มาถึงเรื่องที่ 9 ก่อนจะขึ้นสองหลัก ก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วครับที่จะให้เพื่อนพี่น้องนักเขียนและนักอ่านทั้งหลายได้ตอบรวมทุกถุงมือ พรุ่งนี้อาจจะเทกระจาดวางให้หมดเลยก็เป็นได้ แล้วแต่อารมณ์ความขยันของกรรมการ ^^
เรื่องนี้ น่าจะแนวรักหวานแหววแล้วกระมัง ? โดนหลอกกันมาหลายเรื่องละ ตามมาดูกันครับ


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โก้ : คิดถึงเจี๊ยบจัง เมื่อไหร่เราจะได้เจอ ได้อยู่ด้วยกันสักที
เจี๊ยบ : ใจเย็นสิโก้ อีกไม่นานหรอก รอให้เราเคลียร์เรื่องต่างๆ เสร็จเรียบร้อยก่อนนะ โก้เองก็เถอะอย่าลืมรีบไปเคลียร์เรื่องของตัวเองด้วยล่ะ
โก้ : ได้จ้ะ ว่าแต่วันนี้เจี๊ยบมีเรื่องอะไรไม่สบายใจไหม เล่าให้เราฟังได้นะ
เจี๊ยบ : ก็เรื่องเดิมๆ แหละ
โก้ : อดทนนะเจี๊ยบ โก้เชื่อว่าทุกอย่างมันต้องดีขึ้น
เจี๊ยบ : เราทนจนไม่รู้จะทนยังไงแล้วโก้ มันเหนื่อยนะที่ต้องทนกับอะไรเดิมๆ และต้องทนอยู่ฝ่ายเดียว
โก้ : เราเข้าใจเจี๊ยบนะ
เจี๊ยบ : ขอบคุณโก้มากนะที่คอยรับฟังปัญหาและให้กำลังใจเรามาตลอด ถ้าไม่มีโก้ เราก็ไม่รู้ว่าชีวิตเราจะเป็นยังไง แล้วก็ขอบคุณที่ก้าวเข้ามาในชีวิตเรา ทำให้เราอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
โก้ : เรื่องแค่นี้เล็กน้อยน่า เราเองก็ต้องขอบคุณเจี๊ยบเหมือนกันที่คอยรับฟังปัญหาของเรา
เจี๊ยบ : รักโก้นะ
โก้ : รักเจี๊ยบเหมือนกัน
เจี๊ยบ : แค่นี้ก่อนนะ เราไปทำกับข้าวก่อน
โก้ : จ้ะ เราเองก็จะกลับบ้านแล้ว
เจี๊ยบ : บ๊ายบาย
โก้ : บายจ้ะ จุ๊บๆ
หวานจบบทสนทนากับโก้ เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาเลิกงานของสามีเธอแล้ว ก่อนปิดคอมพ์ ไม่ลืมที่จะลบประวัติการสนทนา และล็อกเอาท์ออกจากระบบ เท่านั้นยังไม่พอ ยังล้างประวัติการเข้าใช้งานเว็บไซต์อีกด้วย ที่เป็นเช่นนี้เพราะแต่ละวัน สามีเธอจะเช็คตลอดว่า วันๆ หนึ่งเธอคุยอะไรกับใครบ้าง
หวานรู้จักกับโก้ผ่านเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งเมื่อ 1 ปีที่แล้ว วันนั้นเธอทะเลาะกับคม สามีของเธอ และไม่รู้จะไประบายกับใครที่ไหน เพราะถึงจะระบายออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ เพราะภาพที่คมสร้างให้ทุกคนเห็นคือ สามีผู้แสนดีและสุดแสนจะอ่อนโยน ฉะนั้น หวานจึงเลือกบอกเล่าสิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในใจผ่านเว็บบอร์ดสาธารณะแห่งหนึ่ง โดยในนั้นเธอใช้นามแฝงว่า ‘เจี๊ยบ’
เพียงตั้งกระทู้ได้ไม่นาน ก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนมากล้วนแสดงความเห็นอกเห็นใจ ทั้งยังให้กำลังใจ และหนึ่งในนั้นก็คือ ‘โก้’ นอกจากเขาจะให้กำลังใจผ่านคอมเมนต์แล้ว เขายังส่งกำลังใจให้หวานผ่านทางหลังไมค์อีกด้วย
โก้บอกกับหวานว่า ไม่ใช่หวานคนเดียวที่ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนั้น เขาเองก็ตกที่นั่งเดียวกับหวาน จึงเข้าใจความรู้สึกของหวานเป็นอย่างดี แล้วโก้ก็ถ่ายทอดเรื่องราวระหว่างเขากับภรรยาที่ไม่เอาไหนให้หวานฟัง หวานได้ฟังก็อึ้งไปเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะเจอเพื่อนร่วมชะตาเดียวกัน จึงทำให้ทั้งสองคุยกันถูกคอ และส่งข้อความหลังไมค์คุยกันเรื่อยมา
ในทุกๆ วัน หลังจัดการกับงานบ้านเสร็จ หวานจะเฝ้าหน้าจอคุยกับโก้แทบทั้งวัน เขาจะคอยถามไถ่หวานเสมอว่ามีเรื่องทุกข์ใจอะไรไหม เขายินดีรับฟังทุกปัญหาของหวาน และไม่ว่าหวานจะเล่าปัญหาอะไรไป เขาก็จะมีถ้อยคำปลอบโยนกลับมาเสมอ
จากคุยกันผ่านหลังไมค์ของเว็บไซต์ ต่อมาก็พัฒนาเป็นคุยกัยผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งสมัครใหม่เพื่อใช้คุยกันโดยเฉพาะ หวานยังคงใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่าเจี๊ยบอยู่เหมือนเดิม และยังไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับโก้ เพราะตัวเองยังมีพันธะกับคมอยู่ ด้านโก้เองก็เหมือนกัน เขายังไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้หวานได้รับรู้ หวานรู้แค่เพียงว่าเขาชื่อโก้ อายุ 31 ปี ร่วมหุ้นกับเพื่อนประกอบธุรกิจส่วนตัว
ด้วยปัญหาชีวิตคู่ที่คล้ายๆ กัน ทำให้หวานและโก้เข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี นานวันเข้า ทั้งสองก็มีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน จนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ รักทั้งๆ ที่ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน รักทั้งที่ต่างฝ่ายต่างก็มีครอบครัวแล้ว แต่ก็อย่างว่า ความรู้สึกมันห้ามกันได้เสียที่ไหน
โก้เป็นเหมือนชายในฝันที่หวานใฝ่หามานาน ทุกถ้อยคำปลอบประโลมและกำลังใจจากเขา เป็นเสมือนหยาดฝนรินรดลงบนหัวใจที่แห้งเหี่ยวของหวานให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หวานสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยน ความเป็นสุภาพบุรุษ ความมีน้ำใจของเขาผ่านทุกๆ ตัวอักษรที่เขาส่งมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่มีในตัวของคมเลยสักนิด
หวานแต่งงานอยู่กินกับคมมา 5 ปีแล้ว หลังแต่งงาน คมขอให้หวานลาออกจากงานประจำมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว แรกเริ่มหวานไม่ยอม แต่คมก็พูดโน้มน้าวจนเธอยอม เขาบอกว่าเมียคนเดียวเขาเลี้ยงได้ เขาไม่อยากให้หวานต้องลำบากเมื่ออยู่กับเขา คมมีสารพัดคำหวานที่ทำให้หวานยอมโอนอ่อนผ่อนตามได้โดยง่าย
ช่วง 3 ปีแรกของชีวิตคู่ดูจะราบรื่นดี มีทะเลาะมีงอนกันบ้างตามประสาคู่ผัวเมีย กิจวัตรในทุกๆ วันของหวานคือ ตื่นเช้ามาเตรียมกับข้าวกับปลาให้สามี หลังเขาออกไปทำงานเธอก็สวมวิญญาณแม่บ้าน จัดโน่นทำนี่ทั้งวัน ตกเย็นก็จัดเตรียมอาหารไว้รอสามี หวานทำหน้าที่แม่บ้านได้ไม่ขาดตกบกพร่อง คมเองก็ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
จนเมื่อย่างเข้าสู่ปีที่สี่ ทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือกลายเป็นหลังมือ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องน้อยแค่ไหน ก็เป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทได้ ไม่ว่าหวานจะทำอะไร ก็ดูจะขวางหูขวางตาคมไปเสียหมด แล้วก็นำมาซึ่งการทะเลาะเบาะแว้ง และจบลงด้วยการลงไม้ลงมือทุกครั้งไป
หลายครั้งหวานมีความคิดที่จะหย่า แต่คมกลับไม่ยอมท่าเดียว ทั้งยังกล่าวหาว่าหวานมีคนอื่นๆ และอีกสารพัดเหตุผลสุดแล้วแต่เขาจะยกมา หวานไม่เข้าใจเลยว่า เทพบุตรคนเดิมของเธอหายไปไหน ทำไมทิ้งไว้แต่คราบซาตานร้าย หวานไม่เข้าใจเลยว่า หากคมไม่ได้รักเธอแล้วจะเก็บเธอไว้ทำไม ตอนนี้เธอเหมือนเป็นนกน้อยในกรงทองของคม ที่ไร้ซึ่งอิสรภาพ จะไปไหนมาไหน ถ้าเขาไม่อนุญาต เธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งสิ้น เงินทุกบาททุกสตางค์ก็ต้องขอเขาใช้ เพราะเขาไม่ยอมให้เธอออกไปทำงานนอกบ้าน และเธอก็ไม่มีเงินเก็บของตัวเองเลย
“วันนี้มีเรื่องน่าเบื่ออีกแล้ว” เจี๊ยบรีบส่งข้อความไประบายกับโก้ หลังจัดการกับงานในบ้านเสร็จเรียบร้อย
“เรื่องอะไรเหรอ” โก้ตอบกลับหลังเจี๊ยบส่งข้อความไปเพียงไม่กี่นาที
“สามีเราน่ะสิ งี่เง่าสิ้นดี เราอยากออกไปทำงานนอกบ้านเขาก็ไม่ให้เราทำ หาว่าที่เราอยากออกไปทำงาน เพราะจะได้ไปอ่อยผู้ชาย ไม่รู้ไปเอาความคคคิดแบบนั้นมาจากไหน”
หวานเริ่มบ่นให้สามีที่ขี้หึงไม่เข้าเรื่อง เธออยากออกไปทำงานนอกบ้าน อยากมีสังคมแบบคนอื่นบ้าง เธอเบื่อที่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน แต่เขาก็ไม่ยอม แล้วก็ยกเหตุผลเดิมๆ มาอ้าง เหตุผลที่ว่าก็คือ เมียคนเดียวเขาเลี้ยงได้
เพื่อนๆ และคนรอบข้างต่างพากันอิจฉาหวานกันเป็นแถว ที่ได้สามีดี ไม่ต้องลำบากออกไปทำงานนอกบ้าน มีสามีหาเลี้ยง แต่ใครจะรู้ว่า ความจริงแล้ว ทุกอย่างมันไม่ได้สวยหรูอย่างที่ทุกคนคิด เมื่อหวานไม่มีรายได้ของตัวเอง เธอก็ถูกคมกดขี่สารพัด ทะเลาะกันทีก็ยกเรื่องที่เขาหาเลี้ยงเธอมาพูดจาถากถาง บางทีก็ลามปามไปถึงพ่อแม่ของเธอด้วย ที่เขาต้องส่งเสียเลี้ยงดู หากเลือกได้ หวานอยากออกไปทำงานหาเงินด้วยตัวเอง มากกว่าที่ต้องทนเป็นเบี้ยล่างของสามีโรคจิตแบบทุกวันนี้
“โก้ชอบผู้หญิงที่มีความคิดแบบเจี๊ยบจัง ไม่คิดจะงอมืองอเท้า รอให้แฟนหาเลี้ยงอย่างเดียว ต่างจากแฟนเรา ไม่ยอมไปทำการทำงานเลย ให้เราหาเลี้ยงอยู่ฝ่ายเดียว เขาบอกแค่ทำงานบ้านก็เหนื่อยพอแล้ว ยังต้องให้ออกไปทำงานนอกบ้านอีกเหรอ
ถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้ก็คงจะดีเนอะ”
โก้หยอด ทั้งยังพาดพิงไปถึงภรรยาจอมขี้เกียจของตัวเอง ที่วันๆ ไม่ทำการทำงานอะไร มีแต่หมกมุ่นอยู่ในโลกออนไลน์ งานบ้านก็ทำได้ไม่เรียบร้อย พอบอกให้ออกไปหางานทำนอกบ้าน ส่วนงานบ้านจะจ้างแม่บ้านมาทำ เธอก็ไม่ยอม บอกงานแค่นี้จะจ้างให้เสียเงินไปทำไมกัน หลายครั้งที่เขากับภรรยาต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นเรื่องนี้
หวานได้ยินอย่างนั้นก็หัวใจพองโต แทบอดทนรอเวลาที่จะได้อยู่กับโก้ไม่ไหว ถ้าเธอได้เจอเขาก่อนที่จะมาเจอคมคงจะดีไม่น้อย บางทีชีวิตหลังแต่งงานเธออาจจะราบรื่นมากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ต้องมาทนเสียสุขภาพจิตกับเรื่องจุกจิกแบบทุกวันนี้
“มัวทำอะไรอยู่ทั้งวัน เย็นป่านนี้แล้วงานบ้านยังไม่เรียบร้อยอีก กับข้าวก็ยังไม่ทำ” เสียงห้าวที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้หวานที่กำลังนั่งฝันหวานถึงโก้สะดุ้งโหยง
“คือ...” หวานอึกอัก ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาแก้ตัว วันนี้เธอคุยกับโก้เพลินจนลืมงานบ้านไปเลย เท่านั้นยังไม่พอยังลืมทำกับข้าวอีกต่างหาก
“วันๆ ทำอะไรบ้างหา นอกจากนั่งเล่นโทรศัพท์กับนั่งเล่นคอมพ์” คมเริ่มเสียงดัง เมื่อกลับมาเจอสภาพบ้านไม่ต่างจากเมื่อเช้า แถมยังไร้เงาของมื้อเย็นที่ปกติต้องจัดเตรียมไว้รอแล้ว
“หรือว่ามัวแต่คุยกับใคร”
“เปล่า จะไปคุยกับใครที่ไหน แค่ทำงานบ้านในแต่ละวันก็ไม่มีเวลาจะทำอะไรแล้ว”
หวานรีบปฏิเสธ พยายามทำตัวให้ปกติที่สุด ทั้งที่ในใจนั้นเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ กลัวเหลือเกินว่าคมจะจับได้เรื่องที่เธอแอบคุยกับชายอื่น ทั้งยังวางแผนจะไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกต่างหาก
“ไหนเอาโทรศัพท์มาดูซิ” คมแย่งโทรศัพท์มาจากมือหวาน เพื่อจะดูว่าวันๆ เธอคุยอะไรกับใครบ้าง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้กดดูหวานก็รีบแย่งคืน นั่นยิ่งทำให้คมสงสัย
“ขอดูดีๆ ไม่ได้ใช่ไหม”
คมเริ่มลงไม้ลงมือกับหวานเมื่อเธอไม่ยอมให้เขาดูดีๆ ด้านหวานเองก็ไม่ยอมถูกกระทำฝ่ายเดียว เธอสู้สุดฤทธิ์เท่าทีแรงเธอจะสู้ได้ แต่มีหรือแรงมดอย่างเธอจะสู้แรงช้างสารอย่างเขาได้ ไม่นานร่างหวานก็ปลิวเข้ากระแทกกับราวบันไดอย่างจัง หวานจุกจนตัวงอ เธอตวัดสายมองคมด้วยแววตาอาฆาต ความเกลียดที่มีเป็นทุนเดิมเริ่มมากขึ้นทบทวีคูณ
เมื่อไล่ดูโทรศัพท์ของภรรยาแล้วไม่พบพิรุธอะไรคมก็โยนโทรศัพท์เจ้าตัว
“อย่าให้รู้นะว่าแอบคุยกับผู้ชายหน้าไหน ไม่อย่างนั้นเธอไม่ได้ตายดีแน่” คมขู่ก่อนออกจากบ้านไป โดยไม่สนใจสักนิดว่าหวานจะเจ็บมากแค่ไหนกับการกระทำของเขาเมื่อสักครู่
หวานทอดมองเงาสะท้อนของตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ ร่องร่อยเขียวช้ำตามเนื้อตัวยังคงเด่นชัด ตอกย้ำความโหดร้ายที่เธอต้องเผชิญตลอดสองปีที่ผ่านมา

(มีต่อครับ)
🌸💖🌸 [ ถุงมือนักเขียน - FINAL ] เรื่องที่ 9 " ชายในฝัน " โดย " ถุงมือ TADANO " ครับ 🌸💖🌸
มาถึงเรื่องที่ 9 ก่อนจะขึ้นสองหลัก ก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วครับที่จะให้เพื่อนพี่น้องนักเขียนและนักอ่านทั้งหลายได้ตอบรวมทุกถุงมือ พรุ่งนี้อาจจะเทกระจาดวางให้หมดเลยก็เป็นได้ แล้วแต่อารมณ์ความขยันของกรรมการ ^^
เรื่องนี้ น่าจะแนวรักหวานแหววแล้วกระมัง ? โดนหลอกกันมาหลายเรื่องละ ตามมาดูกันครับ
โก้ : คิดถึงเจี๊ยบจัง เมื่อไหร่เราจะได้เจอ ได้อยู่ด้วยกันสักที
เจี๊ยบ : ใจเย็นสิโก้ อีกไม่นานหรอก รอให้เราเคลียร์เรื่องต่างๆ เสร็จเรียบร้อยก่อนนะ โก้เองก็เถอะอย่าลืมรีบไปเคลียร์เรื่องของตัวเองด้วยล่ะ
โก้ : ได้จ้ะ ว่าแต่วันนี้เจี๊ยบมีเรื่องอะไรไม่สบายใจไหม เล่าให้เราฟังได้นะ
เจี๊ยบ : ก็เรื่องเดิมๆ แหละ
โก้ : อดทนนะเจี๊ยบ โก้เชื่อว่าทุกอย่างมันต้องดีขึ้น
เจี๊ยบ : เราทนจนไม่รู้จะทนยังไงแล้วโก้ มันเหนื่อยนะที่ต้องทนกับอะไรเดิมๆ และต้องทนอยู่ฝ่ายเดียว
โก้ : เราเข้าใจเจี๊ยบนะ
เจี๊ยบ : ขอบคุณโก้มากนะที่คอยรับฟังปัญหาและให้กำลังใจเรามาตลอด ถ้าไม่มีโก้ เราก็ไม่รู้ว่าชีวิตเราจะเป็นยังไง แล้วก็ขอบคุณที่ก้าวเข้ามาในชีวิตเรา ทำให้เราอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
โก้ : เรื่องแค่นี้เล็กน้อยน่า เราเองก็ต้องขอบคุณเจี๊ยบเหมือนกันที่คอยรับฟังปัญหาของเรา
เจี๊ยบ : รักโก้นะ
โก้ : รักเจี๊ยบเหมือนกัน
เจี๊ยบ : แค่นี้ก่อนนะ เราไปทำกับข้าวก่อน
โก้ : จ้ะ เราเองก็จะกลับบ้านแล้ว
เจี๊ยบ : บ๊ายบาย
โก้ : บายจ้ะ จุ๊บๆ
หวานจบบทสนทนากับโก้ เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาเลิกงานของสามีเธอแล้ว ก่อนปิดคอมพ์ ไม่ลืมที่จะลบประวัติการสนทนา และล็อกเอาท์ออกจากระบบ เท่านั้นยังไม่พอ ยังล้างประวัติการเข้าใช้งานเว็บไซต์อีกด้วย ที่เป็นเช่นนี้เพราะแต่ละวัน สามีเธอจะเช็คตลอดว่า วันๆ หนึ่งเธอคุยอะไรกับใครบ้าง
หวานรู้จักกับโก้ผ่านเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งเมื่อ 1 ปีที่แล้ว วันนั้นเธอทะเลาะกับคม สามีของเธอ และไม่รู้จะไประบายกับใครที่ไหน เพราะถึงจะระบายออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ เพราะภาพที่คมสร้างให้ทุกคนเห็นคือ สามีผู้แสนดีและสุดแสนจะอ่อนโยน ฉะนั้น หวานจึงเลือกบอกเล่าสิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในใจผ่านเว็บบอร์ดสาธารณะแห่งหนึ่ง โดยในนั้นเธอใช้นามแฝงว่า ‘เจี๊ยบ’
เพียงตั้งกระทู้ได้ไม่นาน ก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนมากล้วนแสดงความเห็นอกเห็นใจ ทั้งยังให้กำลังใจ และหนึ่งในนั้นก็คือ ‘โก้’ นอกจากเขาจะให้กำลังใจผ่านคอมเมนต์แล้ว เขายังส่งกำลังใจให้หวานผ่านทางหลังไมค์อีกด้วย
โก้บอกกับหวานว่า ไม่ใช่หวานคนเดียวที่ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนั้น เขาเองก็ตกที่นั่งเดียวกับหวาน จึงเข้าใจความรู้สึกของหวานเป็นอย่างดี แล้วโก้ก็ถ่ายทอดเรื่องราวระหว่างเขากับภรรยาที่ไม่เอาไหนให้หวานฟัง หวานได้ฟังก็อึ้งไปเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะเจอเพื่อนร่วมชะตาเดียวกัน จึงทำให้ทั้งสองคุยกันถูกคอ และส่งข้อความหลังไมค์คุยกันเรื่อยมา
ในทุกๆ วัน หลังจัดการกับงานบ้านเสร็จ หวานจะเฝ้าหน้าจอคุยกับโก้แทบทั้งวัน เขาจะคอยถามไถ่หวานเสมอว่ามีเรื่องทุกข์ใจอะไรไหม เขายินดีรับฟังทุกปัญหาของหวาน และไม่ว่าหวานจะเล่าปัญหาอะไรไป เขาก็จะมีถ้อยคำปลอบโยนกลับมาเสมอ
จากคุยกันผ่านหลังไมค์ของเว็บไซต์ ต่อมาก็พัฒนาเป็นคุยกัยผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งสมัครใหม่เพื่อใช้คุยกันโดยเฉพาะ หวานยังคงใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่าเจี๊ยบอยู่เหมือนเดิม และยังไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับโก้ เพราะตัวเองยังมีพันธะกับคมอยู่ ด้านโก้เองก็เหมือนกัน เขายังไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้หวานได้รับรู้ หวานรู้แค่เพียงว่าเขาชื่อโก้ อายุ 31 ปี ร่วมหุ้นกับเพื่อนประกอบธุรกิจส่วนตัว
ด้วยปัญหาชีวิตคู่ที่คล้ายๆ กัน ทำให้หวานและโก้เข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี นานวันเข้า ทั้งสองก็มีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน จนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ รักทั้งๆ ที่ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน รักทั้งที่ต่างฝ่ายต่างก็มีครอบครัวแล้ว แต่ก็อย่างว่า ความรู้สึกมันห้ามกันได้เสียที่ไหน
โก้เป็นเหมือนชายในฝันที่หวานใฝ่หามานาน ทุกถ้อยคำปลอบประโลมและกำลังใจจากเขา เป็นเสมือนหยาดฝนรินรดลงบนหัวใจที่แห้งเหี่ยวของหวานให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หวานสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยน ความเป็นสุภาพบุรุษ ความมีน้ำใจของเขาผ่านทุกๆ ตัวอักษรที่เขาส่งมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่มีในตัวของคมเลยสักนิด
หวานแต่งงานอยู่กินกับคมมา 5 ปีแล้ว หลังแต่งงาน คมขอให้หวานลาออกจากงานประจำมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว แรกเริ่มหวานไม่ยอม แต่คมก็พูดโน้มน้าวจนเธอยอม เขาบอกว่าเมียคนเดียวเขาเลี้ยงได้ เขาไม่อยากให้หวานต้องลำบากเมื่ออยู่กับเขา คมมีสารพัดคำหวานที่ทำให้หวานยอมโอนอ่อนผ่อนตามได้โดยง่าย
ช่วง 3 ปีแรกของชีวิตคู่ดูจะราบรื่นดี มีทะเลาะมีงอนกันบ้างตามประสาคู่ผัวเมีย กิจวัตรในทุกๆ วันของหวานคือ ตื่นเช้ามาเตรียมกับข้าวกับปลาให้สามี หลังเขาออกไปทำงานเธอก็สวมวิญญาณแม่บ้าน จัดโน่นทำนี่ทั้งวัน ตกเย็นก็จัดเตรียมอาหารไว้รอสามี หวานทำหน้าที่แม่บ้านได้ไม่ขาดตกบกพร่อง คมเองก็ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
จนเมื่อย่างเข้าสู่ปีที่สี่ ทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือกลายเป็นหลังมือ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องน้อยแค่ไหน ก็เป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทได้ ไม่ว่าหวานจะทำอะไร ก็ดูจะขวางหูขวางตาคมไปเสียหมด แล้วก็นำมาซึ่งการทะเลาะเบาะแว้ง และจบลงด้วยการลงไม้ลงมือทุกครั้งไป
หลายครั้งหวานมีความคิดที่จะหย่า แต่คมกลับไม่ยอมท่าเดียว ทั้งยังกล่าวหาว่าหวานมีคนอื่นๆ และอีกสารพัดเหตุผลสุดแล้วแต่เขาจะยกมา หวานไม่เข้าใจเลยว่า เทพบุตรคนเดิมของเธอหายไปไหน ทำไมทิ้งไว้แต่คราบซาตานร้าย หวานไม่เข้าใจเลยว่า หากคมไม่ได้รักเธอแล้วจะเก็บเธอไว้ทำไม ตอนนี้เธอเหมือนเป็นนกน้อยในกรงทองของคม ที่ไร้ซึ่งอิสรภาพ จะไปไหนมาไหน ถ้าเขาไม่อนุญาต เธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งสิ้น เงินทุกบาททุกสตางค์ก็ต้องขอเขาใช้ เพราะเขาไม่ยอมให้เธอออกไปทำงานนอกบ้าน และเธอก็ไม่มีเงินเก็บของตัวเองเลย
“วันนี้มีเรื่องน่าเบื่ออีกแล้ว” เจี๊ยบรีบส่งข้อความไประบายกับโก้ หลังจัดการกับงานในบ้านเสร็จเรียบร้อย
“เรื่องอะไรเหรอ” โก้ตอบกลับหลังเจี๊ยบส่งข้อความไปเพียงไม่กี่นาที
“สามีเราน่ะสิ งี่เง่าสิ้นดี เราอยากออกไปทำงานนอกบ้านเขาก็ไม่ให้เราทำ หาว่าที่เราอยากออกไปทำงาน เพราะจะได้ไปอ่อยผู้ชาย ไม่รู้ไปเอาความคคคิดแบบนั้นมาจากไหน”
หวานเริ่มบ่นให้สามีที่ขี้หึงไม่เข้าเรื่อง เธออยากออกไปทำงานนอกบ้าน อยากมีสังคมแบบคนอื่นบ้าง เธอเบื่อที่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน แต่เขาก็ไม่ยอม แล้วก็ยกเหตุผลเดิมๆ มาอ้าง เหตุผลที่ว่าก็คือ เมียคนเดียวเขาเลี้ยงได้
เพื่อนๆ และคนรอบข้างต่างพากันอิจฉาหวานกันเป็นแถว ที่ได้สามีดี ไม่ต้องลำบากออกไปทำงานนอกบ้าน มีสามีหาเลี้ยง แต่ใครจะรู้ว่า ความจริงแล้ว ทุกอย่างมันไม่ได้สวยหรูอย่างที่ทุกคนคิด เมื่อหวานไม่มีรายได้ของตัวเอง เธอก็ถูกคมกดขี่สารพัด ทะเลาะกันทีก็ยกเรื่องที่เขาหาเลี้ยงเธอมาพูดจาถากถาง บางทีก็ลามปามไปถึงพ่อแม่ของเธอด้วย ที่เขาต้องส่งเสียเลี้ยงดู หากเลือกได้ หวานอยากออกไปทำงานหาเงินด้วยตัวเอง มากกว่าที่ต้องทนเป็นเบี้ยล่างของสามีโรคจิตแบบทุกวันนี้
“โก้ชอบผู้หญิงที่มีความคิดแบบเจี๊ยบจัง ไม่คิดจะงอมืองอเท้า รอให้แฟนหาเลี้ยงอย่างเดียว ต่างจากแฟนเรา ไม่ยอมไปทำการทำงานเลย ให้เราหาเลี้ยงอยู่ฝ่ายเดียว เขาบอกแค่ทำงานบ้านก็เหนื่อยพอแล้ว ยังต้องให้ออกไปทำงานนอกบ้านอีกเหรอ ถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้ก็คงจะดีเนอะ”
โก้หยอด ทั้งยังพาดพิงไปถึงภรรยาจอมขี้เกียจของตัวเอง ที่วันๆ ไม่ทำการทำงานอะไร มีแต่หมกมุ่นอยู่ในโลกออนไลน์ งานบ้านก็ทำได้ไม่เรียบร้อย พอบอกให้ออกไปหางานทำนอกบ้าน ส่วนงานบ้านจะจ้างแม่บ้านมาทำ เธอก็ไม่ยอม บอกงานแค่นี้จะจ้างให้เสียเงินไปทำไมกัน หลายครั้งที่เขากับภรรยาต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นเรื่องนี้
หวานได้ยินอย่างนั้นก็หัวใจพองโต แทบอดทนรอเวลาที่จะได้อยู่กับโก้ไม่ไหว ถ้าเธอได้เจอเขาก่อนที่จะมาเจอคมคงจะดีไม่น้อย บางทีชีวิตหลังแต่งงานเธออาจจะราบรื่นมากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ต้องมาทนเสียสุขภาพจิตกับเรื่องจุกจิกแบบทุกวันนี้
“มัวทำอะไรอยู่ทั้งวัน เย็นป่านนี้แล้วงานบ้านยังไม่เรียบร้อยอีก กับข้าวก็ยังไม่ทำ” เสียงห้าวที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้หวานที่กำลังนั่งฝันหวานถึงโก้สะดุ้งโหยง
“คือ...” หวานอึกอัก ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาแก้ตัว วันนี้เธอคุยกับโก้เพลินจนลืมงานบ้านไปเลย เท่านั้นยังไม่พอยังลืมทำกับข้าวอีกต่างหาก
“วันๆ ทำอะไรบ้างหา นอกจากนั่งเล่นโทรศัพท์กับนั่งเล่นคอมพ์” คมเริ่มเสียงดัง เมื่อกลับมาเจอสภาพบ้านไม่ต่างจากเมื่อเช้า แถมยังไร้เงาของมื้อเย็นที่ปกติต้องจัดเตรียมไว้รอแล้ว
“หรือว่ามัวแต่คุยกับใคร”
“เปล่า จะไปคุยกับใครที่ไหน แค่ทำงานบ้านในแต่ละวันก็ไม่มีเวลาจะทำอะไรแล้ว”
หวานรีบปฏิเสธ พยายามทำตัวให้ปกติที่สุด ทั้งที่ในใจนั้นเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ กลัวเหลือเกินว่าคมจะจับได้เรื่องที่เธอแอบคุยกับชายอื่น ทั้งยังวางแผนจะไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกต่างหาก
“ไหนเอาโทรศัพท์มาดูซิ” คมแย่งโทรศัพท์มาจากมือหวาน เพื่อจะดูว่าวันๆ เธอคุยอะไรกับใครบ้าง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้กดดูหวานก็รีบแย่งคืน นั่นยิ่งทำให้คมสงสัย
“ขอดูดีๆ ไม่ได้ใช่ไหม”
คมเริ่มลงไม้ลงมือกับหวานเมื่อเธอไม่ยอมให้เขาดูดีๆ ด้านหวานเองก็ไม่ยอมถูกกระทำฝ่ายเดียว เธอสู้สุดฤทธิ์เท่าทีแรงเธอจะสู้ได้ แต่มีหรือแรงมดอย่างเธอจะสู้แรงช้างสารอย่างเขาได้ ไม่นานร่างหวานก็ปลิวเข้ากระแทกกับราวบันไดอย่างจัง หวานจุกจนตัวงอ เธอตวัดสายมองคมด้วยแววตาอาฆาต ความเกลียดที่มีเป็นทุนเดิมเริ่มมากขึ้นทบทวีคูณ
เมื่อไล่ดูโทรศัพท์ของภรรยาแล้วไม่พบพิรุธอะไรคมก็โยนโทรศัพท์เจ้าตัว
“อย่าให้รู้นะว่าแอบคุยกับผู้ชายหน้าไหน ไม่อย่างนั้นเธอไม่ได้ตายดีแน่” คมขู่ก่อนออกจากบ้านไป โดยไม่สนใจสักนิดว่าหวานจะเจ็บมากแค่ไหนกับการกระทำของเขาเมื่อสักครู่
หวานทอดมองเงาสะท้อนของตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ ร่องร่อยเขียวช้ำตามเนื้อตัวยังคงเด่นชัด ตอกย้ำความโหดร้ายที่เธอต้องเผชิญตลอดสองปีที่ผ่านมา
(มีต่อครับ)