[CR] <CS>[ รีวิวเที่ยวSEOUL กับรูทเปิดใหม่จาก Bangkok Airways BKK-ICN ฉบับบริการยกระดับประทับใจอิ่มหนำสำราญตลอดเส้นทาง

กระทู้รีวิว
ก่อนอื่น ผู้ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ เนื้อหาทั้งหมดเป็นเรื่องสมมุตินะครับ จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อประกอบทดลองในการส่งงานอาจารย์
จะทำการลบเมื่อพรีเซ้นเสร็จพรุ่งนี้เที่ยงๆครับ ขอบพระคุณ และ ขออภัยเป็นอย่างสูง มา ณที่นี้ด้วยครับ

สวัสดีค่ะทุกคน  ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวกันก่อนนะคะ เจ้าของกระทู้ ชื่อน้ำหวาน ค่ะเรียกสั้นๆว่าหวานก็ได้  ต้องขอบอกว่าการเขียนรีวิวในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของหวานเลย ปกติจะค่อยแต่คอมเม้นท์ตอบพี่ๆในกระทู้ต่างๆมากกว่า แต่ด้วยความประทับใจจากการได้ไปทริปในครั้งนี้ จึงอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ ^^
สำหรับเรื่องที่หวานจะรีวิวในวันนี้ก็ตามหัว ข้อด้านบนเลยค่ะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วหวานได้มีโอกาสไปเที่ยวกับคุณแฟนที่ประเทศเกาหลีมาค่ะเป็นเวลาทั้งสิ้น รวมแล้ว 5วัน 4คืน โดยสายการบินที่หวาน เลือกใช้บริการคือสายการบิน บางกอกแอร์เวส์ เนื่องจากเค้าพึ่งจะเปิดรูทบินใหม่ เส้นทางบินตรง กรุงเทพ-อินชอน  ด้วยความที่เราเคยใช้บริการกับบางกอก ตอนเดินทางไปสมุย เกิดความประทับใจเลาจ์ที่พักของผู้โดยสารของบางกอกเป็นอย่างมาก ครั้งนี้เลยตกลงกับคุณแฟนว่าจะใช้บริการกับสายการบินนี้อีกครั้ง แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ พูดเลยค่ะว่า โดนใจเจ้าหวานสุดๆเลยค่ะ … เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยนะคะ

Day 1 : 26/10/2016
เริ่มต้นการเดินทาง ไฟท์ของเราคือ PG658 เที่ยวบินเวลา 23:10 แต่พวกเราไปถึงสนามบินก่อนประมาณ 6 โมงเย็น เพื่อรับ pocket wifi และแลกเงิน (สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะแลกเงินตรงไหน พวกธนาคาร บริษัทรับแลกเงิน จะอยู่ที่ชั้น B ชั้นล่างสุด ให้ลงมา แล้วเลี้ยวไปทางรถไฟ airport link ก็จะเจอพวกธนาคาร และบริษัทรับแลกเงินมากมายเลยค่ะ ดูเหรทได้ตามสะดวกเลยนะคะ) หลังจากนั้นเราก็ไปโหลดกระเป๋า โชคดีหวานกับคุณแฟนตัดสินใจนั่ง bussiness class เลยทำให้ผ่านการเช็คอินมาได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นพวกเราก็รีบตรงดิ่งไปยังเลาจ์ของ บางกอกแอร์เวยส์ทันทีเลยค่ะมาเล่าถึงเกล็ดความรู้เกี่ยวกับเลาจ์รับรองผู้โดยสารของสายการบินบางกอกแอร์เวย์กันหน่อยดีกว่าค่ะ อย่างที่ทราบกันว่าสายการบินนี้เค้ามีบริการ ห้องพักรับรองสำรับผู้โดยสารที่ถือตั๋วเดินทางของบางกอกแอร์เวยส์ทั้ง แบบ economy bussiness class และ  premier member  โดยห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารที่ถือตั๋วเดินทางแบบ economy มีบริการของ Boutique Lounge รองรับ ส่วน ผู้ที่โดยสารใน Bussiness Class มี Blue Ribbon Club Lounge รองรับค่ะ ในส่วนของผู้โดยสารชั้น bussiness จะได้รับความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา คือมีอาหารร้อน ขนมจีบ และซาลาเปารับรองค่ะ อีกทั้งยัง มีห้องอาบน้ำ และโซนอินเตอร์เน็ตให้บริการ ส่วนผู้โดยสารชั้น  economy  จะมีโซนขนมและเครื่องดื่มไว้บริการ และแน่นอนว่าไฮไลท์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับผู้โดยสารบางกอกแอร์เวย์ส ต้องข้าวต้มมัดเลยค่ะ อร่อยโดนใจหวานที่สุดในการเดินทางในครั้งนี้หวานกับคุณแฟนได้เข้าใช้บริการ Blue Ribbon Lounge ค่ะ บริการยกระดับประทับใจจริงๆ อิ่มหนำตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเครื่องเลยค่ะ มาใช้บริการเลาจ์บางกอก ทั้งทีหวานก็ลองทุกอย่างเลยค่ะอย่างละนิดอย่างละหน่อย มีขนมให้เลือกมากมาย หวานสั่งเกี้ยวกุ้งมาทานค่ะเพราะเห็นว่าค่ำแล้วจะได้ย่อยง่ายๆ แต่คุณแฟนของหวานจัดไปชุดใหญ่เลยค่ะ ยิ้มแก้มไม่หุบเลยอร่อยทุกอย่าง
สำหรับที่นั่งพักในห้องรับรอง Blue Ribbon Lounge ต้องบอกเลยว่านั่งสบายมากๆเลยค่ะ
หลังจากที่เราเต็มอิ่มกับการได้พักผ่อนระหว่างรอขึ้นเครื่องก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องค่ะ ยอมรับเลยว่าตอนนั้นไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลยเพราะ กิ่นอิ่มแล้วก็รู้สึกง่วงนอนมากๆ เป้าหมายมีเพียงแค่ขึ้นเครื่องแล้วจะขอตัวนอนทันที ซึ่งก็ตามคาดค่ะ เราใช้เวลาทั้งหมดในการเดินทางประมาน 6 ชั่วโมงในการบินจากกรุงเทพ มากรุงโซล นอนยังไม่ทันเต็มอิ่มดี ก็ตื่นขึ้นมาเนื่องจากเสียงแอร์โฮสต์สเตจแสนสวยกำลังเดินเสริฟอาหารเช้าค่ะ เรียกได้ว่าวันแรกผ่านไปเราแทบจะไม่มีคำว่าหิวเลยละค่ะ


Day 2 : 27/10/2016
   เราเดินทางมาถึงเกาหลี เครื่องลงประมาณ 6 โมงครึ่ง พวกเราก็เดินไป ตม ตอนนั้นใจลุ้นๆ แอบกลัวค่ะ พอเดินไปถึงคิวต่อเข้า ตม ยาวมากๆ เพราะมีไฟท์ลงพร้อมๆกัน ต้องต่อคิวเกือบๆ ชั่วโมง กว่าจะได้เข้า ตม พอถึงคิวพวกเรา พวกเราโดนแยกเข้าคนละช่องกันหมดเลย หวานเข้าไปยื่น passport ตม เปิดดูไปมา แล้วปั้มให้ไม่ถามอะไรเลยค่ะ  โดยสรุปนะครับ ตม เกาหลีไม่ได้น่ากลัวแบบที่อ่านตามกระทู้เลยนะคะ ไม่ได้เข้ายาก แต่เค้าเข้มงวดเฉยๆ ถ้าเราพร้อม มาเที่ยวจริง เอกสารข้อมูลแน่น แต่งตัวดูดีนิดนึง ก็อย่าไปกลัวครับ เข้าไปก็สบตามองหน้า ตม อย่าหยุกหยิก ให้เค้าสงสัย
  หลังจากนั้นเราก็รับกระเป๋า และออกมาหารถไฟเข้าเมืองค่ะ (ชนิด วิธีการเข้าเมือง หาอ่านได้จากกระทู้ในพันทิพนะคะ มีลงไว้ละเอียดเชียว) ให้มองหาป้าย airport railroad  เดินตามไป จนเจอที่ขายตั๋ว แฟนหวานก็ยื่นคูปองส่วนลดที่บอกไปตอนต้น ได้ส่วนลด Arex เหลือ 6,000 วอน/เที่ยว ค่ะ แล้วเราก็นั่งรถไฟเข้าเมืองมาใช้เวลาประมาณ 50 นาที ก็ถึง แล้วพวกเราก็เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน จากนั้นก็เริ่มเที่ยวโซลตามแผนที่วางไว้ค่ะพระราชวังเคียงบก

สถานที่แรกที่เราไปครับ ใครๆที่มาโซล มาเกาหลี ก็ต้องมาที่นี่กัน ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สถาปัตยกรรมที่สวยงาม ทำให้เราเดินเพลินๆได้ในนั้นจนลืมเวลาเลยค่ะ

Bukchon Hanok Village
จากพระราชวัง เราแวะกินข้าวกันร้านระหว่างทางเป็นร้านผัดไทย ตกคนละประมาณ 200 บาท แล้วเรามาที่นี่กันเลย ลดแผนไม่ไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่นี่ก็เป็นบ้านคนค่ะที่ดูเก่าแก่ ให้เรามาถ่ายรูปได้ แต่ผู้คนก็ยังคงอาศัยอยู่กันจริงๆ ที่นี่หวานว่าไม่ได้มีอะไรมากมาย เดินแป๊บเดียวก็เต็มอิ่มแล้วครับที่นี่สำหรับพวกเรา  ทางขึ้นเป็นบันไดชันๆค่ะ


Jogyesa temple
เรามาต่อกันด้วยที่นี่ค่ะ ตอนเราไปมีเทศกาลหรืออะไรไม่ทราบ มีการจัดดอกไม้สวยงามเลยค่ะ เรากลับไปที่พักเพื่อเชคอิน และเดินมาเมียงดง เพื่อหาข้าวทานกันค่ะ คืนแรกเรากินจาจังเมียนครับ พิกัดร้าน 37°33'40.6"N 126°59'00.3"E มื้อนี้ตกคนละประมาณ 300 บาทครับ หลังจากกินเสร็จ เราก็ช๊อปปิ้งเครื่องสำอางกัน แล้วกลับที่พักค่ะ
# ขอพักที่ตรงนี้ก่อนนะคะ ไว้ตอนบ่ายๆมาต่อกันอีกรอบ เดี๋ยวหวานจะมารีวิวแบบจัดเต็มต่อค่ะ
ชื่อสินค้า:   ทริปเกาหลี, เกาหลี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่