สิ่งนึงที่ผู้ชายหลายคนปวดหัวคือ การงอนของผู้หญิงแล้วบอก "ไม่งอน" ok ครับ ตรงนี้มันเบ ๆ สีหน้า การกระทำดูออก
แต่ไอที่ยากกว่านั้นคือ งอนเพราะอะไร ? ถามไปก็ไม่ตอบ ถามยังไงก็ไม่บอก ถามเพื่อนสนิทเค้า แน่นอนครับไม่มีทางรู้เค้าไม่บอกหลอก พอเราไม่รู้=เราไม่ใส่ใจ
ถ้าหาก1-7วัน อันนี้ผมเข้าใจนะ บางอย่างก็เป็นเรื่องที่เราคิดว่าไม่น่างอนน่ะ เช่น ถามว่าซื้อแป้งเบอร์ไหนดี เราตอบว่าแล้วแต่เทอชอบเลยเราไม่มีความรู้เอาขาวสุดไหม <<< ผิดทันทีไม่ช่วยแสดงความคิดเห็น แม้แฟนจะตัวขาวราวกับกระดาษ แต่พอแสดงความคิดเห็นว่า เธอผิวขาวโอโม่ขนาดนี้ เอาเบอร์1สิ เบอร์ 2 ดำไปชัวร์ แค่นี้ก็ happy
/// แต่เรื่องบางเรื่องกับบางคนผู้หญิงงอนข้ามปีก็มีครับ แบบหนีหน้าไปเลย ไม่มีมือ3 ไม่มีกิ๊ก ไม่มีใหม่ (เอาเท่าที่ทราบแล้วกับเพราะผมก็สืบกระจาย) แต่แบบไม่เจอหน้ากัน1ปี สรุปงอนเรื่อง ไม่ขับรถไปส่งสนามบิน (คือผมมีประชุมงานใหญ่ต่อ เงินเยอะมาก) เห็นกลางวันแสก ๆ ปลอดภัย บินในประเทศ ก็เลยไม่ไปส่ง ให้นั่งแท็กซี่ไป แล้วแท็กซี่ไม่ช่วยยกกระเป๋าลง อันนี้ก็ยอมรับน่ะว่าผิด แต่ปีนึงบิน 10 ครั้ง ไม่ไปส่งแค่2ครั้ง แล้วแต่มุมมอง
ผมยอมรับนะฮะว่าตอนมีแฟนคนแรกๆ ทำอะไรไม่เป็นเลยจ้า งอนคืออะไร ยิ่งบางคนแบบเซียนโลกเทียบกับแฟนเก่า"ทุกเรื่อง" ตอนนั้นก็ไม่โกรธฮะ รัก ยังใหม่ในวงการ แฟนเก่าเราทำงี้ แฟนเก่าเราจับมือเรางี้ .... เธอทำตามสิ พึ่งมารู้ตอนเริ่มเข้าใจโลกว่า มันไม่เกียรติเราสุด ๆ ในช่วงแรกนี่ผมรักผู้หญิงด้วยใจบริสุทธิ 100% ไม่มีความคาดหวังใด แค่รู้จักว่าเออ มีคนอยู่กับเราแบบแฟนนี่มีความสุขดีนะ หารู้ไม่ว่าที่เจอนั่นเรียกว่าแฟนได้ไม่เต็มปาก เพราะเค้าคิดถึงคนอื่นตลอดที่อยู่กับเรา เรามีหน้าเป็นนามธรรมที่ถูกมโนภาพครอบเป็นหน้าแฟนเก่าเค้า
พอเริ่มผ่านชีวิต เงินเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมยอมรับฮะว่าจน พ่อแม่ทิ้งไว้แต่มรดกหนี้ แต่ไม่ได้จนแบบแบกของขนปูน เป็นมนุษย์เงินเดือน รายได้พอไหว เงินเดือนชนเดือน มีรถเก๋งECOขับ สมัยECOพึ่งเข้าไทย แต่จะให้เลี้ยงผู้หญิงแบบเลี้ยงข้าวทุกมื้อ ซื้อiphoneให้มันก็ไม่ไหว ส่วนใหญ่ก็หารครับ ยกเว้นดูหนัง กินแพง อันนี้ออกให้ กระเป๋าหลุยส์ iphone เครื่องสำอางค์เค้าเตอร์แบนแพง ๆ ไม่มีปัญญาครับ แน่นอนว่าสาวหลายคนไม่พอใจแล้วก็ไป นิสัยไม่เกี่ยวเลยครับ เกี่ยวแค่ว่า"ขับรถecocar" ผมเชื่อในวิทยาศาสตร์เลยพิสูจน์ เช่ารถดี ๆ หลังโบนัสออกมาขับ 1 สัปดาห์ สันดารอื่นเหมือนเดิม แฟนก็มาคืนดีด้วย แต่พอคืนรถเธอก็ไป เคยลองแบบนี้ 2 ครั้ง นั่นแปลว่าเป็นที่รถชัวร์
จนผมโตขึ้น มีรายรับหลายช่องทางมากขึ้น พูดปะสาชาวบ้านเรียกว่า เริ่มรวยมีกะตัง ไปห้างอยากกินอะไรก็กินไม่ต้องมองราคา ขับรถราคาแพง เลี้ยงสาวได้ ประสบการณ์ด้านความรักเรียกว่า ถ้าเข้าไปหลอกเด็กสาวอินโนเซ็นส์ ถ้าเค้าไม่รังเกียจเราไม่มีคำว่าพลาด แต่"ทุกนาที" ถูกคิดออกมาเป็นเงิน
--->>>>ผมจะคิดทันทีว่า 1นาทีผมรายได้เท่าไร คู่แข่งทำอะไร กราฟชันเท่าไร และวันนึงช่วงพักคือกี่ชั่วโมง จะหารายได้เพิ่มจากไหน ช่องทางนั้นรายได้เยอะเราไปทำดีกว่า ทุกสิ่งอย่างรอบตัวผมจะไม่แตะ ไม่ว่าจะเป็นทำกับข้าว ทำความสะอาด และขับรถ ผมจะนั่งแท็กซี่และหลับตลอด ยกเว้นงานที่ต้องเอารถไปอวดเบ่งจะขับเอง
ผมจึงคบผู้หญิงด้วยสายเปรย์ อยากได้อะไรว่ามา อยากไปเที่ยวอะไป แต่ไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะเอาอะไรได้หมดไม่ต้องเนียนเข้ามาหลอก ผมผ่านมาเยอะ
แต่ไม่ใช่ความรักอื่นจะไ่มมีผมเอาใจใส่ โรแมนติกส์ในระดับน่าจะมาตราฐานไม่ใช่คนแข็งทือที่ควักแบงค์อย่างเดียว อะไรที่เคยทำตอนสมัยเด็กความกรุ๊งกริ๊ง น่ารักสดใส ตอนแบบปั๊บปี้เลิฟก็ทำเช่นเดิม เอาจริงๆผมเป็นคนเฮฮานะ สาวที่อยู่ด้วยก็จะหัวเราะทุกวัน ออกแนวมุกจังไ..... ด้วยซ้ำถ้าสนิท ชีวิตผมจะมี 2 โหมดใหญ่ ๆ โหมดงานคือ งานรัว ๆ โหมดพักกับแฟน ครอบครัว งานจะไม่เกี่ยวข้องไม่พูดถึง เว้นแต่สำคัญจริงๆ
แต่เนื่องด้วยต้องหาเงินคนเดียวเป็นหลัก การจะไปไหนด้วยกันจึงต้องเป็นแบบ "บูรณาการณ์" เช่น ไปดูหนังรอบดึกที่นั่งVIP ที่จอดรถplatinum มีเเร้าจ์ให้นั่ง แต่ต้องเจอลูกค้าก่อนดูหนัง2ชั่วโมง
ผมมีทางเลือกให้แฟน 2 วิธี 1.ไปพร้อมกันขับรถไปรับแฟนที่บ้านให้แฟนนั่งที่เร้าจ์รอผม 1 ชั่วโมงนิด หรือจะไปshoppingมีงบให้นิดหน่อย ไม่ใช่โอกาสสำคัญ ส่วนเกินออกเองบ้าง 2.ขับรถมาเองหาผมที่ห้าง ขากลับผมไปส่ง รถจอดทิ้งไว้ที่ห้างนั่นแหละ มันปรับให้มันปรับไป อีกวันค่อยไปเอาเท่าไรผมจ่าย
กลับกลายเป็นว่า พอมีเงินจ่าย สาวหลายคนบอกว่า เธอไม่OK เหมือนการให้ชีวิตแบบบูรณาการณ์ของผม ทำให้เธอดูด้อยความสำคัญลง อยากให้ผมแบบอยู่กับเธอตลอด ไม่มีงานมาเกี่ยวข้อง แต่ผมก็ให้โอกาสเธอไปshoppingแล้ว (ตัวอย่าง) ไม่ได้กักตัวไว้ คำตอบที่ได้คือ "อยากให้ไปช่วยกันเลือก แม้ตอนที่ไม่นัดลูกค้าก็ไปด้วยทุกครั้ง"
ผมยอมรับฮะว่า ผู้หญิงที่คบสเปคค่อนข้างจะสูงกว่ามาตราฐานนิด ๆ สวย หุ่นดี การศึกษาok ถ้าให้ประเมินคร่าว ๆ พอนึกภาพตาม ก็สาวๆที่มีคนตามราว 5-7000 คน ทรงประมาณนั้น แต่ไม่ใช่ หน้าตาไม่ดีหุ่นไม่ดีไม่คบ ก็คบครับ แฟนบางอวบระยะสุดท้ายก็คบ คบเพราะนุ่มนิ่มน่ารักดี เวลากินนึกว่าแพนด้าไจเอ้นท์ พลังเคี้ยวนึกว่าเครื่องบดอ้อย ดูน่ารักดีฮะ ไม่ได้คบเพื่อขั้นเวลาใครด้วย แต่เลิกไปเพราะติดดาราเกินไปเฝ้าจนไม่สนใจทำมาหากิน
สรุปคือตอนนี้รู้สึกสับสนครับ งง เหมือนผู้หญฺงต้องการทุกอย่าง หน้าตาดี รูปร่างดี รวย หล่อ มีเวลาให้ ตอนเด็กๆผมก็คิดว่าความรักสำคัญทีสุด จนมีคนบอกว่าความรักกินไม่ได้ ต้องมีตัง ก็สู้จนมีตังค์ พอมีตังค์จ่าย มีความรักให้เกือบเต็มร้อย แต่เวลาต้องควบรวม ก็บอกว่ารับไม่ได้กับการหารเวลากับงาน
หรือจริง ๆ ต้องเป็นแบบรูปหล่อพ่อรวย แบบมือขอตังค์อย่างเดียว สาวๆสมัยนี้จึงชอบเหรอ อยากรู้ทั้งมุมมองคนยังไม่แต่งงานและแต่งงานแล้ว
จริงๆผู้หญิงสมัยนี้ต้องการอะไรจากผู้ชายผู้เป็นแฟน ? และงอนทำไมไม่บอกว่างอน
แต่ไอที่ยากกว่านั้นคือ งอนเพราะอะไร ? ถามไปก็ไม่ตอบ ถามยังไงก็ไม่บอก ถามเพื่อนสนิทเค้า แน่นอนครับไม่มีทางรู้เค้าไม่บอกหลอก พอเราไม่รู้=เราไม่ใส่ใจ
ถ้าหาก1-7วัน อันนี้ผมเข้าใจนะ บางอย่างก็เป็นเรื่องที่เราคิดว่าไม่น่างอนน่ะ เช่น ถามว่าซื้อแป้งเบอร์ไหนดี เราตอบว่าแล้วแต่เทอชอบเลยเราไม่มีความรู้เอาขาวสุดไหม <<< ผิดทันทีไม่ช่วยแสดงความคิดเห็น แม้แฟนจะตัวขาวราวกับกระดาษ แต่พอแสดงความคิดเห็นว่า เธอผิวขาวโอโม่ขนาดนี้ เอาเบอร์1สิ เบอร์ 2 ดำไปชัวร์ แค่นี้ก็ happy
/// แต่เรื่องบางเรื่องกับบางคนผู้หญิงงอนข้ามปีก็มีครับ แบบหนีหน้าไปเลย ไม่มีมือ3 ไม่มีกิ๊ก ไม่มีใหม่ (เอาเท่าที่ทราบแล้วกับเพราะผมก็สืบกระจาย) แต่แบบไม่เจอหน้ากัน1ปี สรุปงอนเรื่อง ไม่ขับรถไปส่งสนามบิน (คือผมมีประชุมงานใหญ่ต่อ เงินเยอะมาก) เห็นกลางวันแสก ๆ ปลอดภัย บินในประเทศ ก็เลยไม่ไปส่ง ให้นั่งแท็กซี่ไป แล้วแท็กซี่ไม่ช่วยยกกระเป๋าลง อันนี้ก็ยอมรับน่ะว่าผิด แต่ปีนึงบิน 10 ครั้ง ไม่ไปส่งแค่2ครั้ง แล้วแต่มุมมอง
ผมยอมรับนะฮะว่าตอนมีแฟนคนแรกๆ ทำอะไรไม่เป็นเลยจ้า งอนคืออะไร ยิ่งบางคนแบบเซียนโลกเทียบกับแฟนเก่า"ทุกเรื่อง" ตอนนั้นก็ไม่โกรธฮะ รัก ยังใหม่ในวงการ แฟนเก่าเราทำงี้ แฟนเก่าเราจับมือเรางี้ .... เธอทำตามสิ พึ่งมารู้ตอนเริ่มเข้าใจโลกว่า มันไม่เกียรติเราสุด ๆ ในช่วงแรกนี่ผมรักผู้หญิงด้วยใจบริสุทธิ 100% ไม่มีความคาดหวังใด แค่รู้จักว่าเออ มีคนอยู่กับเราแบบแฟนนี่มีความสุขดีนะ หารู้ไม่ว่าที่เจอนั่นเรียกว่าแฟนได้ไม่เต็มปาก เพราะเค้าคิดถึงคนอื่นตลอดที่อยู่กับเรา เรามีหน้าเป็นนามธรรมที่ถูกมโนภาพครอบเป็นหน้าแฟนเก่าเค้า
พอเริ่มผ่านชีวิต เงินเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมยอมรับฮะว่าจน พ่อแม่ทิ้งไว้แต่มรดกหนี้ แต่ไม่ได้จนแบบแบกของขนปูน เป็นมนุษย์เงินเดือน รายได้พอไหว เงินเดือนชนเดือน มีรถเก๋งECOขับ สมัยECOพึ่งเข้าไทย แต่จะให้เลี้ยงผู้หญิงแบบเลี้ยงข้าวทุกมื้อ ซื้อiphoneให้มันก็ไม่ไหว ส่วนใหญ่ก็หารครับ ยกเว้นดูหนัง กินแพง อันนี้ออกให้ กระเป๋าหลุยส์ iphone เครื่องสำอางค์เค้าเตอร์แบนแพง ๆ ไม่มีปัญญาครับ แน่นอนว่าสาวหลายคนไม่พอใจแล้วก็ไป นิสัยไม่เกี่ยวเลยครับ เกี่ยวแค่ว่า"ขับรถecocar" ผมเชื่อในวิทยาศาสตร์เลยพิสูจน์ เช่ารถดี ๆ หลังโบนัสออกมาขับ 1 สัปดาห์ สันดารอื่นเหมือนเดิม แฟนก็มาคืนดีด้วย แต่พอคืนรถเธอก็ไป เคยลองแบบนี้ 2 ครั้ง นั่นแปลว่าเป็นที่รถชัวร์
จนผมโตขึ้น มีรายรับหลายช่องทางมากขึ้น พูดปะสาชาวบ้านเรียกว่า เริ่มรวยมีกะตัง ไปห้างอยากกินอะไรก็กินไม่ต้องมองราคา ขับรถราคาแพง เลี้ยงสาวได้ ประสบการณ์ด้านความรักเรียกว่า ถ้าเข้าไปหลอกเด็กสาวอินโนเซ็นส์ ถ้าเค้าไม่รังเกียจเราไม่มีคำว่าพลาด แต่"ทุกนาที" ถูกคิดออกมาเป็นเงิน
--->>>>ผมจะคิดทันทีว่า 1นาทีผมรายได้เท่าไร คู่แข่งทำอะไร กราฟชันเท่าไร และวันนึงช่วงพักคือกี่ชั่วโมง จะหารายได้เพิ่มจากไหน ช่องทางนั้นรายได้เยอะเราไปทำดีกว่า ทุกสิ่งอย่างรอบตัวผมจะไม่แตะ ไม่ว่าจะเป็นทำกับข้าว ทำความสะอาด และขับรถ ผมจะนั่งแท็กซี่และหลับตลอด ยกเว้นงานที่ต้องเอารถไปอวดเบ่งจะขับเอง
ผมจึงคบผู้หญิงด้วยสายเปรย์ อยากได้อะไรว่ามา อยากไปเที่ยวอะไป แต่ไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะเอาอะไรได้หมดไม่ต้องเนียนเข้ามาหลอก ผมผ่านมาเยอะ
แต่ไม่ใช่ความรักอื่นจะไ่มมีผมเอาใจใส่ โรแมนติกส์ในระดับน่าจะมาตราฐานไม่ใช่คนแข็งทือที่ควักแบงค์อย่างเดียว อะไรที่เคยทำตอนสมัยเด็กความกรุ๊งกริ๊ง น่ารักสดใส ตอนแบบปั๊บปี้เลิฟก็ทำเช่นเดิม เอาจริงๆผมเป็นคนเฮฮานะ สาวที่อยู่ด้วยก็จะหัวเราะทุกวัน ออกแนวมุกจังไ..... ด้วยซ้ำถ้าสนิท ชีวิตผมจะมี 2 โหมดใหญ่ ๆ โหมดงานคือ งานรัว ๆ โหมดพักกับแฟน ครอบครัว งานจะไม่เกี่ยวข้องไม่พูดถึง เว้นแต่สำคัญจริงๆ
แต่เนื่องด้วยต้องหาเงินคนเดียวเป็นหลัก การจะไปไหนด้วยกันจึงต้องเป็นแบบ "บูรณาการณ์" เช่น ไปดูหนังรอบดึกที่นั่งVIP ที่จอดรถplatinum มีเเร้าจ์ให้นั่ง แต่ต้องเจอลูกค้าก่อนดูหนัง2ชั่วโมง
ผมมีทางเลือกให้แฟน 2 วิธี 1.ไปพร้อมกันขับรถไปรับแฟนที่บ้านให้แฟนนั่งที่เร้าจ์รอผม 1 ชั่วโมงนิด หรือจะไปshoppingมีงบให้นิดหน่อย ไม่ใช่โอกาสสำคัญ ส่วนเกินออกเองบ้าง 2.ขับรถมาเองหาผมที่ห้าง ขากลับผมไปส่ง รถจอดทิ้งไว้ที่ห้างนั่นแหละ มันปรับให้มันปรับไป อีกวันค่อยไปเอาเท่าไรผมจ่าย
กลับกลายเป็นว่า พอมีเงินจ่าย สาวหลายคนบอกว่า เธอไม่OK เหมือนการให้ชีวิตแบบบูรณาการณ์ของผม ทำให้เธอดูด้อยความสำคัญลง อยากให้ผมแบบอยู่กับเธอตลอด ไม่มีงานมาเกี่ยวข้อง แต่ผมก็ให้โอกาสเธอไปshoppingแล้ว (ตัวอย่าง) ไม่ได้กักตัวไว้ คำตอบที่ได้คือ "อยากให้ไปช่วยกันเลือก แม้ตอนที่ไม่นัดลูกค้าก็ไปด้วยทุกครั้ง"
ผมยอมรับฮะว่า ผู้หญิงที่คบสเปคค่อนข้างจะสูงกว่ามาตราฐานนิด ๆ สวย หุ่นดี การศึกษาok ถ้าให้ประเมินคร่าว ๆ พอนึกภาพตาม ก็สาวๆที่มีคนตามราว 5-7000 คน ทรงประมาณนั้น แต่ไม่ใช่ หน้าตาไม่ดีหุ่นไม่ดีไม่คบ ก็คบครับ แฟนบางอวบระยะสุดท้ายก็คบ คบเพราะนุ่มนิ่มน่ารักดี เวลากินนึกว่าแพนด้าไจเอ้นท์ พลังเคี้ยวนึกว่าเครื่องบดอ้อย ดูน่ารักดีฮะ ไม่ได้คบเพื่อขั้นเวลาใครด้วย แต่เลิกไปเพราะติดดาราเกินไปเฝ้าจนไม่สนใจทำมาหากิน
สรุปคือตอนนี้รู้สึกสับสนครับ งง เหมือนผู้หญฺงต้องการทุกอย่าง หน้าตาดี รูปร่างดี รวย หล่อ มีเวลาให้ ตอนเด็กๆผมก็คิดว่าความรักสำคัญทีสุด จนมีคนบอกว่าความรักกินไม่ได้ ต้องมีตัง ก็สู้จนมีตังค์ พอมีตังค์จ่าย มีความรักให้เกือบเต็มร้อย แต่เวลาต้องควบรวม ก็บอกว่ารับไม่ได้กับการหารเวลากับงาน
หรือจริง ๆ ต้องเป็นแบบรูปหล่อพ่อรวย แบบมือขอตังค์อย่างเดียว สาวๆสมัยนี้จึงชอบเหรอ อยากรู้ทั้งมุมมองคนยังไม่แต่งงานและแต่งงานแล้ว