วันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งที จะนั่ง ๆ นอน ๆ หายใจทิ้งอยู่ห้องเฉย ๆ ได้ไง
นั่งคิดนอนคิดอยู่สักพัก เข้า Google หาที่ไป จนมาเจอ ที่ ๆ บรรยากาศสบาย ๆ เงียบสงบ แถมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
อย่าง "อุทยานแห่งชาติหาดวนกร" ชายหาดอันลือชื่อของ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ตัดสินใจเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าออกเดินทาง ได้เวลาออกไปโลดแล่นหาความสุขใส่ตัวแล้วค่ะะะ : )
เข้าไปดูมินิไกด์ที่เที่ยวเด็ดๆ อีกหลายที่และเรื่องเล่าอีกมากมายได้ที่เพจ .. " เที่ยวเองนักเลงพอ "

ทริปนี้ขับรถมากันเองสบายหน่อยอยากแวะไหนก็แวะได้
ไหนๆก็ต้องผ่านเขาสามร้อยยอดแล้ว เลยว่าจะแวะเข้ามาดูทุ่งดอกบัวซะหน่อย 🙄
ไม่มีดอกบัวหรือน้ำสักหยด 555
มีเเต่หญ้าแห้งๆ ผืนดินอันเเตกระเเหง เเละ "ความคลีน" ตอนนั้นคาดหวังกับทุ่งดอกบัวมาก แต่พอเห็นเเบบนี้เเล้วมันก็สวยไปอีกเเบบนะ เป็นความโชคดีในความเฟล คงไปกันผิดฤดู
และภูเขาหินสวย ๆ
แต่เสียดายที่ท้องฟ้าปิด เเต่ก็ยังได้ภาพสวย ๆ มา ( สวยมั้ยไม่รู้ ชมตัวเอง 5555 )
ถ่ายๆอยู่เจอตัว

วิ่งอยู่ใต้สะพานด้วย 5555
เหมือนฝนเริ่มจะมา รีบไปที่พักเถอะ
ทิ้งเขาไว้ข้างหลังและเดินหน้าต่อไป ระหว่างทางแวะซื้อของเอาไว้กินที่แคมป์ด้วย เดี๋ยวอดตาย!

ขับรถมาไม่ไกล มาถึงหาดวนกรแล้ว เงียบสงบมากจริงๆ ไม่มีใครเลย แม้แต่จนท. ก็ไม่ค่อยมี 5555 เหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆ

ตั้งแคมป์เตรียมก่อกองไฟ จริงๆอยากไปตั้งใกล้ๆ น้ำทะเลเลยแต่ไม่มีใครเห็นด้วย 😭

ได้เวลารอบกองไฟ 🔥🔥

ยิ่งดึกยิ่งมีแสงออโรร่า 5555 ขับรถ เดินทางกันมาทั้งวัน ย่างมาสเมลโล่กินกันสักพัก ฟังเดอะช็อคเเล้วนอน

เช้าวันที่ 2 ตื่นมาพร้อมกับความสดใส

สิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ทุกที่ หมา! มาเฝ้าแต่เช้าเลย
ไปเที่ยวทีไรตื่นเช้าทุกทีไม่เหมือนไปเรียนเลย 555

แสงเช้าๆ เดินรับลมเย็นจากทะเล ฟินสุดๆ

ทั้งหาดดูเหมือนจะมีอยู่ 3 เต็นท์นี้แหละ

ได้เวลาเดินสำรวจ เป็นพวกอยากรู้อยากเห็นจริงๆ หาดทรายสะอาด เดินชิลได้เรื่อยๆ สุดลูกหูลูกตา
ที่สำคัญเป็นหาดที่ค่อนข้างอยู่ไกลชุมชน ทำให้เสียงที่ได้ยินมีเเค่เสียงคลื่น เเละคลื่นเท่านั้น <3


เดินด๊อกเเด๊กกันมาสักพัก มาเจอโขดหินใหญ่ๆ เลยปีนขึ้นไปกันโดยไม่ลังเล
อหหหหหหหหหหหห.! ตรงนี้น่ามาตั้งแคมป์มากๆ อารมณ์เหมือนติดเกาะเลย

หลังจากเดินเล่นและซนกันอยู่นาน ก็เริ่มหิว ที่นี้มีร้านข้าวของจนท.อยู่ร้านนึง ปิดประมาณ 4-5 โมงเย็นมั้ง

มาพักผ่อนแบบนี้ เห็นเพื่อนๆมีความสุขกูก็มีความสุขด้วย 55555 ทำหน้าเปื่อยกันเหลือเกิน

มันว่างจริงๆ เหมือนมาเปลี่ยนที่นอนเปลี่ยนจากห้องเหลี่ยมๆมาเป็นห้องที่ไม่มีฝาผนัง

นอนรับลมดูต้นสนไหวไปไหวมา

ช่วงหน้าฝนมันก็จะเขียวๆ หน่อยแหละ

ลงจากเปลก็มานอนในเต็นท์ต่อ วิถีสล็อธ 555

มันไม่มีคนเลยจริงๆ นะ ไม่มีอะไรมากวนใจเเม้เเต่เสียงรถ

หลังจากไปเล่นน้ำทะเลมาเสร็จก็มานอนต่อ เวลาที่มันหมุนไปช้าๆ 🏊🏊🏊

กลางคืนในป่าสนมืดมากกก ถ้าไม่มีกองไฟคงมองไรไม่เห็น

มาชเมลโล่ย่างไฟนี่มันอร่อยโคตรๆเลย ไปแคมป์แบบนี้ขาดไม่ได้จริงๆ ใครไม่เคยแนะนำเลย

เช้าวันที่ 3 ก่อนกลับ กทม. แวะไปน้ำตกซะหน่อย ใครว่าไปทะเลจะได้เจอเเต่ทะเล ขับรถต่อไปอีกไม่ไกลมาก

ท้าดาาาาาา ! ถึงเเล้ว เเต่ยังไม่เห็นน้ำตก ต้องเดินต่อไปอีก
เดินขึ้นมาสักพักกี่ร้อยเมตรจำไม่ได้แต่ไม่ไกลหรอก จะเจอน้ำตกและอาจจะเจองู
วันที่ไปเจองูเขียวอยู่บนกิ้งไม้ อญุ่เหนือหัวไปแค่2เมตรเอง😱😱😱
หลังจากนั้นก็เดินมองบนกันตลอดทาง 5555 🙄🙄🙄🙄🙄🙄

นี่น่าจะเป็นน้ำตกชั้นที่5 แต่น้ำไม่ค่อยมีเลย
ทางขึ้นมาบางช่วงก็ลื่นทำเอาเจ้าคนขวามือลื่นเลย 555

ลงมาจากน้ำตกแวะกินข้าวและเดินขึ้นมาจุดชมวิวต่อ ทางชันมากกกกก

เห็นชัดๆ จะมีแค่ 2 จุด มุมภูเขากับมุมทะเล ระหว่างเดินก็มีตะขาบออกมาทักทายด้วย ช่างเป็นเจ้าบ้านที่ดีจริงๆ

[CR] " หาดวนกร " หนีร้อนไปนอนทราย ทริปชิวๆ 3 วัน 2 คืน
นั่งคิดนอนคิดอยู่สักพัก เข้า Google หาที่ไป จนมาเจอ ที่ ๆ บรรยากาศสบาย ๆ เงียบสงบ แถมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
อย่าง "อุทยานแห่งชาติหาดวนกร" ชายหาดอันลือชื่อของ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ตัดสินใจเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าออกเดินทาง ได้เวลาออกไปโลดแล่นหาความสุขใส่ตัวแล้วค่ะะะ : )
เข้าไปดูมินิไกด์ที่เที่ยวเด็ดๆ อีกหลายที่และเรื่องเล่าอีกมากมายได้ที่เพจ .. " เที่ยวเองนักเลงพอ "
ไหนๆก็ต้องผ่านเขาสามร้อยยอดแล้ว เลยว่าจะแวะเข้ามาดูทุ่งดอกบัวซะหน่อย 🙄
เหมือนฝนเริ่มจะมา รีบไปที่พักเถอะ
ทิ้งเขาไว้ข้างหลังและเดินหน้าต่อไป ระหว่างทางแวะซื้อของเอาไว้กินที่แคมป์ด้วย เดี๋ยวอดตาย!
ขับรถมาไม่ไกล มาถึงหาดวนกรแล้ว เงียบสงบมากจริงๆ ไม่มีใครเลย แม้แต่จนท. ก็ไม่ค่อยมี 5555 เหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆ
ตั้งแคมป์เตรียมก่อกองไฟ จริงๆอยากไปตั้งใกล้ๆ น้ำทะเลเลยแต่ไม่มีใครเห็นด้วย 😭
ได้เวลารอบกองไฟ 🔥🔥
ยิ่งดึกยิ่งมีแสงออโรร่า 5555 ขับรถ เดินทางกันมาทั้งวัน ย่างมาสเมลโล่กินกันสักพัก ฟังเดอะช็อคเเล้วนอน
เช้าวันที่ 2 ตื่นมาพร้อมกับความสดใส
สิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ทุกที่ หมา! มาเฝ้าแต่เช้าเลย
ไปเที่ยวทีไรตื่นเช้าทุกทีไม่เหมือนไปเรียนเลย 555
แสงเช้าๆ เดินรับลมเย็นจากทะเล ฟินสุดๆ
ทั้งหาดดูเหมือนจะมีอยู่ 3 เต็นท์นี้แหละ
ได้เวลาเดินสำรวจ เป็นพวกอยากรู้อยากเห็นจริงๆ หาดทรายสะอาด เดินชิลได้เรื่อยๆ สุดลูกหูลูกตา
ที่สำคัญเป็นหาดที่ค่อนข้างอยู่ไกลชุมชน ทำให้เสียงที่ได้ยินมีเเค่เสียงคลื่น เเละคลื่นเท่านั้น <3
เดินด๊อกเเด๊กกันมาสักพัก มาเจอโขดหินใหญ่ๆ เลยปีนขึ้นไปกันโดยไม่ลังเล
อหหหหหหหหหหหห.! ตรงนี้น่ามาตั้งแคมป์มากๆ อารมณ์เหมือนติดเกาะเลย
หลังจากเดินเล่นและซนกันอยู่นาน ก็เริ่มหิว ที่นี้มีร้านข้าวของจนท.อยู่ร้านนึง ปิดประมาณ 4-5 โมงเย็นมั้ง
มาพักผ่อนแบบนี้ เห็นเพื่อนๆมีความสุขกูก็มีความสุขด้วย 55555 ทำหน้าเปื่อยกันเหลือเกิน
มันว่างจริงๆ เหมือนมาเปลี่ยนที่นอนเปลี่ยนจากห้องเหลี่ยมๆมาเป็นห้องที่ไม่มีฝาผนัง
นอนรับลมดูต้นสนไหวไปไหวมา
ช่วงหน้าฝนมันก็จะเขียวๆ หน่อยแหละ
ลงจากเปลก็มานอนในเต็นท์ต่อ วิถีสล็อธ 555
มันไม่มีคนเลยจริงๆ นะ ไม่มีอะไรมากวนใจเเม้เเต่เสียงรถ
หลังจากไปเล่นน้ำทะเลมาเสร็จก็มานอนต่อ เวลาที่มันหมุนไปช้าๆ 🏊🏊🏊
กลางคืนในป่าสนมืดมากกก ถ้าไม่มีกองไฟคงมองไรไม่เห็น
มาชเมลโล่ย่างไฟนี่มันอร่อยโคตรๆเลย ไปแคมป์แบบนี้ขาดไม่ได้จริงๆ ใครไม่เคยแนะนำเลย
เช้าวันที่ 3 ก่อนกลับ กทม. แวะไปน้ำตกซะหน่อย ใครว่าไปทะเลจะได้เจอเเต่ทะเล ขับรถต่อไปอีกไม่ไกลมาก
ท้าดาาาาาา ! ถึงเเล้ว เเต่ยังไม่เห็นน้ำตก ต้องเดินต่อไปอีก
เดินขึ้นมาสักพักกี่ร้อยเมตรจำไม่ได้แต่ไม่ไกลหรอก จะเจอน้ำตกและอาจจะเจองู
วันที่ไปเจองูเขียวอยู่บนกิ้งไม้ อญุ่เหนือหัวไปแค่2เมตรเอง😱😱😱
หลังจากนั้นก็เดินมองบนกันตลอดทาง 5555 🙄🙄🙄🙄🙄🙄
นี่น่าจะเป็นน้ำตกชั้นที่5 แต่น้ำไม่ค่อยมีเลย
ทางขึ้นมาบางช่วงก็ลื่นทำเอาเจ้าคนขวามือลื่นเลย 555
ลงมาจากน้ำตกแวะกินข้าวและเดินขึ้นมาจุดชมวิวต่อ ทางชันมากกกกก
เห็นชัดๆ จะมีแค่ 2 จุด มุมภูเขากับมุมทะเล ระหว่างเดินก็มีตะขาบออกมาทักทายด้วย ช่างเป็นเจ้าบ้านที่ดีจริงๆ
เเละเราก็กลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ..
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น