สวัสดีค่ะ บทความ Review ฉบับนี้ มาจัดเต็มกับของใหม่เอี่ยม จาก TER (เฑอ) แบรนด์ไทยที่แนนเห็นมานานแล้ว เขามีที่เขียนคิ้วเป็นตัวหลัก แนนเพิ่งได้ลองตัว TER UV Matte Cushion Oil Control SPF50 PA+++ มาก่อนอย่างเดียว คราวนี้ดีใจแนนได้มีโอกาสเป็น 1 ใน 100 คนแรก ที่ได้ทดลอง รองพื้นตัวแรกจาก TER ชื่อว่า
UV Matte Liquid Foundation Extra Oil Control Moisturizer Extract SPF50 PA+++ (เฑอ ยูวี แมท ลิควิด ฟาวเดชั่น เอ็กตร้า ออย คอนโทรล มอยเจอไรเซอร์ เอคแทรค เอส พี เอฟ 50 พีเอ+++) ซึ่งแนนขอเรียกสั้นๆว่ารองพื้นแมท TER แล้วกันนะคะ
แนนได้รับมาลองซักประมาณ 2 สัปดาห์ โดยทาด้วย 4 อุปกรณ์ คือ มือเรา ฟองน้ำหมาด ฟองน้ำคูชั่น และ แปรงแต่งหน้า เปรียบเทียบกัน ไปดูกันเลยว่าผลเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
รองพื้นแมท TER มาในกล่องดำตกแต่งลายกนกสีทองดูหรูหรา
มีซีลสติ๊กเกอร์ด้านบนระบุเบอร์รองพื้น และ QR Code ให้เราใช้ขูดเพื่อแสกนดูของแท้/ของปลอม TER ของแท้ เลขประจำตัวแต่ละชิ้นจะไม่ซ้ำกันค่ะ ส่วนด้านล่างกล่อง แม้จะไม่มีสติ๊กเกอร์แปะทับ แต่แกะยากมาก หากโดนแกะมาก่อนจะเห็นได้เลยว่ากระดาษกล่องถูกฉีกขาดไปแล้ว นอกจากนี้ เบอร์รองพื้นยังระบุที่หน้ากล่องชัดเจนเลย
ที่รอบกล่องมีรายละเอียดคุณสมบัติของรองพื้น สถานที่ผลิต (ผลิตในประเทศไต้หวัน) ส่วนประกอบ วิธีใช้เป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทย กับเลขที่ใบรับแจ้ง อย. มีวันผลิตปั๊มไว้ด้วย
เมื่อแกะออกมา จะพบกับขวดรองพื้นแมท TER เป็นพลาสติกใสทรงสี่เหลี่ยม มองเห็นสีรองพื้นได้ชัดเจน มีฝาปิดสี่เหลี่ยมสีดำลายกนกทองเช่นกัน มีชื่อรองพื้นและเบอร์รองพื้นปั๊มอยู่ด้านหน้าขวด
เปิดฝาออกมา จะเจอกับหัวปั๊ม ซึ่งแนนว่าใช้ปั๊มรองพื้นได้ในปริมาณที่พอดีๆค่ะ ใครผิวหน้าไม่ค่อยมีรอย ปั๊มเดียวแนนว่าเอาอยู่อ่ะ
ปริมาณขวดละ 30 มิลลิลิตร ราคาปกติ 419 บาท
คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์:
ทางแบรนด์เคลมมาว่า รองพื้นแมท TER เป็น
"นวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อสนองความต้องการของบรรดาสาวๆ ที่หลงใหลในความสวย ด้วยคุณสมบัติสุดพิเศษ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยให้ความชุ่มชื่น ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง สดใสอยู่ตลอดเวลา เนื้อแมทที่บางเบา ยังช่วยปกปิดได้อย่างเนียนสนิทไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบหรือขุย ติดแน่น ทนนาน กันน้ำ อีกทั้ง ยังช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
รองพื้นรุ่นนี้ เขาจะมีมา 4 เฉดสี ตามในรูปเลยค่ะ
รีวิวการใช้ผลิตภัณฑ์:
แนนลองใช้มาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อจะดูว่ารองพื้นแมท TER มีประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตประจำวันจริงขนาดไหนค่ะ ที่จะสาธิตพลีชีพให้ดูอย่างแรก คือ การลงรองพื้นแมท TER ด้วยการใช้ฟองน้ำหมาดค่ะ
ดูเฉดสีที่แนนเลือกมา คือ เบอร์ 21 White Tone สำหรับคนผิวขาวเหลือง ดูในขวดเหมือนจะขาวกว่าหน้า แอบติดอันเดอร์โทนชมพู พอกดหัวปั๊มออกมา ปาดไปซักพัก สีจะดรอป เป็นติดอันเดอร์โทนเหลืองส้ม ซึ่งจะเข้มกว่าผิวหน้าด้านปกติของแนนไปเฉดนึง แนนคงหน้าขาวกว่าที่คิดไว้ น่าจะเหมาะใช้กับเบอร์ 20 Pure White Tone มากกว่า แต่โทนนี้เหมาะสำหรับการเอามาทาปิดปานแดงดีค่ะ
ขั้นแรกเลย ดูหน้าสดกันก่อน ทาแค่มอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างเดียว ไม่ได้ทากันแดดค่ะรอบนี้
*แสงถ่ายในห้องตอนกลางวัน จริงๆหน้ามันต้องออกส้มกว่านี้นะคะ ปรับภาพแค่ exposure ที่มันมืดเกินไปแค่นั้นค่ะ ส่วนแสงถ่ายนอกบ้าน ตอน 4-5 โมงเย็นมันจะสีผิวค่อนข้างตรงหน่อย แต่สียังติดส้มไปนิด รูปทั้งหมดไม่ได้ปรับสี กลัวสีเพี้ยนหนักกว่าเดิม*
ลองลงรองพื้นที่ใบหน้าเทียบสี
ลงครึ่งหน้าให้เห็นการปกปิดในหน้าด้านผิวปกติ จะเห็นได้ว่ารอยแดงหายไปหมดเลยเกือบ 100% ส่วนรอยดำอย่างกระหรือรอยสิว ปิดได้ซัก 80% คือ ตอนใช้ครั้งแรกตกใจมาก เฮ้ยมันปิดได้เยอะขนาดนี้เลย ทั้งๆที่เนื้อบางเบามาก ส่วนการปิดรูขุมขน ทำได้ค่อนข้างดี ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอกัน แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ไพรมเมอร์
ต่อมาพลีชีพสุดๆ ลองประสิทธิภาพการปกปิดที่ด้านปานแดง ลงครึ่งหน้าให้เห็นกันไปจะๆเลย
สุดยอดมาก อันนี้ใช้ฟองน้ำ Real Techniques เกลี่ยย้ำๆเอานะคะ อัตราการปกปิดปานแดง ประมาณ 70% เลย
ส่วนตัวแนนนะ ถือว่าดี "โค-ตะ-ระ" มากกับการปกปิดขนาดปานกลางจนถึงเกือบเต็มที่ (Medium to Full Coverage) ข้อดีของ รองพื้นแมท TER ตัวนี้ คือ เขาลงรองพื้นได้หลายชั้นโดยไม่หนาเว่อร์ มือใหม่ยังลงได้อ่ะ
ในการทดลอง รองพื้นแมท TER ด้วยฟองน้ำหมาดอันนี้ จะให้ลุคที่ปกปิดแต่บางเบา อย่างหน้าด้านปกติแนนลงแค่รอบเดียวแล้วกดย้ำๆเบาๆ (เอ่อ ก็ไม่เบาเท่าไหร่ 555) ดูเป็นงานผิวมาก
ต่อมาแนนได้ลอง build ลงรองพื้นเพิ่มตรงปานแดงเพื่อการปกปิดเกือบหมดนางก็ทำได้ค่ะ พอเกลี่ยและตบๆให้มันดูเป็นธรรมชาติแล้ว การปกปิดปานแดงสูงสุดประมาณเกือบๆ 90%
เพื่อความติดทนและกันเลื่อน และจะได้ดูไม่โบ๊ะเกินไป ต้องใช้วิธีของ Wayne Goss (กูรูแต่งหน้าใน YouTube ลองไปหากันดูนะคะ) คือ ลงรองพื้นด้วยฟองน้ำหมาด และเกลี่ยแบบ tap ค่ะ ตบๆซับๆเบาๆ ลงไปจนกว่ารองพื้นจะรวมตัวลงไปแนบกับผิวหน้าของเราเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้มากที่สุด คนที่ผิวดีๆ ใช้ประมาณ 3 นาทีก็โอเค
ส่วนคนที่ต้องลงรองพื้นหลายชั้นอย่างแนน ก็ใช้หลายนาทีอยู่ บางที 10 "นาที แต่ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าความเมื่อยมือมาก
ถ้าฟองน้ำค่อนข้างกินรองพื้นก็ควรแตะเบาๆนะ ไม่งั้นจะบิ้วความปกปิดไม่ขึ้นซะที แต่ฟองน้ำมีข้อดี คือ มันให้ลุคเป็นธรรมชาติมากกว่า
หลังจากลงรองพื้นด้วยฟองน้ำจะเกือบจะแห้งสนิทไปกับหน้าแล้ว ให้ใช้กระดาษทิชชู่ดึงมา 1 เลเยอร์ (นึกออกเปล่าคะ ทิชชู่เช็ดหน้า มันจะมี 2-3 ชั้น) แล้วเอามาห่อฟองน้ำซับรองพื้นส่วนเกินออก กดเบามือมากๆนะคะ เราไม่ได้จะเช็ดออก 555
เสร็จแล้วเซ็ต รองพื้นแมท TER ด้วย แป้งฝุ่นที่เราชอบ ถ้าลงหลายชั้นแล้วไม่เซ็ตด้วยแป้ง แนนว่ามันจะตกร่องนิดๆอ่ะ
ก่อนและหลังลง รองพื้นแมท TER เบอร์ 21 ด้วยฟองน้ำหมาด (ตรงปานแดงลงไป 3 ชั้นได้)
ความแตกต่างเห็นได้ชัด ไปเดินห้างเจอคนรู้จัก ถามเลยว่าหน้าไปทำอะไรมา นึกว่าเราไปเลเซอร์ออก คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสังเกตอยู่แล้ว ยิ่งมองไม่รู้เลย พอใจกับเรื่องความปกปิดสำหรับรองพื้นระดับนี้มาก
มาถึงด้านเนื้อสัมผัสของรองพื้นบ้าง รองพื้นแมท TER เนื้อบางเบา เป็นเนื้อแมทแต่ไม่รู้สึกแห้งแตก ตอนทาลงไปแรกๆเลย มันดูกึ่งแมท ค่อนข้างไปทางแมทประมาณ 85% และดูชุ่มชื่นด้วย ไม่ได้ฉ่ำแบบคุชชั่นนะ คือมีความออร่านิดๆตรงสันจมูก หน้าผาก เหมือนเราทาไฮไลท์เบาๆ
เนื้อรองพื้นไม่จับตัวเป็นขุยหรือทำปฏิกิริยากับพวกไพรมเมอร์หรือครีมที่เป็นซิลิโคนนะ แนนมีเทคนิคนิดนึง คือ ลงรองพื้นตัวนี้ จะต้องเตรียมผิวให้ชุ่มชื่นนิดนึงตรงที่ผิวแห้งเยอะ เพราะเขายังเป็นความแมทค่อนข้างสูงอ่ะ รองพื้นจะเกาะผิวหน้าดีกว่าทาลงไปบนหน้าแห้งๆไปเลย
เรื่องสีรองพื้น สรุปว่า พอกดปั๊มออกมาสีจะดรอปแล้วมันจะเข้มกว่าในความรู้สึกของผิวขาวเหลืองเราไป (แถมคอดันขาวกว่าหน้าอีก 5555) รอบหน้าคงต้องลองสี 20 แล้วล่ะ แต่ระหว่างวัน เขาก็ไม่ได้ดรอปเพิ่มจากเดิมนะคะ ดูได้จากภาพแสงนอกบ้านตอน 4-5 โมงเย็น คือ ถ่ายเวลาเดียวกันกับข้างบน แต่แสงคนละแบบกัน (กล้องมือถือนะคะ มันชอบติดชมพูเกิน)
เรื่องการกันแดด รองพื้นตัวนี้ใส่ SPF50 PA+++ มาให้ (ตัวออกฤทธิ์ คือ ไทเทเนียม ไดออกไซด์) แนนมองว่าถ้าไม่ได้ไปลุยออกงานหนักหรืออะไร เดินแว้บไปแว้บมาตามบ้านตามตึก รองพื้นตัวนี้ก็ช่วยกันแดดได้พอสมควร เพราะเราก็ทาค่อนข้างจะหนาอยู่แล้ว แนนยังไม่มีอาการหน้าหมองคล้ำแต่อย่างใด กระนั้น เพื่อการป้องกันรังสียูวีสูงสุด เรายังจำเป็นต้องทาครีมกันแดดก่อนลงรองพื้นอยู่ดีนะคะ
ในด้านความติดทน ถ้าไม่เซ็ตด้วยแป้ง แนนให้อยู่ในระดับ 65% หากเอามือปาดจะมีรองพื้นติดมานิดหน่อย พอเซ็ตด้วยแป้งฝุ่น จะติดทนขึ้นมาเป็นเกือบๆ 90% สังเกตว่า มีอยู่ครั้งนึงเผลอเอาหน้าไปนอนถูกับปลอกหมอน มันไม่ค่อยหลุดแฮะ (ยกเว้นตรงทีโซนนะ) พอผ่านไป 8 ชั่วโมง รองพื้นถึงจะเริ่มเลือนไปบ้าง รอยปานแดงจะเห็นชัดขึ้น
เรื่องการกันน้ำแนนให้อยู่ 70% ต้องรองพื้นแห้งเซ็ตตัวแล้วมันจะค่อนข้างติดทนเลย แบบในรูป เอาน้ำไปล้างตรงรองพื้นที่มือ ถูๆที่รองพื้นนี่ไม่มีรองพื้นไหลปนออกมาเลยนะ แล้วซับด้วยกระดาษทิชชู่ แทบไม่มีรองพื้นติดเลย แต่อย่าเอากระดาษไปถูๆนะเวลาเติมหน้า เพราะจะหลุดบ้างแน่ๆ คนเหงื่อออกเยอะจึงไม่น่ามีปัญหาค่ะ
พูดถึงเรื่องการคุมมัน แนนเป็นคนมีผิวผสม ช่วงทีโซนมันมากกกกก 2-3 ชั่วโมง ความเงามันจะออกอาละวาดแล้ว ในการทดสอบครั้งนี้ ลงแต่มอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างเดียว ไม่ได้ลงกันแดดคุมมันอะไรเลย ประสิทธิภาพการคุมมันค่อนข้างดีอยู่ ประมาณ 4-5 ชั่วโมง ถึงเริ่มเห็นความมัน จะค่อยๆออกมาแบบดิวอี้ๆ (ในภาพล่างนี้ถ่ายในห้องแสงนีออนตอนกลางคืน) หลังจากนั้น 7-8 ชั่วโมง จะหลุดบ้างถ้ามือไปโดน แต่ไม่มีอาการเป็นคราบน่าเกลียด เวลาซับมันควรใช้แบบฟิล์มซับมันจะลดการหลุดของรองพื้นลง สำหรับตรงช่วงแก้ม ช่วงใต้ตา ที่ไม่ค่อยมัน นางอยู่ถึงเช้ายังได้ อีกอย่าง คือ พอซับหน้าเสร็จ หน้าแทบจะดูแมตต์เหมือนเดิมเลย
ในแง่การล้างทำความสะอาด รองพื้นแมท TER ค่อนข้างติดทนและเนื้อละเอียดปิดรูขุมขน ต้องใช้คลีนซิ่งอย่างเดียวเท่านั้นในการล้างค่ะ โฟมล้างหน้าอย่างเดียวล้างไม่ออกนะเธอ แนะนำว่าควรใช้แบบน้ำมันจะออกง่ายหน่อย คนผิวมัน-ผิวผสม ลองใช้ออยล์ที่มันเอาน้ำแตะๆเปลี่ยนเป็นน้ำนมจะเหมาะกับการล้างตัวนี้มาก ส่วนตัวแนนจะใช้พวกไมเซลล่าเช็ดออกอีกรอบนึงเพื่อความชัวร์ก่อนล้างหน้าตามปกติ
ยังมีต่อในคอมเม้นท์นะจ๊ะ เปรียบเทียบวิธีการลงรองพื้นด้วย 4 อุปกรณ์ / เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคูชั่นแมท TER กับ รองพื้นแมท TER และสรุปการรีวิวค่า
[SR] รีวิวพลีชีพปิดปานแดงด้วยรองพื้นใหม่ TER UV Matte Liquid Foundation +เปรียบเทียบวิธีการลงรองพื้น+ความต่างกับคูชั่นแมทTER
แนนได้รับมาลองซักประมาณ 2 สัปดาห์ โดยทาด้วย 4 อุปกรณ์ คือ มือเรา ฟองน้ำหมาด ฟองน้ำคูชั่น และ แปรงแต่งหน้า เปรียบเทียบกัน ไปดูกันเลยว่าผลเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
รองพื้นแมท TER มาในกล่องดำตกแต่งลายกนกสีทองดูหรูหรา
มีซีลสติ๊กเกอร์ด้านบนระบุเบอร์รองพื้น และ QR Code ให้เราใช้ขูดเพื่อแสกนดูของแท้/ของปลอม TER ของแท้ เลขประจำตัวแต่ละชิ้นจะไม่ซ้ำกันค่ะ ส่วนด้านล่างกล่อง แม้จะไม่มีสติ๊กเกอร์แปะทับ แต่แกะยากมาก หากโดนแกะมาก่อนจะเห็นได้เลยว่ากระดาษกล่องถูกฉีกขาดไปแล้ว นอกจากนี้ เบอร์รองพื้นยังระบุที่หน้ากล่องชัดเจนเลย
ที่รอบกล่องมีรายละเอียดคุณสมบัติของรองพื้น สถานที่ผลิต (ผลิตในประเทศไต้หวัน) ส่วนประกอบ วิธีใช้เป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทย กับเลขที่ใบรับแจ้ง อย. มีวันผลิตปั๊มไว้ด้วย
เมื่อแกะออกมา จะพบกับขวดรองพื้นแมท TER เป็นพลาสติกใสทรงสี่เหลี่ยม มองเห็นสีรองพื้นได้ชัดเจน มีฝาปิดสี่เหลี่ยมสีดำลายกนกทองเช่นกัน มีชื่อรองพื้นและเบอร์รองพื้นปั๊มอยู่ด้านหน้าขวด
เปิดฝาออกมา จะเจอกับหัวปั๊ม ซึ่งแนนว่าใช้ปั๊มรองพื้นได้ในปริมาณที่พอดีๆค่ะ ใครผิวหน้าไม่ค่อยมีรอย ปั๊มเดียวแนนว่าเอาอยู่อ่ะ
ปริมาณขวดละ 30 มิลลิลิตร ราคาปกติ 419 บาท
คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์:
ทางแบรนด์เคลมมาว่า รองพื้นแมท TER เป็น "นวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อสนองความต้องการของบรรดาสาวๆ ที่หลงใหลในความสวย ด้วยคุณสมบัติสุดพิเศษ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยให้ความชุ่มชื่น ผิวหน้าดูเปล่งปลั่ง สดใสอยู่ตลอดเวลา เนื้อแมทที่บางเบา ยังช่วยปกปิดได้อย่างเนียนสนิทไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบหรือขุย ติดแน่น ทนนาน กันน้ำ อีกทั้ง ยังช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
รองพื้นรุ่นนี้ เขาจะมีมา 4 เฉดสี ตามในรูปเลยค่ะ
รีวิวการใช้ผลิตภัณฑ์:
แนนลองใช้มาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อจะดูว่ารองพื้นแมท TER มีประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตประจำวันจริงขนาดไหนค่ะ ที่จะสาธิตพลีชีพให้ดูอย่างแรก คือ การลงรองพื้นแมท TER ด้วยการใช้ฟองน้ำหมาดค่ะ
ดูเฉดสีที่แนนเลือกมา คือ เบอร์ 21 White Tone สำหรับคนผิวขาวเหลือง ดูในขวดเหมือนจะขาวกว่าหน้า แอบติดอันเดอร์โทนชมพู พอกดหัวปั๊มออกมา ปาดไปซักพัก สีจะดรอป เป็นติดอันเดอร์โทนเหลืองส้ม ซึ่งจะเข้มกว่าผิวหน้าด้านปกติของแนนไปเฉดนึง แนนคงหน้าขาวกว่าที่คิดไว้ น่าจะเหมาะใช้กับเบอร์ 20 Pure White Tone มากกว่า แต่โทนนี้เหมาะสำหรับการเอามาทาปิดปานแดงดีค่ะ
ขั้นแรกเลย ดูหน้าสดกันก่อน ทาแค่มอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างเดียว ไม่ได้ทากันแดดค่ะรอบนี้
*แสงถ่ายในห้องตอนกลางวัน จริงๆหน้ามันต้องออกส้มกว่านี้นะคะ ปรับภาพแค่ exposure ที่มันมืดเกินไปแค่นั้นค่ะ ส่วนแสงถ่ายนอกบ้าน ตอน 4-5 โมงเย็นมันจะสีผิวค่อนข้างตรงหน่อย แต่สียังติดส้มไปนิด รูปทั้งหมดไม่ได้ปรับสี กลัวสีเพี้ยนหนักกว่าเดิม*
ลองลงรองพื้นที่ใบหน้าเทียบสี
ลงครึ่งหน้าให้เห็นการปกปิดในหน้าด้านผิวปกติ จะเห็นได้ว่ารอยแดงหายไปหมดเลยเกือบ 100% ส่วนรอยดำอย่างกระหรือรอยสิว ปิดได้ซัก 80% คือ ตอนใช้ครั้งแรกตกใจมาก เฮ้ยมันปิดได้เยอะขนาดนี้เลย ทั้งๆที่เนื้อบางเบามาก ส่วนการปิดรูขุมขน ทำได้ค่อนข้างดี ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอกัน แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ไพรมเมอร์
ต่อมาพลีชีพสุดๆ ลองประสิทธิภาพการปกปิดที่ด้านปานแดง ลงครึ่งหน้าให้เห็นกันไปจะๆเลย
สุดยอดมาก อันนี้ใช้ฟองน้ำ Real Techniques เกลี่ยย้ำๆเอานะคะ อัตราการปกปิดปานแดง ประมาณ 70% เลย
ส่วนตัวแนนนะ ถือว่าดี "โค-ตะ-ระ" มากกับการปกปิดขนาดปานกลางจนถึงเกือบเต็มที่ (Medium to Full Coverage) ข้อดีของ รองพื้นแมท TER ตัวนี้ คือ เขาลงรองพื้นได้หลายชั้นโดยไม่หนาเว่อร์ มือใหม่ยังลงได้อ่ะ
ในการทดลอง รองพื้นแมท TER ด้วยฟองน้ำหมาดอันนี้ จะให้ลุคที่ปกปิดแต่บางเบา อย่างหน้าด้านปกติแนนลงแค่รอบเดียวแล้วกดย้ำๆเบาๆ (เอ่อ ก็ไม่เบาเท่าไหร่ 555) ดูเป็นงานผิวมาก
ต่อมาแนนได้ลอง build ลงรองพื้นเพิ่มตรงปานแดงเพื่อการปกปิดเกือบหมดนางก็ทำได้ค่ะ พอเกลี่ยและตบๆให้มันดูเป็นธรรมชาติแล้ว การปกปิดปานแดงสูงสุดประมาณเกือบๆ 90%
เพื่อความติดทนและกันเลื่อน และจะได้ดูไม่โบ๊ะเกินไป ต้องใช้วิธีของ Wayne Goss (กูรูแต่งหน้าใน YouTube ลองไปหากันดูนะคะ) คือ ลงรองพื้นด้วยฟองน้ำหมาด และเกลี่ยแบบ tap ค่ะ ตบๆซับๆเบาๆ ลงไปจนกว่ารองพื้นจะรวมตัวลงไปแนบกับผิวหน้าของเราเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้มากที่สุด คนที่ผิวดีๆ ใช้ประมาณ 3 นาทีก็โอเค
ส่วนคนที่ต้องลงรองพื้นหลายชั้นอย่างแนน ก็ใช้หลายนาทีอยู่ บางที 10 "นาที แต่ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าความเมื่อยมือมาก
ถ้าฟองน้ำค่อนข้างกินรองพื้นก็ควรแตะเบาๆนะ ไม่งั้นจะบิ้วความปกปิดไม่ขึ้นซะที แต่ฟองน้ำมีข้อดี คือ มันให้ลุคเป็นธรรมชาติมากกว่า
หลังจากลงรองพื้นด้วยฟองน้ำจะเกือบจะแห้งสนิทไปกับหน้าแล้ว ให้ใช้กระดาษทิชชู่ดึงมา 1 เลเยอร์ (นึกออกเปล่าคะ ทิชชู่เช็ดหน้า มันจะมี 2-3 ชั้น) แล้วเอามาห่อฟองน้ำซับรองพื้นส่วนเกินออก กดเบามือมากๆนะคะ เราไม่ได้จะเช็ดออก 555
เสร็จแล้วเซ็ต รองพื้นแมท TER ด้วย แป้งฝุ่นที่เราชอบ ถ้าลงหลายชั้นแล้วไม่เซ็ตด้วยแป้ง แนนว่ามันจะตกร่องนิดๆอ่ะ
ก่อนและหลังลง รองพื้นแมท TER เบอร์ 21 ด้วยฟองน้ำหมาด (ตรงปานแดงลงไป 3 ชั้นได้)
ความแตกต่างเห็นได้ชัด ไปเดินห้างเจอคนรู้จัก ถามเลยว่าหน้าไปทำอะไรมา นึกว่าเราไปเลเซอร์ออก คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสังเกตอยู่แล้ว ยิ่งมองไม่รู้เลย พอใจกับเรื่องความปกปิดสำหรับรองพื้นระดับนี้มาก
มาถึงด้านเนื้อสัมผัสของรองพื้นบ้าง รองพื้นแมท TER เนื้อบางเบา เป็นเนื้อแมทแต่ไม่รู้สึกแห้งแตก ตอนทาลงไปแรกๆเลย มันดูกึ่งแมท ค่อนข้างไปทางแมทประมาณ 85% และดูชุ่มชื่นด้วย ไม่ได้ฉ่ำแบบคุชชั่นนะ คือมีความออร่านิดๆตรงสันจมูก หน้าผาก เหมือนเราทาไฮไลท์เบาๆ
เนื้อรองพื้นไม่จับตัวเป็นขุยหรือทำปฏิกิริยากับพวกไพรมเมอร์หรือครีมที่เป็นซิลิโคนนะ แนนมีเทคนิคนิดนึง คือ ลงรองพื้นตัวนี้ จะต้องเตรียมผิวให้ชุ่มชื่นนิดนึงตรงที่ผิวแห้งเยอะ เพราะเขายังเป็นความแมทค่อนข้างสูงอ่ะ รองพื้นจะเกาะผิวหน้าดีกว่าทาลงไปบนหน้าแห้งๆไปเลย
เรื่องสีรองพื้น สรุปว่า พอกดปั๊มออกมาสีจะดรอปแล้วมันจะเข้มกว่าในความรู้สึกของผิวขาวเหลืองเราไป (แถมคอดันขาวกว่าหน้าอีก 5555) รอบหน้าคงต้องลองสี 20 แล้วล่ะ แต่ระหว่างวัน เขาก็ไม่ได้ดรอปเพิ่มจากเดิมนะคะ ดูได้จากภาพแสงนอกบ้านตอน 4-5 โมงเย็น คือ ถ่ายเวลาเดียวกันกับข้างบน แต่แสงคนละแบบกัน (กล้องมือถือนะคะ มันชอบติดชมพูเกิน)
เรื่องการกันแดด รองพื้นตัวนี้ใส่ SPF50 PA+++ มาให้ (ตัวออกฤทธิ์ คือ ไทเทเนียม ไดออกไซด์) แนนมองว่าถ้าไม่ได้ไปลุยออกงานหนักหรืออะไร เดินแว้บไปแว้บมาตามบ้านตามตึก รองพื้นตัวนี้ก็ช่วยกันแดดได้พอสมควร เพราะเราก็ทาค่อนข้างจะหนาอยู่แล้ว แนนยังไม่มีอาการหน้าหมองคล้ำแต่อย่างใด กระนั้น เพื่อการป้องกันรังสียูวีสูงสุด เรายังจำเป็นต้องทาครีมกันแดดก่อนลงรองพื้นอยู่ดีนะคะ
ในด้านความติดทน ถ้าไม่เซ็ตด้วยแป้ง แนนให้อยู่ในระดับ 65% หากเอามือปาดจะมีรองพื้นติดมานิดหน่อย พอเซ็ตด้วยแป้งฝุ่น จะติดทนขึ้นมาเป็นเกือบๆ 90% สังเกตว่า มีอยู่ครั้งนึงเผลอเอาหน้าไปนอนถูกับปลอกหมอน มันไม่ค่อยหลุดแฮะ (ยกเว้นตรงทีโซนนะ) พอผ่านไป 8 ชั่วโมง รองพื้นถึงจะเริ่มเลือนไปบ้าง รอยปานแดงจะเห็นชัดขึ้น
เรื่องการกันน้ำแนนให้อยู่ 70% ต้องรองพื้นแห้งเซ็ตตัวแล้วมันจะค่อนข้างติดทนเลย แบบในรูป เอาน้ำไปล้างตรงรองพื้นที่มือ ถูๆที่รองพื้นนี่ไม่มีรองพื้นไหลปนออกมาเลยนะ แล้วซับด้วยกระดาษทิชชู่ แทบไม่มีรองพื้นติดเลย แต่อย่าเอากระดาษไปถูๆนะเวลาเติมหน้า เพราะจะหลุดบ้างแน่ๆ คนเหงื่อออกเยอะจึงไม่น่ามีปัญหาค่ะ
พูดถึงเรื่องการคุมมัน แนนเป็นคนมีผิวผสม ช่วงทีโซนมันมากกกกก 2-3 ชั่วโมง ความเงามันจะออกอาละวาดแล้ว ในการทดสอบครั้งนี้ ลงแต่มอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างเดียว ไม่ได้ลงกันแดดคุมมันอะไรเลย ประสิทธิภาพการคุมมันค่อนข้างดีอยู่ ประมาณ 4-5 ชั่วโมง ถึงเริ่มเห็นความมัน จะค่อยๆออกมาแบบดิวอี้ๆ (ในภาพล่างนี้ถ่ายในห้องแสงนีออนตอนกลางคืน) หลังจากนั้น 7-8 ชั่วโมง จะหลุดบ้างถ้ามือไปโดน แต่ไม่มีอาการเป็นคราบน่าเกลียด เวลาซับมันควรใช้แบบฟิล์มซับมันจะลดการหลุดของรองพื้นลง สำหรับตรงช่วงแก้ม ช่วงใต้ตา ที่ไม่ค่อยมัน นางอยู่ถึงเช้ายังได้ อีกอย่าง คือ พอซับหน้าเสร็จ หน้าแทบจะดูแมตต์เหมือนเดิมเลย
ในแง่การล้างทำความสะอาด รองพื้นแมท TER ค่อนข้างติดทนและเนื้อละเอียดปิดรูขุมขน ต้องใช้คลีนซิ่งอย่างเดียวเท่านั้นในการล้างค่ะ โฟมล้างหน้าอย่างเดียวล้างไม่ออกนะเธอ แนะนำว่าควรใช้แบบน้ำมันจะออกง่ายหน่อย คนผิวมัน-ผิวผสม ลองใช้ออยล์ที่มันเอาน้ำแตะๆเปลี่ยนเป็นน้ำนมจะเหมาะกับการล้างตัวนี้มาก ส่วนตัวแนนจะใช้พวกไมเซลล่าเช็ดออกอีกรอบนึงเพื่อความชัวร์ก่อนล้างหน้าตามปกติ
ยังมีต่อในคอมเม้นท์นะจ๊ะ เปรียบเทียบวิธีการลงรองพื้นด้วย 4 อุปกรณ์ / เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคูชั่นแมท TER กับ รองพื้นแมท TER และสรุปการรีวิวค่า