‘อัยการ’เฉียบยื่นอุทธรณ์
เพิ่มโทษบุญทรง
โดนยกแก๊งทจริต‘จีทูจี’

โฆษกอัยการเผยคดีจำนำข้าว เสนอ “อสส.” ร้องศาลฎีกาฯไต่สวนลับหลัง“หมอโด่ง อดีตเลขาฯ รมว.พาณิชย์-เอกชนอีกราย”คดีจีทูจีเก๊ อุทธรณ์ขอให้ลงโทษเพิ่ม“บุญทรง-โรงสี” ลุยคดี“แม้ว”ต่อ ไม่หนักใจทำตามกฎหมาย “วิษณุ”ย้ำไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน เหตุให้โอกาสจำเลยมาชี้แจงแล้ว ด้าน“บิ๊กตู่”เผยทูลเกล้าฯโผครม.ประยุทธ์ 5 แล้ว “ออมสิน”เมินเก้าอี้หักมาทำงานปกติ “กอบกาญจน์”สั่งเก็บของ-คืนรถหลวง
เมื่อวันที่ 22พฤศจิกายน นายวันชาติ สันติกุญชร อธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้พิจารณาคดีต่างๆในศาลต่อไปแม้ไม่มีตัวจำเลย เพราะหลบหนีหลังจากถูกออกหมายจับว่า ล่าสุดที่ตรวจสอบในส่วนของคดีที่อัยการสูงสุด(อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกลุ่มนักการเมือง ,ข้าราชการ และเอกชนรวม 27ราย ร่วมทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) นั้น มีจำเลยหลบหนีระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาฯ 2 คน คือ พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือ หมอโด่ง วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการฯ รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 3 และนายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่16 ซึ่งทราบจากคณะทำงานอัยการที่รับผิดชอบคดีระบายข้าวจีทูจีทราบว่า กำลังดำเนินการที่จะเสนออสส.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯด้วยเช่นกัน ซึ่งอัยการได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์กฎหมายใหม่ คือ พรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28 เช่นเดียวกับคดีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
อุทธรณ์เพิ่มโทษ’บุญทรง-โรงสี’
ด้าน นายกิตินันท์ ธัชประมุข อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หนึ่งในคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีจำนำข้าวและระบายข้าวรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาอุทธรณ์คดีระบายข้าวจีทูจี ว่า หลังจากคณะทำงานอัยการเสนอความเห็นทางคดีการทุจริตระบายข้าวจีทูจีต่อ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อสส.แล้วเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่ง อสส.เห็นชอบการยื่นอุทธรณ์คดีดังกล่าว คณะทำงานอัยการจึงได้ยื่นคำอุทธรณ์คดีทุจริตระบายข้าวจีทูจีต่อศาลฎีกาฯแล้ว หลังจากนี้ศาลจะดำเนินการส่งคำอุทธรณ์ให้จำเลยทำคำแก้อุทธรณ์ต่อไป
ทั้งนี้ อัยการได้ยื่นอุทธรณ์คดีในส่วนของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 2 (ศาลฎีกาฯจำคุก 42ปี) ซึ่งอัยการเห็นว่า การกระทำของนายบุญทรง ยังมีความผิดที่มีส่วนร่วมอนุมัติแก้ไขสัญญาระบายข้าวฉบับที่1 ที่มีการแก้ไขสาระสำคัญหลายครั้ง แม้สัญญาระบายข้าวจะเริ่มมาก่อนที่นายบุญทรง จะเข้ารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ จึงให้ศาลพิพากษาลงโทษเพิ่มเติมในส่วนนี้ด้วย จากโทษที่ได้ตัดสินไว้แล้ว รวมทั้งยื่นอุทธรณ์ส่วนของ น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง กับ น.ส.เรืองวัน เลิศศลารักษ์จำเลยที่11-12 (จำคุก16 ปี) ผู้บริหารบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด ซึ่งอัยการเห็นว่า ที่ศาลฎีกาฯลงโทษไว้นั้น เบาเกินไปไป เนื่องจากอัตราโทษเท่ากับกลุ่มจำเลยที่นำส่งเอกสารการขึ้นแคชเชียร์ โดยเจตนาในการกระทำของจำเลยทั้งสองชัดเจนกว่าที่ได้ร่วมกระทำผิดสั่งดำเนินการและอุทธรณ์อีกกลุ่ม คือ เอกชนที่เป็นโรงสีข้าว จำเลยที่22-28 (ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีกิจทวียโสธร โดยนายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการ,นายทวี อาจสมรรถ , บริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัดโดยนายทวี อาจสมรรถ กรรมการ , บริษัท เค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด โดยนายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการ , นายปกรณ์ ลีศิริกุล , บริษัท เจียเม้ง จำกัดโดยนางประพิศ มานะธัญญา กรรมการ และนางประพิศมานะธัญญา ซึ่งศาลได้พิพากษายกฟ้องไป
นายกิตินันท์ กล่าวอีกว่า อัยการยังยื่นอุทธรณ์ในส่วนของอำนาจเรียกร้องสิทธิค่าเสียหายจากจำเลยในฟ้องคดีอาญานี้ ซึ่งศาลได้ยกฟ้องในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ , กรมการค้าต่างประเทศ ,องค์การคลังสินค้า (อคส.) , องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ด้วย โดยก่อนหน้านี้ศาลพิพากษาให้เฉพาะกระทรวงการคลังเท่านั้นที่มีอำนาจยื่นคำร้อง นอกจากการยื่นอุทธรณ์คดีแล้ว ขณะนี้คณะทำงานอัยการ ก็กำลังเตรียมทำคำแก้อุทธรณ์ที่นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ จำเลยที่ 1 , นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 2 และนายนิมล หรือโจ รักดี จำเลยที่ 15(ลูกน้องคนสนิทของนายอภิชาตหรือเสี่ยเปี๋ยง) ได้ยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อศาลไว้ ส่วนของจำเลยอื่นๆ นั้นอัยการยังไม่ได้รับสำเนาคำอุทธรณ์จากศาลฎีกาฯ จึงยังไม่แน่ชัดว่า จำเลยคนใดบ้างที่ยื่นอุทธรณ์สู้คดีอีกหรือไม่
ร้องศาลฎีกาฯไต่สวนลับหลังหมอโด่ง
อย่างไรก็ดี เมื่อพรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฯ ฉบับใหม่บังคับใช้แล้วให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยที่หลบหนีคดีได้ คณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีระบายข้าวก็ได้เสนอเรื่องต่อ อสส.พิจารณายื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ให้นำคดีในส่วนของ พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ จำเลยที่3และนายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 ซึ่งหลบหนีระหว่างการพิจารณา มาพิจารณาต่อไป โดยต้องรอให้อสส.มีความเห็นลงมาก่อน หากเห็นชอบ คณะทำงานจะได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ในส่วนนี้โดยไม่ชักช้าต่อไป ซึ่งทางคดีก็มีพยานหลักฐานพร้อมดำเนินการได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการติดตามตัว พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิและนายสุธี หลังจากศาลฎีกาฯ มีคำสั่งออกหมายจับแล้วเมื่อวันที่ 29มิถุนายน2558 ในนัดพิจารณาคดีครั้งแรกแล้วและมีการนำหมายจับส่งให้ สตช.แล้ว ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการจับกุมตัวจำเลยทั้งสองแต่อย่างใด
ชีวิด ดี้ดี ซี้จุก0 อัยการ’เฉียบยื่นอุทธรณ์ เพิ่มโทษบุญทรง โดนยกแก๊งทจริต‘จีทูจี’
เพิ่มโทษบุญทรง
โดนยกแก๊งทจริต‘จีทูจี’
โฆษกอัยการเผยคดีจำนำข้าว เสนอ “อสส.” ร้องศาลฎีกาฯไต่สวนลับหลัง“หมอโด่ง อดีตเลขาฯ รมว.พาณิชย์-เอกชนอีกราย”คดีจีทูจีเก๊ อุทธรณ์ขอให้ลงโทษเพิ่ม“บุญทรง-โรงสี” ลุยคดี“แม้ว”ต่อ ไม่หนักใจทำตามกฎหมาย “วิษณุ”ย้ำไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน เหตุให้โอกาสจำเลยมาชี้แจงแล้ว ด้าน“บิ๊กตู่”เผยทูลเกล้าฯโผครม.ประยุทธ์ 5 แล้ว “ออมสิน”เมินเก้าอี้หักมาทำงานปกติ “กอบกาญจน์”สั่งเก็บของ-คืนรถหลวง
เมื่อวันที่ 22พฤศจิกายน นายวันชาติ สันติกุญชร อธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้พิจารณาคดีต่างๆในศาลต่อไปแม้ไม่มีตัวจำเลย เพราะหลบหนีหลังจากถูกออกหมายจับว่า ล่าสุดที่ตรวจสอบในส่วนของคดีที่อัยการสูงสุด(อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกลุ่มนักการเมือง ,ข้าราชการ และเอกชนรวม 27ราย ร่วมทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) นั้น มีจำเลยหลบหนีระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาฯ 2 คน คือ พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือ หมอโด่ง วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการฯ รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 3 และนายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่16 ซึ่งทราบจากคณะทำงานอัยการที่รับผิดชอบคดีระบายข้าวจีทูจีทราบว่า กำลังดำเนินการที่จะเสนออสส.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯด้วยเช่นกัน ซึ่งอัยการได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์กฎหมายใหม่ คือ พรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28 เช่นเดียวกับคดีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
อุทธรณ์เพิ่มโทษ’บุญทรง-โรงสี’
ด้าน นายกิตินันท์ ธัชประมุข อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หนึ่งในคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีจำนำข้าวและระบายข้าวรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาอุทธรณ์คดีระบายข้าวจีทูจี ว่า หลังจากคณะทำงานอัยการเสนอความเห็นทางคดีการทุจริตระบายข้าวจีทูจีต่อ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อสส.แล้วเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่ง อสส.เห็นชอบการยื่นอุทธรณ์คดีดังกล่าว คณะทำงานอัยการจึงได้ยื่นคำอุทธรณ์คดีทุจริตระบายข้าวจีทูจีต่อศาลฎีกาฯแล้ว หลังจากนี้ศาลจะดำเนินการส่งคำอุทธรณ์ให้จำเลยทำคำแก้อุทธรณ์ต่อไป
ทั้งนี้ อัยการได้ยื่นอุทธรณ์คดีในส่วนของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 2 (ศาลฎีกาฯจำคุก 42ปี) ซึ่งอัยการเห็นว่า การกระทำของนายบุญทรง ยังมีความผิดที่มีส่วนร่วมอนุมัติแก้ไขสัญญาระบายข้าวฉบับที่1 ที่มีการแก้ไขสาระสำคัญหลายครั้ง แม้สัญญาระบายข้าวจะเริ่มมาก่อนที่นายบุญทรง จะเข้ารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ จึงให้ศาลพิพากษาลงโทษเพิ่มเติมในส่วนนี้ด้วย จากโทษที่ได้ตัดสินไว้แล้ว รวมทั้งยื่นอุทธรณ์ส่วนของ น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง กับ น.ส.เรืองวัน เลิศศลารักษ์จำเลยที่11-12 (จำคุก16 ปี) ผู้บริหารบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด ซึ่งอัยการเห็นว่า ที่ศาลฎีกาฯลงโทษไว้นั้น เบาเกินไปไป เนื่องจากอัตราโทษเท่ากับกลุ่มจำเลยที่นำส่งเอกสารการขึ้นแคชเชียร์ โดยเจตนาในการกระทำของจำเลยทั้งสองชัดเจนกว่าที่ได้ร่วมกระทำผิดสั่งดำเนินการและอุทธรณ์อีกกลุ่ม คือ เอกชนที่เป็นโรงสีข้าว จำเลยที่22-28 (ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีกิจทวียโสธร โดยนายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการ,นายทวี อาจสมรรถ , บริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัดโดยนายทวี อาจสมรรถ กรรมการ , บริษัท เค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด โดยนายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการ , นายปกรณ์ ลีศิริกุล , บริษัท เจียเม้ง จำกัดโดยนางประพิศ มานะธัญญา กรรมการ และนางประพิศมานะธัญญา ซึ่งศาลได้พิพากษายกฟ้องไป
นายกิตินันท์ กล่าวอีกว่า อัยการยังยื่นอุทธรณ์ในส่วนของอำนาจเรียกร้องสิทธิค่าเสียหายจากจำเลยในฟ้องคดีอาญานี้ ซึ่งศาลได้ยกฟ้องในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ , กรมการค้าต่างประเทศ ,องค์การคลังสินค้า (อคส.) , องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ด้วย โดยก่อนหน้านี้ศาลพิพากษาให้เฉพาะกระทรวงการคลังเท่านั้นที่มีอำนาจยื่นคำร้อง นอกจากการยื่นอุทธรณ์คดีแล้ว ขณะนี้คณะทำงานอัยการ ก็กำลังเตรียมทำคำแก้อุทธรณ์ที่นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ จำเลยที่ 1 , นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 2 และนายนิมล หรือโจ รักดี จำเลยที่ 15(ลูกน้องคนสนิทของนายอภิชาตหรือเสี่ยเปี๋ยง) ได้ยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อศาลไว้ ส่วนของจำเลยอื่นๆ นั้นอัยการยังไม่ได้รับสำเนาคำอุทธรณ์จากศาลฎีกาฯ จึงยังไม่แน่ชัดว่า จำเลยคนใดบ้างที่ยื่นอุทธรณ์สู้คดีอีกหรือไม่
ร้องศาลฎีกาฯไต่สวนลับหลังหมอโด่ง
อย่างไรก็ดี เมื่อพรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฯ ฉบับใหม่บังคับใช้แล้วให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยที่หลบหนีคดีได้ คณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีระบายข้าวก็ได้เสนอเรื่องต่อ อสส.พิจารณายื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ให้นำคดีในส่วนของ พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ จำเลยที่3และนายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 ซึ่งหลบหนีระหว่างการพิจารณา มาพิจารณาต่อไป โดยต้องรอให้อสส.มีความเห็นลงมาก่อน หากเห็นชอบ คณะทำงานจะได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ในส่วนนี้โดยไม่ชักช้าต่อไป ซึ่งทางคดีก็มีพยานหลักฐานพร้อมดำเนินการได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการติดตามตัว พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิและนายสุธี หลังจากศาลฎีกาฯ มีคำสั่งออกหมายจับแล้วเมื่อวันที่ 29มิถุนายน2558 ในนัดพิจารณาคดีครั้งแรกแล้วและมีการนำหมายจับส่งให้ สตช.แล้ว ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการจับกุมตัวจำเลยทั้งสองแต่อย่างใด