แน่นอนว่าความเจ็บ ความป่วย ไม่สบายเนื้อ ไม่สบายตัว เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องการ
เรื่องละเลยร่างกายเป็นเรื่องมักง่ายที่ฉันทำมาตลอด ๒๔ ปี ยิ่งไม่เคยเจ็บป่วยก็ยิ่งหลงลืมที่จะดูแลมันมาเรื่อย ๆ
ตอนนี้ฉันผ่านอายุ ๒๔ มาเพียง ๔ เดือนเศษ แต่กลับมีอาการป่วยเล็กป่วยน้อยที่นอนพักและทานยาวันนึงก็หายมานับครั้งไม่ถ้วน
แต่อย่างที่บอก...มันคือความมักง่ายที่บวกกับความคิดของตัวเองว่า "ไม่เป็นไรหรอก กินยานอนพักก็หาย" เพราะผ่านมาทำแบบนี้ตลอด
แน่นอนว่าความแน่นอนคือสิ่งไม่แน่นอน ทานยา นอนพัก วันนึงไม่หาย สองวันก็ไม่หาย สามวันก็ไม่หาย สี่วันผ่านไปเลยตัดสินใจพบหมอ
สิ่งที่ไม่อยากมีกลับมี สิ่งที่ไม่อยากได้ร่างกายกลับลงโทษและยัดเยียดมาให้
ใช่...ฉันป่วย ฉันมีทั้งโรคประจำตัวและไม่ประจำตัว ยิ่งกังวล ก็ยิ่งเครียด ยิ่งเครียดอาการก็ยิ่งทวีขึ้น
หนทางเดียวที่จะลดความเครียด คลายความกังวลนี้ได้ก็คือ "เที่ยว !!!" แต่จะเที่ยวแบบไหนดีที่จะเยียวยาจุดนี้ได้...?
มาถึงตอนนี้เจ้าของกระทู้ขอบอกไว้ก่อนว่าโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบเที่ยวแนวธรรมชาติและบ่อยครั้งมาก ๆ ที่ออกเที่ยวคนเดียว
เมื่อเราตั้งโจทย์ว่าเที่ยวยังไงที่จะรักษาตัวเองได้ คำตอบที่ได้คือ
๑) ธรรมชาติ ๒) อยากนั่งรถไฟ ๓) ไม่พลุกพล่านผู้คน ๔) ตอนนี้ไม่อยากเดินทางไกล
แล้วไงต่ออ่ะ...หลับตานึกดูสิว่าที่ไหนบ้างหนอที่เราเคยคิดจะไป +$%^&*()_+_(*&^$&@*(
อ่าาาาาาาาาาาาาาา...คิดออกละ "NooJo Art and Farm" ที่นี่นี่แหละที่เราเคยจะไป แต่ก็อดไงเพราะที่พักเต็ม
ติดต่อไปอีกทีซิรอไร โทรเลยที่เบอร์ 08-18041403 พี่หนูเจ้าของที่พักเป็นผู้รับสายเด้อจ้า ก็อดอีกเพราะที่พักมีช่างเข้าปรับปรุง
แต่หนูด้อนท์วอรี่นะคะ หนูพักได้ พี่หนูบอกช่วงนี้ฝนตกพื้นจะแฉะ ๆ พี่เกรงว่าหนูจะไม่สะดวก ก็ไม่เป็นไรอีกค่ะ หนูอยู่ง่าย กินง่าย ไม่ดื้อ
ขอข้ามการสนทนาของการจองที่พักไปเลยนะคะ มาเริ่มต้นวันที่ออกเดินทางกันเลย ไปกันค่ะพี่สุชาติ
เราเดินทางด้วยรถธรรมดา ขบวนที่ ๒๖๑ ต้นทางกรุงเทพ ปลายทางหัวหิน รถมาถึงสถานีศาลายาประมาณ ๑๐.๑๕ น.

มีเพื่อนนั่งตรงข้ามไม่กี่นาที เงยหน้ามาอีกทีหายไปไหนละอ่ะ ใจร้ายจุง

๒ ชั่วโมงนิด ๆ ผ่านไป กระโดดลงจากรถไฟก็ถึงละเด้อสถานีปากท่อ

ถึงปุ๊บก็โทรเลย "น้าสำเริง" เบอร์ ๒๓ วินผู้สนิทสนมกับฟาร์มเป็นอย่างดี

บรรยากาศสองข้างทาง

ซ้ายมือเลี้ยงวัว

ขวามือเลี้ยงปลาหรือกุ้ง...ไม่แน่ใจแฮะ

เพลินกับบรรยากาศสองข้างทางประมาณ ๑๐ นาที น้าสำเริงก็เบรกเอี๊ยดดดด >3< "ถึงแล้วอีหนู"
ว่าแต่...มันใช่จริง ๆ เหรอคะ T^T

ข้ามก็ข้ามล่ะวะมาถึงขั้นนี้แล้ว

ผ่านสะพานไม้ไผ่มาได้ก็จะเจอกับป้านฟาร์มแบบในรูปเลยเด้อ โล่งอกไปนิดหน่อย ฟู่วววว์

เดินลัดเลาะมาอีกนิดก็เจอป้ายชี้ซ้าย ชี้ขวา เจอศาลาริมน้ำ เล้าเป็ด บลา บลา

ไว้ก่อนเด้อออ ตอนนี้ขอไปตามหาพี่หนู พี่โจ เจ้าของที่นี่ก่อน
กว่าจะได้เจอพี่หนู พี่โจ เป็นธรรมเนียมที่ทุกคนต้องเจอ "มูจิ" องครักษ์พิทักษ์ฟาร์มนี่ไง
เจ้าตัวนี้ไม่ดุเนอะ แต่เห่าจังเลย กลัวแล้ววววว T^T

ผ่านมูจิมาได้ ต่อไปก็เข้าที่พัก เก็บกระเป๋า เตรียมตัวพักผ่อนกันเลย
นี่คือด้านในที่พัก...มุงด้วยสังกะสีทั้งหลัง หลังคาเอียง ๆ ส่วนที่สูงที่สุดประมาณ ๑.๕ เมตร ใช้ความสูงตัวเองเป็นเกณฑ์ >3<

ภายในก็จะตกแต่งด้วยภาพที่สื่อถึงความเป็นที่นี่ด้วย

รูปที่มีทุกบ้าน

เก็บกระเป๋า เช็ดหน้าเช็ดตาให้สดชื่นเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็มาสำรวจรอบ ๆ ที่พักกัน
นี่จะเป็นภาพรวมของที่พัก ล้อมด้วยนานาต้นไม้จริง ๆ มีระเบียงหน้าห้องไว้นั่งรับลม ดูวิวเพลิน ๆ
ชั้นล่างจะมีเตียงเล็ก ๆ พร้อมเปลไว้สำหรับพักผ่อน ขอบอกว่าอากาศที่นี่ดีมาก เหมาะแก่การมาฟอกปอดที่สุด

ถ้ามองจากระเบียงหน้าห้องก็จะเห็นบึงเล็ก ๆ ไว้สำหรับพายเรือเล่น มีปลาและมีอาหารสำหรับให้ปลาด้วย ^^
ที่ชอบที่สุดก็เป็นจุดในรูปที่เราโฟกัสนี่แหละ

ใกล้ ๆ ก็จะเป็นบ้านพักหลังใหญ่ เรียกกันว่า "บ้านต้นไม้"

ด้านหน้าของบ้านต้นไม้

ดรีมแคชเชอร์...ฝีมือพี่หนู

ชมนั่น ดูนี่ไผสักพักก็เจอองครักษ์อีก ๒ ตัว
ตัวนี้ชื่อ "ทะมะโหง๊ะ"

ตัวนี้ชื่อ "มะลิ" เป็นแม่ของเจ้าตัวด้านบน

นอกจากโซนที่พักแล้วยังมีโซนของฝาก ของที่ระลึก แถวยังมีพต้นไม้วางขายอีกด้วย

ที่ห้อยมือถือรูปแมวทำจากไม้ น่ารักจนต้องซื้อมาห้อยมือถืออันนึง ^^

เอสกิโม...มั้ง

โดยส่วนตัวแล้วชอบชิ้นนี้ที่สุดเลยเด้อ

น้องควายน้อย ๆ ขยับคอไปมาได้ด้วย

ส่วนทางนี้ก็ไม่น้อยหน้าเอาแมวคู่นำโชคมาอวดซะเลย อิอิ

นานาสัตว์ ทั้งควาย หมา แมว แถมยังมีเป็ดอีกฝูงนึง

สัตว์ยังไม่หมดเด้อออ ยังมีนกฮูกอีกคู่นึง

อันนี้ดรีมแคชเชอร์ ฝีมือพี่หนูอีกเช่นเคย

และนี่...ไข่ไก่ ไข่ดป็ด สดจากฟาร์มทุกวัน

ส่องไปอีกฟากนึงซิมีอะไรน่าสนใจบ้าง

โมบายไม้...อันนี้ฝีมือพี่โจ

นี่ก็หมือนกัน
วันที่ฉันใช้ธรรมชาติบำบัดความป่วยด้วยตัวเอง
เรื่องละเลยร่างกายเป็นเรื่องมักง่ายที่ฉันทำมาตลอด ๒๔ ปี ยิ่งไม่เคยเจ็บป่วยก็ยิ่งหลงลืมที่จะดูแลมันมาเรื่อย ๆ
ตอนนี้ฉันผ่านอายุ ๒๔ มาเพียง ๔ เดือนเศษ แต่กลับมีอาการป่วยเล็กป่วยน้อยที่นอนพักและทานยาวันนึงก็หายมานับครั้งไม่ถ้วน
แต่อย่างที่บอก...มันคือความมักง่ายที่บวกกับความคิดของตัวเองว่า "ไม่เป็นไรหรอก กินยานอนพักก็หาย" เพราะผ่านมาทำแบบนี้ตลอด
แน่นอนว่าความแน่นอนคือสิ่งไม่แน่นอน ทานยา นอนพัก วันนึงไม่หาย สองวันก็ไม่หาย สามวันก็ไม่หาย สี่วันผ่านไปเลยตัดสินใจพบหมอ
ใช่...ฉันป่วย ฉันมีทั้งโรคประจำตัวและไม่ประจำตัว ยิ่งกังวล ก็ยิ่งเครียด ยิ่งเครียดอาการก็ยิ่งทวีขึ้น
หนทางเดียวที่จะลดความเครียด คลายความกังวลนี้ได้ก็คือ "เที่ยว !!!" แต่จะเที่ยวแบบไหนดีที่จะเยียวยาจุดนี้ได้...?
มาถึงตอนนี้เจ้าของกระทู้ขอบอกไว้ก่อนว่าโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบเที่ยวแนวธรรมชาติและบ่อยครั้งมาก ๆ ที่ออกเที่ยวคนเดียว
เมื่อเราตั้งโจทย์ว่าเที่ยวยังไงที่จะรักษาตัวเองได้ คำตอบที่ได้คือ
๑) ธรรมชาติ ๒) อยากนั่งรถไฟ ๓) ไม่พลุกพล่านผู้คน ๔) ตอนนี้ไม่อยากเดินทางไกล
แล้วไงต่ออ่ะ...หลับตานึกดูสิว่าที่ไหนบ้างหนอที่เราเคยคิดจะไป +$%^&*()_+_(*&^$&@*(
อ่าาาาาาาาาาาาาาา...คิดออกละ "NooJo Art and Farm" ที่นี่นี่แหละที่เราเคยจะไป แต่ก็อดไงเพราะที่พักเต็ม
ติดต่อไปอีกทีซิรอไร โทรเลยที่เบอร์ 08-18041403 พี่หนูเจ้าของที่พักเป็นผู้รับสายเด้อจ้า ก็อดอีกเพราะที่พักมีช่างเข้าปรับปรุง
แต่หนูด้อนท์วอรี่นะคะ หนูพักได้ พี่หนูบอกช่วงนี้ฝนตกพื้นจะแฉะ ๆ พี่เกรงว่าหนูจะไม่สะดวก ก็ไม่เป็นไรอีกค่ะ หนูอยู่ง่าย กินง่าย ไม่ดื้อ
ขอข้ามการสนทนาของการจองที่พักไปเลยนะคะ มาเริ่มต้นวันที่ออกเดินทางกันเลย ไปกันค่ะพี่สุชาติ
เราเดินทางด้วยรถธรรมดา ขบวนที่ ๒๖๑ ต้นทางกรุงเทพ ปลายทางหัวหิน รถมาถึงสถานีศาลายาประมาณ ๑๐.๑๕ น.
ว่าแต่...มันใช่จริง ๆ เหรอคะ T^T
ผ่านสะพานไม้ไผ่มาได้ก็จะเจอกับป้านฟาร์มแบบในรูปเลยเด้อ โล่งอกไปนิดหน่อย ฟู่วววว์
กว่าจะได้เจอพี่หนู พี่โจ เป็นธรรมเนียมที่ทุกคนต้องเจอ "มูจิ" องครักษ์พิทักษ์ฟาร์มนี่ไง
เจ้าตัวนี้ไม่ดุเนอะ แต่เห่าจังเลย กลัวแล้ววววว T^T
นี่คือด้านในที่พัก...มุงด้วยสังกะสีทั้งหลัง หลังคาเอียง ๆ ส่วนที่สูงที่สุดประมาณ ๑.๕ เมตร ใช้ความสูงตัวเองเป็นเกณฑ์ >3<
เก็บกระเป๋า เช็ดหน้าเช็ดตาให้สดชื่นเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็มาสำรวจรอบ ๆ ที่พักกัน
นี่จะเป็นภาพรวมของที่พัก ล้อมด้วยนานาต้นไม้จริง ๆ มีระเบียงหน้าห้องไว้นั่งรับลม ดูวิวเพลิน ๆ
ชั้นล่างจะมีเตียงเล็ก ๆ พร้อมเปลไว้สำหรับพักผ่อน ขอบอกว่าอากาศที่นี่ดีมาก เหมาะแก่การมาฟอกปอดที่สุด
ที่ชอบที่สุดก็เป็นจุดในรูปที่เราโฟกัสนี่แหละ
ตัวนี้ชื่อ "ทะมะโหง๊ะ"
นอกจากโซนที่พักแล้วยังมีโซนของฝาก ของที่ระลึก แถวยังมีพต้นไม้วางขายอีกด้วย