“ 7 วัน กับการได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในญี่ปุ่น!! 2017 ”

สวัสดีทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะครับบบ อมยิ้ม01

     ก่อนอื่นเลยผมต้องบอกก่อนว่านี้เป็นกระทู้แรกของผม เพื่อที่จะได้เป็นการบอกเล่าประสบการณ์จากการไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในญี่ปุ่นมาเล่าสู่กันฟังกันน โดยที่ผมจะเล่าเป็นกิจกรรมในแต่ละวันของทริปนะครับ

     ต้องเท้าความก่อนว่า ผมได้รู้จักกับโครงการนี้ (โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนกับจังหวัดไอจิ) ผ่านทางโรงเรียน เพราะโรงเรียนของผมมีคุณครูบังคับให้ลงสมัครถ้าเกรดเฉลี่ยถึงตามเกณฑ์ 55555
     
     การสมัคร
          -รอบที่ 1 เป็นการสมัครผ่านทางออนไลน์ โดยจะให้ทำการเขียนเรียงความทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษซึ่งจะมีหัวข้อเขียนเรียงความต่างกัน
          -รอบที่ 2 คือการสอบสัมภาษณ์  ปีของผมนะครับติดรอบแรกประมาณ 100กว่าคน แต่รับ 20 คนครับ โดยจะแบ่งเป็นแต่ละรอบๆละ 8 คน เขาก็จะให้จับคู่คนที่อยู่ข้างๆกัน แล้วให้แต่ละคนแนะนำตัวของตัวเองให้คู่ตนเองฟัง ภายใน 5 นาที หลังจากนั้นเขาก็จะให้เราแนะนำตัวคู่ของเราเป็นภาษาอังกฤษครับ โดยทุกครั้งที่ใครจะเป็นคนพูดก็ให้ยกมือขึ้นก่อน พอเสร็จจากแนะนำตัวก็จะเริ่มเข้าสู่คำถามทดสอบไหวพริบ ยกตัวอย่างเช่น “ถ้าเกิดให้เลือกมาหนึ่งวันในปฏิทิน คุณอยากให้วันนั้นเป็นวันอะไร เพราะเหตุใด” (ผมเนี้ยไม่คิดว่ามันจะติดด้วยซํ้า เพราะว่าภาษาอังกฤษผมก็ไม่ค่อยเก่ง แถมตอนตอบคำถามก็ตอบได้บ้างไม่ได้บ้างถูๆไถๆไป แต่สิ่งที่ผมทำตลอดก็คือการ “ยิ้มสู้” 55555)

     เป็นครั้งแรกกับการที่ได้ไปต่างประเทศของผม และเป็นประเทศที่อยากไปมากที่สุด ทำให้ผมนั้นรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ แถมยังเป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกอีก (ครั้งแรกจะเยอะไปไหน 5555) เรามาเริ่มเล่าประสบการณ์กันเลยดีกว่า ลุยยยย!!


[Day 1]

     ผมและคณะได้ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังนะโงะยะ (หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่า นาโกย่า) โดยสายการบิน
Thai Airways เที่ยวบิน TG644 เวลา 00.05 น. บอกก่อนเลยว่าระหว่างทางที่ผมนั้นอยู่บนเครื่องบิน ผมนอนไม่หลับเลย 5555 ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตื่นเต้นหรือเป็นเพราะยังไม่คุ้นชินกับการนั่งเครื่องบิน



     อาหารเช้ามื้อแรกบนเครื่องบิน จะมีแอร์โฮสเตสมาถามเราให้เลือกระหว่างออมเล็ตเบคอน หรืออุด้งซีฟู้ด ส่วนตัวผมนั้นเลือกออมเล็ตเบคอน เพราะอยากกินเบคอน ไม่มีเหตุผลอื่นใด 55555  อาหารผมว่าอร่อยนะ ต่างจากที่เคยได้ยินมาว่าอาหารบนเครื่องบินไม่อร่อยโดยสิ้นเชิง



     ถึงสนามบิน Chubu Centrair เมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ เวลา 07.30 น. โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง 25 นาที
ครั้งแรกที่ลงจากเครื่องบินแล้วลองสูดอากาศดู คือแบบสดชื่นมากกกกกกก!! รู้สึกปลอดมลพิษมากๆ อย่างกับฟอกไตไปในตัว 555555 คือผมเป็นโรคภูมิแพ้ เวลาผมอยู่ที่ไทยเวลาตื่นเช้าขึ้นมาที่ไรต้องจามแล้วมีนํ้ามูกตลอดๆเกือบทุกวัน แต่พอผมมาอยู่ญี่ปุ่นตลอด 7 วัน ผมไม่เป็นอะไรเลยยย ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหมแต่รู้ว่าอากาศบ้านเขาดีมากๆ อ้ออออ ลืมบอกไป ช่วงที่ผมไปนั้นเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หรือฤดูใบไม้ร่วง (Autumn Season) นะครับบ อุณหภูมิอากาศก็จะอยู่ที่ประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส คืออยากจะบอกว่าดูเหมือนหนาวนะแต่จริงๆไม่ได้หนาวขนาดนั้น อารมณ์แบบเย็นสบายๆอะ อุส่าห์พกเสื้อกันหนาวทั้งใหญ่ทั้งเล็กหลายตัวมาก เปลืองเนื้อที่กระเป๋าเดินทางเสียเปล่าเลยย 5555



     จากนั้นเราก็ได้นั่งรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปปฐมนิเทศโครงการ ณ ศาลาว่าการจังหวัดไอจิครับ สองข้างทางระหว่างเดินทางก็จะพบทั้งธรรมชาติและตึกอาคารบ้านเรือนต่างๆ จะบอกว่ารู้สึกว่าอาคารอะไรต่างๆของเขาดูสะอาดเรียบร้อยมาก 55555



     ในส่วนของการปฐมนิเทศโครงการ  ทุกๆคนก็จะได้แนะนำตัวเองเป็นภาษาญี่ปุ่นครับบ



     สงสัยใช่ไหมว่าทำไมถึงเอารูปนี้ขึ้น เพราะว่าผมประทับใจคนญี่ปุ่นตรงที่เวลาเราจะจากกัน ก็จะโบกมือบ้ายบายกัน แต่มันไม่ใช่แค่นั้น อย่างเช่น ผมกำลังนั่งรถบัสเพื่อไปจุดมุ่งหมายต่อไป เขาก็จะยืนโบกมือบ้ายบายให้เราจนกว่ารถบัสจะขับไปจนมองไม่เห็นหน้ากัน



     หลังจากที่เราปฐมนิเทศกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางไปดูงาน ณ มหาวิทยาลัยนาโกย่าครับ
อย่างแรกที่เราทำกันก็คือรับประทานอาหารกลางวันกับพี่ๆนักศึกษาชาวไทยที่มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนาโกย่าครับ ส่วนอาหารก็ตามที่เห็นในภาพเลยครับแต่จะมีซุปมิโซะด้วย แต่ถ่ายมาไม่ติด 5555 พอเรารับประทานอาหารกันเสร็จ พี่ๆนักศึกษาก็จะชวนพูดคุยให้ความรู้ในการศึกษาต่อที่ญี่ปุ่น และแง่คิดต่างๆมากมาย



     มาต่อกันที่ Nagoya University Museum Satellite Gallery 2008 Nobel Prize Exhibition Hall (ชื่อจะยาวไปไหนนนน) ซึ่งเป็นคล้ายๆกับนิทรรศการแสดงให้เห็นรางวัลโนเบลต่างๆที่คนญี่ปุ่นได้รับ และประวัติความเป็นมาของบุคคลนั้นๆ



     ระหว่างที่จะเดินทางไปสถานที่ต่อไป ก็จะสังเกตุเห็นจักรยานจอดไว้เต็มเลย และบ่อยมากกกๆ เคยเจอแบบฝั่งจอดสำหรับจักรยานเป็น 100 คัน แต่หันไปดูฝั่งจอดมอเตอร์ไซต์มีไม่ถึง 5 คัน ต่างกับประเทศไทยมากก 5555 ทำให้การจารจรของประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ค่อยแออัดเหมือนกับบ้านเรา อาจเป็นเพราะภาษีในการซื้อรถยนต์ของประเทศเขาสูงมาก



     ขนาดเจอป้ายบอกทางยังถ่ายคิดดู 55555 ก็มันสวยอะ



     นอนอาบแดดกันสบายเลยยยย แต่บางคนก็ใช้เป็นที่อ่านหนังสือ ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นลานสนามหญ้าหน้ามหาวิทยาลัยนาโกย่าครับ



     จากนั้นพวกเราก็ได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยนาโกย่า Nagoya University Museum ในส่วนนี้เป็นสถานที่ที่
ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายในพิพิธภัณฑ์ครับ



     และเราก็ได้มาศึกษาดูงาน ณ ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยนาโกย่า โดยที่ตอนแรกนั้นพวกเราจะได้นั่งชมวิทยากรบอกลายละเอียดต่างๆของมหาวิทยาลัยนาโกย่า หลังจากนั้นเขาก็จะพาเราเดินดูห้องสมุด เช่น เขาจะใช้เป็นบัตรในการยืม-คืนหนังสือ ทำให้สะดวกมากๆโดยที่ไม่ต้องไปหาบรรณารักษ์เลย



     ระหว่างที่นั่งบนรถ เจอเด็กนักเรียนญี่ปุ่น น่าจะเพึ่งเลิกเรียนเดินต่อเป็นแถวเลย น่ารักมากกกก 5555



     เหมือนที่ไทยหรือเปล่าเอ่ยยยยยยย



     หลังจากที่เราดูงานจากมหาวิทยาลัยนาโกย่าเสร็จ เราก็ได้ไปเข้าเยี่ยมคารวะ H.E. Mr. Hideaki Ohmura ผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ ในส่วนนี้นักเรียนแลกเปลี่ยนทุกๆคนก็ได้กล่าวแนะนำตัวเป็นภาษาญี่ปุ่น และมีพิธีมอบของที่ระลึกให้แก่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิอีกด้วย



     และแล้วก็มาถึงกิจกรรมที่ผมอยากทำมากที่สุด 555555 นั้นก็คือรับประทานอาหารคํ่า ร้านอาหารที่เราไปกินนั้นก็คือร้าน Misokatsu Yabaton โดยเป็น คัตสึมิโซะ ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดไอจิ ส่วนตัวผมว่ามันอร่อยนะแต่มันเค็มไปนิด 5555 (นี้ขนาดผมเป็นคนกินเค็มนะ) เคยได้ยินมาว่าจังหวัดไอจินั้นกินเค็มมาก



     ลงทะเบียนเข้าพัก ณ โรงแรม Iris Aichi เป็นเวลาประมาณเกือบ 19.00 น.



     นี้ก็คือห้องพักที่โรงแรมของผม โดยจะเป็นห้องคู่นะครับ ที่โรงแรมนั้นมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้เราแทบทุกอย่างเลยครับ แม้กระทั่งชุดนอนยังมีให้ใส่เลยครับ 5555  เฮ้ออ..เหนื่อยมาทั้งวันขอตัวไปนอนก่อนนะครับ โอะยะซุมินะไซ ZZzzZz
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่