
รูปทรง โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว แบบสปอร์ตไบค์ น้ำหนักเบา สมรรถนะที่สูง ตอบสนองการขับขี่ที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ เหมาะสำหรับไบค์เกอร์ทุกระดับ ไม่ต้องมีทักษะที่สูงระดับโปร ก็สามารถขับขี่ได้อย่างง่ายดาย
〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰
🔹ทรงพลังและเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่
- ความจุกระบอกสูบขนาด 399 cc เครื่องยนต์แบบใหม่ที่เพิ่มความแรงของสมรรถนะให้มากกว่ารุ่นก่อนอย่าง Ninja 300 โดย Ninja 400 มีแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 33.4 kW หรือ 45 แรงม้า ที่รอบเครื่อง 10,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 38 นิวตัน-เมตร ที่รอบเครื่อง 8,000 รอบต่อนาที โดยทั้งแรงม้าและความจุกระบอกสูบได้เพิ่มขึ้นจากรุ่น Ninja 300 ที่มีแรงม้าสุงสุดอยู่ที่ 39 แรงม้า และความจุ 296 cc เท่านั้น
🔹รูปร่างกะทัดรัด แต่น้ำหนักเบาและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
- ด้วยการออกแบบที่มีความต้องการที่จะลดน้ำหนักของทุกชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ให้มีน้ำหนักเบาที่สุด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ความจุของกระบอกสูบก็ยังคงมีขนาดใหญ่ เป็นการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายสบายตา ตัดส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นออก และปรับปรุงโครงสร้างใหม่เพื่อให้มีเครื่องยนต์ที่บางลง และปรับแต่งท่อของระบบความเย็นให้มีขนาดเล็กลง
🔹New Assist & Slipper Clutch
- คลัทช์มีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น (ลดจาก 139 มิลลิเมตร เป็น 125 มิลลิเมตร) ลดความแข็งกระด้างของระบบควบคุม
แผ่นคลัททช์ และก้านคลัทช์ให้เบาบางขึ้น 20% เพื่อตอบสนองได้ดีในสภาวะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานอยู่ ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมได้ง่ายขึ้น ขับขี่สะดวกสบายขึ้น
🔹พัดลมหม้อน้ำแบบใหม่
- พัดลมหม้อน้ำสำหรับเครื่องยนต์ที่กำจัดความร้อนของเครื่องยนต์ออกจากตัวผู้ขับขี่ มีส่วนทำให้ผู้ขับขี่ได้รับสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
🔹“โครงรถแบบใหม่ น้ำหนักเบา มีเสถียรภาพ เพิ่มความสามารถในการขับเคลื่อนของรถ”
โครงรถน้ำหนักเบา
- รูปแบบโครงรถของ Ninja 400 มีการออกแบบคล้ายคลึงกับ Ninja H2 เครื่องยนต์มีความแข็งแกร่งทนทานเป็นพิเศษ โครงรถที่ได้รับการออกแบบใหม่มีส่วนสำคัญช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้นในช่วงเกียร์ต่ำ
🔹Swingarm Mounting Plate
- แผ่นครอบ Swingarm ใน Ninja 400 จะเหมือนกับของ Ninja H2 ที่ได้ติดตั้งไว้ที่ส่วนหลังของเครื่องยนต์และทำงานร่วมกับโช้คหลัง เพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพและลดน้ำหนักมวลรวมของตัวรถลง
🔹แฮนด์จับควบคุมง่าย
- โครงรถแบบใหม่ เป็น Super sport style มีระยะฐานล้อสั้น และรูปแบบ Swingarm ยาว ส่วนประกอบต่างๆและความสูงชันของมุมแคสเตอร์อยู่ในองศาที่พอเหมาะกับแฮนด์จับ ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้การทรงตัว การบังคับเลี้ยวผ่านแฮนด์จับมีเสถียรภาพมากขึ้น
🔹น้ำหนักที่ลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ
- การออกแบบที่เน้นให้มีน้ำหนักเบา เครื่องยนต์แบบใหม่ โครงรถแบบใหม่ มีความกว้างขวางมากขึ้น และพยายามที่จะลดน้ำหนักให้น้อยลงได้มากที่สุด ผลลัพธ์จึงออกมาอยู่ที่ 168 กิโลกรัม
🔹ความแข็งแกร่งที่มากขึ้นของ Shock-up หน้า
- โช้คอัพหน้า ขนาด 41 มิลลิเมตร เพิ่มความแข็งแรงของโช้คทำให้ระบบกันสะเทือนทำงานได้ดีขึ้น ล้อหน้าจะให้ความรู้สึกที่เกาะติดถนนได้ดี การเปลี่ยนแปลงตรงนี้ ส่งผลตรงไปยังระบบกันสะเทือนและส่วนประกอบทั้งหมดของรถให้ทำงานได้ดีขึ้น
🔹จานเบรคขนาดใหญ่
- มีขนาด 310 มิลลิเมตร (ขนาดเดียวกับจานเบรกที่ใช้ใน ZZR1400) ใน Ninja 400 ใช้ชุดจานเบรกหน้าแบบ Semi-Floating เพิ่มพลังการเบรกที่ทำให้ผู้ขับขี่มันใจเมื่อใช้เบรก และช่วยขจัดการหยุดชะงักกระทันหันของการทำงานของกระบอกสูบขณะที่ใช้เบรค นอกจากนี้ Ninja 400 ยังมีระบบ ABS แบบล่าสุดจาก Nissin ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดและรูปร่างกะทัดรัดที่สุด
🔹ตำแหน่งท่านั่งที่ให้ลุค Sport แต่สะดวกสบาย
- องศาการนั่งถูกจัดวางให้เหมาะกับขนาดตัวของผู้ขับขี่ สามารถขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายในทุกสถานการณ์ แฮนด์จับที่ยกสูงขึ้น ที่พักเท้าที่เลื่อนขึ้นไปข้างหน้ามากขึ้น ทุกอย่างถูกจัดวางเพื่อให้เหมาะสมต่อสรีระและความสะดวกสบายของผู้ขับขี่
🔹ขึ้นคร่อมได้อย่างง่ายดาย
- เบานั่งที่สูงจากพื้น 785 มิลลิเมตร (เมื่อวัดจากล้อรถเติมลมอย่างเพียงพอแล้ว) การออกแบบที่มีรูปร่างเพรียวบางของเบาะ เบาะแคบลง 30 มิลลิเมตร และส่วนหลังของเครื่องยนต์ที่ไม่กีดขวางเมื่อเท้าของผู้ขับขี่กำลังจะวางถึงพื้น
🔹ความสะดวกสบายขั้นสุดของการขับขี่ และการป้องกันลมที่ยอดเยี่ยม
- ความหนาของเบาะช่วยลดการกระแทก และการสั่นสะเทือนทั้งคนขับและคนซ้อน ด้วยวัสดุภายในของเบาะแบบ Low-rebound Urethane มีความยืดหยุ่นสูง รองรับสรีระของคนนั่งได้อย่างดีเยี่ยม
🔹ไฟหน้า LED แบบ Twin Headlamp
- ไฟ LED คู่ ดีไซน์เฉียบ มีความสว่างสไว เพิ่มการมองเห็นในทุกๆสถานการณ์ นอกจากนี้องค์ประกอบอื่นๆ เช่น ฝาครอบด้านหน้าและด้านหลัง รวมทั้งสปอยเลอร์ ยังได้รับแรงบันดาลใจจาก H2 อีกด้วย
🔹High-Grade Cockpit
- Ninja 400 มีการใช้เครื่องตรวจวัดแบบเดียวกันกับ Ninja 650 เครื่องวัดความเร็วแอนาล็อคขนาดใหญ่ ตำแหน่งการจัดวางเกียร์ และจอแสดงผลแบบ Multi-function LCD
〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰
Ninja 400 มีทั้งหมด 2 สี
- Metallic Spark Black
- Lime Green / Ebony (KRT Edition)
〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰
🔸ชนิดเครื่องยนต์ - 2 สูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ
🔸ความจุกระบอกสูบ - 399 cc
🔸เส้นผ่าศูนย์กลางของลูกสูบและระยะชัก - 70 x 51.8 มิลลิเมตร
🔸อัตราส่วนกำลังอัด - 11.5 : 1
🔸ระบบวาล์ว - DOHC, 8 วาล์ว
🔸ระบบเชื้อเพลิง - ระบบหัวฉีดน้ำมัน
🔸การจุดระเบิดเชื้อเพลงของเครื่องยนต์ - ดิจิตอล
🔸การสตาร์ท - ไฟฟ้า
🔸การหล่อลื่น - Forced lubrication, wet sump
🔸ระบบกันสะเทือน
หน้า - telescopic 41 มิลลิมเมตร
หลัง - Bottom-Link Uni-Trak, gas
ขอบคุณข้อมูลจาก Kawasaki Real motosports
เอา Spec Kawasaki Ninja 400 มาฝาก
รูปทรง โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว แบบสปอร์ตไบค์ น้ำหนักเบา สมรรถนะที่สูง ตอบสนองการขับขี่ที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ เหมาะสำหรับไบค์เกอร์ทุกระดับ ไม่ต้องมีทักษะที่สูงระดับโปร ก็สามารถขับขี่ได้อย่างง่ายดาย
〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰
🔹ทรงพลังและเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่
- ความจุกระบอกสูบขนาด 399 cc เครื่องยนต์แบบใหม่ที่เพิ่มความแรงของสมรรถนะให้มากกว่ารุ่นก่อนอย่าง Ninja 300 โดย Ninja 400 มีแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 33.4 kW หรือ 45 แรงม้า ที่รอบเครื่อง 10,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 38 นิวตัน-เมตร ที่รอบเครื่อง 8,000 รอบต่อนาที โดยทั้งแรงม้าและความจุกระบอกสูบได้เพิ่มขึ้นจากรุ่น Ninja 300 ที่มีแรงม้าสุงสุดอยู่ที่ 39 แรงม้า และความจุ 296 cc เท่านั้น
🔹รูปร่างกะทัดรัด แต่น้ำหนักเบาและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
- ด้วยการออกแบบที่มีความต้องการที่จะลดน้ำหนักของทุกชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ให้มีน้ำหนักเบาที่สุด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ความจุของกระบอกสูบก็ยังคงมีขนาดใหญ่ เป็นการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายสบายตา ตัดส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นออก และปรับปรุงโครงสร้างใหม่เพื่อให้มีเครื่องยนต์ที่บางลง และปรับแต่งท่อของระบบความเย็นให้มีขนาดเล็กลง
🔹New Assist & Slipper Clutch
- คลัทช์มีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น (ลดจาก 139 มิลลิเมตร เป็น 125 มิลลิเมตร) ลดความแข็งกระด้างของระบบควบคุม
แผ่นคลัททช์ และก้านคลัทช์ให้เบาบางขึ้น 20% เพื่อตอบสนองได้ดีในสภาวะที่เครื่องยนต์กำลังทำงานอยู่ ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมได้ง่ายขึ้น ขับขี่สะดวกสบายขึ้น
🔹พัดลมหม้อน้ำแบบใหม่
- พัดลมหม้อน้ำสำหรับเครื่องยนต์ที่กำจัดความร้อนของเครื่องยนต์ออกจากตัวผู้ขับขี่ มีส่วนทำให้ผู้ขับขี่ได้รับสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
🔹“โครงรถแบบใหม่ น้ำหนักเบา มีเสถียรภาพ เพิ่มความสามารถในการขับเคลื่อนของรถ”
โครงรถน้ำหนักเบา
- รูปแบบโครงรถของ Ninja 400 มีการออกแบบคล้ายคลึงกับ Ninja H2 เครื่องยนต์มีความแข็งแกร่งทนทานเป็นพิเศษ โครงรถที่ได้รับการออกแบบใหม่มีส่วนสำคัญช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้นในช่วงเกียร์ต่ำ
🔹Swingarm Mounting Plate
- แผ่นครอบ Swingarm ใน Ninja 400 จะเหมือนกับของ Ninja H2 ที่ได้ติดตั้งไว้ที่ส่วนหลังของเครื่องยนต์และทำงานร่วมกับโช้คหลัง เพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพและลดน้ำหนักมวลรวมของตัวรถลง
🔹แฮนด์จับควบคุมง่าย
- โครงรถแบบใหม่ เป็น Super sport style มีระยะฐานล้อสั้น และรูปแบบ Swingarm ยาว ส่วนประกอบต่างๆและความสูงชันของมุมแคสเตอร์อยู่ในองศาที่พอเหมาะกับแฮนด์จับ ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้การทรงตัว การบังคับเลี้ยวผ่านแฮนด์จับมีเสถียรภาพมากขึ้น
🔹น้ำหนักที่ลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ
- การออกแบบที่เน้นให้มีน้ำหนักเบา เครื่องยนต์แบบใหม่ โครงรถแบบใหม่ มีความกว้างขวางมากขึ้น และพยายามที่จะลดน้ำหนักให้น้อยลงได้มากที่สุด ผลลัพธ์จึงออกมาอยู่ที่ 168 กิโลกรัม
🔹ความแข็งแกร่งที่มากขึ้นของ Shock-up หน้า
- โช้คอัพหน้า ขนาด 41 มิลลิเมตร เพิ่มความแข็งแรงของโช้คทำให้ระบบกันสะเทือนทำงานได้ดีขึ้น ล้อหน้าจะให้ความรู้สึกที่เกาะติดถนนได้ดี การเปลี่ยนแปลงตรงนี้ ส่งผลตรงไปยังระบบกันสะเทือนและส่วนประกอบทั้งหมดของรถให้ทำงานได้ดีขึ้น
🔹จานเบรคขนาดใหญ่
- มีขนาด 310 มิลลิเมตร (ขนาดเดียวกับจานเบรกที่ใช้ใน ZZR1400) ใน Ninja 400 ใช้ชุดจานเบรกหน้าแบบ Semi-Floating เพิ่มพลังการเบรกที่ทำให้ผู้ขับขี่มันใจเมื่อใช้เบรก และช่วยขจัดการหยุดชะงักกระทันหันของการทำงานของกระบอกสูบขณะที่ใช้เบรค นอกจากนี้ Ninja 400 ยังมีระบบ ABS แบบล่าสุดจาก Nissin ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดและรูปร่างกะทัดรัดที่สุด
🔹ตำแหน่งท่านั่งที่ให้ลุค Sport แต่สะดวกสบาย
- องศาการนั่งถูกจัดวางให้เหมาะกับขนาดตัวของผู้ขับขี่ สามารถขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายในทุกสถานการณ์ แฮนด์จับที่ยกสูงขึ้น ที่พักเท้าที่เลื่อนขึ้นไปข้างหน้ามากขึ้น ทุกอย่างถูกจัดวางเพื่อให้เหมาะสมต่อสรีระและความสะดวกสบายของผู้ขับขี่
🔹ขึ้นคร่อมได้อย่างง่ายดาย
- เบานั่งที่สูงจากพื้น 785 มิลลิเมตร (เมื่อวัดจากล้อรถเติมลมอย่างเพียงพอแล้ว) การออกแบบที่มีรูปร่างเพรียวบางของเบาะ เบาะแคบลง 30 มิลลิเมตร และส่วนหลังของเครื่องยนต์ที่ไม่กีดขวางเมื่อเท้าของผู้ขับขี่กำลังจะวางถึงพื้น
🔹ความสะดวกสบายขั้นสุดของการขับขี่ และการป้องกันลมที่ยอดเยี่ยม
- ความหนาของเบาะช่วยลดการกระแทก และการสั่นสะเทือนทั้งคนขับและคนซ้อน ด้วยวัสดุภายในของเบาะแบบ Low-rebound Urethane มีความยืดหยุ่นสูง รองรับสรีระของคนนั่งได้อย่างดีเยี่ยม
🔹ไฟหน้า LED แบบ Twin Headlamp
- ไฟ LED คู่ ดีไซน์เฉียบ มีความสว่างสไว เพิ่มการมองเห็นในทุกๆสถานการณ์ นอกจากนี้องค์ประกอบอื่นๆ เช่น ฝาครอบด้านหน้าและด้านหลัง รวมทั้งสปอยเลอร์ ยังได้รับแรงบันดาลใจจาก H2 อีกด้วย
🔹High-Grade Cockpit
- Ninja 400 มีการใช้เครื่องตรวจวัดแบบเดียวกันกับ Ninja 650 เครื่องวัดความเร็วแอนาล็อคขนาดใหญ่ ตำแหน่งการจัดวางเกียร์ และจอแสดงผลแบบ Multi-function LCD
〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰
Ninja 400 มีทั้งหมด 2 สี
- Metallic Spark Black
- Lime Green / Ebony (KRT Edition)
〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰〰
🔸ชนิดเครื่องยนต์ - 2 สูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ
🔸ความจุกระบอกสูบ - 399 cc
🔸เส้นผ่าศูนย์กลางของลูกสูบและระยะชัก - 70 x 51.8 มิลลิเมตร
🔸อัตราส่วนกำลังอัด - 11.5 : 1
🔸ระบบวาล์ว - DOHC, 8 วาล์ว
🔸ระบบเชื้อเพลิง - ระบบหัวฉีดน้ำมัน
🔸การจุดระเบิดเชื้อเพลงของเครื่องยนต์ - ดิจิตอล
🔸การสตาร์ท - ไฟฟ้า
🔸การหล่อลื่น - Forced lubrication, wet sump
🔸ระบบกันสะเทือน
หน้า - telescopic 41 มิลลิมเมตร
หลัง - Bottom-Link Uni-Trak, gas
ขอบคุณข้อมูลจาก Kawasaki Real motosports