวิตของแต่ละคน แต่ก็รู้สึกได้เสมอว่าเมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งก็ยังคงรู้สึกถึงความเป็นเพื่อนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย รักษามิตรภาพความเป็นเพื่อนมาจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2560 ที่ผ่านมา จากช่วงต้นปีที่มันหายไปไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ผมก็เข้าใจว่ามันคงงานยุ่ง แต่จู่ๆ เพื่อนผมมันก็ทักไลน์มาแบบ แปลกๆ

มันทักมาบอกว่า "มีเรื่องขอความช่วยเหลือหน่อย"
ผมก็ถามกลับไปว่า "มีไรให้ช่วยวะ" แต่มันก็เงียบไปเกือบจะหนึ่งวันเต็มๆ
จนมันตอบกลับมาอีกทีว่า "ขอยืมเงินห้าพันหน่อยได้ไหมเดือนหน้าจะคืนให้"
ผมเลยโทรไปหามัน แต่มันไม่รับสาย ผมเลยพิมพ์ไลน์กลับไปว่า "เฮ้ย โทรมาคุยกัน มีปัญหาไรป่าว"

ที่ผมถามกลับไปแบบนี้เพราะกลุ่มเพื่อนของผม รวมถึงเพื่อนสนิทคนนี้ ต่างก็รู้ดีว่าพวกเรามีข้อตกลงกันไว้ ตั้งแต่สมัยมัธยมที่ว่า เราจะไม่ทะเลาะกันเพราะเรื่องเงินเป็นอันขาด เพราะทุกคนต่างก็จดจำคำสอนของคุณครูที่พวกเราเคารพได้ ครูเคยบอกว่า "เรื่องเงินนั้นไม่เข้าใครออกใคร ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน อย่าให้เพื่อนยืมเงิน" กลุ่มเพื่อนของผมจึงไม่เคยยืมเงินกันเลยสักครั้งเดียวตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ไม่มีตังค์กินข้าว เราซื้อข้าวมาแบ่งกันกิน ไม่มีที่พักเราให้เพื่อนมาพักกับเราได้ แต่พวกเราก็ไม่ได้จะ Strict ขนาดที่ว่าการยืมเล็กๆ น้อยๆ จะไม่มี แต่ส่วนใหญ่แล้วการยืมทุกครั้งจะเป็นการยืมที่ไม่ได้เริ่มยืมจากความต้องการตัวเงินเป็นเหตุผล เช่น

"เฮ้ยคิง ฮาอยากได้หูฟังว่ะ ตังค์ไม่พอ ยืมก่อนได้ป่าว เดี๋ยวขากลับกดคืนให้" หรือ
"กำละ ลืมเอาเป๋าตังค์มา"
"ไม่เป็นไร ของฮาออกก่อนก็ได้"

จากสถานการณ์ข้างต้นจะเห็นว่า การยืมที่เกิดจากความจำเป็น แล้วกดคืนให้ในชั่วระยะเวลาอันสั้นนั้น เราก็ให้ความช่วยเหลือกันได้ โดยไม่ได้จะ Strict กับกฏเกณฑ์จนเกินไป แต่สำหรับการยืมเงินแบบไม่รู้ที่มาที่ไปแบบครั้งนี้ ไม่เคยมีเกิดขึ้นมาก่อนเลย การยืมเงินที่ผู้ให้ยืมทราบความต้องการของผู้ยืมที่พุ่งเป้าไปที่ตัวเงินเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้ผมรู้สึกฉงนใจเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ผมพยายามโทรไปหาเพื่อน เพื่อถามว่ามีปัญหาอะไร ถึงต้องการใช้เงินนั้น เพื่อนมันไม่ยอมรับสายจนผ่านไปอีกหนึ่งวันเต็มๆ จนทำให้ผมประหลาดใจกับพฤติกรรมของเพื่อน และได้โทรปรึกษากับเพื่อนในกลุ่มคนอื่นๆ ต่างก็ได้รับคำตอบว่า ไม่ทราบว่ามันมีปัญหาอะไร เห็นหายไปสักพักแล้วคิดว่างานยุ่งเสียอีก จนเย็นวันที่ 4 มิถุนายน 2560 เพื่อนมันก็โทรกลับมา ผมก็เลยถามว่า

"เกิดไรขึ้น ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ไม่เคยถามยืมเงินกันแบบนี้เลยนะ"
เพื่อนมันบอกว่า "พอดีทำโทรศัพท์ของที่ทำงานหาย เลยต้องชดใช้เขา เลยมีปัญหาเรื่องเงินหน่อยตอนนี้"

จากคำตอบของเพื่อน และน้ำเสียงของเพื่อนทำให้ผมรู้สึกฉงนใจหนักเข้าไปอีก คำถามมากมายได้พรั่งพรูเข้ามา รวมถึงประเด็นสำคัญที่ว่า
โทรศัพท์ของที่ทำงานหาย ต้องชดใช้ ทำไมถึงไม่ให้ที่ทำงานหักจากเงินเดือนตอนสิ้นเดือนเป็นงวดๆ จนครบ?

แต่ด้วยความเป็นเพื่อนกันมานานทำให้ผม เลิกคิดถึงเหตุผลทั้งหมด และมีความตั้งใจว่า ไม่ว่าเพื่อนมันจะเดือดร้อนอะไร ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร เราก็ยังจะต้องช่วยเพื่อนอยู่ดี ผมจึงตอบกลับเพื่อนมันไปว่า

"เอาเป็นว่าคิงเดือดร้อน ฮาเป็นเพื่อนคิง ฮาจะช่วยคิง ไม่ว่าจริงๆ แล้วคิงจะยืมเงินก้อนนี้ไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม"
"สรุปคิงจะยืมห้าพันใช่ไหม" เพื่อนมันขอต่อรองผม
"ขอเพิ่มอีกพันได้ป่าว เป็นหกพัน" เพื่อนมันขอเพิ่มผมก็โอเค ตกลงเพิ่มให้
และผมได้ถามกำชับไปว่า "คิงจำที่ครูบอกได้ใช่ป่าว ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน อย่าให้เพื่อนยืมตังค์ และตั้งแต่รู้จักกันมาเราก็ไม่เคยยืมตังค์กันเลย คิงเป็นเพื่อนสนิทฮา ฮาไว้ใจคิง แล้วคิงจะสะดวกคืนฮาเมื่อไหร่ เพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย กำหนดวันให้ชัดเจน เอาวันที่คิงพร้อมจะคืน"
เพื่อนมันบอกว่า "สิ้นเดือนกรกฏาคม" เป็นเวลาเกือบสองเดือน ผมก็โอเค และได้บอกเพื่อนไปว่า
"โอเค เดี๋ยวฮาโอนเงินให้" ในใจผมตอนนั้นสิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือ กลัวที่จะเสียเพื่อนสนิทคนนี้ไปหากมันผิดคำพูด ผิดสัจจะวาจาที่ได้ให้ไว้กับผม

สิ่งที่ผมเกลียดชังที่สุดคือ คนที่ไม่มีสัจจะ รับปากส่งเดช แต่ไม่ตั้งใจรับผิดชอบในคำพูด ผมไม่คิดเลยว่าเพื่อนผมจะกลายเป็นคนแบบนี้ ทั้งๆที่มันก็รู้ว่าผมเป็นคนยังไง ตลอดระยะเวลาสองเดือนหลังจากยืมเงิน ผมไม่เคยโทรไปทวง ไลน์ไปทวง ไม่ทวงเงินเลยแม้แต่ช่องทางใดๆ จนถึงวันสุดท้ายที่สัญญากันไว้ว่าจะนัดคืนเงิน ผมนับถอยหลังข้ามเที่ยงคืนของวันนั้นไป โดยไม่แม้แต่จะโทรไปทวงถาม เพราะผมถือว่า โตๆ กันแล้ว คนเราจะต้องมีความรับผิดชอบในสัจจะวาจาของตนเอง แล้วอีกอย่าง คนที่ยืม มีหน้าที่ที่จะต้องคืนเมื่อครบสัญญา หาไม่แล้วนั่นคือตัวบ่งชี้ที่แสดงให้เห็นถึงความไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ตระหนักรู้ ไม่ให้ความสำคัญในหน้าที่ของตนเอง หลังจากครบกำหนดผ่านไปเดือนแล้วเดือนเล่า จนมาถึงวันนี้เดือนพฤศจิกายน ไม่มีแม้แต่โทรศัพท์มาขอเลื่อนวันส่งคืน คือทุกคนเข้าใจผมใช่ไหมครับ ยังไม่คืนเงินก็ได้ แต่ถนอมน้ำใจคนเป็นเพื่อนอย่างผมหน่อย โทรมาบอกกล่าวกันหน่อย ไลน์มาบอกก็ยังดี ว่า ยังไม่พร้อมจะคืน มันกลายเป็นว่า เรื่องเงิน มันไม่ใช่ประเด็นสำคัญแล้ว ประเด็นมันอยู่ที่ เพื่อนสนิทของผมคนนี้ ดูถูกน้ำใจความเป็นเพื่อนของผมมาก ผมเลยปรึกษากับเพื่อนในกลุ่ม และผมตกลงใจที่จะตัดขาดความเป็นเพื่อนกับเพื่อนสนิทคนนี้ ด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด ถึงแม้ว่าเพื่อนจะเอาเงินมาคืนให้หลังจากนี้ มันก็ไม่สามารถผสานรอยแตกร้าวที่เกิดจากการผิดสัญญาในครั้งนี้ได้

นั่นละครับ นั่นคือความรู้สึกของผม ด้วยหลักการ ด้วยตัวตนที่ผมเป็น มันทำให้ผมตอบสนองกับสถานการณ์นี้ ไปในแนวทางนี้ ทุกวันนี้ผมก็ยังเสียใจ รู้สึกไม่อยากเสียเพื่อนสนิทไป แต่สิ่งที่เพื่อนมันทำ การกระทำนั้นมันทำลายทุกอย่างที่เป็นความเชื่อ ความศรัทธา ทำลายความเคารพในตัวตนของผมทั้งหมดลงอย่างสิ้นเชิง ผมจึงอยากทราบว่า

Discussion
1.เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในพันทิป มีความคิดเห็นอย่างไร กับความรู้สึกของผม ที่ได้ตอบสนองกับการกระทำของเพื่อนสนิทคนนี้
2.ในความคิดของทุกคน คิดว่าผมควรมีวิถีทางอย่างไรในการตอบสนองกับกับการกระทำของเพื่อนของผมในครั้งนี้ ถึงจะถูกต้องในสายตาของทุกๆ คน
3.ทุกคนคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ผมกับเพื่อนจะกลับมามีความรู้สึกที่ไว้ใจกันได้เหมือนเดิม โดยที่ผมยังคงสามารถยึดมั่นในหลักการ และตัวตนของตนเองที่ได้รับการปลูกฝัง และยึดถือมาตลอดชีวิต
4.ถ้าหากว่าหนทางเดียวที่ผมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมกับเพื่อนได้ คือการที่ผมต้องละทิ้งหลักการของตนเองไปเสีย ทิ้งตัวตนของตนเองไปเสีย ทุกคนคิดว่าผมควรทิ้งหลักการและตัวตนของผม เพื่อแลกกับมิตรภาพของเพื่อนสนิทกลับคืนมาหรือไม่
5.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ที่ทุกคนจะกรุณาครับ

ขอบคุณทุกคนที่ร่วมแลกเปลี่ยนทัศนคติ และมุมมองของการใช้ชีวิตครับผม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่