ดีแทคโดนดองคลื่น2300MHz ฐากรคาดส่อลากยาวถึงปีหน้า

กระทู้ข่าว
ที่มา : http://www.naewna.com/business/304179


20 พ.ย.60 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้ากรณีการพิจารณาร่างสัญญาการดำเนินงานคลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ระหว่างบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กับ บริษีท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ในเครือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ท คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยขอยืนยันว่า สำนักงานไม่ได้ประวิงเวลาไว้ตามกระแสข่าวที่ออกมา โดยวันที่ 20 พ.ย.2560นี้ จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการโทรคมนาคมเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว และถ้าสรุปผลได้แล้ว ก็จะนำเข้าเป็นวาระการประชุมคณะกรรมการกสทช.ในวันที่ 22 พ.ย.2560 ต่อไป

          ทั้งนี้ ต้องชี้แจงว่า การพิจารณาให้ความคิดเห็นในร่างสัญญาดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากอีก 3 หน่วยงานคือ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎี สำนักงานอัยการสูงสุด และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ดังนั้นหากเกิดความล่าช้า หรือไม่เป็นไปตามกรอบเวลาที่ทั้ง 2 บริษัทวางไว้ว่าจะเซ็นต์สัญญาภายในไตรมาส4/2560นี้ ก็คงไม่ใช่มาจากกสทช.เพียงอย่างเดียว เพราะทุกกระบวนการพิจารณามีขั้นตอนชัดเจน

          "ตนไม่สามารถบอกได้ว่า เรื่องนี้จะจบได้ภายในสิ้นปีนี้หรือไม่ เพราะการพิจารณาต้องใช้เวลา และต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 4 หน่วยงาน ซึ่งกสทช.เองก้ไม่นิ่งนอนใจ เพราะรัฐบาล ทีโอที และหลายหน่วยงานต่างก็จับตาและเร่งให้ดำเนินการเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาบริการเพื่อประชาชน" เลขากสทช. กล่าว

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2560 บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ร่วมกันแถลงข่าวการเป็นบริษัทคู่ค้าให้บริการไร้สายคลื่นความถี่ 2300 MHz

          นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างดีแทคและทีโอทีที่จะเปิดให้บริการไร้สาย 4G LTE 2300 MHz บนแถบคลื่นที่กว้างถึง 60 MHz ซึ่งเป็นแบนด์วิดท์บนคลื่นความถี่เดียวที่กว้างที่สุดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย พร้อมคาดว่า ดีแทคและทีโอทีจะสามารถบรรลุข้อตกลงและได้รับอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมดภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยวางงบลงทุนในปีนี้ราว 17,000-20,000 ล้านบาท

          นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที กล่าวว่า เหตุผลที่เลือก กลุ่มบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด เป็นคู่ค้าในการให้บริการไร้สายคลื่นความถี่ 2300 MHz เนื่องจากให้ข้อเสนอทั้งด้านเทคนิคและรายได้เหนือกว่าผู้เข้าร่วมเสนอเงื่อนไขที่มีคะแนนเป็นอันดับ 2 ถึง 30% โดยจะเป็นผู้ดำเนินการจัดให้มีสถานีฐานจำนวนประมาณ 20,000 กว่าแห่ง ซึ่งมากกว่าที่ทีโอทีตั้งไว้

          ขั้นตอนต่อจากนี้ ทีโอทีและดีแทคจะร่วมกันร่างสัญญาการให้บริการ เพื่อส่งให้คณะกรรมการด้านกฎหมายของทีโอทีตรวจก่อนจะส่งให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ทีโอที เห็นชอบภายในเดือนมิถุนายน จากนั้นต้องส่งให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนจะส่งให้อัยการสูงสุดเห็นชอบ คาดว่าจะลงนามสัญญาจริงได้ภายในเดือนตุลาคม 2560

         "สัญญานี้ไม่ต้องส่งให้ สำนักงานกฤษฎีกาตีความแต่อย่างใด เพราะเป็นสัญญาที่ทำถูกต้องตาม มาตรา 46 ของ พ.ร.บ.กสทช. ใช้รูปแบบการโรมมิ่งตามประกาศของกสทช.และเป็นรูปแบบการทำธุรกิจที่เคยมีการทำมาแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ จึงมั่นใจว่าจะไม่ล่าช้า เหมือนกรณีทำสัญญาทดลองกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ในคลื่น 2100 MHz ซึ่งเป็นเรื่องที่ทีโอทีเพิ่งเคยทำ จึงทำให้การทำงานกับดีแทคจะเร็วขึ้นเพราะทีโอทีมีประสบการณ์แล้ว เชื่อว่าหากมีการร้องจากผู้เข้าร่วมประมูลนั้น ทีมที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์จะสามารถตอบได้หมด และไม่กระทบต่อดีลนี้อย่างแน่นอน"

          พร้อมเชื่อว่าการเป็นพันธมิตรกับดีแทคครั้งนี้จะทำให้ทีโอทีมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจโมบายล์ 15,000 บาทต่อปี จะทำให้ทีโอทีกลับมามีกำไรในปี 2562
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่