คำเตือนบทความต่อไปนี้ไม่สามรถหาเเหล่งอ้างอิงที่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นได้โปรดใช้วิจารณญาณ
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://en.wikipedia.org/wiki/M1917_revolver
ในตอนนี้เราจะมาว่ากันในเรื่องของปืน 2 ยี่ห้อที่มาต่างกันต้นกำเนิดก็ต่างกันแต่มีจุดประสงค์เดียวกันคือรับใช้กองทัพสหรัฐในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในช่วงเวลาสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 1 สหรัฐตัดสินใจเข้าร่วมสงครามโดยอยู่กับฝ่ายสัมพันธมิตรโดยการส่งกองทหารไปประจำการในแมวหน้าที่ยุโรปตะวันตกเป็นจำนวนมาก กล่าวได้ว่าการเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ของสหรัฐทำให้จักรวรรดิเยอรมันตัดสินใจยอมแพ้ในที่สุด ถ้าให้เปรียบกันตรงๆก็เหมือนนักมวย 2 คนที่ต้องมาชกกันอีกคนนึงชกมาก่อนแล้ว 2 คู่ชนะมาเเล้วหนึ่งเวทีเเต่อยู่ในอาการบอบช้ำ ส่วนอีกคนนึงซึ่งเป็นผู้ท้าชิงเพิ่งจะ ขึ้นชกเวทีแรกอยู่ในความพร้อมถึงขีดสุดร่างกายฟิตและพร้อมที่จะแลกหมัด นี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเยอรมันกับสหรัฐในสงครามโลกครั้งที่ 1
ปืนลูกโม่ M1917 ขนาด .45ACP ชนิดนี้มีอยู่ 2 รุ่นแต่ผลิตโดย 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการอาวุธปืนของสหรัฐในสมัยนั้นคือ Colt และ Smith And Wesson โดยเจ้าแรกคือ Colt ได้ผลิตปืนลูกโม่ที่ใช้กระสุนขนาด .45 Long Colt ป้อนให้กับกองทัพสหรัฐอยู่ก่อนแล้วในปัญหาเรื่องปืนลูกโม่ขนาด .38 มีพลังไม่เพียงพอในเรื่องของการหยุดยั้งศัตรูในนัดเดียวได้ ในสงครามฟิลิปปินส์-อเมริกัน ทำให้ต้องผลิตรุ่น M1909 ที่ใช้กระสุน .45 Long Colt ออกมาป้อนให้แก่กองทัพเพื่อแก้ปัญหานั้นและเมื่อสหรัฐเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 Colt ก็ได้ทำการผลิต M1917 ขึ้นมาเพื่อเป็นการสนับสนุนเเทน M1911 ที่ใช้กระสุน .45 ACP เพราะว่าในสมัยนั้นปืน M1911 ยังไม่ได้ผลิตออกมาในจำนวนมากและโรงงานผลิตก็มีแค่ปานกลางจึงทำให้นายทหารชั้นประทวนและสัญญาบัตรบางคนไม่ได้รับปืน M1911 จึงต้องผลิตปืน M1917 ขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการปืนพกของกองทัพ
ส่วน Smith And Wesson เข้าร่วมการผลิตปืนลูกโม่ M1917 เพราะตัวเองก็ประสบความสำเร็จกับปืนรุ่น Hand Ejector โมเดลเเรกๆอย่างมากในตอนนั้นเมื่อสงครามปะทุขึ้นในยุโรป Smith And Wesson ก็เป็นหนึ่งในผู้ผลิตปืนลูกโม่ Hand Ejector ป้อนให้กับกองทัพอังกฤษเหมือนกันและเมื่อประเทศบ้านเกิดคือสหรัฐเข้าร่วมสงคราม Smith And Wesson จึงเข้าร่วมการผลิตปืนลูกโม่ M1917 ด้วย
1. Colt M1917

2. Smith & Wesson M1917

หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ปืนลูกโม่แบบ M1917 จากทั้งสองบริษัทเป็นที่นิยมในตลาดพลเรือนและตำรวจในสหรัฐโดยมีการใช้กันอย่างกว้างขวางไปจนถึงช่วงทศวรรษที่ 1950 แต่ปืนลูกโม่ของ Smith And Wesson จะประสบความสำเร็จกว่าของ Colt มากเพราะหลังจากนั้นในปี 1937 รัฐบาลบราซิลสั่งซื้อปืนลูกโม่จากสมิทแอนด์เวสสันไปประจำการในกองทัพ

Brazilian M1917
M1917 ของ Smith And Wesson ถูกใช้อย่างกว้างขวางในสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเกาหลี และ สงครามเวียดนามโดยในสงครามเวียดนามมันเป็นอาวุธของหน่วย Tunnel Rat ที่มีหน้าที่บุกเข้าไปในรูของพวกเวียดกงเเละเป็นปืนพกมาตรฐานของหน่วย MACV-SOG ของเวียดนามใต้ด้วยมันประจำการในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย

ทหาร Tunnel Rat กับ M1917
ปืนรุ่นนี้โดยรวมแล้วผลิตประมาณสามเเสนกระบอกแต่ Colt กับสมิทแอนด์เวสสันแบ่งกันคนละเท่าไหร่อันนี้ผมไม่รู้
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 52 ปืนลูกโม่ M1917 ฝาแฝดต่างยี่ห้อ
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในตอนนี้เราจะมาว่ากันในเรื่องของปืน 2 ยี่ห้อที่มาต่างกันต้นกำเนิดก็ต่างกันแต่มีจุดประสงค์เดียวกันคือรับใช้กองทัพสหรัฐในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในช่วงเวลาสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 1 สหรัฐตัดสินใจเข้าร่วมสงครามโดยอยู่กับฝ่ายสัมพันธมิตรโดยการส่งกองทหารไปประจำการในแมวหน้าที่ยุโรปตะวันตกเป็นจำนวนมาก กล่าวได้ว่าการเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ของสหรัฐทำให้จักรวรรดิเยอรมันตัดสินใจยอมแพ้ในที่สุด ถ้าให้เปรียบกันตรงๆก็เหมือนนักมวย 2 คนที่ต้องมาชกกันอีกคนนึงชกมาก่อนแล้ว 2 คู่ชนะมาเเล้วหนึ่งเวทีเเต่อยู่ในอาการบอบช้ำ ส่วนอีกคนนึงซึ่งเป็นผู้ท้าชิงเพิ่งจะ ขึ้นชกเวทีแรกอยู่ในความพร้อมถึงขีดสุดร่างกายฟิตและพร้อมที่จะแลกหมัด นี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเยอรมันกับสหรัฐในสงครามโลกครั้งที่ 1
ปืนลูกโม่ M1917 ขนาด .45ACP ชนิดนี้มีอยู่ 2 รุ่นแต่ผลิตโดย 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการอาวุธปืนของสหรัฐในสมัยนั้นคือ Colt และ Smith And Wesson โดยเจ้าแรกคือ Colt ได้ผลิตปืนลูกโม่ที่ใช้กระสุนขนาด .45 Long Colt ป้อนให้กับกองทัพสหรัฐอยู่ก่อนแล้วในปัญหาเรื่องปืนลูกโม่ขนาด .38 มีพลังไม่เพียงพอในเรื่องของการหยุดยั้งศัตรูในนัดเดียวได้ ในสงครามฟิลิปปินส์-อเมริกัน ทำให้ต้องผลิตรุ่น M1909 ที่ใช้กระสุน .45 Long Colt ออกมาป้อนให้แก่กองทัพเพื่อแก้ปัญหานั้นและเมื่อสหรัฐเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 Colt ก็ได้ทำการผลิต M1917 ขึ้นมาเพื่อเป็นการสนับสนุนเเทน M1911 ที่ใช้กระสุน .45 ACP เพราะว่าในสมัยนั้นปืน M1911 ยังไม่ได้ผลิตออกมาในจำนวนมากและโรงงานผลิตก็มีแค่ปานกลางจึงทำให้นายทหารชั้นประทวนและสัญญาบัตรบางคนไม่ได้รับปืน M1911 จึงต้องผลิตปืน M1917 ขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการปืนพกของกองทัพ
ส่วน Smith And Wesson เข้าร่วมการผลิตปืนลูกโม่ M1917 เพราะตัวเองก็ประสบความสำเร็จกับปืนรุ่น Hand Ejector โมเดลเเรกๆอย่างมากในตอนนั้นเมื่อสงครามปะทุขึ้นในยุโรป Smith And Wesson ก็เป็นหนึ่งในผู้ผลิตปืนลูกโม่ Hand Ejector ป้อนให้กับกองทัพอังกฤษเหมือนกันและเมื่อประเทศบ้านเกิดคือสหรัฐเข้าร่วมสงคราม Smith And Wesson จึงเข้าร่วมการผลิตปืนลูกโม่ M1917 ด้วย
1. Colt M1917
2. Smith & Wesson M1917
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ปืนลูกโม่แบบ M1917 จากทั้งสองบริษัทเป็นที่นิยมในตลาดพลเรือนและตำรวจในสหรัฐโดยมีการใช้กันอย่างกว้างขวางไปจนถึงช่วงทศวรรษที่ 1950 แต่ปืนลูกโม่ของ Smith And Wesson จะประสบความสำเร็จกว่าของ Colt มากเพราะหลังจากนั้นในปี 1937 รัฐบาลบราซิลสั่งซื้อปืนลูกโม่จากสมิทแอนด์เวสสันไปประจำการในกองทัพ
Brazilian M1917
M1917 ของ Smith And Wesson ถูกใช้อย่างกว้างขวางในสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเกาหลี และ สงครามเวียดนามโดยในสงครามเวียดนามมันเป็นอาวุธของหน่วย Tunnel Rat ที่มีหน้าที่บุกเข้าไปในรูของพวกเวียดกงเเละเป็นปืนพกมาตรฐานของหน่วย MACV-SOG ของเวียดนามใต้ด้วยมันประจำการในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย
ทหาร Tunnel Rat กับ M1917
ปืนรุ่นนี้โดยรวมแล้วผลิตประมาณสามเเสนกระบอกแต่ Colt กับสมิทแอนด์เวสสันแบ่งกันคนละเท่าไหร่อันนี้ผมไม่รู้