การรู้ว่าเป็นมะเร็งที่แฮปปี้ที่สุดในโลก

ในเรื่องร้ายๆ มันยังมีเรื่องๆดีๆอยู่ นะครับ

เป็นเรื่องของเพื่อนคนนึงที่พึ่งรู้จักได้ซักพัก เพื่อนคนนี้ขอใช้ชื่อสมมติว่า ป. แล้วกัน เพราะเรื่องมันมีความน่าอับอายประมาณหนึ่ง ถ้าจะใช้ชื่อจริงๆ 555 ซึ่ง ป. ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งปัจจุบันคุมโรคได้ ทุกอย่างเป็นปกติ เพียงแค่ต้องกินยาวันละ 4 เม็ด 1 ครั้งต่อวัน ซึ่งถ้ามันไม่บอกผมก็ไม่มีทางรู้เลยว่ามัน(เคย)เป็นโรคมะเร็งอยู่ ในระหว่างกินข้าวเย็นกัน ผมก็โพร่งถามมันว่า เห่ยตอนรู้ว่าเป็นมะเร็ง เป็นไงวะ มันก็ยิ้มแล้วตอบว่า ดีใจ...

ดีใจก็ ยิ้มละ ผมตอบมันกลับไป มันก็หัวเราะใหญ่ พร้อมยืนยันคำตอบเดิม แถมย้ำมาอีกว่ากูดีใจที่สุดในโลกเลย เพราะ มันไปตรวจนั้น เป็นการตรวจสุขภาพประจำปีตามปกติ ไอ ป. มันก็เล่าว่ามันไปกับแม่ นั่งฟังผล หมอก็เปิดผลพร้อมอธิบายไปเรื่อยๆ จนถึงกระดาษแผ่นเกือบๆสุดท้ายที่หมอเปิดไป แล้วต้องอุทานว่า เห่ย!! ออกมาเสียงดัง ่ด้วยความดูตกใจของหมอ ไอ ป. ก็นึกถึงเหตุการณ์ 1 เดือนก่อนที่จะมาตรวจทันที ณ เกาะแห่งหนึ่ง ที่มันไปทำเป็นพลาดท่าให้สาวที่เจอกันในร้านเหล้าโดยไม่ได้ป้องกัน พร้อมกับนึกในใจว่า กูเป็นเอดส์ กูเป็นเอดส์ กูเป็นเอดส์ แต่มันก็ยังไม่กระโตกกระตาก อะไรออกไป หมอก็ให้แม่พามันออกไปรอข้างนอก และขอคุยกับแม่ก่อน ในขณะที่ มันนั่งรอหน้าห้องตรวจ พ่อที่ควรจะทำงานอยู่ก็เดินทางมาถึง รพ. ยิ่งทำให้มันคิดว่า กูเป็นเอดส์แน่ๆ จนกระทั่งแม่ ออกมาจากห้องตรวจ พร้อมบอกว่า หมอให้นอนโรงพยาบาลเลย มันยิ่งเครียดหนัก ยืนยันคำตอบในใจด้วยตัวเองเลยว่า ว่ากูเป็นเอดส์ แน่ๆ จนมันนอนให้น้ำเกลือ ก็ยังไม่มีใครปริปากบอกว่ามันป่วยเป็นอะไร และหมอ ตกใจอะไร จนมันทนความเป็นเอดส์ในใจมันไม่ไหว ตัดใจถามแม่ว่า แม่บอกมาเถอะ ป รับได้หมด หมอบอกว่าเป็นไร จนในที่สุดแม่ก็ยอมบอกว่าหมอบอกว่าน่าจะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดนะ รอผลตรวจยินยัน เท่านั้นแหละ ไอ ป เล่าว่ามันบอกแม่ไปว่า โอ้ยยแม่เดี๋ยวก็หาย และมันก็นอนยิ้ม อย่างสบายใจ ทำเอาแม่ งง ไปเลย

แล้วก็จริงของมันครับ มันก็หายและมีชีวิตรอดมาเล่าเรื่อง เฮียๆ ของมันให้ผมฟังจนถึงทุกวันนี้ มันน่าจะเป็นคนไข้มะเร็งที่รู้ว่าตัวเอง เป็นมะเร็งแล้วมีความสุขที่สุดในโลก 555 แต่ตอนนั้นมันก็คงไม่ได้ตลกมากมายอะไรแต่พอผ่านมาแล้ว ทุกเรื่องใหญ่ในชีวิตก็เป็นแค่เรื่องในอดีตที่ให้เรามองย้อนกลับไปแล้วได้บทเรียน หรือไม่ก็ขำไปกับความทรงจำทั้งดีทั้งร้าย ของเราเองนั่นแหละ

อย่างน้อย ไอ ป ก็ได้บทเรียนจากที่รอลุ้นว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร ด้วยการที่มันคงไม่กล้าไปสด ไปซ่ากับใครอีกแล้ว และมันก็ดูแลสุขภาพอาหารการกินดีกว่าเก่าจากการป่วยเป็นมะเร็งของมัน 555

ยิ้ม

ปล. ก่อนจะซ่าคิดดีๆก่อน จะทำอะไรก็ป้องกัน ถ้าพลาดไปแล้วหรือกังวลอะไรก็อย่าคิดไปเอง ไปตรวจซะ รู้เร็วก็รักษาได้เร็ว แต่ยังไงการไม่มีโรคก็ดีที่สุด🙂

อโรคยา ปรมาลาภา

555😂

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่