[CR] [CR] 1 Day Trip - ชีวิตติดเกาะ (ศาลเจ้า)

สวัสดีชาวบลูแพลเน็ตทุกๆ คนค่ะ ขออนุญาตออกตัวก่อนว่านี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เขียนรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว หากมีข้อผิดพลาดตรงไหน ก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรากับเพื่อนๆ มีโอกาสได้แวะไปเที่ยว ณ สถานที่แห่งหนึ่ง เป็นชุมชนเล็กๆ อยู่ในกรุงเทพฯ ของเรานี่เอง แต่บรรยากาศนั้นราวกับว่าอยู่ต่างจังหวัดเลย เพราะที่นั่นทั้งเงียบสงบ อากาศก็สดชื่น เหมาะกับการไปพักผ่อนหนีจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ เป็นอย่างดีค่ะ พวกเราที่ประทับใจกับสิ่งที่ได้เห็นจากสถานที่แห่งนั้น และเห็นว่ายังไม่เป็นที่รู้จักของผู้คนมากนัก จึงขออนุญาตมาเขียนรีวิวให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ถึงสถานที่แห่งนี้ค่ะ ซึ่งสถานที่แห่งนั้นก็คือ เกาะศาลเจ้า หรือ ชุมชนวัดจำปา ค่ะ


เกาะศาลเจ้า หรือ ชุมชนวัดจำปา เป็นชุมชนขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์เก่าแก่ ตั้งอยู่ริมคลองบางระมาด เขตตลิ่งชัน มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ย้อนไปถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาเลยค่ะ ที่ชุมชนนี้ประกอบด้วยครอบครัวไม่ถึงหนึ่งร้อยหลังคาเรือน ผู้คนที่นี่อัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มาเยี่ยมชมอย่างเป็นกันเอง สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ พร้อมทั้งแบ่งปันเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างไม่ปิดบัง

สำหรับวิธีการเดินทางนั้น ทำได้ 2 ทาง คือ ขับรถมาจอดที่วัดจำปา แล้วเดินเข้ามาในบริเวณชุมชน หรือนั่งเรือมาจากคลองลัดมะยม แล้วมาแวะขึ้นที่ท่าเกาะจำปาก็ได้ โดยเรากับเพื่อนๆ เดินทางมาโดยรถยนต์กันค่ะ ซึ่งการเดินทางโดยรถยนต์นั้น เราใช้การปักหมุดที่วัดจำปา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้จอดรถ แล้วก็ขับมาตามทางที่แผนที่กูเกิ้ลแนะนำมาได้เลยค่ะ เรากับเพื่อนๆ มีความคิดว่า ถ้ามีเวลา เราจะลองไปที่คลองลัดมะยม แล้วนั่งเรือมากัน น่าจะได้บรรยากาศอีกรูปแบบค่ะ

เมื่อเรามาถึงที่วัดจำปา ทำการจอดรถเรียบร้อยแล้วนั้น เราก็มุ่งหน้าเข้าไปยังในชุมชนกันเลยค่ะ โดยจะต้องเดินเท้าเข้าไปทางซอยเล็กๆ ข้างๆ วัด ระยะทางไม่ไกลมาก ประมาณ 300 เมตรค่ะ ระหว่างทางก็จะพบเห็นบ้านเรือนของผู้คนในชุมชน มีร้านก๋วยเตี๋ยว “กินเส้นกลางสวน” และร้านค้าเล็กๆ อยู่บ้างประปรายค่ะ

ที่ชุมชนแห่งนี้ มีสถานที่ต่างๆ ให้แวะเวียนไปชมอยู่มากมาย ยกตัวอย่างสถานที่เด่นๆ เช่น บ้านสองบุตรี บ้านขนมไทยดิษฐ์ปัญญา บ้านเครื่องหอมและโฮมสเตย์บ้านสว่างจันทร์ วัดจำปา ซึ่งแต่ละสถานที่ ก็มีสิ่งต่างๆ ให้ทำอีกมากมาย ซึ่งแต่ละสถานที่ จะมีป้ายบรรยายรายละเอียดของสถานที่นั้นๆ เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษเอาไว้ด้วย

ภาพบรรยากาศบริเวณท่าเรือที่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากคลองลัดมะยม จะมาขึ้นฝั่งเพื่อเยี่ยมชมชุมชนค่ะ ในบริเวณนี้ จะมีคุณยายท่านหนึ่งนั่งขายลอดช่องอยู่ รสชาติใช้ได้เลยทีเดียวค่ะ หากใครชอบทานหวานมากเป็นพิเศษ ก็สามารถบอกคุณยายได้ด้วยเช่นกันค่ะ


สถานที่แรกที่เราได้แวะไปเยี่ยมชมกันก็คือ บ้านสองบุตรี โดยในวันที่เราไปนั้น มีชาวต่างชาติจากหลากหลายประเทศมาเยี่ยมชมที่หมู่บ้านแห่งนี้ด้วยล่ะค่ะ


บ้านสองบุตรี เป็นบ้านทรงไทยที่ออกแบบเองโดยเจ้าของบ้าน ผู้เป็นทั้งประธานชุมชน และไกด์ทัวร์ที่คอยกล่าวต้อนรับและคอยอธิบายรายละเอียดต่างๆ ของชุมชนเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมที่หมู่บ้านแห่งนี้ การออกแบบของบ้านทรงไทยหลังนี้ เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรมไทยและตะวันตก ทำให้สามารถรองรับการใช้งานของผู้อยู่อาศัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เมื่อเราเสร็จจากบ้านสองบุตรี ก็จะเดินต่อไปตามเส้นทางในชุมชน เป็นทางเดินเล็กๆ กว้างประมาณ 3 คนเดินค่ะ ซึ่งชาวบ้านก็จะใช้ถนนนี้แหละ ในการเดินทางเข้า-ออกจากชุมชน ยานพาหนะหลักๆ ที่ใช้ได้ก็จะเป็นรถจักรยานยนต์ค่ะ เมื่อเดินมาทางตามเรื่อยๆ สถานที่ต่อไปที่เราจะไปถึงก็คือ บ้านเครื่องหอมและโฮมสเตย์บ้านสว่างจันทร์ค่ะ



เมื่อเราเดินเข้ามาในบริเวณบ้าน สิ่งแรกที่เราจะมองเห็นก็คือ โฮมสเตย์บ้านสว่างจันทร์ค่ะ แล้วก็จะมีบ้านเครื่องหอมอยู่ข้างๆ กัน พวกเราเลือกที่จะเดินไปชมบ้านเครื่องหอมก่อน เพราะเราอยากรู้ว่า ที่นี่มีอะไรค่ะ

บ้านเครื่องหอม เป็นสถานที่ที่มีการจัดแสดงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องหอมต่างๆ ที่เป็นภูมิปัญญาของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม สบู่ เกลือสปาสมุนไพร โดยทั้งหมดนี้ มีวัตถุดิบหลักมาจากดอกไม้และสมุนไพรของไทย เช่น น้ำหอมกลิ่นดอกพุด ดอกจำปี ดอกบัว สบู่สมุนไพร ภายในบ้านนั้นได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม มีการจัดแสดงเป็นสัดส่วน และมีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายถึงวิธีการทำเครื่องหอมต่างๆ ด้วยรอยยิ้ม ทำให้บรรยากาศในบ้านดูอบอุ่นและอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจากเครื่องหอมต่างๆ เมื่อออกมานอกบ้าน ก็จะพบกับร้านขายของที่ระลึก เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องหอมต่างๆ ที่เราเห็นจากการจัดแสดงภายในบ้าน โดยสินค้าเหล่านี้มีราคาค่อนข้างถูก ทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐานให้เป็นสินค้าโอทอป และผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอีกด้วย ดังนั้น การที่ซื้อสินค้าเหล่านี้ นับเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนอีกช่องทางหนึ่งนั่นเอง

อย่างที่ได้บอกไปในตอนแรก ข้างๆ บ้านเครื่องหอม ก็คือ โฮมสเตย์บ้านสว่างจันทร์นั่นเอง โฮมสเตย์บ้านสว่างจันทร์ เป็นบ้านพักวิถีชุมชน ที่ผู้มาพักจะได้สัมผัสกับบรรยากาศและประสบการณ์การใช้ชีวิตร่วมกับเจ้าของบ้านประหนึ่งญาติมิตร ได้พบเห็นและเรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนที่เรียบง่าย เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการใช้ชีวิตในสังคมชนบทในเมืองหลวงค่ะ

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับที่นี่ก็คือ มีร้านกาแฟอยู่ในบริเวณบ้านด้วยค่ะ ราคาก็ไม่แพงมาก ประมาณแก้วละ 25-30 บาท และรสชาติก็ใช้ได้เลยค่ะ ขอแนะนำคอกาแฟทั้งหลาย ว่าการที่ได้จิบกาแฟในบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าจดจำมากๆ เลยล่ะค่ะ

พอบ่ายคล้อยๆ บรรยากาศสบายๆ มีลมพัดผ่านทำให้ไม่ร้อนจนเกินไป พวกเราได้แวะไปที่ร้านขายของชำร้านหนึ่งในชุมชนค่ะ ซึ่งที่ร้านนี้ จะมีท่าน้ำเอาไว้ สำหรับใครที่อยากมานั่งเล่น ชมธรรมชาติ หรือให้อาหารปลาก็ทำได้ค่ะ คุณยายเจ้าของร้านยังบอกอีกด้วยว่ะ ในบางโอกาส ก็จะมีชาวบ้านพายเรือมาขายอาหารอยู่เป็นระยะๆ ด้วยค่ะ


เมื่อนั่งพักกันเรียบร้อย กินขนมเติมพลังกันเต็มที่ ก็มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายถัดไป ก็คือ อุโมงค์ต้นไม้ค่ะ อาจจะไม่มีข้อความอะไรบรรยายมาก ขออนุญาตเล่าเรื่องโดยใช้ภาพเอาเลยนะคะ


ภาพอาจจะไม่ได้สวยงามเวอร์วังอลังการเท่าไร แต่ก็เป็นบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว ที่หาดูได้ยากขึ้นทุกทีๆ กลางเมืองกรุงของเราแล้วล่ะค่ะ

จริงๆ แล้ว ที่ชุมชนวัดจำปา หรือเกาะศาลเจ้าแห่งนี้ ยังมีสถานที่ให้แวะชมอีกหลายแห่ง เช่น บ้านขนมไทยดิษฐ์ปัญญา บ้านสวนหมอต้อย บ้านสวนริมคลอง แต่เนื่องจากวันที่เราไปนั้นฝนตกในช่วงบ่าย ทำให้ต้องแวะหลบฝนที่บ้านทรงไทยสองบุตรีอยู่พักใหญ่ จึงได้ไปเยี่ยมชมเพียงแค่ไม่กี่ที่เท่านั้นเอง น่าเสียดายมากๆ เลยค่ะ

ก่อนที่เราจะกลับ เราได้แวะไปเที่ยวดูที่วัดจำปา ที่กำลังบูรณะก่อสร้างโบสถ์ที่มีองค์พระประธานขนาดใหญ่อยู่ภายใน ที่วัดแห่งนี้บรรยากาศเงียบสงบเหมือนกับบริเวณอื่นๆ ในชุมชนแห่งนี้ เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจมากเลยค่ะ ทั้งยังมีพื้นที่ร้านอาหารด้านหลังวัดให้เลือกทานหลากหลาย ซึ่งชาวบ้านในชุมชนก็เป็นพ่อค้าแม่ขายกันเอง อาหารรสชาติอร่อย ราคาไม่แพงอีกด้วยค่ะ


ส่งท้ายนี้ อยากจะขอแทรกภาพบรรยากาศสถานที่อื่นๆ โดยรวมๆ ให้กับทุกๆ ท่านได้รับชมกันค่ะ


แล้วการท่องเที่ยวในวันนั้นก็จบลงค่ะ นับเป็นการพักผ่อน กินลมชมวิว ในสถานที่ที่เงียบสงบ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดยที่ไม่ต้องออกไปไหนไกลจากกรุงเทพฯ เลย จัดว่าเป็นอีกที่หนึ่ง สำหรับคนที่ชอบบรรยากาศแบบนี้นั้น ไม่ควรพลาดโอกาสอันดีที่จะมาเที่ยวที่นี่ "เกาะศาลเจ้า หรือ ชุมชนวัดจำปา" ค่ะ
ชื่อสินค้า:   รีวิว : ชุมชนวัดจำปา / เกาะศาลเจ้า
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่