สวัสดีครับ ผมชื่อ เบียร์ เป็นนักเรียนม.ปลายโรงเรียนแถวย่านศรีราชา อาศัยอยู่ตัวคนเดียวที่นี้ครับ
พ่อแม่ผมไปทำงานที่ต่างประเทศ นานๆทีจะกลับมาและก็อยู่แค่แปปๆก็กลับไปทำงานต่อ ถามว่าเหงามั้ยก็เหงาแหละครับ ทำไงได้ล่ะ ก็มันเป็นเรื่องที่ชินชาซะแล้ว..
เรื่องนั้นช่างมันก่อน พอดีว่าผมได้พบกับประสบการณ์หนึ่ง เป็นประสบการณ์ที่ผมไม่มีวันลืมและผมจะไม่พบมันอีก...
ตอนนั้นผมอยู่ช่วงม.4 กลับมาจากโรงเรียน ก็เย็นมากแล้วล่ะครับ ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวเพราะนัดเพื่อนไว้จะไปเที่ยวแถวบางแสน เพราะว่าพรุ้งนี้เป็นวันเสาร์ครับก็เลยจะไปกินเหล้ากินเบียร์กันสนุกๆ ตอนนั้นผมกำลังจะเปิดประตู แล้วมีเสียงดัง "จุ๊ๆ" บนหัวผมครับ
ผมก็มองขึ้นไปเป็นจิ้งจกตัวดำๆเกาะอยู่หัวประตูบ้าน
ปกติตาจิ้งจกจะเป็นสีดำใช่มั้ยครับ แต่แว๊บแรกที่ผมมอง มันเป็นสีแดงชัดมาก ผมก็กะพริบตาทีมันก็เป็นสีดำแล้วครับ เลยคิดว่าตัวเองหลอนไป เพราะเมื่อก่อนสมัยอยู่ที่ใต้กับยาย ท่านชอบเล่าให้ฟังบ่อยๆเกี่ยวกับความเชื่อคนโบราณ คำเตือนที่คนเฒ่าคนแก่ชอบเตือนเด็กๆกันน่ะครับ อย่างเช่น "จิ้งจกทักห้ามออกจากบ้าน" นี่แหละครับ โบราณท่านว่า "จิ้งจกทักห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด เพราะจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น" มันก็แค่ความเชื่องมงาย ผมก็เลยออกจากบ้านไป แล้วคืนนั้นพวกผมก็รถชนครับ....
จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นรู้สึกตัวอีกทีผมกมานอนอยู่โรงพยาบาลแล้ว ผมได้อยู่ห้องคู่กับเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันครับ พวกผมไปกันสี่คน คือ ผม พอร์ช น้ำส้ม และก็ไอซ์ ผมได้อยู่ห้องเดียวกับไอซ์ รายนั้นรู้สึกตัวตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว มันเล่าให้ผมฟังว่า ก่อนรถจะคว่ำ มันเจอหมาตัวดำวิ่งตัดหน้ารถ ด้วยความตกใจมันเลยหักรถหลบแล้วพุ้งใส่เกาะกลางไปชนกับรถสิบล้อที่วิ่งมาจากอีกทางพอดี มันบอกว่าตอนนั้นมันพยายามหักเลี้ยวไปทางซ้ายแล้ว แต่มันบิดพวงมาลัยรถกลับไม่ได้ แล้วรถก็พุ้งไปอย่างที่ว่า ตอนนี้พอร์ชกับน้ำส้มเหมือนจะไม่บาดเจ็บหนักเท่าผมกับไอซ์ ไอซ์มันหัวแตกแล้วก็ใส่เฝือกที่คอและขาขวา ส่วนผมที่นั่งหน้าด้วยกันกับมันก็แขนซ้ายหักใส่เฝือกด้วยเหมือนกัน แต่ก็ยังน้อยกว่าไอซ์ล่ะนะ มันก็ถามผมว่าเป็นไงบ้าง ผมก็บอกก็อย่างที่เห็น แล้วแม่รู้ยังว่าเข้าโรงพยาบาล มันก็บอกว่ารู้แล้ว เดี๊ยวก็คงมา แล้วผมกับมันก็นอนคุยกันจนผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา
จนประมาณเที่ยงกว่าๆ ผมก็สะดุ้งตื่นขึ้น รู้สึกตัวหนักๆชอบกล แถมเหงื่อไหลทั่วตัว ทั้งๆที่แอร์ก็เปิด.. ผมหันไปหาไอซ์ แต่มันไม่อยู่ที่เตียง สงสัยไปเข้าห้องน้ำมั้ง? ตอนนั้นพอร์ชกับน้ำส้มก็เข้ามาเยี่ยมครับ และก็มีผู้หญิงวัยกลางคนอายุน่าจะประมาณสามสิบกว่าๆมาด้วย ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นแม่ของไอซ์ ทุกคนดูหดหู่มาก แต่งตัวเสื้อผ้าสีดำ ตอนนั้นผมก็แปลกใจครับ สักพักแม่ไอซ์ก็เดินไปที่เตียงที่ไอซ์นอน เหมือนแม่ไอซ์จะร้องไห้ด้วย ผมกำลังจะทักสวัสดีแม่ พอร์ชก็เดินมาที่ข้างเตียงผมครับ มันก็ถามว่าผมเป็นไงบ้าง ผมก็ตอบมันไปครับ ตาก็หันไปมองแม่ไอซ์ เธอกำลังเก็บเสื้อผ้าให้ลูกของเธออยู่ ไอซ์มันก็ยังไม่ออกมาจากห้องน้ำสักทีครับ ผมก็เลยบอกให้พอร์ชไปเรียกไอซ์ที่ห้องน้ำหน่อยว่าแม่มันมา พอผมบอกไปเท่านั้นแหละ.. พอร์ชกับน้ำส้มนี่หน้าซีดทันทีเลยครับ มันก็ถามผมว่า "เมื่อกี้ว่าไงนะ..?" ผมก็บอกว่าให้ไปเรียกไอซ์มันเข้าห้องน้ำไปตอนที่พวกแกมา
พอร์ชกับน้ำส้มก็มองหน้ากันสักพักล่ะครับ แล้วมันก็ถามผมว่าผมฟื้นมาตั้งแต่กี่โมง ผมก็บอกไปว่าประมาณ แปดโมงแต่ไอซ์มันฟื้นก่อน แล้วก็คุยกันจนพวกแกมาเยี่ยม ตอนนั้นแม่ไอซ์ยืนนิ่งครับ พอร์ชก็ด้วย ส่วนน้ำส้มเหมือนจะน้ำตาคลอ เธอเดินเข้ามาจับมือผมครับ แล้วก็หันไปบอกพอร์ชว่า "บอกมันเถอะ.." เมื่อสิ้นประโยคคำพูดพอร์ชที่บอกความจริงกับผม ผมตัวชา.. รู้สึกหัวหมุนจนอยากจะอ้วก มันไม่จริง.. ก็ผมยังคุยกับมันก่อนเผลอหลับนี่ เรายังคุยกันอยู่เลยนะ... พอร์ชมันบอกว่า ไอซ์เสียแล้วตั้งแต่ตั้งแต่เมื่อคืน!? แล้วที่ผมคุยด้วยเมื่อกี้มันใคร? หรือว่าหัวจะกระแทกจนเห็นภาพหลอน มโนไปเอง? ผมพูดไม่ออก พอร์ชกับน้ำส้มก็เงียบ ส่วนแม่ไอซ์ก็ร้องห่มร้องไห้ขึ้นมา ในตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจะเริ่มอะไรหรือจะทำยังไงหลังจากนี้ดี
@บ้านเบียร์
...วันต่อมาผมก็กลับมาอยู่บ้านครับ จนถึงตอนนี้ผมยังไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ผมได้เจอ ลึกๆในใจแล้วผมยังคิดว่าไอซ์ยังไม่ตาย ความรู้สึกตอนที่ฟื้นขึ้นมาแล้วได้คุยกับไอซ์ ผมมั่นใจว่าไม่ใช่ฝัน 100℅ แต่วันนี้ผมต้องไปงานศพไอซ์.. มันก็เป็นความจริง ความจริงที่ว่าคืนนี้ผมจะไปงานศพไอซ์ ตอนนี้ก็สิบโมงอยู่ กว่าพวกพอร์ชมารับไปงานศพก็ห้าโมงเย็น ผมจึงงีบหลับเอาแรง แล้วผมก็ฝันถึงไอซ์ มันมาสภาพที่น่าจะเรียกว่าตอนที่มันตาย เลือดไหลออกมาจากหัวที่ห้อยหักจากลำคอ แขนขวาแลบิดเบี๊ยว ขาขวาที่หักก็ลากมากับพื้น เลือดไหลมาตามทางที่มันคลาน ปากมันพะหงาบๆพูดอะไรซักอย่าง ฟังไม่ได้ศัพท์ "..เชื่อ" "เตือน...." พูดอะไร จะบอกอะไรกู?? แล้วไอซ์ก็พุ้งเข้ามาใส่ผม!!
ผมก็ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตอนนี้สี่โมงกว่าแล้ว จึงรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า มันไม่ง่ายเลยกับการใช้ชีวิตโดยที่ใส่เฟือกที่แขน เสียงกริ้งดังขึ้นเหมือนพอร์ชจะมารับแล้ว ผมก็รีบเดินไปเปิดประตู พอมือผมจับลูกบิด "จุ๊ๆๆๆ..." จิ้งจกมันทักผมอีกแล้ว บนหัวผมเหมือนเดิมผมเหงยหน้ามองขึ้นไป ตัวมันเป็นสีดำสนิทแแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ตาสีแดงสดชัดมาก คร่าวนี้ผมกระพริบตามองอีกที มันก็ยังเป็นสีแดง และไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า? แต่ผมรู้สึกว่ามันจ้องมาที่ผม ขนลุกสู้ ใจสั่น หายใจระรัว ผมรู้สึกกลัวจิ้งจกตัวนี้ กลัวมากขึ้นเลื่อยๆ ผมรีบหลบตามันแล้วออกจากบ้าน จะยังไงก็ได้ขอแค่อย่าเจอจิ้งจกตัวนั้นพอ... ตอนนั้นผมได้คิดแต่ว่าเพราะอะไรกัน.. หรือมันคือความบังเอิญที่ผมได้เจอกับเรื่องแบบนี้? ตั้งแต่ผมเดินออกมาจากประตูบ้าน ผมยังได้ยินเสียงจิ้งจกร้องทักไม่หยุด และเหมือนกับเสียงนั้นมันดังก้องไปทั่วในหูของผม... งมงาย คิดมากน่า ถ้าเกิดเชื่อเรื่องพวกนี้ก็ไม่เป็นอันต้องทำกินอะไรแล้ว ถ้าจะไปโรงเรียแล้วจิ้งจกทักขึ้นมา ก็ต้องไม่ไปงั้นเหรอ หรือออกไปทำงาน ออกไปซื้อข้าว ออกไปซื้อของ ออกไปเที่ยว บ้าบอน้า เรื่องบังเอิญทั้งนั้น คนสมัยก่อนก็ช่างคิดขึ้นมาได้เฮอะ ห้ามตัดเล็บวันพุธ อายุจะสั้นลง กูตัดมาตั้งแต่เด็กกูก็ไม่เห็นจะตาย กลางคืนได้ยินเสียงคนเรียกอย่าตอบกลับ อยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยจะได้ยิน เชื่องมงาย บ้าบอสิ้นดี!! ผมมาถึงงานศพไอซ์แล้ว ก็เข้าไปไหว้ที่หน้าศพแล้วก็ไปอยู่กับพวกพอร์ช ผมรู้สึกใจหายมากครับที่เสียเพื่อนสนิทคนนี้ไป ทั้งๆที่เราก็รู้จักกันตั้งแต่สมัยประถม หมอนี้มันคอยช่วยเหลือผมเวลาที่ผมต้องการเสมอ เพราะอยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยเหงาล่ะมั้ง แต่ก็เพราะได้ไอซ์มาคอยเล่นที่บ้านเป็นปนะจำทำให้ผมไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แต่มาวันนี้เพื่อคนนี้ของผมก็จากไปแล้ว และจะไม่มีวันกลับมาอีก....
ตอนนั้นที่พระเริ่มสวดศพนั้นเอง หางตาของผมก็เหมือนมีอะไรวิ่งผ่านไป ผมหันออกไปนอกศาลาเจอกับหมาตัวดำจ้องมาทางนี้อยู่ มันไม่ขยับเขยื่อน นิ่ง... นิ่งเกินไป แล้วมันห็หอนออกมา ผมรีบชักหน้ากลับมาแล้วรูปไอซ์ก็ตกพื้นแตก ตอนนี้เสียงเจ๊าะแจ๊ะของแขกในงานก็เงียบครับ พระก็หยุดสวดสักพักแล้วสวดต่อ พ่อไอซ์ไปเก็บรูปไอซ์ขึ้นมาครับ แล้วจู่ๆก็มีลมแรงพัดเข้ามาทำให้ที่ตั้งรูปล่นใส่พ่อไอซ์ พวงหลีดก็ตกลงมา คร่าวนี้ผมว่าไม่ธรรมดาแล้ว ทุกคนในงานเริ่มขวัญเสียกัน ผมเองก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองอยู่อย่างนั้นแต่ก็พร้อมที่จะออกจากงานทันที ตอนนี้ไอ่พอร์ชก็หยิบกุญแจมอไซต์ไว้ในมือแล้วเหมือนกัน
"กรี๊ดดดดดดดดด!!!"
เสียงน้ำส้มร้องลั่นมาจากครัว ผมกับไอ่พอร์ชรีบวิ่งไปทันที น้ำส้มตัวสั่นระลิกนั้งจั้มอ้าวอยู่ในครัว ข้าวของถ้วยจานถาดล่นที่พื้นระเนระนาด พอร์ชถามน้ำส้มว่าเกิดไรขึ้น น้ำส้มพูดเสียงสั่น บอกว่ากำลังจะยกถาดน้ำไปเสริฟข้างนอก จู่ๆก็มีอะไรก็ไม่รู้ดำๆวิ่งผ่านน้ำส้มแล้วข้าวของก็ตกลงพื้นอย่างที่เห็น ไอ่พอร์ชก็เดินเข้าไปดูก็ไม่พบอะไร ตอนนั้นผมคิดแค่ว่าอยากกลับบ้านครับ อยากกลับบ้านมาก น้ำส้มก็เหมือนกัน ตอนนี้กอดผมแน่น เธอเองก็บอกเรากลับกันเถอะ ผมหันไปมองหน้าไอ่พอร์ชมันก็ผยักหน้า เป็นอันตกลงว่าคืนนี้เรามาแค่นี้พอ น้ำส้มกลับกับน้าสาวที่มาด้วย ส่วนผมก็ซ้อนท้ายรถไอ่พอร์ชกลับ ก่อนกลับพวกเราก็ลาพ่อแม่ไอซ์กันก็บอกว่าเดี๊ยวพรุ้งนี้มาช่วยงาน ท่านก็ขอบคุณพวกเราแล้วเราก็ออกจากวัด
ระหว่างทางจากวัดไปถึงถนนเส้นหลักรอบทางเป็นดงหญ้ารกๆ มืดๆ มีบ้านคนบ้างเป็นจุดๆ ทำให้ผมอุ่นใจสักเล็กน้อยครับ ผมกับไอ่พอร์ชไม่พูดไม่จาตั้งแต่ออกจากวัด ผมเองก็ไม่อยากพูดอะไรไป เพราะคิดว่ามันไม่น่าใช่เวลา แล้วพอร์ชมันก็พูดขึ้นมาว่า "คิดว่าไง" ผมก็เงียบสักแปปล่ะครับแล้วก็ "กูก็ไม่รู้ว่ะ แต่ว่ากูรู้สึกไม่ดี.." "อืม..กูก็ด้วย แต่ว่ารู้มั้ย.." "อะไรวะ?" ผมใจไม่ดีแล้วในตอนนั้น "ตอนที่พระสวด กูรู้สึกเหมือนมีคนจ้องกูว่ะ..." ผมเย็นวูบทันทีที่มันพูดจบ ผมรู้ว่าอะไรที่ทำให้พอร์ชรู้สึกอย่างนั้น ..ใช่ครับ หมาตัวดำหน้าศาลาตัวนั้น ผมคิดว่าต้องใช่แน่ๆ มันไม่ได้มองมาทางที่ผมแต่เป็นไอ่พอร์ช แล้วจู่ๆก็มีหมากระโดดตัดหน้ามอไซด์ พอร์ชตกใจมันหักหัวรถทันทีแล้วก็...
โคร่ม!!!
แขนซ้ายผมกระแทกกับพื้นอย่างจังจนเฝือกแตก หัวก็กระแทกกับพื้น ความเจ็บปวด แล่นไปทั่วร่าง ผมไม่สลบ ยังคงนอนดิ้นอยู่อย่างนั้น ได้ยินแต่เสียงโอดโอยตัวเอง ผมเอามือจับหัว มีเลือดไหลออกมาแล้วก็เหมือนมีเศษเนื้อเล็กๆติดมือมาด้วย ผมพยายามพยุงตัวขึ้น แต่ความเจ็บที่แขนซ้ายมันทรมานมาก จนผมไม่อยากจะลุก ตอนนี้เลือดไหลนองเฝือก ตรงที่แตกก็เหมือนจะเห็นอะไรขาวๆ... กระดูหักทะลุเนื้อออกมา! ผมพยายามจะร้องขอความช่วยเหลือก็ร้องไม่ออก แว๊บหนึ่งผมก็นึกถึงพอร์ช.. ผมเห็นมันนอนคว่ำอยู่ใกล้ๆมอไซต์ มันไม่ขยับเลยครับ ผมก็ใจไม่ดีแล้ว ผมเค่นเสียงจะเรียกเพื่อน ก็เรียกไม่ได้เหมือนกับมีอะไรจุกอยู่ในคอ เจ็บมาก น้ำตาผมอาบแก้ม ใครก็ได้..ใครก็ได้ช่วยผม..ช่วยพวกเราด้วย ผมกระ

กระสนเอาแขนข้างที่ไม่หักดันตัวเองให้คลานเข้าไปใกล้เพื่อน ความเจ็บปวดก็ยิ่งทวีรุนแรงมากขึ้น อีกแค่นิดเดียวเพื่อน กูจะถึงแล้ว..! และทุกอย่างก็มืดลง....
.....ผมฝันเห็นไอซ์อีกครั้ง.. แต่คราวนี้ไอซ์มาในสภาพปกติแต่ผิวขาวซีดเหมือนศพ ผมได้เห็นใบหน้าเพื่อนผมชัดๆอีกครั้ง สีหน้ามันตอนนี้ดูเศร้ามาก ผมจะถาม แต่ไม่มีเสียงออกมา ผมพยายามจะพูด แต่พูดไม่ได้ แล้วไอซ์ก็พูดว่า "เชื่อเถอะ..กูเตือนแล้วนะ.." ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในห้องโรงพยาบาลอีกแล้ว น้ำส้มนอนอยู่ที่โซฟาสำหรับญาติ พอร์ชก็ยืนอยู่ตรงนั้น ผมเห็นมันผมก็ยิ้มให้ มันก็ยิ้มให้ผมกลับ แล้วก็หันหลังจะเดินไป ผมจะเรียกมัน แต่เสียงไม่ยอมออก ตอนนี้ที่คอผมใส่เฝือกไว้อยู่ แต่ว่าพยายามจะเรียกก็ไม่มีเสียงออกมา แล้วไอ่พอร์ชก็หายไป "ไอ้พอร์ช!!!" ผมสะดุ้งตื่นพร้อมเรียกชื่อไอ้พอร์ช เจ็บแปล๊บไปทั่วตัว และหนักสุดที่แขนซ้าย น้ำส้มเดินมาหาผมที่เตียง แล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด "เบียร์ยังไม่ตาย เบียร์ยังไม่ตาย ฮื่อๆๆ" เมื้อกี้ผมฝันไปงั้นเหรอ.. "น้ำส้ม ไอ้พอร์ชล่ะ.." เธอร้องไห้หนักกว่าเดิม ทำให้ผมตัวชาทันที "หมายความว่าไง? น้ำส้ม! บอกมาพอร์ชมันเป็นอะไร!? น้ำส้ม!!" เธอสะอื้นไห้ แล้วก็ค่อยๆพูดกับผม "เบียร์....ฟังดีๆนะ พอร์ชเค้า....จากไปแล้ว..ฮื่อๆๆๆ" พูดอะไรไม่ออก ตอนนี้ทุกอย่างว่างเปล่า ทั้งในตัวผมและก็ภายนอก ผมเริ่มไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของน้ำส้ม และรอบๆตัวก็เริ่มกลายเป็นสีเทา... แล้วผมก็ได้ยิน เสียงของใครบางคนดังอยู่ในหัว "...จะเชื่อรึยัง..."
เท่านี้ก่อนแล้วจะมาต่อนะครับ
จิ้งจกทัก
พ่อแม่ผมไปทำงานที่ต่างประเทศ นานๆทีจะกลับมาและก็อยู่แค่แปปๆก็กลับไปทำงานต่อ ถามว่าเหงามั้ยก็เหงาแหละครับ ทำไงได้ล่ะ ก็มันเป็นเรื่องที่ชินชาซะแล้ว..
เรื่องนั้นช่างมันก่อน พอดีว่าผมได้พบกับประสบการณ์หนึ่ง เป็นประสบการณ์ที่ผมไม่มีวันลืมและผมจะไม่พบมันอีก...
ตอนนั้นผมอยู่ช่วงม.4 กลับมาจากโรงเรียน ก็เย็นมากแล้วล่ะครับ ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวเพราะนัดเพื่อนไว้จะไปเที่ยวแถวบางแสน เพราะว่าพรุ้งนี้เป็นวันเสาร์ครับก็เลยจะไปกินเหล้ากินเบียร์กันสนุกๆ ตอนนั้นผมกำลังจะเปิดประตู แล้วมีเสียงดัง "จุ๊ๆ" บนหัวผมครับ
ผมก็มองขึ้นไปเป็นจิ้งจกตัวดำๆเกาะอยู่หัวประตูบ้าน
ปกติตาจิ้งจกจะเป็นสีดำใช่มั้ยครับ แต่แว๊บแรกที่ผมมอง มันเป็นสีแดงชัดมาก ผมก็กะพริบตาทีมันก็เป็นสีดำแล้วครับ เลยคิดว่าตัวเองหลอนไป เพราะเมื่อก่อนสมัยอยู่ที่ใต้กับยาย ท่านชอบเล่าให้ฟังบ่อยๆเกี่ยวกับความเชื่อคนโบราณ คำเตือนที่คนเฒ่าคนแก่ชอบเตือนเด็กๆกันน่ะครับ อย่างเช่น "จิ้งจกทักห้ามออกจากบ้าน" นี่แหละครับ โบราณท่านว่า "จิ้งจกทักห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด เพราะจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น" มันก็แค่ความเชื่องมงาย ผมก็เลยออกจากบ้านไป แล้วคืนนั้นพวกผมก็รถชนครับ....
จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นรู้สึกตัวอีกทีผมกมานอนอยู่โรงพยาบาลแล้ว ผมได้อยู่ห้องคู่กับเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันครับ พวกผมไปกันสี่คน คือ ผม พอร์ช น้ำส้ม และก็ไอซ์ ผมได้อยู่ห้องเดียวกับไอซ์ รายนั้นรู้สึกตัวตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว มันเล่าให้ผมฟังว่า ก่อนรถจะคว่ำ มันเจอหมาตัวดำวิ่งตัดหน้ารถ ด้วยความตกใจมันเลยหักรถหลบแล้วพุ้งใส่เกาะกลางไปชนกับรถสิบล้อที่วิ่งมาจากอีกทางพอดี มันบอกว่าตอนนั้นมันพยายามหักเลี้ยวไปทางซ้ายแล้ว แต่มันบิดพวงมาลัยรถกลับไม่ได้ แล้วรถก็พุ้งไปอย่างที่ว่า ตอนนี้พอร์ชกับน้ำส้มเหมือนจะไม่บาดเจ็บหนักเท่าผมกับไอซ์ ไอซ์มันหัวแตกแล้วก็ใส่เฝือกที่คอและขาขวา ส่วนผมที่นั่งหน้าด้วยกันกับมันก็แขนซ้ายหักใส่เฝือกด้วยเหมือนกัน แต่ก็ยังน้อยกว่าไอซ์ล่ะนะ มันก็ถามผมว่าเป็นไงบ้าง ผมก็บอกก็อย่างที่เห็น แล้วแม่รู้ยังว่าเข้าโรงพยาบาล มันก็บอกว่ารู้แล้ว เดี๊ยวก็คงมา แล้วผมกับมันก็นอนคุยกันจนผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา
จนประมาณเที่ยงกว่าๆ ผมก็สะดุ้งตื่นขึ้น รู้สึกตัวหนักๆชอบกล แถมเหงื่อไหลทั่วตัว ทั้งๆที่แอร์ก็เปิด.. ผมหันไปหาไอซ์ แต่มันไม่อยู่ที่เตียง สงสัยไปเข้าห้องน้ำมั้ง? ตอนนั้นพอร์ชกับน้ำส้มก็เข้ามาเยี่ยมครับ และก็มีผู้หญิงวัยกลางคนอายุน่าจะประมาณสามสิบกว่าๆมาด้วย ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นแม่ของไอซ์ ทุกคนดูหดหู่มาก แต่งตัวเสื้อผ้าสีดำ ตอนนั้นผมก็แปลกใจครับ สักพักแม่ไอซ์ก็เดินไปที่เตียงที่ไอซ์นอน เหมือนแม่ไอซ์จะร้องไห้ด้วย ผมกำลังจะทักสวัสดีแม่ พอร์ชก็เดินมาที่ข้างเตียงผมครับ มันก็ถามว่าผมเป็นไงบ้าง ผมก็ตอบมันไปครับ ตาก็หันไปมองแม่ไอซ์ เธอกำลังเก็บเสื้อผ้าให้ลูกของเธออยู่ ไอซ์มันก็ยังไม่ออกมาจากห้องน้ำสักทีครับ ผมก็เลยบอกให้พอร์ชไปเรียกไอซ์ที่ห้องน้ำหน่อยว่าแม่มันมา พอผมบอกไปเท่านั้นแหละ.. พอร์ชกับน้ำส้มนี่หน้าซีดทันทีเลยครับ มันก็ถามผมว่า "เมื่อกี้ว่าไงนะ..?" ผมก็บอกว่าให้ไปเรียกไอซ์มันเข้าห้องน้ำไปตอนที่พวกแกมา
พอร์ชกับน้ำส้มก็มองหน้ากันสักพักล่ะครับ แล้วมันก็ถามผมว่าผมฟื้นมาตั้งแต่กี่โมง ผมก็บอกไปว่าประมาณ แปดโมงแต่ไอซ์มันฟื้นก่อน แล้วก็คุยกันจนพวกแกมาเยี่ยม ตอนนั้นแม่ไอซ์ยืนนิ่งครับ พอร์ชก็ด้วย ส่วนน้ำส้มเหมือนจะน้ำตาคลอ เธอเดินเข้ามาจับมือผมครับ แล้วก็หันไปบอกพอร์ชว่า "บอกมันเถอะ.." เมื่อสิ้นประโยคคำพูดพอร์ชที่บอกความจริงกับผม ผมตัวชา.. รู้สึกหัวหมุนจนอยากจะอ้วก มันไม่จริง.. ก็ผมยังคุยกับมันก่อนเผลอหลับนี่ เรายังคุยกันอยู่เลยนะ... พอร์ชมันบอกว่า ไอซ์เสียแล้วตั้งแต่ตั้งแต่เมื่อคืน!? แล้วที่ผมคุยด้วยเมื่อกี้มันใคร? หรือว่าหัวจะกระแทกจนเห็นภาพหลอน มโนไปเอง? ผมพูดไม่ออก พอร์ชกับน้ำส้มก็เงียบ ส่วนแม่ไอซ์ก็ร้องห่มร้องไห้ขึ้นมา ในตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจะเริ่มอะไรหรือจะทำยังไงหลังจากนี้ดี
@บ้านเบียร์
...วันต่อมาผมก็กลับมาอยู่บ้านครับ จนถึงตอนนี้ผมยังไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ผมได้เจอ ลึกๆในใจแล้วผมยังคิดว่าไอซ์ยังไม่ตาย ความรู้สึกตอนที่ฟื้นขึ้นมาแล้วได้คุยกับไอซ์ ผมมั่นใจว่าไม่ใช่ฝัน 100℅ แต่วันนี้ผมต้องไปงานศพไอซ์.. มันก็เป็นความจริง ความจริงที่ว่าคืนนี้ผมจะไปงานศพไอซ์ ตอนนี้ก็สิบโมงอยู่ กว่าพวกพอร์ชมารับไปงานศพก็ห้าโมงเย็น ผมจึงงีบหลับเอาแรง แล้วผมก็ฝันถึงไอซ์ มันมาสภาพที่น่าจะเรียกว่าตอนที่มันตาย เลือดไหลออกมาจากหัวที่ห้อยหักจากลำคอ แขนขวาแลบิดเบี๊ยว ขาขวาที่หักก็ลากมากับพื้น เลือดไหลมาตามทางที่มันคลาน ปากมันพะหงาบๆพูดอะไรซักอย่าง ฟังไม่ได้ศัพท์ "..เชื่อ" "เตือน...." พูดอะไร จะบอกอะไรกู?? แล้วไอซ์ก็พุ้งเข้ามาใส่ผม!!
ผมก็ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตอนนี้สี่โมงกว่าแล้ว จึงรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า มันไม่ง่ายเลยกับการใช้ชีวิตโดยที่ใส่เฟือกที่แขน เสียงกริ้งดังขึ้นเหมือนพอร์ชจะมารับแล้ว ผมก็รีบเดินไปเปิดประตู พอมือผมจับลูกบิด "จุ๊ๆๆๆ..." จิ้งจกมันทักผมอีกแล้ว บนหัวผมเหมือนเดิมผมเหงยหน้ามองขึ้นไป ตัวมันเป็นสีดำสนิทแแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ตาสีแดงสดชัดมาก คร่าวนี้ผมกระพริบตามองอีกที มันก็ยังเป็นสีแดง และไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า? แต่ผมรู้สึกว่ามันจ้องมาที่ผม ขนลุกสู้ ใจสั่น หายใจระรัว ผมรู้สึกกลัวจิ้งจกตัวนี้ กลัวมากขึ้นเลื่อยๆ ผมรีบหลบตามันแล้วออกจากบ้าน จะยังไงก็ได้ขอแค่อย่าเจอจิ้งจกตัวนั้นพอ... ตอนนั้นผมได้คิดแต่ว่าเพราะอะไรกัน.. หรือมันคือความบังเอิญที่ผมได้เจอกับเรื่องแบบนี้? ตั้งแต่ผมเดินออกมาจากประตูบ้าน ผมยังได้ยินเสียงจิ้งจกร้องทักไม่หยุด และเหมือนกับเสียงนั้นมันดังก้องไปทั่วในหูของผม... งมงาย คิดมากน่า ถ้าเกิดเชื่อเรื่องพวกนี้ก็ไม่เป็นอันต้องทำกินอะไรแล้ว ถ้าจะไปโรงเรียแล้วจิ้งจกทักขึ้นมา ก็ต้องไม่ไปงั้นเหรอ หรือออกไปทำงาน ออกไปซื้อข้าว ออกไปซื้อของ ออกไปเที่ยว บ้าบอน้า เรื่องบังเอิญทั้งนั้น คนสมัยก่อนก็ช่างคิดขึ้นมาได้เฮอะ ห้ามตัดเล็บวันพุธ อายุจะสั้นลง กูตัดมาตั้งแต่เด็กกูก็ไม่เห็นจะตาย กลางคืนได้ยินเสียงคนเรียกอย่าตอบกลับ อยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยจะได้ยิน เชื่องมงาย บ้าบอสิ้นดี!! ผมมาถึงงานศพไอซ์แล้ว ก็เข้าไปไหว้ที่หน้าศพแล้วก็ไปอยู่กับพวกพอร์ช ผมรู้สึกใจหายมากครับที่เสียเพื่อนสนิทคนนี้ไป ทั้งๆที่เราก็รู้จักกันตั้งแต่สมัยประถม หมอนี้มันคอยช่วยเหลือผมเวลาที่ผมต้องการเสมอ เพราะอยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยเหงาล่ะมั้ง แต่ก็เพราะได้ไอซ์มาคอยเล่นที่บ้านเป็นปนะจำทำให้ผมไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แต่มาวันนี้เพื่อคนนี้ของผมก็จากไปแล้ว และจะไม่มีวันกลับมาอีก....
ตอนนั้นที่พระเริ่มสวดศพนั้นเอง หางตาของผมก็เหมือนมีอะไรวิ่งผ่านไป ผมหันออกไปนอกศาลาเจอกับหมาตัวดำจ้องมาทางนี้อยู่ มันไม่ขยับเขยื่อน นิ่ง... นิ่งเกินไป แล้วมันห็หอนออกมา ผมรีบชักหน้ากลับมาแล้วรูปไอซ์ก็ตกพื้นแตก ตอนนี้เสียงเจ๊าะแจ๊ะของแขกในงานก็เงียบครับ พระก็หยุดสวดสักพักแล้วสวดต่อ พ่อไอซ์ไปเก็บรูปไอซ์ขึ้นมาครับ แล้วจู่ๆก็มีลมแรงพัดเข้ามาทำให้ที่ตั้งรูปล่นใส่พ่อไอซ์ พวงหลีดก็ตกลงมา คร่าวนี้ผมว่าไม่ธรรมดาแล้ว ทุกคนในงานเริ่มขวัญเสียกัน ผมเองก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองอยู่อย่างนั้นแต่ก็พร้อมที่จะออกจากงานทันที ตอนนี้ไอ่พอร์ชก็หยิบกุญแจมอไซต์ไว้ในมือแล้วเหมือนกัน
"กรี๊ดดดดดดดดด!!!"
เสียงน้ำส้มร้องลั่นมาจากครัว ผมกับไอ่พอร์ชรีบวิ่งไปทันที น้ำส้มตัวสั่นระลิกนั้งจั้มอ้าวอยู่ในครัว ข้าวของถ้วยจานถาดล่นที่พื้นระเนระนาด พอร์ชถามน้ำส้มว่าเกิดไรขึ้น น้ำส้มพูดเสียงสั่น บอกว่ากำลังจะยกถาดน้ำไปเสริฟข้างนอก จู่ๆก็มีอะไรก็ไม่รู้ดำๆวิ่งผ่านน้ำส้มแล้วข้าวของก็ตกลงพื้นอย่างที่เห็น ไอ่พอร์ชก็เดินเข้าไปดูก็ไม่พบอะไร ตอนนั้นผมคิดแค่ว่าอยากกลับบ้านครับ อยากกลับบ้านมาก น้ำส้มก็เหมือนกัน ตอนนี้กอดผมแน่น เธอเองก็บอกเรากลับกันเถอะ ผมหันไปมองหน้าไอ่พอร์ชมันก็ผยักหน้า เป็นอันตกลงว่าคืนนี้เรามาแค่นี้พอ น้ำส้มกลับกับน้าสาวที่มาด้วย ส่วนผมก็ซ้อนท้ายรถไอ่พอร์ชกลับ ก่อนกลับพวกเราก็ลาพ่อแม่ไอซ์กันก็บอกว่าเดี๊ยวพรุ้งนี้มาช่วยงาน ท่านก็ขอบคุณพวกเราแล้วเราก็ออกจากวัด
ระหว่างทางจากวัดไปถึงถนนเส้นหลักรอบทางเป็นดงหญ้ารกๆ มืดๆ มีบ้านคนบ้างเป็นจุดๆ ทำให้ผมอุ่นใจสักเล็กน้อยครับ ผมกับไอ่พอร์ชไม่พูดไม่จาตั้งแต่ออกจากวัด ผมเองก็ไม่อยากพูดอะไรไป เพราะคิดว่ามันไม่น่าใช่เวลา แล้วพอร์ชมันก็พูดขึ้นมาว่า "คิดว่าไง" ผมก็เงียบสักแปปล่ะครับแล้วก็ "กูก็ไม่รู้ว่ะ แต่ว่ากูรู้สึกไม่ดี.." "อืม..กูก็ด้วย แต่ว่ารู้มั้ย.." "อะไรวะ?" ผมใจไม่ดีแล้วในตอนนั้น "ตอนที่พระสวด กูรู้สึกเหมือนมีคนจ้องกูว่ะ..." ผมเย็นวูบทันทีที่มันพูดจบ ผมรู้ว่าอะไรที่ทำให้พอร์ชรู้สึกอย่างนั้น ..ใช่ครับ หมาตัวดำหน้าศาลาตัวนั้น ผมคิดว่าต้องใช่แน่ๆ มันไม่ได้มองมาทางที่ผมแต่เป็นไอ่พอร์ช แล้วจู่ๆก็มีหมากระโดดตัดหน้ามอไซด์ พอร์ชตกใจมันหักหัวรถทันทีแล้วก็...
โคร่ม!!!
แขนซ้ายผมกระแทกกับพื้นอย่างจังจนเฝือกแตก หัวก็กระแทกกับพื้น ความเจ็บปวด แล่นไปทั่วร่าง ผมไม่สลบ ยังคงนอนดิ้นอยู่อย่างนั้น ได้ยินแต่เสียงโอดโอยตัวเอง ผมเอามือจับหัว มีเลือดไหลออกมาแล้วก็เหมือนมีเศษเนื้อเล็กๆติดมือมาด้วย ผมพยายามพยุงตัวขึ้น แต่ความเจ็บที่แขนซ้ายมันทรมานมาก จนผมไม่อยากจะลุก ตอนนี้เลือดไหลนองเฝือก ตรงที่แตกก็เหมือนจะเห็นอะไรขาวๆ... กระดูหักทะลุเนื้อออกมา! ผมพยายามจะร้องขอความช่วยเหลือก็ร้องไม่ออก แว๊บหนึ่งผมก็นึกถึงพอร์ช.. ผมเห็นมันนอนคว่ำอยู่ใกล้ๆมอไซต์ มันไม่ขยับเลยครับ ผมก็ใจไม่ดีแล้ว ผมเค่นเสียงจะเรียกเพื่อน ก็เรียกไม่ได้เหมือนกับมีอะไรจุกอยู่ในคอ เจ็บมาก น้ำตาผมอาบแก้ม ใครก็ได้..ใครก็ได้ช่วยผม..ช่วยพวกเราด้วย ผมกระ
.....ผมฝันเห็นไอซ์อีกครั้ง.. แต่คราวนี้ไอซ์มาในสภาพปกติแต่ผิวขาวซีดเหมือนศพ ผมได้เห็นใบหน้าเพื่อนผมชัดๆอีกครั้ง สีหน้ามันตอนนี้ดูเศร้ามาก ผมจะถาม แต่ไม่มีเสียงออกมา ผมพยายามจะพูด แต่พูดไม่ได้ แล้วไอซ์ก็พูดว่า "เชื่อเถอะ..กูเตือนแล้วนะ.." ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในห้องโรงพยาบาลอีกแล้ว น้ำส้มนอนอยู่ที่โซฟาสำหรับญาติ พอร์ชก็ยืนอยู่ตรงนั้น ผมเห็นมันผมก็ยิ้มให้ มันก็ยิ้มให้ผมกลับ แล้วก็หันหลังจะเดินไป ผมจะเรียกมัน แต่เสียงไม่ยอมออก ตอนนี้ที่คอผมใส่เฝือกไว้อยู่ แต่ว่าพยายามจะเรียกก็ไม่มีเสียงออกมา แล้วไอ่พอร์ชก็หายไป "ไอ้พอร์ช!!!" ผมสะดุ้งตื่นพร้อมเรียกชื่อไอ้พอร์ช เจ็บแปล๊บไปทั่วตัว และหนักสุดที่แขนซ้าย น้ำส้มเดินมาหาผมที่เตียง แล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด "เบียร์ยังไม่ตาย เบียร์ยังไม่ตาย ฮื่อๆๆ" เมื้อกี้ผมฝันไปงั้นเหรอ.. "น้ำส้ม ไอ้พอร์ชล่ะ.." เธอร้องไห้หนักกว่าเดิม ทำให้ผมตัวชาทันที "หมายความว่าไง? น้ำส้ม! บอกมาพอร์ชมันเป็นอะไร!? น้ำส้ม!!" เธอสะอื้นไห้ แล้วก็ค่อยๆพูดกับผม "เบียร์....ฟังดีๆนะ พอร์ชเค้า....จากไปแล้ว..ฮื่อๆๆๆ" พูดอะไรไม่ออก ตอนนี้ทุกอย่างว่างเปล่า ทั้งในตัวผมและก็ภายนอก ผมเริ่มไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของน้ำส้ม และรอบๆตัวก็เริ่มกลายเป็นสีเทา... แล้วผมก็ได้ยิน เสียงของใครบางคนดังอยู่ในหัว "...จะเชื่อรึยัง..."
เท่านี้ก่อนแล้วจะมาต่อนะครับ