เราจะพยายามให้สั้นๆนะคะ คือ เราบินไปฟิลิปปินส์มา เมื่อสุดสัปดาห์นี่เอง ไปวันที่ 17 และ กลับมาเมื่อวาน 20 พ.ย.
เราไม่เคยไปฟิลิปปินส์มาก่อน รอบนี้เป็นรอบแรกที่เราจะต้องบินไป เราต้องบินไปร่วมประชุม และความที่ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ไม่ปลอดภัยนัก เราเลยดึงคุณแฟนของเราไปด้วย
อย่างน้อยๆ ถ้ามีเขาเดินทางไปด้วย เกิดอะไรขึ้นเราจะได้ยังไม่สติหลุด หรือ โดนจับไปทำอะไรซะก่อน เพราะเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว (มันก็เสี่ยงจริงๆนะ นึกภาพสิ)
เนื่องจากอะไรต่อมิอะไรค่อนข้างฉุกละหุก เราเลยไม่ได้บิน Cebu Pacific แบบที่หลายๆคนบินไป แต่ไปบินกับการบินไทยแทน
ไฟลท์ที่เราได้บินคือไฟลท์ที่ไปลงที่ Ninoy Aquino Airport (NAIA) ซึ่งไปลงที่ Terminal 1 ห่างไกลจากขนส่งสาธารณะ และ เครื่องลง 1 ทุ่ม
ตอนลงจากเครื่อง จะผ่าน ต.ม. ก็วุ่นพอแล้ว เพราะผู้ถือพาสปอร์ตต่างประเทศ ต้องกรอกใบ ต.ม. แต่การบินไทยไม่แจกค้าาาา ลืมรึไงไม่รู้ แต่ไม่แจก ทั้งที่เราบินไปประเทศอื่น ถ้ามีต้องกรอก สายการบินเขาจะแจกบินเครื่องเสมอ งงมากมาย เรากับคุณแฟนนี่งงเป็นไก่ตาแตก เดินวนตรงโซนหน้า ต.ม. ค่ะ เพราะไม่มีใบ จุดที่มีลูกศรว่าแจกใบก็ไม่มีกระดาษแม้แต่แผ่นเดียว คือ WHAT!?
หลังจากได้ใบ ต.ม. มาในที่สุด เราก็เดินโซเซออกมานอก Terminal ตามทางออก แล้วทีนี้มันก็มีให้เลือก
- จุดขึ้น Shuttle Bus สนามบิน (ไป Terminal อื่น)
- จุดรอรถ Grab
- จุดขึ้นแท็กซี่สนามบิน (คันสีเหลือง)
เราอาศัยที่อ่านในพันทิปนี่ล่ะค่ะ เห็นหลายคนบอกว่าแท็กซี่สนามบินเหลืองปลอดภัยอยู่นะ กดมิเตอร์แน่นอน เรทเริ่มที่ 70 เปโซ
เราก็เดินไปคุยกับพนักงานที่เคาเตอร์ บอกว่าจะไปโรงแรมที่ Ortigas เขาก็ออกใบงานให้ตามภาพนี้

หลังจากนั้น เราก็ขึ้นรถแท็กซี่ไปกับคุณแฟน เนื่องจากรีบ อยากไปถึงโรงแรมไวๆ และ ไม่มีแบงค์ย่อย ก็เลยตัดสินใจไปทางด่วน (ค่าทางด่วน 20 เปโซ)
แล้วเราก็สังเกตว่ามันแปลกๆ เพราะ รถวิ่งไปได้ไม่ทันถึง 100 เมตร มิเตอร์พี่ พุ่งไป 300-400 เมตรแล้วววววว
เราก็ตัดสินใจถาม เพราะตัวเลขมันผิดปกติมาก ยังไม่ทันถึงทางด่วน (ในกูเกิ้ลแมพไม่ทันจะถึง 5 กิโล) มิเตอร์พี่พุ่งไป 30+ แล้ว
กะจะบลัฟว่าเคยมา เพราะไม่งั้น โดนแน่ๆ กว่าจะถึงโรงแรมคง 3000 เปโซ...

คิดว่าคงมองไม่ถนัดกัน เพราะมันมืด... แต่ปุ่มบิดจะอยู่เหนือเกียร์ หน้าตาคล้ายๆปุ่มปรับแอร์ มีเลข 0-4 น่ะค่ะ
คนขับคงสังหรณ์แล้วว่าเราเห็น รีบบิดปุ่มบิดใต้มิเตอร์กลับไปที่เรทปกติทันที
แต่ก็ไม่วาย ระหว่างที่ติดรอคิวขึ้นทางด่วน พี่ก็บิดขวาสุด แล้วตัวเลขเวลาที่รถติดก็พุ่งปรู๊ดดดดด แค่ระยะเวลาไม่ถึง 5 นาที ที่เรารอขึ้นทางด่วน ตัวเลขตัวนี้ก็พุ่งไปที่ 40+ แล้ว แล้วก็บิดกลับมาที่เรทรถวิ่งปกติ
เราอ้าปากตั้งท่าจะโวย แต่คุณแฟนเราดึงไว้ บอกว่าอย่ามีเรื่อง
แล้วเราก็หน้ามุ่ยตลอดทาง กว่าจะถึงย่าน Ortigas (เราพักที่ The Exchange Regency Hotel ที่ Ortigas) ซึ่งคุณแฟนเราก็ให้ไปจอดตรงที่ที่คนเยอะๆ ห่างจากโรงแรมมาหน่อย จะได้ไม่โดนทุบหัวก่อน เพราะไม่รู้ว่าคนขับแท็กซี่มันอยากเอาเรื่องไหม
ค่าแท็กซี่ตอนลงจากรถจบเบ็ดเสร็จ ซัดเข้าไปเกือบๆ 1200 เปโซ แทบจะจ้างลิมูซีนส่วนตัวจากสนามบินถึงโรงแรมได้อยู่แล้ว
(ลิมูซีนรับส่งโรงแรมถึงสนามบินที่เป็นบริการของโรงแรมจองให้ ราคา 1500 เปโซ)
อันนี้แท็กซี่ที่เราขึ้น... แท็กซี่เหลืองสนามบินค่ะ โอยยยยย เจ็บใจสุดๆจริงๆค่ะ
เอาเป็นว่านะคะ ใครจะไปฟิลิปปินส์ เราแนะนำว่าโหลด Grab แล้วใช้บริการ Grab ไปเลยค่ะ หรือ Uber ก็ได้!! ดีสุดแล้ว!!!!
ส่วนขากลับสนามบิน เราใช้บริการ Grab ค่าแท็กซี่เบ็ดเสร็จ 271 เปโซ เลยให้เขาไป 280 เปโซ เป็นทิปไปด้วย คนขับคนนี้ดีมาก ขอบคุณใหญ่เลย อวยพรให้โชคดีด้วย
ยังไง ถ้าใครจะไปฟิลิปปินส์แล้วอยากใช้บริการแท็กซี่แบบเรา ขึ้นแท็กซี่สนามบินได้นะคะ แต่แนะนำว่า มองมิเตอร์เสมอ และ ถ้าเป็นไปได้ แตกแบงค์ไว้ค่ะ ไม่งั้นอาจติดแหตัวเองแบบเรานี่ล่ะ
อนึ่ง... ไม่มีใครช่วยคุณได้นะคะ ถ้าโทรศัพท์เป็น Data Plan ล้วนๆแบบเรา เพราะเว็บสถานฑูตไทยในฟิลิปปินส์ ถ้าพยายามเข้าจะเจอ 403 Forbidden ไม่ว่าจะเน็ตโทรศัพท์ปกติ หรือ Wifi โรงแรมเลยค่ะ
ปล. ส่วนคนขับที่โกงเราไป ไม่รู้ว่าจะเป็นไงมั่ง แต่ตอนนี้เรื่องแท็กซี่เหลืองโกงได้น่าจะถึง Department of Tourism Philippines ละ เพราะตอนเรานั่งรอเคาเตอร์สายการบินเปิด มีพนักงานที่เป็นคนของ Department of Tourism Philippine มาขอสำรวจความคิดเห็น เลยคุยบอกเรื่องนี้เขาไป เขาก็ตกใจมากอยู่ เพราะเป็นแท็กซี่ที่ไม่น่าโกงได้จริงๆ แอบเสียดายที่ไม่ได้ไปคุยกับตัวแทนของ Department of Tourism Philippine ที่มาเป็นตัวแทนตัดริบบิ้นเปิดงาน ไม่งั้นคงโล่งกว่านี้
ปล2. เราเล่าให้เพื่อนชาวฟิลิปิโน่ที่ประชุมด้วยฟัง เขาก็หน้าเบี้ยวเลยค่ะ คือ มันไม่น่าเกิดมาก แต่ตอนเราเล่านี่ เราเล่าแบบขำๆละ เพราะยังไงเงินมันไม่ได้คืนอะ ถือว่าทำบุญให้เปรตไปละกัน
ปล3. เราจะไปเขียนแจ้งในเว็บ Land Transportation Franchising & Regulatory Board แต่แบบฟอร์มพัง แถมมือถือเราก็ไม่ได้ใช้เน็ตแบบโทรได้เลยหมดสิทธิ์แจ้งร้องเรียนผ่าน Hotline กลางของเขา แต่ยังไงเราก็ไปเขียนในเว็บ
https://www.taxikick.com ที่ใช้รับแจ้ง Abusive Taxi in Philippines มาแล้ว สบายใจขึ้นไปอีกเปลาะละ
[เล่าเรื่อง] แท็กซี่เหลืองฟิลิปปินส์ - เมื่อคนที่น่าจะอยู่ในระเบียบตัดสินใจจะโกง
เราไม่เคยไปฟิลิปปินส์มาก่อน รอบนี้เป็นรอบแรกที่เราจะต้องบินไป เราต้องบินไปร่วมประชุม และความที่ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ไม่ปลอดภัยนัก เราเลยดึงคุณแฟนของเราไปด้วย
อย่างน้อยๆ ถ้ามีเขาเดินทางไปด้วย เกิดอะไรขึ้นเราจะได้ยังไม่สติหลุด หรือ โดนจับไปทำอะไรซะก่อน เพราะเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว (มันก็เสี่ยงจริงๆนะ นึกภาพสิ)
เนื่องจากอะไรต่อมิอะไรค่อนข้างฉุกละหุก เราเลยไม่ได้บิน Cebu Pacific แบบที่หลายๆคนบินไป แต่ไปบินกับการบินไทยแทน
ไฟลท์ที่เราได้บินคือไฟลท์ที่ไปลงที่ Ninoy Aquino Airport (NAIA) ซึ่งไปลงที่ Terminal 1 ห่างไกลจากขนส่งสาธารณะ และ เครื่องลง 1 ทุ่ม
ตอนลงจากเครื่อง จะผ่าน ต.ม. ก็วุ่นพอแล้ว เพราะผู้ถือพาสปอร์ตต่างประเทศ ต้องกรอกใบ ต.ม. แต่การบินไทยไม่แจกค้าาาา ลืมรึไงไม่รู้ แต่ไม่แจก ทั้งที่เราบินไปประเทศอื่น ถ้ามีต้องกรอก สายการบินเขาจะแจกบินเครื่องเสมอ งงมากมาย เรากับคุณแฟนนี่งงเป็นไก่ตาแตก เดินวนตรงโซนหน้า ต.ม. ค่ะ เพราะไม่มีใบ จุดที่มีลูกศรว่าแจกใบก็ไม่มีกระดาษแม้แต่แผ่นเดียว คือ WHAT!?
หลังจากได้ใบ ต.ม. มาในที่สุด เราก็เดินโซเซออกมานอก Terminal ตามทางออก แล้วทีนี้มันก็มีให้เลือก
- จุดขึ้น Shuttle Bus สนามบิน (ไป Terminal อื่น)
- จุดรอรถ Grab
- จุดขึ้นแท็กซี่สนามบิน (คันสีเหลือง)
เราอาศัยที่อ่านในพันทิปนี่ล่ะค่ะ เห็นหลายคนบอกว่าแท็กซี่สนามบินเหลืองปลอดภัยอยู่นะ กดมิเตอร์แน่นอน เรทเริ่มที่ 70 เปโซ
เราก็เดินไปคุยกับพนักงานที่เคาเตอร์ บอกว่าจะไปโรงแรมที่ Ortigas เขาก็ออกใบงานให้ตามภาพนี้
หลังจากนั้น เราก็ขึ้นรถแท็กซี่ไปกับคุณแฟน เนื่องจากรีบ อยากไปถึงโรงแรมไวๆ และ ไม่มีแบงค์ย่อย ก็เลยตัดสินใจไปทางด่วน (ค่าทางด่วน 20 เปโซ)
แล้วเราก็สังเกตว่ามันแปลกๆ เพราะ รถวิ่งไปได้ไม่ทันถึง 100 เมตร มิเตอร์พี่ พุ่งไป 300-400 เมตรแล้วววววว
เราก็ตัดสินใจถาม เพราะตัวเลขมันผิดปกติมาก ยังไม่ทันถึงทางด่วน (ในกูเกิ้ลแมพไม่ทันจะถึง 5 กิโล) มิเตอร์พี่พุ่งไป 30+ แล้ว
กะจะบลัฟว่าเคยมา เพราะไม่งั้น โดนแน่ๆ กว่าจะถึงโรงแรมคง 3000 เปโซ...
คิดว่าคงมองไม่ถนัดกัน เพราะมันมืด... แต่ปุ่มบิดจะอยู่เหนือเกียร์ หน้าตาคล้ายๆปุ่มปรับแอร์ มีเลข 0-4 น่ะค่ะ
คนขับคงสังหรณ์แล้วว่าเราเห็น รีบบิดปุ่มบิดใต้มิเตอร์กลับไปที่เรทปกติทันที
แต่ก็ไม่วาย ระหว่างที่ติดรอคิวขึ้นทางด่วน พี่ก็บิดขวาสุด แล้วตัวเลขเวลาที่รถติดก็พุ่งปรู๊ดดดดด แค่ระยะเวลาไม่ถึง 5 นาที ที่เรารอขึ้นทางด่วน ตัวเลขตัวนี้ก็พุ่งไปที่ 40+ แล้ว แล้วก็บิดกลับมาที่เรทรถวิ่งปกติ
เราอ้าปากตั้งท่าจะโวย แต่คุณแฟนเราดึงไว้ บอกว่าอย่ามีเรื่อง
แล้วเราก็หน้ามุ่ยตลอดทาง กว่าจะถึงย่าน Ortigas (เราพักที่ The Exchange Regency Hotel ที่ Ortigas) ซึ่งคุณแฟนเราก็ให้ไปจอดตรงที่ที่คนเยอะๆ ห่างจากโรงแรมมาหน่อย จะได้ไม่โดนทุบหัวก่อน เพราะไม่รู้ว่าคนขับแท็กซี่มันอยากเอาเรื่องไหม
ค่าแท็กซี่ตอนลงจากรถจบเบ็ดเสร็จ ซัดเข้าไปเกือบๆ 1200 เปโซ แทบจะจ้างลิมูซีนส่วนตัวจากสนามบินถึงโรงแรมได้อยู่แล้ว
(ลิมูซีนรับส่งโรงแรมถึงสนามบินที่เป็นบริการของโรงแรมจองให้ ราคา 1500 เปโซ)
อันนี้แท็กซี่ที่เราขึ้น... แท็กซี่เหลืองสนามบินค่ะ โอยยยยย เจ็บใจสุดๆจริงๆค่ะ
เอาเป็นว่านะคะ ใครจะไปฟิลิปปินส์ เราแนะนำว่าโหลด Grab แล้วใช้บริการ Grab ไปเลยค่ะ หรือ Uber ก็ได้!! ดีสุดแล้ว!!!!
ส่วนขากลับสนามบิน เราใช้บริการ Grab ค่าแท็กซี่เบ็ดเสร็จ 271 เปโซ เลยให้เขาไป 280 เปโซ เป็นทิปไปด้วย คนขับคนนี้ดีมาก ขอบคุณใหญ่เลย อวยพรให้โชคดีด้วย
ยังไง ถ้าใครจะไปฟิลิปปินส์แล้วอยากใช้บริการแท็กซี่แบบเรา ขึ้นแท็กซี่สนามบินได้นะคะ แต่แนะนำว่า มองมิเตอร์เสมอ และ ถ้าเป็นไปได้ แตกแบงค์ไว้ค่ะ ไม่งั้นอาจติดแหตัวเองแบบเรานี่ล่ะ
อนึ่ง... ไม่มีใครช่วยคุณได้นะคะ ถ้าโทรศัพท์เป็น Data Plan ล้วนๆแบบเรา เพราะเว็บสถานฑูตไทยในฟิลิปปินส์ ถ้าพยายามเข้าจะเจอ 403 Forbidden ไม่ว่าจะเน็ตโทรศัพท์ปกติ หรือ Wifi โรงแรมเลยค่ะ
ปล. ส่วนคนขับที่โกงเราไป ไม่รู้ว่าจะเป็นไงมั่ง แต่ตอนนี้เรื่องแท็กซี่เหลืองโกงได้น่าจะถึง Department of Tourism Philippines ละ เพราะตอนเรานั่งรอเคาเตอร์สายการบินเปิด มีพนักงานที่เป็นคนของ Department of Tourism Philippine มาขอสำรวจความคิดเห็น เลยคุยบอกเรื่องนี้เขาไป เขาก็ตกใจมากอยู่ เพราะเป็นแท็กซี่ที่ไม่น่าโกงได้จริงๆ แอบเสียดายที่ไม่ได้ไปคุยกับตัวแทนของ Department of Tourism Philippine ที่มาเป็นตัวแทนตัดริบบิ้นเปิดงาน ไม่งั้นคงโล่งกว่านี้
ปล2. เราเล่าให้เพื่อนชาวฟิลิปิโน่ที่ประชุมด้วยฟัง เขาก็หน้าเบี้ยวเลยค่ะ คือ มันไม่น่าเกิดมาก แต่ตอนเราเล่านี่ เราเล่าแบบขำๆละ เพราะยังไงเงินมันไม่ได้คืนอะ ถือว่าทำบุญให้เปรตไปละกัน
ปล3. เราจะไปเขียนแจ้งในเว็บ Land Transportation Franchising & Regulatory Board แต่แบบฟอร์มพัง แถมมือถือเราก็ไม่ได้ใช้เน็ตแบบโทรได้เลยหมดสิทธิ์แจ้งร้องเรียนผ่าน Hotline กลางของเขา แต่ยังไงเราก็ไปเขียนในเว็บ https://www.taxikick.com ที่ใช้รับแจ้ง Abusive Taxi in Philippines มาแล้ว สบายใจขึ้นไปอีกเปลาะละ