เมื่อ2เดือนก่อน เรากลับจากทำงานในม.ตอน5ทุ่ม ขับรถไปเจอน้องผู้หญิงสองคนกำลังเข็นรถมอไซอยู่แถวหลังม. หนึ่งในสองคนนั้นเป็นน้องที่เรารู้จัก แต่น้องกับเราไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ พูดให้เข้าใจง่ายคือน้องไม่ชอบเราเพราะเราเคยมีปัญหากัน เราขับรถไปจอดข้างหน้าแล้วลงมาถามว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย ตอนน้องเห็นหน้าเราดูเซ็งมาก เหมือนไม่อยากให้เราช่วย แต่คงไม่มีทางเลือก เพื่อนน้องเค้าเลยบอกว่ายางรั่ว แต่ร้านปิดหมดแล้ว เราเลยบอกว่าพี่มีเบอร์ช่าง เดี๋ยวโทรให้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะยังมาซ่อมให้มั้ย สรุปคือช่างจะมาให้แต่ติดลูกค้าอื่น ให้รอสักพัก เราเลยรอเป็นเพื่อนน้องสองคน จนช่างมาและซ่อมเสร็จ รวมเวลาประมาณ เกือบๆ 2 ชม. แล้วน้องอยู่หอในทั้งคู่ น้องขับรถกลับหอเราก็ขับตามไปส่ง เพราะเห็นว่าดึกแล้ว น้องหาที่จอดมอไซไม่ได้ เราก็ลงไปช่วยขยับรถให้ ตั้งแต่เจอกันจนแยกย้าย น้องที่เรารู้จักก็ไม่พูดอะไรกับเราเลยสักคำ มีแต่เพื่อนน้องที่คุยกับเรา เช้าวันถัดมาเราบังเอิญเจอน้องคนนี้ที่โรงอาหารอีก แต่ก็ทำเหมือนเดิมคือต่างคนต่างไม่สน
ผ่านไปอาทิตย์ นึงดันไปค่ายเดียวกัน แถมถูกจับอยู่กลุ่มเดียวกันอีก ต้องนอนห้องเดียวกัน คิดแล้วว่าต้องอึดอัดมาก น้องไปขอสตาฟเปลี่ยนห้อง แต่ก็เปลี่ยนไม่ได้ สุดท้ายต้องอยู่ห้องเดียวกัน มีเพื่อนเค้า2คน น้องเค้า แล้วก็เรา บรรยากาศโคตรอึดอัดอย่างที่คิด จนสุดท้ายเราเป็นฝ่ายออกไปนอนระเบียง ค่าย4วัน ทำกิจกรรมด้วยกันตลอด แต่พยายามห่างกันให้มากสุด แต่คืนสุดท้ายมีกิจกรรมเปิดใจ เริ่มจากเขียนสิ่งที่อยากบอกใครก็ได้ในค่ายลงในกระดาษแล้วไม่ลงชื่อ แน่นอนเราเขียนถึงน้องในกลุ่ม แบบขอบคุณที่ร่วมกิจกรรมด้วยกันมา แล้วลงท้ายว่าอยากขอให้คนที่ไม่ชอบเรา ให้โอกาสเราแก้ตัว เราอยากเป็นเพื่อน อยากให้เค้าจดจำเราในสถานะมิตรมากกว่าศัตรู น้องก็คงรู้ว่าเราเขียน พออ่านในกระดาษหมด สตาฟก็ให้นั่งเป็นวงแล้วเวียนคุยกันคนละ10นาทีแล้วเปลี่ยนคู่ พอเรากับน้องมาตรงกัน เราก็เงียบกันทั้งคู่ ไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ จนเรารู้สึกว่าควรจะพูดอะไรบ้างในตอนที่มีโอกาสได้เคลียร์กันเลยบอกน้องว่าอะไรที่พี่เคยทำให้ไม่พอใจก็ขอโทษด้วยนะ แต่น้องก็ยังทำเหมือนเดิม ไม่มองหน้าไม่พูดทำเหมือนไม่ได้ยิน เราก็เลยพูดต่อว่าถ้าวันนึงน้องลืมเรื่องเก่าๆได้ ก็ช่วยเกลียดพี่ให้น้อยลงกว่านี้นะ พอพูดจบเราก็เงียบแล้วก็หันหน้าไปทางอื่นเพราะรู้ว่าต่อให้พูดอีกเยอะแค่ไหนน้องก็คงจะไม่พูดกับเรา อยู่ดีๆผ่านไปสองสามนาทีน้องก็พูดออกมาประมาณว่า ก็ไม่ได้เกลียดขนาดนั้น ก็แค่ไม่ชอบ เราก็ก็พยักหน้าแต่ก็ไม่ตอบอะไร ก็ไม่รู้จะพูดว่าไงเหมือนกันเงียบไปพักนึง แล้วน้องก็พูดว่าผ่านไปนานๆเค้าก็คงจะลืมเองแหละ เดี๋ยวก็คงเฉยๆ แล้วก็หมดเวลา ก็เปลี่ยนคู่ไป มันดูเหมือนไม่ได้มีอะไรดีขึ้นสักเท่าไหร่ แต่นี่ก็เป็นการคุยครั้งแรกหลังจากมีปัญหากัน
ผ่านจากเหตุการณ์ที่ค่ายไปประมาณเดือนนึงเราไปนั่งร้านอาหารกับเพื่อน ก็ไปเจอน้องกับเพื่อนมาเลี้ยงวันเกิดกับพอดี โต๊ะน้องดื่มกันหนักมาก ถึงขั้นที่ทุกคนยืนไม่ค่อยไหวกันแล้ว ทั้งที่ยังไม่เที่ยงคืนเลยด้วยซ้ำ พอประมาณตี 1 ร้านใกล้ปิดทุกคนก็ทยอยกันกลับ มีน้องกับเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คนซึ่งต่างคนต่างพยุงกัน ดูท่าทางไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เห็นแล้วก็เลยเดินเข้าไปถาม ว่าน้องกลับยังไงเมาขนาดนี้ขับรถเองคงไม่ไหว ก็เลยบอกน้องว่าเดี๋ยวไปส่ง น้องเขาไม่ได้พูดอะไรแค่มองหน้าเฉยๆ เหมือนจำไม่ได้ว่าใครแต่น้องอีกสองคนก็รู้จักเราก็เลยตกลงให้เราไปส่ง พอขับเข้าไปในม. เพื่อนน้องบอกว่าวันนี้ไม่นอนหอใน จะไปนอนหอนอกกับเพื่อน เราก็เลยไปส่งที่หอเพื่อนไปถึงมีน้องคนนึงลงไปอ้วกจนสร่าง ก็เลยอาการดีขึ้นมา ลากเพื่อนเค้าอีกคนขึ้นไป เหลือแค่น้องยังเมานอนอยู่ในรถ เราเลยบอกน้องว่าเดี๋ยวเราช่วยพยุงขึ้นไปส่ง เพื่อนน้องจะได้ไม่เหนื่อยแบกเค้าอีกรอบ
เราก็ไปปลุกน้องแล้วบอกว่าถึงหอเพื่อนแล้วนะเดินไหวไหม ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวเราพยุงไป น้องก็พูดประมาณว่าไม่ได้อยากให้ช่วย เราก็เลยถอยออกมา แล้วปล่อยให้น้องลงจากรถเองพอลงมาจากรถก็เซแล้วก็ทำท่าจะล้ม เราก็เลยไปช่วยดึงแล้วบอกน้องว่า ให้พี่ช่วยดีกว่าแล้วน้องก็พูดออกมาว่า เค้าก็เป็นแบบนี้แหละไม่ได้ดีอย่างที่คิดหรอก เลิกมองเค้าคาดหวังกับเค้าสักที แล้วก็บอกประมาณว่า ทำไมต้องพยายามทำตัวเป็นคนดีตลอดเวลามันดูน่ารำคาญ เราเลยบอกว่าไม่ได้พยายามอะไรเลย อะไรที่อยากทำก็ทำ แล้วเค้าก็พูดประมาณว่าอยากจะเกลียดให้มากกว่านี้แต่ทำไม่ได้แล้ว พอยิ่งเกลียดก็ยิ่งโกรธตัวเอง ที่พยายามจะเกลียดคนที่ไม่มีความผิด พยายามจะเกลียดคนที่ดีกับเค้าตลอด เราก็เลยบอกน้องว่า ถึงน้องจะเกลียดพี่มากกว่านี้ พี่ก็ดีกับน้องเหมือนเดิม หรือต่อให้น้องไม่เกลียดพี่แล้วพี่ก็จะยังเป็นเหมือนเดิมอยู่ดี พอเราพูดจบน้องก็ผลักเรา แล้วตบเราแรงมาก เหมือนหน้าชาไปนาน ช้อคด้วย เพราะรู้สึกว่าทำอะไรผิดไป เค้าถึงได้โกรธจนตบเรา แล้วน้องก็ถามว่าโดนตบแบบนี้ยังชอบอยู่มั้ย ทำไม่โกรธล่ะ โกรธสิ เกลียดเค้าเลยยิ่งดี เค้าจะได้ไม่รู้สึกผิดที่เคยทำไม่ดีกับเรามาตลอด เราเลยบอกว่าเมามากแล้ว ขึ้นหอเหอะ แล้วพอจะไปพยุงก็โดนตบอีก แล้วก็ยังง้างมืออีก เราเลยจับไว้แล้วถามน้อง ว่าตบแล้วเกลียดพี่น้อยลงมั้ย ถ้าเกลียดน้อยลง ก็ตบเลย ตบจนกว่าจะหายเกลียด แต่ถ้าไม่ ก็พอแล้วไม่ต้องตบเจ็บมือตัวเองเปล่าๆ น้องก็หยุดแล้วนั่งลงร้องไห้ข้างรถ เราก็ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้เค้าร้องไป เค้าร้องจนหลับ สุดท้ายเค้าก็นอนในรถเรา ใต้หอเพื่อน เพราะเพื่อนน้องขึ้นไปแล้วไม่ลงมา เราแสกนนิ้วเข้าไปไม่ได้
หลังจากวันนั้น เราไม่เจอกันเลยไม่คุยกันเลยเกือบครึ่งเดือน จนวันนึงน้องไลน์มา ทั้งที่ก่อนหน้านี้บล็อคเรา ถามไถ่ทุกอย่างปกติ เราก็ตอบปกติ ไม่อยากถามอะไรเยอะกลัวเค้าอึดอัด แล้วจะไม่ทักมาอีก คุยกันพักนึงน้องก็ถามว่ายังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่มั้ย ยังอยากเป็นเพื่อนเค้าอยู่มั้ย เราก็ตอบว่ายังเหมือนเดิม ยังอยากเป็นพี่ที่น้องไม่เกลียด แล้วเค้าก็บอกว่าขอเวลาให้เค้าหน่อยนะ จะพยายาม เราก็โอเค แล้วแต่น้อง เหมือนทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี เริ่มจะดีขึ้น มันดีใจเหมือนคลายปมได้ คนที่เคยเกลียดเรามากๆกำลังพยายามเกลียดเราน้อยลง ใจมันรู้สึกเหมือนกำลังจะได้สิ่งที่รอมานาน ตอนนี้เริ่มกลัวใจตัวเอง กลัวจะคิดไปไกลกว่านี้ แล้วจะเจ็บอีก เพราะยังไง น้องก็คงให้เรามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
#ขอบคุณมหาลัยที่ทำให้เราเจอกัน ขอบคุณค่ายอาสาดีๆที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น #รักเด็กม.อ.
คนไม่รักก็คือไม่รัก ก็ต้องเข้าใจ แค่ไม่เกลียดกันก็พอแล้ว
ผ่านไปอาทิตย์ นึงดันไปค่ายเดียวกัน แถมถูกจับอยู่กลุ่มเดียวกันอีก ต้องนอนห้องเดียวกัน คิดแล้วว่าต้องอึดอัดมาก น้องไปขอสตาฟเปลี่ยนห้อง แต่ก็เปลี่ยนไม่ได้ สุดท้ายต้องอยู่ห้องเดียวกัน มีเพื่อนเค้า2คน น้องเค้า แล้วก็เรา บรรยากาศโคตรอึดอัดอย่างที่คิด จนสุดท้ายเราเป็นฝ่ายออกไปนอนระเบียง ค่าย4วัน ทำกิจกรรมด้วยกันตลอด แต่พยายามห่างกันให้มากสุด แต่คืนสุดท้ายมีกิจกรรมเปิดใจ เริ่มจากเขียนสิ่งที่อยากบอกใครก็ได้ในค่ายลงในกระดาษแล้วไม่ลงชื่อ แน่นอนเราเขียนถึงน้องในกลุ่ม แบบขอบคุณที่ร่วมกิจกรรมด้วยกันมา แล้วลงท้ายว่าอยากขอให้คนที่ไม่ชอบเรา ให้โอกาสเราแก้ตัว เราอยากเป็นเพื่อน อยากให้เค้าจดจำเราในสถานะมิตรมากกว่าศัตรู น้องก็คงรู้ว่าเราเขียน พออ่านในกระดาษหมด สตาฟก็ให้นั่งเป็นวงแล้วเวียนคุยกันคนละ10นาทีแล้วเปลี่ยนคู่ พอเรากับน้องมาตรงกัน เราก็เงียบกันทั้งคู่ ไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ จนเรารู้สึกว่าควรจะพูดอะไรบ้างในตอนที่มีโอกาสได้เคลียร์กันเลยบอกน้องว่าอะไรที่พี่เคยทำให้ไม่พอใจก็ขอโทษด้วยนะ แต่น้องก็ยังทำเหมือนเดิม ไม่มองหน้าไม่พูดทำเหมือนไม่ได้ยิน เราก็เลยพูดต่อว่าถ้าวันนึงน้องลืมเรื่องเก่าๆได้ ก็ช่วยเกลียดพี่ให้น้อยลงกว่านี้นะ พอพูดจบเราก็เงียบแล้วก็หันหน้าไปทางอื่นเพราะรู้ว่าต่อให้พูดอีกเยอะแค่ไหนน้องก็คงจะไม่พูดกับเรา อยู่ดีๆผ่านไปสองสามนาทีน้องก็พูดออกมาประมาณว่า ก็ไม่ได้เกลียดขนาดนั้น ก็แค่ไม่ชอบ เราก็ก็พยักหน้าแต่ก็ไม่ตอบอะไร ก็ไม่รู้จะพูดว่าไงเหมือนกันเงียบไปพักนึง แล้วน้องก็พูดว่าผ่านไปนานๆเค้าก็คงจะลืมเองแหละ เดี๋ยวก็คงเฉยๆ แล้วก็หมดเวลา ก็เปลี่ยนคู่ไป มันดูเหมือนไม่ได้มีอะไรดีขึ้นสักเท่าไหร่ แต่นี่ก็เป็นการคุยครั้งแรกหลังจากมีปัญหากัน
ผ่านจากเหตุการณ์ที่ค่ายไปประมาณเดือนนึงเราไปนั่งร้านอาหารกับเพื่อน ก็ไปเจอน้องกับเพื่อนมาเลี้ยงวันเกิดกับพอดี โต๊ะน้องดื่มกันหนักมาก ถึงขั้นที่ทุกคนยืนไม่ค่อยไหวกันแล้ว ทั้งที่ยังไม่เที่ยงคืนเลยด้วยซ้ำ พอประมาณตี 1 ร้านใกล้ปิดทุกคนก็ทยอยกันกลับ มีน้องกับเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คนซึ่งต่างคนต่างพยุงกัน ดูท่าทางไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เห็นแล้วก็เลยเดินเข้าไปถาม ว่าน้องกลับยังไงเมาขนาดนี้ขับรถเองคงไม่ไหว ก็เลยบอกน้องว่าเดี๋ยวไปส่ง น้องเขาไม่ได้พูดอะไรแค่มองหน้าเฉยๆ เหมือนจำไม่ได้ว่าใครแต่น้องอีกสองคนก็รู้จักเราก็เลยตกลงให้เราไปส่ง พอขับเข้าไปในม. เพื่อนน้องบอกว่าวันนี้ไม่นอนหอใน จะไปนอนหอนอกกับเพื่อน เราก็เลยไปส่งที่หอเพื่อนไปถึงมีน้องคนนึงลงไปอ้วกจนสร่าง ก็เลยอาการดีขึ้นมา ลากเพื่อนเค้าอีกคนขึ้นไป เหลือแค่น้องยังเมานอนอยู่ในรถ เราเลยบอกน้องว่าเดี๋ยวเราช่วยพยุงขึ้นไปส่ง เพื่อนน้องจะได้ไม่เหนื่อยแบกเค้าอีกรอบ
เราก็ไปปลุกน้องแล้วบอกว่าถึงหอเพื่อนแล้วนะเดินไหวไหม ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวเราพยุงไป น้องก็พูดประมาณว่าไม่ได้อยากให้ช่วย เราก็เลยถอยออกมา แล้วปล่อยให้น้องลงจากรถเองพอลงมาจากรถก็เซแล้วก็ทำท่าจะล้ม เราก็เลยไปช่วยดึงแล้วบอกน้องว่า ให้พี่ช่วยดีกว่าแล้วน้องก็พูดออกมาว่า เค้าก็เป็นแบบนี้แหละไม่ได้ดีอย่างที่คิดหรอก เลิกมองเค้าคาดหวังกับเค้าสักที แล้วก็บอกประมาณว่า ทำไมต้องพยายามทำตัวเป็นคนดีตลอดเวลามันดูน่ารำคาญ เราเลยบอกว่าไม่ได้พยายามอะไรเลย อะไรที่อยากทำก็ทำ แล้วเค้าก็พูดประมาณว่าอยากจะเกลียดให้มากกว่านี้แต่ทำไม่ได้แล้ว พอยิ่งเกลียดก็ยิ่งโกรธตัวเอง ที่พยายามจะเกลียดคนที่ไม่มีความผิด พยายามจะเกลียดคนที่ดีกับเค้าตลอด เราก็เลยบอกน้องว่า ถึงน้องจะเกลียดพี่มากกว่านี้ พี่ก็ดีกับน้องเหมือนเดิม หรือต่อให้น้องไม่เกลียดพี่แล้วพี่ก็จะยังเป็นเหมือนเดิมอยู่ดี พอเราพูดจบน้องก็ผลักเรา แล้วตบเราแรงมาก เหมือนหน้าชาไปนาน ช้อคด้วย เพราะรู้สึกว่าทำอะไรผิดไป เค้าถึงได้โกรธจนตบเรา แล้วน้องก็ถามว่าโดนตบแบบนี้ยังชอบอยู่มั้ย ทำไม่โกรธล่ะ โกรธสิ เกลียดเค้าเลยยิ่งดี เค้าจะได้ไม่รู้สึกผิดที่เคยทำไม่ดีกับเรามาตลอด เราเลยบอกว่าเมามากแล้ว ขึ้นหอเหอะ แล้วพอจะไปพยุงก็โดนตบอีก แล้วก็ยังง้างมืออีก เราเลยจับไว้แล้วถามน้อง ว่าตบแล้วเกลียดพี่น้อยลงมั้ย ถ้าเกลียดน้อยลง ก็ตบเลย ตบจนกว่าจะหายเกลียด แต่ถ้าไม่ ก็พอแล้วไม่ต้องตบเจ็บมือตัวเองเปล่าๆ น้องก็หยุดแล้วนั่งลงร้องไห้ข้างรถ เราก็ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้เค้าร้องไป เค้าร้องจนหลับ สุดท้ายเค้าก็นอนในรถเรา ใต้หอเพื่อน เพราะเพื่อนน้องขึ้นไปแล้วไม่ลงมา เราแสกนนิ้วเข้าไปไม่ได้
หลังจากวันนั้น เราไม่เจอกันเลยไม่คุยกันเลยเกือบครึ่งเดือน จนวันนึงน้องไลน์มา ทั้งที่ก่อนหน้านี้บล็อคเรา ถามไถ่ทุกอย่างปกติ เราก็ตอบปกติ ไม่อยากถามอะไรเยอะกลัวเค้าอึดอัด แล้วจะไม่ทักมาอีก คุยกันพักนึงน้องก็ถามว่ายังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่มั้ย ยังอยากเป็นเพื่อนเค้าอยู่มั้ย เราก็ตอบว่ายังเหมือนเดิม ยังอยากเป็นพี่ที่น้องไม่เกลียด แล้วเค้าก็บอกว่าขอเวลาให้เค้าหน่อยนะ จะพยายาม เราก็โอเค แล้วแต่น้อง เหมือนทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี เริ่มจะดีขึ้น มันดีใจเหมือนคลายปมได้ คนที่เคยเกลียดเรามากๆกำลังพยายามเกลียดเราน้อยลง ใจมันรู้สึกเหมือนกำลังจะได้สิ่งที่รอมานาน ตอนนี้เริ่มกลัวใจตัวเอง กลัวจะคิดไปไกลกว่านี้ แล้วจะเจ็บอีก เพราะยังไง น้องก็คงให้เรามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
#ขอบคุณมหาลัยที่ทำให้เราเจอกัน ขอบคุณค่ายอาสาดีๆที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น #รักเด็กม.อ.