วันมาฆบูชา 11 กุมภาพันธ์ 2560
กราบนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ
ณ. ที่ว่าการอำเภอเขาคิชฌกูฏ
เวลา 12.30 น
ในวันนั้นมีผู้แสวงบุญจำนวนมาก มารอคิวรถสองแถวเพื่อขึ้นสู่ยอดเขากราบบูชารอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ ผมก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น ระหว่างที่ยืนรอรถ ผมก้มนั่งลงบนพื้นฟุตบาท ซ้ายมือของผม มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อน ผมหันไปมองดูหน้าของหญิงสาว ( ในเสี้ยววินาทีนั้น )
ได้บังเกิดเป็น "ภาพนิมิต"
ทำให้ผม..กลับมองเห็นเป็นใบหน้าของหญิงสาวอีกนางหนึ่ง.. เธอคือหญิงในอดีตเมื่อ 30 ปีที่แล้ว หญิงที่ผมมีความชื่นชม มีความเลื่อมใส
ในความดีความงามของจิตใจที่ยังอยู่ในความทรงจำของผมตลอดมา
( ผมรู้สึกแปลกใจมาก..ว่าทำไมต้องเกิดนิมิต..ทำให้ผมหวนกลับไปเห็นหญิงสาวในอดีตคนนั้นมาปรากฏในร่างของหญิงสาวคนใหม่คนนี้ด้วย..แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจถึงเหตุผลนี้ ) รถสองแถวหมายเลข 167 มาจอดแล้วผมขึ้นนั่งบนท้ายรถหันมามองดูหญิงสาว อายุของเธอประมาณว่า 30 ปี
( เธอสวยดูน่ารักอีกด้วย )
ผมเริ่มให้ความสนใจเธอแล้ว วันนั้นเธอมาพร้อมคุณแม่และคุณพ่อรวม 3 คน รถเบอร์ 167 เริ่มวิ่งขึ้นสู่ยอดเขาแล้ว ทางฝ่ายหญิงสาวและคุณพ่อคุณแม่ต้องรอขึ้นรถคันหลัง. ตอนนี้รถวิ่งขึ้นมาถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ นักแสวงบุญต้องเดินเท้าต่อขึ้นไปบนยอดเขา ผมเดินขึ้นมาได้ระยะทางหนึ่ง มองเห็นหญิงสาวพร้อมคุณแม่นั่งอยู่บนม้านั่งข้างทาง ""ผมทักเธอว่า พบกันอีกแล้ว""หญิงสาวยิ้มรับด้วยไมตรีจิตอันดียิ่ง"" ส่วนผมเองกลับเดินจากไปโดยไม่มีคำพูดต่อยอด " ผมช่างโง่เขลาเหลือเกิน " ผมเดินต่อไปขึ้นถึงบนยอดเขา กราบบูชาขอพรรอยพระพุทธบาทอันศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเดินต่อมาบนหน้าผาหินลูกพระบาทศักดิ์สิทธิ์กราบขอพรเสร็จ ผมหันกลับมาปรากฏว่าหญิงสาวมายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว เธอบอกผมว่า "" ระวังลื่นนะค่ะ ""ผมยิ้มและดีใจที่ได้พบเห็นเธอในบรรยากาศและสถานที่ดีเช่นนี้ แต่ผมยังคงไม่มีคำพูดบอกกล่าวใดๆกับเธอ และผมก็เดินจากไปอย่าง"โง่เขลาเหมือนเดิม" ผมเดินไปทำบุญถวายสังฆทาน เสร็จแล้วก็รีบเดินทางลงเขา ระหว่างทางก็มองหาหญิงสาวตลอดทางเดิน แต่ไม่พบเห็นเธอแล้ว ผมกังวลและร้อนใจมาก ผมมายืนอยู่ที่จุดรถลงเขา มองดูคนที่มาขึ้นรถเพื่อลงเขา เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้ว ผมมองไม่เห็นหญิงสาวอีกเลย ผมรู้สึกท้อและหมดหวัง คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้พบเห็นหญิงสาวคนนี้อีกต่อไปแล้ว
หลังจากวันนั้นผ่านไป ผมมักจะคิดถึงหญิงสาวอยู่บ่อยครั้ง
ช่วงวันเวลาที่ผ่านไป ในบางครั้งผมจะเกิดความรันทดความรู้สึกเสียใจ ที่กระทำความผิด ปล่อยให้สิ่งที่มีคุณค่าสำคัญมากยิ่งสิ่งหนึ่งของชีวิต ให้ต้องหลุดลอยจากไป ต้องห่างไกลจากกันอย่างไร้จุดหมาย
มาถึงวันนี้ผมตัดสินใจว่าจะโพสต์ข้อความนี้ให้ออกสู่สาธารณะชน ด้วยความหวังว่า เมื่อท่านได้อ่านข้อความทั้งหมดนี้แล้ว จะได้บังเกิดไมตรีจิตให้ความเกื้อกูล พร้อมร่วมสื่อต่อความหมายในข้อความทั้งหมดนี้ให้ถึงหญิงสาวเพื่อจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของผมที่มีต่อหญิงสาวด้วย
และท้ายที่สุดนี้
ผมอยากบอกถึงความรู้สึกของผมที่มีต่อหญิงสาวว่า นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้พบเห็นหญิงสาว ผมก็มีใจนึกชอบเธอแล้ว
และคิดว่าจะหาโอกาสทำความรู้จักกับเธอ
แต่ทุกครั้งที่ได้พบ ผมมักจะเกิดความกลัว
และไม่กล้าที่จะพูด ไม่กล้าที่จะแสดงออก ถึงสิ่งที่ใจตนเองต้องการ
มาวันนี้..ผมถึงมาคิดได้ว่า ผมได้ทำความผิดเอาไว้อย่างมาก ที่ทำตัวนิ่งเฉยมากเกินไป
และอาจจะทำให้หญิงสาวเข้าใจผมผิดไป
และอาจทำให้เกิดความรู้สึกผิดหวัง
และเกิดความไม่สบายใจขึ้นมาอีกด้วย
ผมต้องขอโทษ..ขอโทษที่ผมทำผิดต่อคุณ
สำหรับทุกสิ่งที่ผ่านล่วงเลยไป ขอให้คุณยอมยกโทษให้ผม ขอให้คุณยอมอภัยให้ผมด้วย
และผมปรารถนามากอย่างยิ่งว่า..คุณจะพร้อมส่งมอบไมตรีจิต "ความสดชื่นความเบิกบานความสดใสของคุณ" กลับมาให้ผม "ได้พบเห็นได้สัมผัสได้รับรู้ " ใหม่อีกครั้ง
ผมขอขอบคุณหญิงสาว
ขอบคุณที่ทำให้ผมได้เข้าใจตนเองมากขึ้น
ขอบคุณที่ทำให้ผมได้รับพลังใจที่ดี
ขอบคุณที่ทำให้ผมเกิดความชื่นชอบและชื่นชมคุณ
ขอบคุณที่ทำให้ผมต้องคิดถึงคุณ
ขอบคุณที่ทำให้ผมยอมรับทุกสิ่งที่เป็นคุณ
ขอบคุณชะตาฟ้าลิขิตให้ผมได้มาพบรักกับคุณ
ขอบคุณความรัก..ความผูกพัน
ผมขอขอบคุณ
สุชาติ
พบรักแท้ 💖 ยอดเขาคิชฌกูฏ 11 กุมภาพันธ์ 2560
กราบนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ
ณ. ที่ว่าการอำเภอเขาคิชฌกูฏ
เวลา 12.30 น
ในวันนั้นมีผู้แสวงบุญจำนวนมาก มารอคิวรถสองแถวเพื่อขึ้นสู่ยอดเขากราบบูชารอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ ผมก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น ระหว่างที่ยืนรอรถ ผมก้มนั่งลงบนพื้นฟุตบาท ซ้ายมือของผม มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อน ผมหันไปมองดูหน้าของหญิงสาว ( ในเสี้ยววินาทีนั้น )
ได้บังเกิดเป็น "ภาพนิมิต"
ทำให้ผม..กลับมองเห็นเป็นใบหน้าของหญิงสาวอีกนางหนึ่ง.. เธอคือหญิงในอดีตเมื่อ 30 ปีที่แล้ว หญิงที่ผมมีความชื่นชม มีความเลื่อมใส
ในความดีความงามของจิตใจที่ยังอยู่ในความทรงจำของผมตลอดมา
( ผมรู้สึกแปลกใจมาก..ว่าทำไมต้องเกิดนิมิต..ทำให้ผมหวนกลับไปเห็นหญิงสาวในอดีตคนนั้นมาปรากฏในร่างของหญิงสาวคนใหม่คนนี้ด้วย..แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจถึงเหตุผลนี้ ) รถสองแถวหมายเลข 167 มาจอดแล้วผมขึ้นนั่งบนท้ายรถหันมามองดูหญิงสาว อายุของเธอประมาณว่า 30 ปี
( เธอสวยดูน่ารักอีกด้วย )
ผมเริ่มให้ความสนใจเธอแล้ว วันนั้นเธอมาพร้อมคุณแม่และคุณพ่อรวม 3 คน รถเบอร์ 167 เริ่มวิ่งขึ้นสู่ยอดเขาแล้ว ทางฝ่ายหญิงสาวและคุณพ่อคุณแม่ต้องรอขึ้นรถคันหลัง. ตอนนี้รถวิ่งขึ้นมาถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ นักแสวงบุญต้องเดินเท้าต่อขึ้นไปบนยอดเขา ผมเดินขึ้นมาได้ระยะทางหนึ่ง มองเห็นหญิงสาวพร้อมคุณแม่นั่งอยู่บนม้านั่งข้างทาง ""ผมทักเธอว่า พบกันอีกแล้ว""หญิงสาวยิ้มรับด้วยไมตรีจิตอันดียิ่ง"" ส่วนผมเองกลับเดินจากไปโดยไม่มีคำพูดต่อยอด " ผมช่างโง่เขลาเหลือเกิน " ผมเดินต่อไปขึ้นถึงบนยอดเขา กราบบูชาขอพรรอยพระพุทธบาทอันศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเดินต่อมาบนหน้าผาหินลูกพระบาทศักดิ์สิทธิ์กราบขอพรเสร็จ ผมหันกลับมาปรากฏว่าหญิงสาวมายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว เธอบอกผมว่า "" ระวังลื่นนะค่ะ ""ผมยิ้มและดีใจที่ได้พบเห็นเธอในบรรยากาศและสถานที่ดีเช่นนี้ แต่ผมยังคงไม่มีคำพูดบอกกล่าวใดๆกับเธอ และผมก็เดินจากไปอย่าง"โง่เขลาเหมือนเดิม" ผมเดินไปทำบุญถวายสังฆทาน เสร็จแล้วก็รีบเดินทางลงเขา ระหว่างทางก็มองหาหญิงสาวตลอดทางเดิน แต่ไม่พบเห็นเธอแล้ว ผมกังวลและร้อนใจมาก ผมมายืนอยู่ที่จุดรถลงเขา มองดูคนที่มาขึ้นรถเพื่อลงเขา เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้ว ผมมองไม่เห็นหญิงสาวอีกเลย ผมรู้สึกท้อและหมดหวัง คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้พบเห็นหญิงสาวคนนี้อีกต่อไปแล้ว
หลังจากวันนั้นผ่านไป ผมมักจะคิดถึงหญิงสาวอยู่บ่อยครั้ง
ช่วงวันเวลาที่ผ่านไป ในบางครั้งผมจะเกิดความรันทดความรู้สึกเสียใจ ที่กระทำความผิด ปล่อยให้สิ่งที่มีคุณค่าสำคัญมากยิ่งสิ่งหนึ่งของชีวิต ให้ต้องหลุดลอยจากไป ต้องห่างไกลจากกันอย่างไร้จุดหมาย
มาถึงวันนี้ผมตัดสินใจว่าจะโพสต์ข้อความนี้ให้ออกสู่สาธารณะชน ด้วยความหวังว่า เมื่อท่านได้อ่านข้อความทั้งหมดนี้แล้ว จะได้บังเกิดไมตรีจิตให้ความเกื้อกูล พร้อมร่วมสื่อต่อความหมายในข้อความทั้งหมดนี้ให้ถึงหญิงสาวเพื่อจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของผมที่มีต่อหญิงสาวด้วย
และท้ายที่สุดนี้
ผมอยากบอกถึงความรู้สึกของผมที่มีต่อหญิงสาวว่า นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้พบเห็นหญิงสาว ผมก็มีใจนึกชอบเธอแล้ว
และคิดว่าจะหาโอกาสทำความรู้จักกับเธอ
แต่ทุกครั้งที่ได้พบ ผมมักจะเกิดความกลัว
และไม่กล้าที่จะพูด ไม่กล้าที่จะแสดงออก ถึงสิ่งที่ใจตนเองต้องการ
มาวันนี้..ผมถึงมาคิดได้ว่า ผมได้ทำความผิดเอาไว้อย่างมาก ที่ทำตัวนิ่งเฉยมากเกินไป
และอาจจะทำให้หญิงสาวเข้าใจผมผิดไป
และอาจทำให้เกิดความรู้สึกผิดหวัง
และเกิดความไม่สบายใจขึ้นมาอีกด้วย
ผมต้องขอโทษ..ขอโทษที่ผมทำผิดต่อคุณ
สำหรับทุกสิ่งที่ผ่านล่วงเลยไป ขอให้คุณยอมยกโทษให้ผม ขอให้คุณยอมอภัยให้ผมด้วย
และผมปรารถนามากอย่างยิ่งว่า..คุณจะพร้อมส่งมอบไมตรีจิต "ความสดชื่นความเบิกบานความสดใสของคุณ" กลับมาให้ผม "ได้พบเห็นได้สัมผัสได้รับรู้ " ใหม่อีกครั้ง
ผมขอขอบคุณหญิงสาว
ขอบคุณที่ทำให้ผมได้เข้าใจตนเองมากขึ้น
ขอบคุณที่ทำให้ผมได้รับพลังใจที่ดี
ขอบคุณที่ทำให้ผมเกิดความชื่นชอบและชื่นชมคุณ
ขอบคุณที่ทำให้ผมต้องคิดถึงคุณ
ขอบคุณที่ทำให้ผมยอมรับทุกสิ่งที่เป็นคุณ
ขอบคุณชะตาฟ้าลิขิตให้ผมได้มาพบรักกับคุณ
ขอบคุณความรัก..ความผูกพัน
ผมขอขอบคุณ
สุชาติ