Day 9:
วันนี้เราจะไปเป้าหมายหลักของเราที่ Nagano กัน Jigokudani (Snow Monkey Park) หรือไปดูลิงแช่ออนเซ็น นั่นเอง ที่นี่เรียกได้ว่าเป็น The must place ที่แรกๆตอนเราทำแพลนกันเลย
จากที่เรานั่งกางหาข้อมูลจากแผ่นพับที่หยิบมาจากหน้า counter โรงแรม เช้านี้ เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อเดินไปซื้อตั๋วรถบัสแบบ One day pass ที่สถานี Nagano ราคา 3,200 เยน รวมค่ารถ unlimit ของ Nagarden Express Bus 1 วัน และค่าเข้าชมหมู่บ้านลิง ซึ่งคำนวนแล้ว ถูกกว่าแยกซื้อแน่นอน
จุดขึ้นรถบัสอยู่ด้านหลังสถานี ก็ว่า เราเดินหาหน้าสถานีกันตั้งนาน ไม่เจอป้ายรถเลขนี้ซักที 555
เราขึ้นรถสบัสกันคนแรกๆ เลยได้นั่นที่หน้าๆ วิวดีเลย
นั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมง รสบัสก็จอดให้เราลงด้านหน้า โอ้โห นี่แหละหิมะจริงจัง ตั้งแต่มารอบนี้ เราเคยเจอหิมะที่ Nikko แล้วก็จริง แต่ก็เป็นหิมะที่ละลายไปเยอะแล้ว แต่ที่นี่แบบว่ายังหนาอยู่เลย หิมะ!!!!!!!!
เราเดินตามถนนขึ้นไปเรื่อยๆ ตามชาวบ้านเค้าไป 555
แค่สองข้างถนนที่เราเดินก็สวยมากๆแล้ว
แน่อนนว่าหิมะหนาขนาดนี้ วันนี้มันต้องหนาวมากแน่นอน แต่ดีที่เราแต่งตัวเตรียมพร้อมมาก เลยเดินได้สบายๆ
ทางผ่านนี้จะมีร้านกาแฟน่ารักตั้งอยู่ 1 ร้าน เราเล็งกันไว้ว่าเดี๋ยวเราจะกลับมาแวะก่อนกลับ (ถ้ามีเวลา)
ซักพักจากทางที่เป็นถนน เริ่มเป็นทางที่เป็นหิมะ
แล้วเราก็มาเจอทางเดินขึ้นไปยัง Monkey Park ด้านใน ด้านหน้าทางเดินนี้จะมีร้านขายของที่ระลึกเล็กๆตั้งอยู่ ที่ร้านนี้ สำหรับคนที่ไม่ได้ใส่รองเท้าสำหรับลุยหิมะมา ที่นี่เค้ามีให้เช่านะคะ
ทางขึ้นตรงนี้ลื่นมากค่ะ เพราะว่าหิมะเริ่มละลายบ้างแล้ว เวลาเดินต้องหาที่เกาะดีๆเลย
จากตรงนี้เราต้องเดินเข้าไปข้างในอีกประมาณ 1.6 กิโลเมตร จึงจะถึงจุดที่คุณลิงเค้านั่งแช่ออนเซ็นกัน
ระหว่างทางที่เดินเข้าไป ทางเดินเค้าทำไว้ดีมากค่ะ สองข้างทางเป็นต้นสนต้นเบ้อเริ่ม มีแสงอาทิตย์ลอดมาเป็นช่วงๆ
และมีหิมะร่วงลงมาใส่หัวบ้างประปราย 555
มันธรรมชาติ และสวยมาก มากกกกกกค่ะ
เดินกันพักใหญ่ เราก็ทะลุทางเดินที่เดินเลาะป่าสนมาเจอกันสิ่งนี้!
ทางเดินที่เลาะป่าสนเมื่อกี้ว่าสวยแล้ว ตรงนี้มันยิ่งสวยเข้าไปอีก เป็นจุดที่สามารถมองวิวได้กว้างๆ แบบไม่มีต้นสนบัง มันสวยมากกกกจริงๆ
เดินต่อไปอีกนิด เราจะเจอบ้านหลังเล็กๆ กั้นทางเดินสำหรับเข้าไปด้านในออนเซ็นไว้อยู่ คือต้องมีตั๋วถึงจะผ่านเข้าไปได้ เดินผ่านเข้าไปด้านในจะมีของที่ระลึก และรูปภาพสมัยก่อนของสถานที่นี้ติดตามผนังให้ได้อ่านข้อมูลกันค่ะ
พอเดินผ่านตรงนี้ สิ่งที่เราเห็นคือ!
วิวทางที่เราเดินผ่านมาจากมุมสูง มันอลังการมาก! คือในรูปเราก็จะเห็นความสวยของมันในระดับหนึ่ง แต่ของที่เห็นจริงๆตอนนั้นด้วยตาเปล่านี่คูณ 10 เข้าไปเลย เรารู้สึกคุ้มค่ากับการเดินเกือบ 2 ชั่วโมงเข้ามาในนี้มากๆ
เดินเข้ามาอีกนิด เราก็จะเจอหมูบ้านของลิงหน้าแดงกันแล้ว จากตรงนี้เค้าจะทำเป็นทางเดินเข้าตรงบริเวณบ่อออนเซ็นไว้ให้
ตรงต้นๆทางเดินนี้ เราก็จะเจอคุณลิงหน้าแดงบางตัวออกมาต้อนรับเรา
นอกจากจะมีบ่อออนเซ็นแล้ว ตรงนี้ยังมีลำธารน้ำไหลผ่านด้วย
ข้างในมีลิงเยอะมากกก เรียกว่าเป็นอาณาจักรเลยทีเดียว 555 ลิงที่นี่ไม่ดุนะคะ ดูจะคุ้นกับคนพอตัวเลย
ลูกไผ่: "ลิงที่นี่ชีวิตดูมีรวามสุขดีเนอะพี่ปุ่น วิ่งเล่น ตีกัน กิน (ถึงเวลาจะมีคนมาให้อาหารค่ะ) เบื่อๆก็ลงแช่ออนเซ็น ชิลมาก"
พี่ปุ่น: "555 นั่นดิ"
เราอยู่ถ่ายรูปเพลินอยู่นานเลย รอจังหวะพี่ลิงเค้าวิ่งเข้ามาใกล้ๆมั่ง อะไรมั่ง
ถ่ายกันจนพอใจ ละดูนาฬิกาแล้วด้วย ก็น่าจะถึงเวลาต้องเดินกลับกันแล้ว ก่อนกลับหันไปถ่ายชาวคณะพี่ลิงหน้าแดงอีกซักรูป ที่เห็นเป็นจุดๆ กลมๆ น้ำตาลๆ นั่น ไม่ใช่ก้อนหินนะคะ ลิงค่ะลิง 555 เยอะมากจริงๆ
ตอนเดินกลับ เราก็เห็นมีพี่พนักงานผู้ชายถือถังสีฟ้า มาโปรยอาหารให้เหล่าลิงๆ พอดี
สวยทุกมุมจริงๆ
พอเดินกันจนมาถึงทางเข้า ตรงร้าน Café ที่เราเดินผ่านมาในตอนแรก ท้องก็หิวพอดี Cafe น่ารักๆ นี้ชื่อร้านEnza Dinning & Cafe
เค้ามีขายเครื่องดื่มชา กาแฟ (โกโก้ร้อนอร่อยมาก) ของทานเล่นอย่างเฟรนฟราย ไก่คาราเกะ และของทานจริงจังอย่างราเม็ง (อร่อยมากเช่นกัน) ราคาไม่แพงอย่างที่คิดเมื่อเทียบกับการเป็นร้านเดียวอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวอย่างนี้
ได้เวลากลับกันแล้ว เราเดินกลับตามถนนเส้นเดิมที่เดินมา เพื่อไปรอขึ้นรถกลับเข้าไปยัง Nagano Station
เรากลับมาถึง Nagano Station ประมาณบ่ายสามโมง ยังเหลือเวลาเที่ยวอีกเยอะเลย เราเลยคุยกันว่าจะนั่ง JR ไปลงที่ Matsumoto Station เพื่อไปปราสาท Matsumoto กัน ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากะ search หาข้อมูล ปรากฎว่า....เน็ตตัด! นั่นไง Sim to fly เล่นเราแล้วไง วันนี้เป็นวันที่ 8 พอดี ซึ่งตอนที่ไปซื้อ Sim พี่ปุ่นก็ถามย้ำนักย้ำหนากับพนักงานว่า เราไป 18 วัน คือ sim มีอายุ 8 วัน แล้วเราจะต่ออีก 8 วันจะทำยังไง พนักงานก็ตอบเราว่าก็ถ้าเติมเงินจากไทยเตรียมไว้ พอวันที่ 8 เดี๋ยวระบบจะ activate ต่อให้แบบอัตโนมัติเลย แล้วนี่มันอาร๊ายยยย!!!
โชคดีที่ในเครื่องเรามีเบอร์ Call Center เราเลยต้องโทรแบบเสียเงินข้ามประเทศ แล้วให้พนักงาน activate ให้ ซิมเราถึงกลับมาใช้อินเตอร์เน็ตได้เหมือนเดิม นี่คือดอกแรกสำหรับ Sim to fly รอติดตามชมดอกต่อไป
เรามาถึง Matsumoto Station ก็ 4 โมงกว่าๆ มองฟ้าแล้ว ครึ้มๆ เฮ้ย อย่าเพิ่งตกลงมาน้า ขอเราไปปราสาทก๊อนนนน
เราเปิด Google แล้วเดินตามทางไปเรื่อยๆ จากตรงนี้ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที ก็จะถึงปราสาท เราก็เดินเลาะถนน ลัดซอยไปเรื่อยๆ Matsumoto เป็นเมืองที่ค่อนข้างเงียบ และสงบเลยทีเดียว
เดินแปปๆ เราก็มาถึงทางเข้า Matsumoto Castle
ข้างในเหมือนเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่มีปราสาทตั้งอยู่ตรงกลาง อากาศดีมากกกกกกก
รอบๆตัวปราสาทจะมีคู่น้ำล้อมรอบ ในน้ำก็จะมีปลาคาฟตัวเบ้อเริ่ม กับหงส์ลอยตัวว่ายน้ำชิลๆอยู่
เราเดินถ่ายรูป สูดอากาศจนฟ้าเริ่มมืด ก็ชวนกันกลับ
ระหว่างทางที่เดินกลับ สังเกตเห็นฝาท่อระบายน้ำทำเป็นรูปสีสันสวยงาม เลยขอแช๊ะถ่ายเก็บไว้หน่อย ที่ญี่ปุ่นเหมือนกับว่าฝาท่อระบายน้ำแต่ละเมืองจะถูกออกแบบมาให้เป็นรูปสัญลักษณ์ของเมืองนั้นๆ นะคะ หลังจาก Nagano เราไปเมืองอื่นก็เห็นว่าเป็นอีกดีไซน์นึง สวยดี
ขากลับ เราก็แวะซื้อน้ำแล้วเตรียมจะขึ้นชินคันเซ็นตามปกติ แต่รอบนี้ดูจะไม่ปกติอยู่ซักหน่อยคือ เหมือนจะมีเหตุอะไรซักอย่าง วิ่งราว ของหาย อะไรงี้ เห็นพนักงานวิ่งกันวุ่นเลย พอเราขึ้นไปนั่งรอบนรถไฟ อยู่ๆก็ไฟดับจ้า เออะ...จะไม่ระทึกซักวันได้มั้ย แล้วก็จอดนิ่งสนิทอยู่อย่างนั้น แต่พอผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถไฟก็ออกตามปกติ เฮ้อออ...อย่างน้อยก็ได้กลับนางาโน่ล่ะนะ
กลับมาถึง Nagano วันนี้ เราก็เจอปัญหาโลกแตก เย็นนี้ทานอะไรกันดี วนไปวนมา ก็มาจบที่ร้านราเม็งร้านนึง ดูเป็นร้านเก่าแก่ มีคนเข้าตลอดเวลา
พี่ปุ่น: “เอาร้านนี้แหละ น่ากินดี”
ข้างในร้านจะเป็นบาร์ล้อมรอบครัวที่พ่อครัวกำลังลวกเส้นกันอย่างขะมักเขม้น ตรงกำแพงจะมีไม้แขวนเสื้อไว้ให้เราแขวนโค้ทกัน ราเม็งชามใหญ่มากตามสไตล์ราเม็งที่ญี่ปุ่น อร่อยเลยยย แต่เราทานไม่หมดตามระเบียบ 555 ก็ชามมันใหญ่อ่ะ
ก่อนกลับขอแวะ minimart ได้ขนมคุ๊กกี้ชาเขียวถั่วแดงติดมือมา อร่อยใช้ได้เลย
[CR] ตะลุยญี่ปุ่น 17 วัน 8 เมือง – EP.4 หมู่บ้านลิงแช่ออนเซ็นในหุบเขา
Day 9:
วันนี้เราจะไปเป้าหมายหลักของเราที่ Nagano กัน Jigokudani (Snow Monkey Park) หรือไปดูลิงแช่ออนเซ็น นั่นเอง ที่นี่เรียกได้ว่าเป็น The must place ที่แรกๆตอนเราทำแพลนกันเลย
จากที่เรานั่งกางหาข้อมูลจากแผ่นพับที่หยิบมาจากหน้า counter โรงแรม เช้านี้ เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อเดินไปซื้อตั๋วรถบัสแบบ One day pass ที่สถานี Nagano ราคา 3,200 เยน รวมค่ารถ unlimit ของ Nagarden Express Bus 1 วัน และค่าเข้าชมหมู่บ้านลิง ซึ่งคำนวนแล้ว ถูกกว่าแยกซื้อแน่นอน
จุดขึ้นรถบัสอยู่ด้านหลังสถานี ก็ว่า เราเดินหาหน้าสถานีกันตั้งนาน ไม่เจอป้ายรถเลขนี้ซักที 555
เราขึ้นรถสบัสกันคนแรกๆ เลยได้นั่นที่หน้าๆ วิวดีเลย
นั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมง รสบัสก็จอดให้เราลงด้านหน้า โอ้โห นี่แหละหิมะจริงจัง ตั้งแต่มารอบนี้ เราเคยเจอหิมะที่ Nikko แล้วก็จริง แต่ก็เป็นหิมะที่ละลายไปเยอะแล้ว แต่ที่นี่แบบว่ายังหนาอยู่เลย หิมะ!!!!!!!!
เราเดินตามถนนขึ้นไปเรื่อยๆ ตามชาวบ้านเค้าไป 555
แค่สองข้างถนนที่เราเดินก็สวยมากๆแล้ว
แน่อนนว่าหิมะหนาขนาดนี้ วันนี้มันต้องหนาวมากแน่นอน แต่ดีที่เราแต่งตัวเตรียมพร้อมมาก เลยเดินได้สบายๆ
ทางผ่านนี้จะมีร้านกาแฟน่ารักตั้งอยู่ 1 ร้าน เราเล็งกันไว้ว่าเดี๋ยวเราจะกลับมาแวะก่อนกลับ (ถ้ามีเวลา)
ซักพักจากทางที่เป็นถนน เริ่มเป็นทางที่เป็นหิมะ
แล้วเราก็มาเจอทางเดินขึ้นไปยัง Monkey Park ด้านใน ด้านหน้าทางเดินนี้จะมีร้านขายของที่ระลึกเล็กๆตั้งอยู่ ที่ร้านนี้ สำหรับคนที่ไม่ได้ใส่รองเท้าสำหรับลุยหิมะมา ที่นี่เค้ามีให้เช่านะคะ
ทางขึ้นตรงนี้ลื่นมากค่ะ เพราะว่าหิมะเริ่มละลายบ้างแล้ว เวลาเดินต้องหาที่เกาะดีๆเลย
จากตรงนี้เราต้องเดินเข้าไปข้างในอีกประมาณ 1.6 กิโลเมตร จึงจะถึงจุดที่คุณลิงเค้านั่งแช่ออนเซ็นกัน
ระหว่างทางที่เดินเข้าไป ทางเดินเค้าทำไว้ดีมากค่ะ สองข้างทางเป็นต้นสนต้นเบ้อเริ่ม มีแสงอาทิตย์ลอดมาเป็นช่วงๆ
และมีหิมะร่วงลงมาใส่หัวบ้างประปราย 555
มันธรรมชาติ และสวยมาก มากกกกกกค่ะ
เดินกันพักใหญ่ เราก็ทะลุทางเดินที่เดินเลาะป่าสนมาเจอกันสิ่งนี้!
ทางเดินที่เลาะป่าสนเมื่อกี้ว่าสวยแล้ว ตรงนี้มันยิ่งสวยเข้าไปอีก เป็นจุดที่สามารถมองวิวได้กว้างๆ แบบไม่มีต้นสนบัง มันสวยมากกกกจริงๆ
เดินต่อไปอีกนิด เราจะเจอบ้านหลังเล็กๆ กั้นทางเดินสำหรับเข้าไปด้านในออนเซ็นไว้อยู่ คือต้องมีตั๋วถึงจะผ่านเข้าไปได้ เดินผ่านเข้าไปด้านในจะมีของที่ระลึก และรูปภาพสมัยก่อนของสถานที่นี้ติดตามผนังให้ได้อ่านข้อมูลกันค่ะ
พอเดินผ่านตรงนี้ สิ่งที่เราเห็นคือ!
วิวทางที่เราเดินผ่านมาจากมุมสูง มันอลังการมาก! คือในรูปเราก็จะเห็นความสวยของมันในระดับหนึ่ง แต่ของที่เห็นจริงๆตอนนั้นด้วยตาเปล่านี่คูณ 10 เข้าไปเลย เรารู้สึกคุ้มค่ากับการเดินเกือบ 2 ชั่วโมงเข้ามาในนี้มากๆ
เดินเข้ามาอีกนิด เราก็จะเจอหมูบ้านของลิงหน้าแดงกันแล้ว จากตรงนี้เค้าจะทำเป็นทางเดินเข้าตรงบริเวณบ่อออนเซ็นไว้ให้
ตรงต้นๆทางเดินนี้ เราก็จะเจอคุณลิงหน้าแดงบางตัวออกมาต้อนรับเรา
นอกจากจะมีบ่อออนเซ็นแล้ว ตรงนี้ยังมีลำธารน้ำไหลผ่านด้วย
ข้างในมีลิงเยอะมากกก เรียกว่าเป็นอาณาจักรเลยทีเดียว 555 ลิงที่นี่ไม่ดุนะคะ ดูจะคุ้นกับคนพอตัวเลย
ลูกไผ่: "ลิงที่นี่ชีวิตดูมีรวามสุขดีเนอะพี่ปุ่น วิ่งเล่น ตีกัน กิน (ถึงเวลาจะมีคนมาให้อาหารค่ะ) เบื่อๆก็ลงแช่ออนเซ็น ชิลมาก"
พี่ปุ่น: "555 นั่นดิ"
เราอยู่ถ่ายรูปเพลินอยู่นานเลย รอจังหวะพี่ลิงเค้าวิ่งเข้ามาใกล้ๆมั่ง อะไรมั่ง
ถ่ายกันจนพอใจ ละดูนาฬิกาแล้วด้วย ก็น่าจะถึงเวลาต้องเดินกลับกันแล้ว ก่อนกลับหันไปถ่ายชาวคณะพี่ลิงหน้าแดงอีกซักรูป ที่เห็นเป็นจุดๆ กลมๆ น้ำตาลๆ นั่น ไม่ใช่ก้อนหินนะคะ ลิงค่ะลิง 555 เยอะมากจริงๆ
ตอนเดินกลับ เราก็เห็นมีพี่พนักงานผู้ชายถือถังสีฟ้า มาโปรยอาหารให้เหล่าลิงๆ พอดี
สวยทุกมุมจริงๆ
พอเดินกันจนมาถึงทางเข้า ตรงร้าน Café ที่เราเดินผ่านมาในตอนแรก ท้องก็หิวพอดี Cafe น่ารักๆ นี้ชื่อร้านEnza Dinning & Cafe
เค้ามีขายเครื่องดื่มชา กาแฟ (โกโก้ร้อนอร่อยมาก) ของทานเล่นอย่างเฟรนฟราย ไก่คาราเกะ และของทานจริงจังอย่างราเม็ง (อร่อยมากเช่นกัน) ราคาไม่แพงอย่างที่คิดเมื่อเทียบกับการเป็นร้านเดียวอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวอย่างนี้
ได้เวลากลับกันแล้ว เราเดินกลับตามถนนเส้นเดิมที่เดินมา เพื่อไปรอขึ้นรถกลับเข้าไปยัง Nagano Station
เรากลับมาถึง Nagano Station ประมาณบ่ายสามโมง ยังเหลือเวลาเที่ยวอีกเยอะเลย เราเลยคุยกันว่าจะนั่ง JR ไปลงที่ Matsumoto Station เพื่อไปปราสาท Matsumoto กัน ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากะ search หาข้อมูล ปรากฎว่า....เน็ตตัด! นั่นไง Sim to fly เล่นเราแล้วไง วันนี้เป็นวันที่ 8 พอดี ซึ่งตอนที่ไปซื้อ Sim พี่ปุ่นก็ถามย้ำนักย้ำหนากับพนักงานว่า เราไป 18 วัน คือ sim มีอายุ 8 วัน แล้วเราจะต่ออีก 8 วันจะทำยังไง พนักงานก็ตอบเราว่าก็ถ้าเติมเงินจากไทยเตรียมไว้ พอวันที่ 8 เดี๋ยวระบบจะ activate ต่อให้แบบอัตโนมัติเลย แล้วนี่มันอาร๊ายยยย!!!
โชคดีที่ในเครื่องเรามีเบอร์ Call Center เราเลยต้องโทรแบบเสียเงินข้ามประเทศ แล้วให้พนักงาน activate ให้ ซิมเราถึงกลับมาใช้อินเตอร์เน็ตได้เหมือนเดิม นี่คือดอกแรกสำหรับ Sim to fly รอติดตามชมดอกต่อไป
เรามาถึง Matsumoto Station ก็ 4 โมงกว่าๆ มองฟ้าแล้ว ครึ้มๆ เฮ้ย อย่าเพิ่งตกลงมาน้า ขอเราไปปราสาทก๊อนนนน
เราเปิด Google แล้วเดินตามทางไปเรื่อยๆ จากตรงนี้ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที ก็จะถึงปราสาท เราก็เดินเลาะถนน ลัดซอยไปเรื่อยๆ Matsumoto เป็นเมืองที่ค่อนข้างเงียบ และสงบเลยทีเดียว
เดินแปปๆ เราก็มาถึงทางเข้า Matsumoto Castle
ข้างในเหมือนเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่มีปราสาทตั้งอยู่ตรงกลาง อากาศดีมากกกกกกก
รอบๆตัวปราสาทจะมีคู่น้ำล้อมรอบ ในน้ำก็จะมีปลาคาฟตัวเบ้อเริ่ม กับหงส์ลอยตัวว่ายน้ำชิลๆอยู่
เราเดินถ่ายรูป สูดอากาศจนฟ้าเริ่มมืด ก็ชวนกันกลับ
ระหว่างทางที่เดินกลับ สังเกตเห็นฝาท่อระบายน้ำทำเป็นรูปสีสันสวยงาม เลยขอแช๊ะถ่ายเก็บไว้หน่อย ที่ญี่ปุ่นเหมือนกับว่าฝาท่อระบายน้ำแต่ละเมืองจะถูกออกแบบมาให้เป็นรูปสัญลักษณ์ของเมืองนั้นๆ นะคะ หลังจาก Nagano เราไปเมืองอื่นก็เห็นว่าเป็นอีกดีไซน์นึง สวยดี
ขากลับ เราก็แวะซื้อน้ำแล้วเตรียมจะขึ้นชินคันเซ็นตามปกติ แต่รอบนี้ดูจะไม่ปกติอยู่ซักหน่อยคือ เหมือนจะมีเหตุอะไรซักอย่าง วิ่งราว ของหาย อะไรงี้ เห็นพนักงานวิ่งกันวุ่นเลย พอเราขึ้นไปนั่งรอบนรถไฟ อยู่ๆก็ไฟดับจ้า เออะ...จะไม่ระทึกซักวันได้มั้ย แล้วก็จอดนิ่งสนิทอยู่อย่างนั้น แต่พอผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถไฟก็ออกตามปกติ เฮ้อออ...อย่างน้อยก็ได้กลับนางาโน่ล่ะนะ
กลับมาถึง Nagano วันนี้ เราก็เจอปัญหาโลกแตก เย็นนี้ทานอะไรกันดี วนไปวนมา ก็มาจบที่ร้านราเม็งร้านนึง ดูเป็นร้านเก่าแก่ มีคนเข้าตลอดเวลา
พี่ปุ่น: “เอาร้านนี้แหละ น่ากินดี”
ข้างในร้านจะเป็นบาร์ล้อมรอบครัวที่พ่อครัวกำลังลวกเส้นกันอย่างขะมักเขม้น ตรงกำแพงจะมีไม้แขวนเสื้อไว้ให้เราแขวนโค้ทกัน ราเม็งชามใหญ่มากตามสไตล์ราเม็งที่ญี่ปุ่น อร่อยเลยยย แต่เราทานไม่หมดตามระเบียบ 555 ก็ชามมันใหญ่อ่ะ
ก่อนกลับขอแวะ minimart ได้ขนมคุ๊กกี้ชาเขียวถั่วแดงติดมือมา อร่อยใช้ได้เลย