คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 28
บุญเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์ สำผัสได้ด้วยใจ เกิดขึ้นได้จากการบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุข้อใดข้อหนึ่ง หลายข้อได้ยิ่งบุญเพิ่มได้บุญแล้ว ...
หรือบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุสิบได้ครบสิบข้อเลยยิ่งดี . .
ทำได้ตลอดชีวิตบุญยิ่งเพิ่ม... .เรียกว่าสั่งสมบุญ..
*****การสั่งสมบุญนำสุขมาให้*****
มาดูข้อสุดท้ายของบุญกิริยาวัตถุ๑๐ คือการทำความเห็นให้ตรง ตรงอย่างไร ตรงต่อหนทางพระนิพพานตามคำสอนพระบรมศาสดา .....
ข้อสุดท้ายเป็นที่มาของสัมมาทิฏฐิ๑๐..
.
โดยสรุปคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำหรับฆราวาสทั่วไปคือ ทำบุญทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา....ตามอริยมรรคมีองค์๘ ...
สำหรับพระภิกษุคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ...
คราวนี้เข้าประเด็น .. ละนะ...
เมื่อทราบความหมายของบุญแล้ว. ..
บุญในการทำบุญทำทาน ทำให้ได้ไป เกิดเป็นมนุษย์อีก หรือไปสวรรค์ ๖ ชั้น ในสวรรค์ก็มีวิมาณ มีทั้งทิพยสมบัติ บริวารสมบัติอีกมากมาย....
บุญอย่างนี้เรียกเป็นกามาวจรกุศล....
แต่บุญในการเจริญสมาธิภาวนา เป็นบุญอีกประเภทหนึ่ง ที่แตกต่างกัน เพราะการเจริญภาวนาเป็นทางมาแห่งการหมดกิเลส. ... ผู้ที่เจริญภาวนา จนได้บรรลุ ฌาณ ๔ ละโลกแล้วได้ไปบังเกิดในพรหม๑๖ ชั้น... ต้องมีผลของการปฏิบัติเป็นปฏิเวธธรรมด้วย . .(ไม่ใช่วิชาท่อง ที่ท่องปากเปล่าว่า . .ฌาณที่ ประกอบด้วย วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตารมณ์ ....จบ. ... ไม่ใช่นะ ... อย่างนี้เข้าใจผิด)
ส่วนผู้ที่เจริญอรูปฌาณ๔ ได้บรรลุอรูปฌาณ๔ ละโลกแล้วได้ไปเกิดในอรูพรหม๔ ชั้น..
ด้วยเหตุที่การเจริญภาวนาเป็น มหคตกุศล เป็นทางแห่งการหมดกิเลส บุญนี้จึงได้มากกว่าการสร้างถาวรวัตถุ เช่นโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ อีกฯลฯ..
การแผ่เมตคาหลังการนั่งสมาธิจึงสามารถทำได้......
สมาธิในพระพุทธศาสนาเป็นสัมมาสมาธิ.. .
การปฏิบัติสัมมาสมาธิ แล้วแผ่เมตตาทำให้เทวดาลงรักษาอีกด้วย.....เพราะเขาได้บุญพิเศษจากผู้ปฏิบัติธรรมแผ่ไปให้.....
ทุกครั้งที่สร้างบุญควรแบ่งบุญแผ่เมตตาให้แก่เทวดาและสรรพสะตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิไหนๆ . ใหสรรพสัตว์ทั้งหลายจงมีความสุข ไม่เบียดเบียนกันและกัน...
ขอจบย่อๆเพียงเท่านี้....
ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านเทอญ. ...
หรือบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุสิบได้ครบสิบข้อเลยยิ่งดี . .
ทำได้ตลอดชีวิตบุญยิ่งเพิ่ม... .เรียกว่าสั่งสมบุญ..
*****การสั่งสมบุญนำสุขมาให้*****
มาดูข้อสุดท้ายของบุญกิริยาวัตถุ๑๐ คือการทำความเห็นให้ตรง ตรงอย่างไร ตรงต่อหนทางพระนิพพานตามคำสอนพระบรมศาสดา .....
ข้อสุดท้ายเป็นที่มาของสัมมาทิฏฐิ๑๐..
.
โดยสรุปคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำหรับฆราวาสทั่วไปคือ ทำบุญทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา....ตามอริยมรรคมีองค์๘ ...
สำหรับพระภิกษุคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ...
คราวนี้เข้าประเด็น .. ละนะ...
เมื่อทราบความหมายของบุญแล้ว. ..
บุญในการทำบุญทำทาน ทำให้ได้ไป เกิดเป็นมนุษย์อีก หรือไปสวรรค์ ๖ ชั้น ในสวรรค์ก็มีวิมาณ มีทั้งทิพยสมบัติ บริวารสมบัติอีกมากมาย....
บุญอย่างนี้เรียกเป็นกามาวจรกุศล....
แต่บุญในการเจริญสมาธิภาวนา เป็นบุญอีกประเภทหนึ่ง ที่แตกต่างกัน เพราะการเจริญภาวนาเป็นทางมาแห่งการหมดกิเลส. ... ผู้ที่เจริญภาวนา จนได้บรรลุ ฌาณ ๔ ละโลกแล้วได้ไปบังเกิดในพรหม๑๖ ชั้น... ต้องมีผลของการปฏิบัติเป็นปฏิเวธธรรมด้วย . .(ไม่ใช่วิชาท่อง ที่ท่องปากเปล่าว่า . .ฌาณที่ ประกอบด้วย วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตารมณ์ ....จบ. ... ไม่ใช่นะ ... อย่างนี้เข้าใจผิด)
ส่วนผู้ที่เจริญอรูปฌาณ๔ ได้บรรลุอรูปฌาณ๔ ละโลกแล้วได้ไปเกิดในอรูพรหม๔ ชั้น..
ด้วยเหตุที่การเจริญภาวนาเป็น มหคตกุศล เป็นทางแห่งการหมดกิเลส บุญนี้จึงได้มากกว่าการสร้างถาวรวัตถุ เช่นโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ อีกฯลฯ..
การแผ่เมตคาหลังการนั่งสมาธิจึงสามารถทำได้......
สมาธิในพระพุทธศาสนาเป็นสัมมาสมาธิ.. .
การปฏิบัติสัมมาสมาธิ แล้วแผ่เมตตาทำให้เทวดาลงรักษาอีกด้วย.....เพราะเขาได้บุญพิเศษจากผู้ปฏิบัติธรรมแผ่ไปให้.....
ทุกครั้งที่สร้างบุญควรแบ่งบุญแผ่เมตตาให้แก่เทวดาและสรรพสะตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิไหนๆ . ใหสรรพสัตว์ทั้งหลายจงมีความสุข ไม่เบียดเบียนกันและกัน...
ขอจบย่อๆเพียงเท่านี้....
ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านเทอญ. ...
แสดงความคิดเห็น
ทำไมนั่งสมาธิถึงได้บุญ