[CR] Review คอร์สภาษาเกาหลี สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยยอนเซต

**ขออภัยที่ชื่อกระทู้ สะกดผิดจ้า (มหาวิทยาลัยยอนเซ เผลอกด ต เพิ่มไปตัวนึง ㅠ)

ช่วงนี้ที่เกาหลีเริ่มหนาวแล้ว (หิมะแรกตกไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน) และ จขกท อยู่ในช่วงปิดเทอม เลยได้โอกาสมา Review สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยยอนเซ เผื่อใครสนใจอยากจะมาเรียนภาษาชิลๆ ชมวิวสวยๆ ลิ้มรสอาหารอร่อยที่เกาหลีจ้า

ที่ผ่านมาก็มีหลายๆท่านได้ Review คอร์สภาษาเกาหลี ของสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยยอนเซไปบ้างแล้ว ใน Review นี้จึงอยากเพิ่มเติมในส่วนของคอร์ส B ที่จขกท ได้ลงทะเบียนเรียนบ้าง แต่ก็ยังคงพูดคอร์สโดยรวมด้วย

เกริ่นนำ
มหาวิทยาลัยในประเทศเกาหลีมีการเปิดสอนคอร์สภาษาเกาหลีสำหรับชาวต่างชาติกันอย่างแพร่หลาย สำหรับมหาวิทยาลัยยอดนิยม ได้แก่ มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา มหาวิทยาลัยยอนเซ มหาวิทยาลัยซอกัง มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล เป็นต้น ซึ่งแต่ละสถาบันก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป สำหรับที่มหาวิทยาลัยยอนเซนี้เป็นอย่างที่หลายๆท่านได้กล่าวไว้ว่า "เน้นไวยากรณ์มาก" ซึ่งก็เป็นจริงดังว่าจ้า

คอร์สภาษาเกาหลี ของมหาวิทยาลัยยอนเซ
จะแบ่งหลักๆเป็น 3 คอร์ส คือ คอร์ส A B และ C
คอร์ส A จะแบ่งเป็น 6 Level (1-6) โดยจะใช้เวลาเรียน Level ละประมาณ 2 เดือนครึ่ง (200 ชั่วโมง) เรียนช่วงเช้า 9.00-13.00 น. เรียนจบ Level 6 ใช้เวลา 1 ปี ครึ่ง (หากเริ่มเรียนตั้งแต่ Level 1) เหมาะสำหรับคนที่อยากเรียนแบบรวบรัด รวดเร็ว สำหรับสถานที่เรียนจะเรียนที่ตึกสถาบันภาษา (KLI) ที่ตั้งอยู่ด้านหลังมหาวิทยาลัย ไปทางทิศตะวันตก ใกล้กับมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา สะดวกสบายสำหรับนักเรียนที่พักหอพักนานาชาติของมหาวิทยาลัย (SK Global House และ International House)

คอร์ส B จะแบ่งเป็น 8 Level (B1-B8) ใช้เวลาเรียนLevel ละประมาณ 2 เดือนครึ่ง (200 ชั่วโมง) เรียนช่วงเช้า 9.00-13.00 น. เหมือนกับคอร์ส A แต่จะเรียนเนื้อหาน้อยกว่านิดหน่อย ซึ่งจะอธิบายต่อไปในรายละเอียดของแต่ละคอร์ส เรียนจบ Level B8 ใช้เวลาสองปี (หากเริ่มเรียนตั้งแต่ Level B1) เหมาะสำหรับคนที่อยากเรียนแบบชิลๆ สบายๆ โดยส่วนใหญ่นักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนคอร์ส B จะเป็นฝรั่ง เช่น อเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี สวีเดน อังกฤษ รัสเซีย ฯลฯ เราก็จะได้ภาษาอังกฤษไปด้วยจากการสื่อสารภาษาอังกฤษ(ในบางครั้งกับเพื่อนในคลาส) แต่ทั้งนี้ในช่วงที่ทำการเรียนการสอนครูจะไม่อนุญาตให้ใช้ภาษาอังกฤษนะจ๊ะ Speak เกาหลีอย่างเดียวโลด

สำหรับสถานที่เรียนจะเรียนที่ตึก The Common กลางมหาวิทยาลัยยอนเซ ห้องเรียนจะใหม่และทันสมัย นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ห้องสมุดกลาง (ใหญ่มากกก) โรงอาหารนักศึกษา สหกรณ์ขายหนังสือและเครื่องเขียน โรงยิม สระว่ายน้ำ

คอร์ส C แบ่งเป็น 6 Level เหมือนกับคอร์ส A แต่จะเรียนภาคบ่าย (14.00-17.50 น.)

*สำหรับค่าเล่าเรียนอยู่ที่ภาคเรียนละ 1,730,000 วอน (ประมาณ 54,000 บาท) และค่าสมัคร 80,000 วอน (ประมาณ 2,500 บาท) โดยใน 1 ปี จะแบ่งออกเป็น 4 ภาคเรียน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Link นี้จ้า http://www.yskli.com/_en/proc/p1.asp

**นักเรียนใหม่ทุกคนต้องเข้าทำการสอบจัดระดับที่เรียกว่า Placement test ซึ่งนักเรียนจะได้รับการประเมินให้เข้าเรียน Level ตามความสามารถในการภาษาเกาหลีของตัวเอง ในการสอบจัดระดับมีทั้งการสอบคำศัพท์ ไวยากรณ์ การเขียน และการสนทนา (พูดโต้ตอบกับครู)

รายละเอียดเนื้อหาในการเรียนการสอน
หลัก จขกท จะขออธิบายเปรียบเทียบระหว่างคอร์ส A และ B (เพราะคอร์ส C เหมือนกับคอร์ส A แต่ต่างกันในเรื่องของเวลาที่เรียน)

โดยทั้งคอร์ส A และ B จะใช้ตำรากลางของสถาบันภาษา คือ หนังสือและแบบฝึกหัด Level 1-6 โดยหนังสือในแต่ละ Level มีทั้งหมด 5 เล่ม ประกอบไปด้วย หนังสือเรียน 2 เล่ม (พร้อม CD) แบบฝึกหัด 2 เล่ม (พร้อม CD) และหนังสือวิชาการอ่าน 1 เล่ม (พร้อม CD)

หนังสือเรียนในแต่ละ Level (ที่กล่าวไปแล้วว่า)มี 2 เล่ม โดย 1 เล่มจะมี 5 บท x 2 เล่ม = 10 บท (มีบทบ่อยในแต่ละบทด้วย) สำหรับแบบฝึกหัดก็จะล้อกันไปตามเนื้อหาที่เรียนในหนังสือเรียน (ค่อนข้างละเอียด ทั้งคำศัพท์ ไวยากรณ์ และ 4 ทักษะ ฟังพูดอ่านเขียน)

ในคอร์ส A  ในะแต่ละ Level จะเรียนจนจบทุกเรื่องตามหนังสือเรียนใน Level นั้นๆ เมื่อขึ้น Level ต่อไปก็จะใช้เล่มใหม่ (อธิบายตรงนี้เพราะคอร์ส B แตกต่าง) ในชั้นเรียนก็จะเรียนทั้งการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน ไวยากรณ์ครบ พร้อมทั้งได้ฝึกหัดในห้องเรียน (ห้องเรียนจำกัดนักเรียนประมาณ 12 คน) นอกจากนี้ในคอร์ส A นี้ยังมีกิจกรรมให้นักเรียนในแต่ละห้องได้ร่วมแรงร่วมใจกัน สำหรับแข่งขัน เช่น ร้องเพลง แสดงละคร การโต้วาที การประกาศข่าว เป็นต้น สำหรับเนื้อหาในหนังสือในแต่ละ Level คร่าวๆ มีดังนี้

Level 1 : เริ่มต้นตั้งแต่การประสมคำ การอ่านออกเสียง และค่อยๆเรียนรู้ไวยากรณ์พื้นฐานง่ายๆที่จำเป็น แบบละเอียดมากๆ และที่สำคัญคือ คำศัพท์เยอะมากๆ นักเรียนต้องจำศัพท์และควิซกันอย่างอลังการ เรียกว่าลำบากหน่อยแต่ถ้าใครผ่านเนื้อหาหนังสือ Level 1 ไปได้ คำศัพท์แน่นในระดับหนึ่งแน่นอน ทั้งนี้การเรียนคำศัพท์มากๆในระดับนี้ ก็เพื่อปูพื้นฐานในระดับต่อไป เป็นประโยชน์มากๆ

Level 2 : คำศัพท์และไวยากรณ์ในเล่ม Level 2 นี้จะยากขึ้นนิดหน่อย(นิดเดียว) แต่ใช้บ่อยมากในชีวิตประจำวัน เนื้อหาเป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น เรื่องครอบครัว อาหารการกิน สุขภาพ การท่องเที่ยว การเดินทาง เป็นต้น

Level 3 : เนื้อหาในหนังสือ Level นี้จะเริ่มยากขึ้น เพราะจะเริ่มกล่าวถึงเรื่องที่เป็นนามธรรม จิตใจ ความรู้สึกต่างๆ และไวยากรณ์จะเริ่มยากและซับซ้อนมากขึ้น แต่ใช้บ่อยมากๆในชีวิตประจำวัน

Level 4 : เนื้อหา คำศัพท์ และไวยากรณ์ในเล่ม Level 4 นี้ แม้จะยาก แต่ไม่มากแบบก้าวกระโดดจาก Level 3 เท่าไร ซึ่งเนื้อหาในหนังสือ Level 3 และ 4 นี้นับว่าค่อนข้างสำคัญ เพราะอย่างที่กล่าวว่าใช้ในชีวิตประจำวันแบบชาวเกาหลีทั่วไปค่อนข้างมาก หากผ่านใน 2 ระดับนี้ไปได้ ก็สามารถสื่อสารภาษาเกาหลีในชีวิตประจำวันได้มากในระดับหนึ่งเลย

Level 5 & 6 : เนื้อหาที่ใช้สอนในระดับ 5 และ 6 จะเป็นขั้นสูง จะเน้นภาษาในเชิงวิชาการ เช่น การข่าว การเขียนบทความ การพูดโต้วาที การแสดงเหตุผล เหมาะสำหรับเตรียมความพร้อมการเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ประเทศเกาหลีใต้

ตัวอย่างหนังสือเรียนหลัก (แถวล่าง)
(http://vickieeisenstein.com/wp-content/uploads/2011/04/SAM_1609.jpg)
ชื่อสินค้า:   คอร์สภาษาเกาหลี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่