[CR] รีวิว Galaxy Note 8 กับความพยายามเทิร์น S7 แต่ไม่ได้ / ไปซื้อที่ AIS มาใช้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็หล่นจอแตก

จริงๆ มีภูมิต้านทานมาได้ซักพักนึงแล้วที่จะไม่สนใจ Note 8 เพราะยังใช้งาน S7 ได้อย่างดีและไม่มีปัญหาใดๆ
จนกระทั่งอ่านบทความนี้จากพี่แอนครับ > http://iannnnn.com/2017/2393#more-2393

(สำหรับผู้ที่ไม่อยากเสียเวลาอ่าน มันเป็นการรีวิว Note โดยวาดเป็นการ์ตูนครับ พูดข้อดีข้อเสียอย่างตรงไปตรงมา)

จู่ๆ เลยคิดในใจว่า ตอนนี้ตัวเองก็ถือมือถือเยอะเกินไปหน่อย น่าจะควบรวมอะไรต่อมิอะไรให้เรียบร้อย
จากเมื่อก่อนมี iPhone 5C ไว้ฟังเพลง มี Tab A 8.0 ไว้วาดรูปสตอรี่บอร์ดอย่างเดียว
เลยจับสองอย่างขายไป เพื่อรวบรวมเงินมาซื้อ Note 8 ครับ

ก่อนหน้านี้ เคยมีโอกาสลองจับๆ S8 บ้าง แต่ก็ยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ เหตุเพราะมี S7 ซึ่งใช้งานดีอยู่แล้ว
แม้ S8 อาจจะดูผอมบางกว่า แต่ S7 ก็ไม่ได้อ้วนกว่ากันเท่าไหร่ แค่ถูกใส่ Bumper + Case ที่กันกระแทก มันเลยดูหนาๆ
(จำประโยคนี้ไว้นะครับ)

ทีนี้ เริ่มสนใจอย่างจริงจังมากขึ้น เมื่อเห็นโปรเทิร์น S7 เป็น S8 และ Note 8 โดยให้ราคาเทิร์นไม่สูงเว่อร์
แต่ให้ส่วนลดมือถือที่จะเทิร์นใหม่ 2-3000 บาท เพิ่มไปอีก พร้อมกับลดอีก 2000 ตามโปรช็อปช่วยชาติ
ผมเลยเป็น #เหยื่อการตลาด ของแคมเปญนี้ไปโดยปริยายครับ

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เลยสบโอกาส แวะไปที่เดอะมอลล์บางกะปิ หยิบมือถือ S7 ไปให้ที่ศูนย์ซัมซุงดูเพื่อตีราคา
จะบอกว่ามือถือผมมีอายุราวๆ 2 ปีนะ ไม่เคยตกอะไรรุนแรง สภาพทุกอย่างโอเคหมด รอยอะไรก็แทบจะไม่มี
พนง. ก็หยิบมือถือหายไป ซักพักกลับมาพร้อมเปิดหน้าจอสีน้ำเงินบนมือถือ แล้วแจ้งว่า "เทิร์นไม่ได้นะคะ มี Dead Pixel"

อ้าว..นั่นไง ดอกจันข้างล่างโปรโมชั่นตัวเล็กๆ โผล่มาแล้ว - แม่ผมกล่าว

พนง. ชี้ให้ดูครับ ว่าสีน้ำเงินบนหน้าจอขึ้นไม่สม่ำเสมอกัน มันเป็นเส้นขีดๆ ยาวตามขวางของหน้าจอเลย
อันนี้เดาเองล้วนๆ ครับ ว่าน่าจะเกิดจากการใช้งานมาระยะเวลานึง ก็เสื่อมสภาพไปเอง
อาการนี้ ผมไม่เคยเจอกับมือถือค่ายผลไม้นะ ผมมี iPhone 4 อายุราว 5 ปี อย่างมากมันก็จอเหลืองขึ้น ไม่เคยเป็นแบบนี้
แต่ก็เอาเหอะ ก็ได้แต่ทำใจว่ามันก็คงเป็นไปตามอายุขัยของมือถือโดยทั่วไป
และ S7 เครื่องนี้เอง ก็ตอบแทนได้อย่างคุ้มค่าเงินแล้วครับ

แต่พี่ลองไปขายตู้ข้างนอก อาจจะขายได้ และได้มูลค่ามากกว่านี้นะคะ - พนง. กระซิบบอกผม

เมื่อแผนการณ์ล่ม ผมก็พาแม่ไปกินปิ้งย่างให้มีสติ ระหว่างนั้นเปิดเว็บไปเรื่อย หาวิธีการว่าจะซื้ออย่างไรดี
หมายมั่นว่ากลับบ้านวันนี้ ต้องได้มือถือใหม่ไปทำงานให้เสร็จแล้วหล่ะ เพราะอุปกรณ์เก่าๆขายทิ้งหมดแล้ว
ใช้กลยุทธ์แบบ "ทุบหม้อข้าว แล้วเข้าตีเมืองจันท์" โดยแท้

จนกระทั่งผมเจอโปรของ AIS ครับ น่าจะเป็นโปร Hot Deal นะ
เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว พอไปที่ศูนย์บริการ เค้าบอกว่าผมจะได้รับส่วนลด 10,000 บาทในการซื้อ Note 8
ในขณะที่ยังใช้โปรโมชั่นเดิมอยู่ ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นโปร Hot Deal ด้วย
อันนี้งงๆ นิดหน่อยครับว่าทำไมถึงได้ลดเยอะ และได้ใช้โปรเดิม (ที่ราคาถูกและเน็ตเยอะกว่าโปร Hot Deal ปัจจุบัน)
คร่าวๆ ที่จับใจความได้ น่าจะเกิดจากราคาลดอยู่แล้วราว 6000-7000 + Serenade 1000-2000
ซึ่งเมื่อคำนวนไปมาแล้ว พบว่า ผมต้องจ่าย Note 8 แค่เพียง 23900 บาท แถมยังมี S7 ที่เค้าไม่รับเทิร์นมาใช้อีก
โดยจ่ายเงินค่าบริการล่วงหน้าเพียง 1500 บาท แถมเข้าไปในการผูกสัญญาหน่อยนึง
ซึ่งถูกกว่าโปรเทิร์นมือถือของซัมซุง ที่ให้ราคา S7 ราวๆ 6800 + 2000 ค่าส่วนลดเมื่อซื้อ Note 8 + 2000 ช็อบช่วยชาติ = ส่วนลด 10800
เมื่อไปลบกับ 33900 จะเหลือในราคาใกล้เคียงกับการซื้อผ่าน AIS Shop แล้วแถมเรายังมี S7 ไปขายต่อได้อีก

ขายก็คงได้ไม่เท่าไหร่หรอก S7 อ่ะ เอาให้แม่ใช้ดีกว่า แม่จะได้มีกล้องสวยๆ ไว้ถ่ายเวลาไปเที่ยวเน๊าะ - ผมบอกแม่ แม่ยิ้ม ยิ้ม

กว่าจะจัดแจงเรื่องรูดบัตร เรื่องทำใบกำกับภาษีสำหรับช็อปช่วยชาติ ก็กินเวลานานจน AIS Shop ปิด และร้านรวงในห้างต่างๆ ก็เริ่มปิด
เลยคิดว่าเดี๋ยวไว้อีก 1-2 วัน ค่อยมาหาซื้อเคส ติดฟิล์มดีกว่า
เพราะระหว่างการแกะกล่องมือถือเพื่อทดสอบ พนง.แจ้งว่าในกล่องมีเคสแข็งจากซัมซุงแถมมาให้อยู่แล้ว
และด้วยการฟังคำโฆษณาว่า กระจกเราดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทนต่อสิ่งนั้นสิ่งนี้ และเห็นโปรฯ แว๊บๆ ว่ารับประกันจอเมื่อ ตก แตก
ยิ่งทำให้เกิดความสบายใจในการใช้งานในระดับนึงครับ
อีกอย่างคือ ผมจะมาใช้วาดรูปเป็นหลัก ดังนั้นจึงไม่ชอบที่จะติดฟิล์มใดๆ ให้การเขียนมันหน่วงขึ้น
อีกทั้ง ไม่อยากจะใส่เคสให้ดูหนาและหนักจนเกินไป เพราะปกติยังคงต้องพกมือถืออีก 2 เครื่องติดตัวอยู่เช่นกัน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็จัดแจงย้ายข้อมูลจาก S7 มา Note 8 ครับ
พบว่า มีความง่ายในระดับนึง แต่ก็ไม่ได้ง่ายในระดับที่ยกมาวางทั้งก้อนเลยนะครับ
แม้จะใช้ Samsung Backup ช่วยบ้าง แต่ก็ไม่ได้เอาแอปฯ ตามมาครบหมดทุกอัน
และมีปัญหาในเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลใน Samsung Backup ที่น้อยเกินกว่าจะโยกแบบกลางอากาศ
เลยต้องใช้ทั้ง Micro SD Card โยกไฟล์รูปข้ามมา + โหลดแอปฯ จากในลิสต์ที่เคยโหลดไว้ใน Google Play เป็นสำคัญ
ทั้งหมดใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ในการย้ายและโหลดทุกสิ่งให้ Note 8 กลายเป็น S7 ครับ

ข้อดีของ Samsung Backup คือ มันยกการจัดวางแอปฯ ที่เคยอยู่ในมือถือเก่า ให้มาอยู่บนมือถือใหม่เป๊ะๆ - อันนี้ชอบ

ในระหว่างรอ ผมก็หาข้อมูลพวก Wireless Charger เอย หาวิธีการแปลงสาย Micro USB เป็น USB Type C บ้าง
เพราะถ้าต้องซื้อสาย Type C ใหม่หมด ก็ต้องเสียอีกหลายตัง และสาย Micro USB ที่มีอยู่ทุกมุมบ้านก็จะเปล่าประโยชน์
สรุปสุดท้าย ได้เว็บจีน Wish.com ช่วยไว้ครับ จ่าย Wireless Charger 2 ชิ้น + หัวแปลงเป็น Type C 4 ชิ้น ราคารวม 1000 บาท
และด้วยความร้อนใจ เลยเปิดหา Wireless Charger มือสอง ที่ปล่อยกันอยู่ในราคา 700-900 บาท มาใช้แก้ขัดก่อน

อ้อ..ลืมบอกไปครับ ว่าอุปกรณ์ที่แถมมากับ Note 8 มีหัวแปลง Micro USB เป็น USB Type C ด้วยอันนึง
และ OTG แปลงจาก USB Type C เป็น USB ปกติแบบ Female เป็นท่ามาตรฐานของค่ายนี้ครับ

ทุกอย่างเป็นไปได้ดี จนกระทั่ง....
ชื่อสินค้า:   Samsung Galaxy Note 8
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่