สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันทำงานวันแรกของสัปดาห์ ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call ทุกๆท่าน
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index พุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างรุนแรง ตามตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ ที่ขานรับข่าว สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐ
ผ่านร่างกฏหมายภาษี (TAX Plan) และเหลือเพียงวุฒิสภา จะพิจารณาให้ผ่านก่อนวันที่ 23 พฤศจิกายน "Thanksgive day" นี้ได้หรือไม่
นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยภายในประเทศ นั่นก็คือ แรงซื้อกองทุน LTF RMF ในงานมหกรรมการเงิน "SET in the city" ซึ่งทำให้มีเม็ดเงิน
เข้ามาหนุนนำ ขับเคลื่อนตลาดให้พุ่งทะยาน และ ปิดตัวไปที่ระดับ 1709 จุด +18.13 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะพุ่งทะยานขึ้นไป
ได้อย่างร้อนแรง เช่นวานศุกร์ได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ร่วงลงกว่า 100 จุด ตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดในแดนลบทั้ง 3 ดัชนีหลัก
เมื่อวันศุกร์ (17 พ.ย.) นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากสกุลเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า
ดัชนีนิกเกอิเปิดลดลง 116.82 จุด หรือ -0.52% แตะที่ 22,279.98 จุด หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงประกอบด้วย หุ้นกลุ่มอาหาร กลุ่มขนส่งทางอากาศ
และกลุ่มประกันภัย
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (17 พ.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ได้ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่
2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันว่า จะสามารถผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาได้หรือไม่
หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้มีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,358.24 จุด ลดลง 100.12 จุด หรือ -0.43%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,578.85 จุด ลดลง 6.79 จุด หรือ -0.26%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,782.79 จุด ลดลง 10.50 จุด หรือ -0.15%
สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.3% ส่วนดัชนี S&P ลดลง 0.1% และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.5%
โดยภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันศุกร์นั้น นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบ
จากสภาผู้แทนราษฎรเต็มคณะไปแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานั้น จะสามารถผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภา ซึ่งจะลงมติหลังจากช่วงเทศกาลวัน
ขอบคุณพระเจ้าในวันที่ 23 พ.ย.นี้หรือไม่
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลของนักลงทุน ซึ่งไม่แน่ใจว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
จะสามารถผ่านร่างกฏหมายดังกล่าวได้สำเร็จทันภายในปีนี้หรือไม่ เนื่องจากอาจได้รับเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอ
ขณะเดียวกัน กระแสข่าวที่ว่า ทีมสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 ของนายโรเบิร์ต มุลเลอร์
ได้ขออำนาจศาลในการร้องขอเอกสารเพิ่มเติมจากทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์ ก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่ส่งผลกระทบต่อตลาด แม้ก่อนหน้านี้
ทางการรัสเซียและปธน.ทรัมป์จะออกมาปฏิเสธข้อหาดังกล่าวแล้วก็ตาม
สำหรับหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่น่าสนใจนั้น หุ้นทเวนตี้-เฟิร์สท์ เซนจูรี ฟ็อกซ์ ทะยานขึ้น 6.2% หลังมีรายงานว่าบริษัทคอมแคส คอร์ป
และเวริซอน คอมมูนิเคชันส์ อิงค์ เตรียมจะเจรจาขอซื้อกิจการบางส่วนของเจ้าพ่ออาณาจักรสื่อยักษ์ใหญ่อย่างรูเพิร์ต เมอร์ด็อก ส่งผลให้หุ้น
คอมแคสร่วงลง 2.5% ขณะที่หุ้นเวอริซอนปรับตัวขึ้น 1.5%
หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ อาร์ท อิงค์ ปรับตัวลง 2.5% หลังจากที่ทางบริษัทได้ออกมาประกาศถอดระบบเติมเงินเกม Star Wars Battlefront II
เป็นการชั่วคราว เนื่องจากที่ถูกกระแสเกมเมอร์โจมตีอย่างหนัก หลังเปิดตัวเกมใหม่ไปได้เพียงไม่นาน
หุ้นเทสลาปรับตัวขึ้น 0.8% หลังจากที่ทางบริษัทได้เปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดใหญ่ซึ่งมีระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ (semi-autonomous)
เมื่อคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ
หุ้นเจบี ฮันท์ ทรานสปอร์ต เซอร์วิส ปรับตัวลง 1.5% หลังจากที่ทางบริษัทประกาศเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทได้จองซื้อรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า
หลายคันจากเทสลา
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 13.7% ในเดือนต.ค.
สู่ระดับ 1.29 ล้านยูนิต เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเริ่มสร้างบ้านในเขตมิดเวสท์และรัฐทางใต้ที่เริ่มจะฟื้นตัวจากความเสียหายที่เกิดขึ้น
จากพายุเฮอร์ริเคน ในขณะที่ความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้สร้างบ้านยังคงแข็งแกร่งมาโดยตลอด ด้วยแรงหนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
และอัตราดอกเบี้ยการจำนองที่อยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ ยอดการอนุมัติสร้างอาคาร เพิ่มขึ้น 5.9% สู่ระดับ 1.3 ล้านยูนิต
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 หลังบริษัทจดทะเบียน
เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากการที่โบรกเกอร์ประกาศปรับลดน้ำหนักหุ้นของหลายบริษัท ประกอบกับการ
ที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิดที่ระดับ 383.80 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,993.73 จุด ลดลง 53.49 จุด หรือ -0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,319.17 จุด ลดลง 17.22 จุด หรือ -0.32%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,380.68 จุด ลดลง 6.26 จุด หรือ -0.08%
สำหรับภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 1.3%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นของบริษัทเอลลิเออร์ กรุ๊ป ร่วงลงกว่า 18%
ขณะที่หุ้นของบริษัทคาริลเลียน ร่วงหนักถึง 48% หลังจากที่มีรายงานว่า ผลกำไรของบริษืทปีนี้จะออกมาต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของตลาดอย่างมาก
นอกจากนี้ การที่เหล่าโบรกเกอร์ได้ออกมาปรับลดน้ำหนักหุ้นของบริษัทต่างๆลง ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาด โดยหุ้นของ
อินดุสเตรีย เด ดิเซโญ เตกซ์ตีล ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเสื้อผ้าแบรนด์ดังอย่างซารา ปรับตัวลง 1.7% หลังจากที่ธนาคารเบอเรนเบิร์กประกาศ
ปรับลดน้ำหนักหุ้นของทางบริษัท ขณะที่หุ้นบริษัทเฟรซีเนียส เอสอี ซึ่งเป็นบริษัทด้านสุขภาพยักษ์ใหญ่ของยุโรปร่วงลง 5.4% หลังยูบีเอสลด
น้ำหนักหุ้นลงสู่ระดับ "neutral"
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ โดยสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากมีรายงานข่าวว่าว่า
ทีมสอบสวนคดีเกี่ยวกับการที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 ได้ขออำนาจศาลในการร้องขอเอกสารเพิ่มเติม
จากทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะถูกส่งไปให้กับคณะกรรมาธิการด้านการเงินของวุฒิสภาทำการพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ส่วนการโหวตในวุฒิสภาแบบเต็มคณะ จะจัดขึ้นหลังจากพ้นเทศกาล
วันหยุดขอบคุณพระเจ้าไปแล้ว โดยวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ย.
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านอื่นๆ นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงาน Frankfurt Banking Congress
ที่เมืองแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนีเมื่อวานนี้ว่า ถึงแม้ว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนจะอยู่ในสภาพที่สดใส แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็ยังคงขึ้นอยู่
กับมาตรการกระตุ้นจากธนาคารกลางยุโรป
ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ด้านเงินเฟ้อยังคงซบเซา ดังนั้น
ในขณะที่เรามีความเชื่อมั่นในเรื่องของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เราจะเป็นต้องอดทนและใช้วิธีการที่ต่อเนื่องกับนโยบายการเงิน
เพื่อสร้างความมั่นใจว่า จะสามารถบรรลุเป้าหมายในเรื่องราคาในระยะกลางได้
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมาดัชนี ได้พุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างรุนแรง และกลับมายืนเหนือ EMA25 วัน ได้สำเร็จอีกครั้ง
พร้อมกับรูปแบบแท่งเทียน "Bullish Kicker" และการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ผ่านมา ทำให้เกิดรูปแบบสามเหลี่ยมเลือกทาง
"Symemtrical Triangle" หากวันนี้ ดัชนีสามารถ Breakout ทะลุผ่านขึ้นไปได้ ก็มีโอกาสที่จะเห็น New High อีกครั้ง
หรือจะเรียกว่าเป็น "Bullish Pennant" // แต่ถ้าหากไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ก็อาจจะมีการพักตัวลงมาอีกครั้ง ก็เป็นได้
S50Z17 TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้พุ่งทะยานขึ้นไปได้อย่างรุนแรง และกลับมายืนเหนือ EMA25 วัน ได้สหเร็จอีกครั้ง
พร้อมกับแท่งเทียน "Marubozu" และการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ผ่านมา ทำให้เกิดรูปแบบสามเหลี่ยม "Descending Triangle"
หากวันนี้ ดัชนียังคงพุ่งทะยานขึ้นไปได้ต่อ ก็จะเป็นการพังทลายรูปแบบสามเหลียมชนิดนี้ (ตามสถิติ เมื่อเกิดสามเหลี่ยมชนิดนี้ ราคามักจะร่วงลง)
และมีโอกาสที่จะเห็น New High ได้อีกครั้ง // แต่ถ้าหากไม่สามารถพุ่งทะยานขึ้นไปได้ต่อ ก็อาจจะมีการพักตัวลงมาอีกครั้ง
TF60 : เช้าวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้กระโดดเปิด Gap มายืนเหนือ EMAทั้ง3เส้น พร้อมกับพุ่งทะยานขึ้นมาอย่างร้อนแรง
เเละได้มาทดสอบกรอบแนวต้าน ของสามเหลี่ยม "Descending Triangle" ซึ่งถ้าหากวันนี้ดัชนียังคงพุ่งทะยานขึ้นไปได้ต่อ
ก็จะเป็นการพังทลายของสามเหลี่ยมชนิดนี้ และมีโอกาสที่จะได้เห็น New High อีกครั้ง // แต่ถ้าหากไม่สามารถพุ่งทะยานขึ้นไปได้ต่อ
ก็อาจจะมีการพักตัวลงมาอีกครั้ง
Resistance 1097 1100 1105 / 1715 1720 1725 1730
Support 1090 1088 1085 / 1703 1700 1695 1690
*EOD end of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (20 Nov 17)
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันทำงานวันแรกของสัปดาห์ ครับ พี่ๆน้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call ทุกๆท่าน
เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี SET index พุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างรุนแรง ตามตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ ที่ขานรับข่าว สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐ
ผ่านร่างกฏหมายภาษี (TAX Plan) และเหลือเพียงวุฒิสภา จะพิจารณาให้ผ่านก่อนวันที่ 23 พฤศจิกายน "Thanksgive day" นี้ได้หรือไม่
นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยภายในประเทศ นั่นก็คือ แรงซื้อกองทุน LTF RMF ในงานมหกรรมการเงิน "SET in the city" ซึ่งทำให้มีเม็ดเงิน
เข้ามาหนุนนำ ขับเคลื่อนตลาดให้พุ่งทะยาน และ ปิดตัวไปที่ระดับ 1709 จุด +18.13 จุด วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าดัชนีจะพุ่งทะยานขึ้นไป
ได้อย่างร้อนแรง เช่นวานศุกร์ได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ร่วงลงกว่า 100 จุด ตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดในแดนลบทั้ง 3 ดัชนีหลัก
เมื่อวันศุกร์ (17 พ.ย.) นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากสกุลเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า
ดัชนีนิกเกอิเปิดลดลง 116.82 จุด หรือ -0.52% แตะที่ 22,279.98 จุด หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงประกอบด้วย หุ้นกลุ่มอาหาร กลุ่มขนส่งทางอากาศ
และกลุ่มประกันภัย
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (17 พ.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ได้ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่
2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันว่า จะสามารถผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาได้หรือไม่
หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้มีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,358.24 จุด ลดลง 100.12 จุด หรือ -0.43%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,578.85 จุด ลดลง 6.79 จุด หรือ -0.26%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,782.79 จุด ลดลง 10.50 จุด หรือ -0.15%
สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.3% ส่วนดัชนี S&P ลดลง 0.1% และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.5%
โดยภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันศุกร์นั้น นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบ
จากสภาผู้แทนราษฎรเต็มคณะไปแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานั้น จะสามารถผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภา ซึ่งจะลงมติหลังจากช่วงเทศกาลวัน
ขอบคุณพระเจ้าในวันที่ 23 พ.ย.นี้หรือไม่
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลของนักลงทุน ซึ่งไม่แน่ใจว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
จะสามารถผ่านร่างกฏหมายดังกล่าวได้สำเร็จทันภายในปีนี้หรือไม่ เนื่องจากอาจได้รับเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอ
ขณะเดียวกัน กระแสข่าวที่ว่า ทีมสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 ของนายโรเบิร์ต มุลเลอร์
ได้ขออำนาจศาลในการร้องขอเอกสารเพิ่มเติมจากทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์ ก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่ส่งผลกระทบต่อตลาด แม้ก่อนหน้านี้
ทางการรัสเซียและปธน.ทรัมป์จะออกมาปฏิเสธข้อหาดังกล่าวแล้วก็ตาม
สำหรับหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่น่าสนใจนั้น หุ้นทเวนตี้-เฟิร์สท์ เซนจูรี ฟ็อกซ์ ทะยานขึ้น 6.2% หลังมีรายงานว่าบริษัทคอมแคส คอร์ป
และเวริซอน คอมมูนิเคชันส์ อิงค์ เตรียมจะเจรจาขอซื้อกิจการบางส่วนของเจ้าพ่ออาณาจักรสื่อยักษ์ใหญ่อย่างรูเพิร์ต เมอร์ด็อก ส่งผลให้หุ้น
คอมแคสร่วงลง 2.5% ขณะที่หุ้นเวอริซอนปรับตัวขึ้น 1.5%
หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ อาร์ท อิงค์ ปรับตัวลง 2.5% หลังจากที่ทางบริษัทได้ออกมาประกาศถอดระบบเติมเงินเกม Star Wars Battlefront II
เป็นการชั่วคราว เนื่องจากที่ถูกกระแสเกมเมอร์โจมตีอย่างหนัก หลังเปิดตัวเกมใหม่ไปได้เพียงไม่นาน
หุ้นเทสลาปรับตัวขึ้น 0.8% หลังจากที่ทางบริษัทได้เปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดใหญ่ซึ่งมีระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ (semi-autonomous)
เมื่อคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ
หุ้นเจบี ฮันท์ ทรานสปอร์ต เซอร์วิส ปรับตัวลง 1.5% หลังจากที่ทางบริษัทประกาศเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทได้จองซื้อรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า
หลายคันจากเทสลา
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 13.7% ในเดือนต.ค.
สู่ระดับ 1.29 ล้านยูนิต เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเริ่มสร้างบ้านในเขตมิดเวสท์และรัฐทางใต้ที่เริ่มจะฟื้นตัวจากความเสียหายที่เกิดขึ้น
จากพายุเฮอร์ริเคน ในขณะที่ความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้สร้างบ้านยังคงแข็งแกร่งมาโดยตลอด ด้วยแรงหนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
และอัตราดอกเบี้ยการจำนองที่อยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ ยอดการอนุมัติสร้างอาคาร เพิ่มขึ้น 5.9% สู่ระดับ 1.3 ล้านยูนิต
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 หลังบริษัทจดทะเบียน
เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากการที่โบรกเกอร์ประกาศปรับลดน้ำหนักหุ้นของหลายบริษัท ประกอบกับการ
ที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิดที่ระดับ 383.80 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,993.73 จุด ลดลง 53.49 จุด หรือ -0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,319.17 จุด ลดลง 17.22 จุด หรือ -0.32%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,380.68 จุด ลดลง 6.26 จุด หรือ -0.08%
สำหรับภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 1.3%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นของบริษัทเอลลิเออร์ กรุ๊ป ร่วงลงกว่า 18%
ขณะที่หุ้นของบริษัทคาริลเลียน ร่วงหนักถึง 48% หลังจากที่มีรายงานว่า ผลกำไรของบริษืทปีนี้จะออกมาต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของตลาดอย่างมาก
นอกจากนี้ การที่เหล่าโบรกเกอร์ได้ออกมาปรับลดน้ำหนักหุ้นของบริษัทต่างๆลง ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาด โดยหุ้นของ
อินดุสเตรีย เด ดิเซโญ เตกซ์ตีล ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเสื้อผ้าแบรนด์ดังอย่างซารา ปรับตัวลง 1.7% หลังจากที่ธนาคารเบอเรนเบิร์กประกาศ
ปรับลดน้ำหนักหุ้นของทางบริษัท ขณะที่หุ้นบริษัทเฟรซีเนียส เอสอี ซึ่งเป็นบริษัทด้านสุขภาพยักษ์ใหญ่ของยุโรปร่วงลง 5.4% หลังยูบีเอสลด
น้ำหนักหุ้นลงสู่ระดับ "neutral"
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ โดยสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากมีรายงานข่าวว่าว่า
ทีมสอบสวนคดีเกี่ยวกับการที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 ได้ขออำนาจศาลในการร้องขอเอกสารเพิ่มเติม
จากทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะถูกส่งไปให้กับคณะกรรมาธิการด้านการเงินของวุฒิสภาทำการพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ส่วนการโหวตในวุฒิสภาแบบเต็มคณะ จะจัดขึ้นหลังจากพ้นเทศกาล
วันหยุดขอบคุณพระเจ้าไปแล้ว โดยวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ย.
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านอื่นๆ นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงาน Frankfurt Banking Congress
ที่เมืองแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนีเมื่อวานนี้ว่า ถึงแม้ว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนจะอยู่ในสภาพที่สดใส แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็ยังคงขึ้นอยู่
กับมาตรการกระตุ้นจากธนาคารกลางยุโรป
ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ด้านเงินเฟ้อยังคงซบเซา ดังนั้น
ในขณะที่เรามีความเชื่อมั่นในเรื่องของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เราจะเป็นต้องอดทนและใช้วิธีการที่ต่อเนื่องกับนโยบายการเงิน
เพื่อสร้างความมั่นใจว่า จะสามารถบรรลุเป้าหมายในเรื่องราคาในระยะกลางได้
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมาดัชนี ได้พุ่งทะยานขึ้นมาได้อย่างรุนแรง และกลับมายืนเหนือ EMA25 วัน ได้สำเร็จอีกครั้ง
พร้อมกับรูปแบบแท่งเทียน "Bullish Kicker" และการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ผ่านมา ทำให้เกิดรูปแบบสามเหลี่ยมเลือกทาง
"Symemtrical Triangle" หากวันนี้ ดัชนีสามารถ Breakout ทะลุผ่านขึ้นไปได้ ก็มีโอกาสที่จะเห็น New High อีกครั้ง
หรือจะเรียกว่าเป็น "Bullish Pennant" // แต่ถ้าหากไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ก็อาจจะมีการพักตัวลงมาอีกครั้ง ก็เป็นได้
S50Z17 TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้พุ่งทะยานขึ้นไปได้อย่างรุนแรง และกลับมายืนเหนือ EMA25 วัน ได้สหเร็จอีกครั้ง
พร้อมกับแท่งเทียน "Marubozu" และการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ผ่านมา ทำให้เกิดรูปแบบสามเหลี่ยม "Descending Triangle"
หากวันนี้ ดัชนียังคงพุ่งทะยานขึ้นไปได้ต่อ ก็จะเป็นการพังทลายรูปแบบสามเหลียมชนิดนี้ (ตามสถิติ เมื่อเกิดสามเหลี่ยมชนิดนี้ ราคามักจะร่วงลง)
และมีโอกาสที่จะเห็น New High ได้อีกครั้ง // แต่ถ้าหากไม่สามารถพุ่งทะยานขึ้นไปได้ต่อ ก็อาจจะมีการพักตัวลงมาอีกครั้ง
TF60 : เช้าวานศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้กระโดดเปิด Gap มายืนเหนือ EMAทั้ง3เส้น พร้อมกับพุ่งทะยานขึ้นมาอย่างร้อนแรง
เเละได้มาทดสอบกรอบแนวต้าน ของสามเหลี่ยม "Descending Triangle" ซึ่งถ้าหากวันนี้ดัชนียังคงพุ่งทะยานขึ้นไปได้ต่อ
ก็จะเป็นการพังทลายของสามเหลี่ยมชนิดนี้ และมีโอกาสที่จะได้เห็น New High อีกครั้ง // แต่ถ้าหากไม่สามารถพุ่งทะยานขึ้นไปได้ต่อ
ก็อาจจะมีการพักตัวลงมาอีกครั้ง
Resistance 1097 1100 1105 / 1715 1720 1725 1730
Support 1090 1088 1085 / 1703 1700 1695 1690
*EOD end of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ