คนไทยส่วนใหญ่ ไม่อยากเป็นกรรมการหมู่บ้าน คอนโด เพราะไม่อยากรับผิดชอบ แทบทุกคอนโดจึงมีปัญหาเรื่องนิติ ไม่ว่าคอนดดไฮเอน หรือโลเอน
ต้องใช้ความร่วมแรงร่วมใจอย่างมากที่จะแก้วิกฤตในคอนโด ผมอยู่คอนโดราคาห้องละไม่ถึงล้าน เดิมทีเจ้าของคอนโดบริหารเอง และทำเงินหายไปจากกองกลางสี่ล้านบาท จนเหลือเงินแค่สามแสน แล้วทิ้ง ประกาศให้ลูกบ้านดูแลกันเอง ผมเป็นคนเดียวที่สมัครเป็นกรรมการ และค่อยๆขอร้องให้ลูกบ้านคนอื่นมาช่วยกัน แค่สละเวลาประชุมเดือนละสองครั้ง ไม่มีเงินเดือน ไม่มีเบี้ยประชุม ช่วยกันเพื่อส่วนรวม จากเดิม สิฟท์เสียหนึ่งตัว ใช้ได้หนึ่งตัว ไฟฉุกเฉิน กล้องวงจรปิด พังหมด ค่าสวนกลางติดค้างกันเยอะมาก ก็เข้มงวดให้จ่าย ให้ผ่อน จนทุกอย่างที่พัง หรือไม่มี ตอนนี้มีหมดแล้ว ทาสีตึกใหม่ไปหกแสนกว่าบาท ทำป้อมยาม ตีเส้นจอดรถ ใครจ่ายค่าส่วนกลางช้าเกินวันที่ 10 ปรับ 10 ปซ. ถ้าไม่จ่ายอีก ตัดน้ำ ตัดไฟ ไม่พอใจก็เรียกตำรวจมาเคลียร์ ส่วนเรื่องเลี้ยงหมาที่ปล่อยปละกันมา ก็ต้องปล่อยให้เลี้ยงไป แต่พยามห้ามคนที่ย้ายเข้ามาใหม่ ไม่ให้เลี้ยงเพิ่ม ออกกฏใครปล่อยให้ออกมาเลอะเทอะนอกห้อง ปรับ 500 บาท กฏใหม่ๆที่ตั้งขึ้นมาให้ที่ประชุมใหญ่ยกมือว่าผ่าน เวลาประชุม จากจำนวนลูกบ้าน 500 คน มาประชุมกัน 50-60 คน ก็เอาตามเสียงในที่ประชุม ใครไม่มาร่วมถือว่า เอาตามที่ประชุม หลังสุดมีปัญหาเรื่องผู้จัดการอาคาร ที่อยุ่มาตั้งแต่ต้น มีปัญหาทะเลาะกับลูกบ้านไปทั่ว และหาประโยชน์ส่วนตัวจากห้องว่างที่ไม่มีคนอยู่ ถ้าไล่ออก ก็ไม่รู้จะเอาใครมาแทน ที่จะไม่หอบเงินหนี สุดท้ายก็ใช้วิธีจ้างบริษัทรับบริหารนิติเข้ามา จ่ายค่าบริหารเพิ่มเดือนละสามหมื่นบาท ดูเงินในบัญชีแล้ว โอเค ทำสัญญาว่าบริษัทต้องรับผิดชอบหากมีความเสียหายทางการเงิน ส่วนเรื่องกรรมการชุดเดิม ต้องไปปรึกษากรมที่ดิน ว่าจะโล๊ะทิ้ง จดทะเบียนใหม่ตัดหน้าชุดเก่าอย่างไร โดยล่าลายเซนต์ลูกบ้านลงชื่อเสียงส่วนใหญ่มาเป็นหลักฐาน ปัญหาคอนโดแก้ได้ แต่ต้องมีคนเสียสละ และ มีการร่วมแรงร่วมใจกัน ถึงไม่ได้เงินเดือนก็ต้องทำ ถือว่าเป็นบ้านเราเอง ถ้ามีปัญหา เราก็ซวยตามไปด้วย ถ้ามีกรรมการช่วยกันห้าคนขึ้นไป ร่วมมือร่วมใจ ทุกอย่างแก้ได้หมด
คนไทยส่วนใหญ่ ไม่อยากเป็นกรรมการหมู่บ้าน คอนโด เพราะไม่อยากรับผิดชอบ แทบทุกคอนโดจึงมีปัญหาเรื่องนิติ ไม่ว่าไฮหรือโล
ต้องใช้ความร่วมแรงร่วมใจอย่างมากที่จะแก้วิกฤตในคอนโด ผมอยู่คอนโดราคาห้องละไม่ถึงล้าน เดิมทีเจ้าของคอนโดบริหารเอง และทำเงินหายไปจากกองกลางสี่ล้านบาท จนเหลือเงินแค่สามแสน แล้วทิ้ง ประกาศให้ลูกบ้านดูแลกันเอง ผมเป็นคนเดียวที่สมัครเป็นกรรมการ และค่อยๆขอร้องให้ลูกบ้านคนอื่นมาช่วยกัน แค่สละเวลาประชุมเดือนละสองครั้ง ไม่มีเงินเดือน ไม่มีเบี้ยประชุม ช่วยกันเพื่อส่วนรวม จากเดิม สิฟท์เสียหนึ่งตัว ใช้ได้หนึ่งตัว ไฟฉุกเฉิน กล้องวงจรปิด พังหมด ค่าสวนกลางติดค้างกันเยอะมาก ก็เข้มงวดให้จ่าย ให้ผ่อน จนทุกอย่างที่พัง หรือไม่มี ตอนนี้มีหมดแล้ว ทาสีตึกใหม่ไปหกแสนกว่าบาท ทำป้อมยาม ตีเส้นจอดรถ ใครจ่ายค่าส่วนกลางช้าเกินวันที่ 10 ปรับ 10 ปซ. ถ้าไม่จ่ายอีก ตัดน้ำ ตัดไฟ ไม่พอใจก็เรียกตำรวจมาเคลียร์ ส่วนเรื่องเลี้ยงหมาที่ปล่อยปละกันมา ก็ต้องปล่อยให้เลี้ยงไป แต่พยามห้ามคนที่ย้ายเข้ามาใหม่ ไม่ให้เลี้ยงเพิ่ม ออกกฏใครปล่อยให้ออกมาเลอะเทอะนอกห้อง ปรับ 500 บาท กฏใหม่ๆที่ตั้งขึ้นมาให้ที่ประชุมใหญ่ยกมือว่าผ่าน เวลาประชุม จากจำนวนลูกบ้าน 500 คน มาประชุมกัน 50-60 คน ก็เอาตามเสียงในที่ประชุม ใครไม่มาร่วมถือว่า เอาตามที่ประชุม หลังสุดมีปัญหาเรื่องผู้จัดการอาคาร ที่อยุ่มาตั้งแต่ต้น มีปัญหาทะเลาะกับลูกบ้านไปทั่ว และหาประโยชน์ส่วนตัวจากห้องว่างที่ไม่มีคนอยู่ ถ้าไล่ออก ก็ไม่รู้จะเอาใครมาแทน ที่จะไม่หอบเงินหนี สุดท้ายก็ใช้วิธีจ้างบริษัทรับบริหารนิติเข้ามา จ่ายค่าบริหารเพิ่มเดือนละสามหมื่นบาท ดูเงินในบัญชีแล้ว โอเค ทำสัญญาว่าบริษัทต้องรับผิดชอบหากมีความเสียหายทางการเงิน ส่วนเรื่องกรรมการชุดเดิม ต้องไปปรึกษากรมที่ดิน ว่าจะโล๊ะทิ้ง จดทะเบียนใหม่ตัดหน้าชุดเก่าอย่างไร โดยล่าลายเซนต์ลูกบ้านลงชื่อเสียงส่วนใหญ่มาเป็นหลักฐาน ปัญหาคอนโดแก้ได้ แต่ต้องมีคนเสียสละ และ มีการร่วมแรงร่วมใจกัน ถึงไม่ได้เงินเดือนก็ต้องทำ ถือว่าเป็นบ้านเราเอง ถ้ามีปัญหา เราก็ซวยตามไปด้วย ถ้ามีกรรมการช่วยกันห้าคนขึ้นไป ร่วมมือร่วมใจ ทุกอย่างแก้ได้หมด