สวัสดีค่ะ
เราสนใจขอสินเชื่อรถยนต์ เห็นกรุงศรีออโต้มี car for cash และ car for cash โปะ เท่าที่ถามข้อมูลทาง call center ของธนาคารเมื่อเทียบการกู้ยืมจำนวนเงินเท่ากัน 200,000 บาท ระยะเวลาชำระคืน 24 เดือนเท่ากัน (เป็นจำนวนเงินและระยะเวลาสมมติที่เราถามธนาคาร) เท่าที่เราเข้าใจและสรุปได้คือดังนี้
1. Car For Cash ต้องโอนเล่มทะเบียนให้ ธ. ส่วน Car For Cash โปะไม่ต้อง
2. Car For Cash จะผ่อนจ่ายต่อเดือนน้อยกว่า Car For Cash โปะนิดหน่อย (9,439 บาท กับ 9,764 บาท ตามลำดับ)
3. หากจ่ายโปะก่อนเวลาสองปี Car For Cash ทำได้ทันที และคิดดอกเบี้ยที่เหลือตามสัญญาเพียงครึ่งเดียว (เช่น ถ้าระยะเวลาที่เหลือต้องผ่อน มีดอกเบี้ยเหลืออีกสี่หมื่นก็จ่ายสองหมื่น เป็นต้น) ส่วน Car For Cash โปะ จะสามารถจ่ายเงินกว่าที่ต้องผ่อน 9,764 บาท ได้ในแต่ละงวด แล้วส่วนต่างที่เกินมาจะนำไปลดต้นลดดอกในอนาคต ส่วนหากจะโปะแบบจบปิดบัญชีไปเลยคือทำได้ตอนเดือนที่สิบสามเป็นต้นไป กล่าวคือ ธนาคารบังคับผ่อนจ่ายหนึ่งปีอย่างน้อย (12 เดือน) ส่วนหากโปะแล้ว ดอกเบี้ยที่เหลือต้องจ่ายหมดหรือปล่าวเราไม่แน่ใจ (call center ตอบเราไม่ได้ในจุดนี้)
โดยตัวเราคิดว่าภายในเดือนธันวาคมปีหน้า เราจะได้เงินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง (มาจากการขายที่ดิน) แต่ตอนนี้จำเป็นต้องใช้เงิน 200,000-300,000 บาทด่วน แล้วไม่อยากรบกวนที่บ้าน เราเลยว่าจะลองขอสินเชื่อรถยนต์ดู ดังนั้นช่วงแรกๆ เราไม่อยากจ่ายต่อเดือนสูง แต่หลังธันวาปีหน้าเราโปะได้หมดแน่นอน เลยจะลองถามความเห็นจากเพื่อนๆ ว่า ในกรณีของเรานี้ เพื่อนๆ คิดว่าควรจะขอสินเชื่อแบบไหนดี แล้วการโอนหรือไม่โอนเล่มทะเบียนนั้นมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร
สินเชื่อรถยนต์ car for cash และ car for cash โปะอันไหนดีกว่ากัน
เราสนใจขอสินเชื่อรถยนต์ เห็นกรุงศรีออโต้มี car for cash และ car for cash โปะ เท่าที่ถามข้อมูลทาง call center ของธนาคารเมื่อเทียบการกู้ยืมจำนวนเงินเท่ากัน 200,000 บาท ระยะเวลาชำระคืน 24 เดือนเท่ากัน (เป็นจำนวนเงินและระยะเวลาสมมติที่เราถามธนาคาร) เท่าที่เราเข้าใจและสรุปได้คือดังนี้
1. Car For Cash ต้องโอนเล่มทะเบียนให้ ธ. ส่วน Car For Cash โปะไม่ต้อง
2. Car For Cash จะผ่อนจ่ายต่อเดือนน้อยกว่า Car For Cash โปะนิดหน่อย (9,439 บาท กับ 9,764 บาท ตามลำดับ)
3. หากจ่ายโปะก่อนเวลาสองปี Car For Cash ทำได้ทันที และคิดดอกเบี้ยที่เหลือตามสัญญาเพียงครึ่งเดียว (เช่น ถ้าระยะเวลาที่เหลือต้องผ่อน มีดอกเบี้ยเหลืออีกสี่หมื่นก็จ่ายสองหมื่น เป็นต้น) ส่วน Car For Cash โปะ จะสามารถจ่ายเงินกว่าที่ต้องผ่อน 9,764 บาท ได้ในแต่ละงวด แล้วส่วนต่างที่เกินมาจะนำไปลดต้นลดดอกในอนาคต ส่วนหากจะโปะแบบจบปิดบัญชีไปเลยคือทำได้ตอนเดือนที่สิบสามเป็นต้นไป กล่าวคือ ธนาคารบังคับผ่อนจ่ายหนึ่งปีอย่างน้อย (12 เดือน) ส่วนหากโปะแล้ว ดอกเบี้ยที่เหลือต้องจ่ายหมดหรือปล่าวเราไม่แน่ใจ (call center ตอบเราไม่ได้ในจุดนี้)
โดยตัวเราคิดว่าภายในเดือนธันวาคมปีหน้า เราจะได้เงินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง (มาจากการขายที่ดิน) แต่ตอนนี้จำเป็นต้องใช้เงิน 200,000-300,000 บาทด่วน แล้วไม่อยากรบกวนที่บ้าน เราเลยว่าจะลองขอสินเชื่อรถยนต์ดู ดังนั้นช่วงแรกๆ เราไม่อยากจ่ายต่อเดือนสูง แต่หลังธันวาปีหน้าเราโปะได้หมดแน่นอน เลยจะลองถามความเห็นจากเพื่อนๆ ว่า ในกรณีของเรานี้ เพื่อนๆ คิดว่าควรจะขอสินเชื่อแบบไหนดี แล้วการโอนหรือไม่โอนเล่มทะเบียนนั้นมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร