เช้าวันจันทร์เมื่อสัปดาห์ก่อน ระหว่างที่ผมขับรถไปทำงานที่ต่างอำเภอ รถก็มาเสียลงกลางทาง
ผมถามหาอู่ซ่อมรถจากชาวบ้านแถวนั้นก็ได้ความว่า เดินไปข้างหน้าอีกราวสองกิโลก็จะมีอู่ซ่อมรถ เรียกว่าอู่ช่างมร ตั้งอยู่ข้าง ๆ ปั๊มน้ำมันไม่มืชื่อ จากนั้นผมก็เดินไปตามที่ชาวบ้านบอก ราวสองกิโลก็ได้เจออู่ซ่อมรถตั้งอยู่จริง และก็ได้เจอกับช่างมร หลังจากที่ผมได้เล่าเรื่องรถเสียให้ช่างมรฟังแล้ว ช่างมรก็ให้ผมนำทางไปลากรถผมมาที่อู่
ผมนั่งรถช่างมรย้อนกลับไปยังจุดที่รถผมจอดเสียอยู่ได้สักครึ่งทางเห็นจะได้ รถช่างมรก็เสีย ฮา ช่างมรบอกให้ผมรออยู่ตรงนั้นก่อน ส่วนตัวแกก็เดินกลับไปอู่ ไปเอารถคันใหม่มาลากรถผม ฮา หลังจากเวลาผ่านไปเกือบเที่ยง ในที่สุดก็ลากรถผมมาที่อู่ได้ เมื่อช่างมรได้ตรวจสอบรถผมแล้วก็สรุปว่าต้องยกเครื่อง ซึ่งจะใช้เวลาสักสี่วันจึงจะซ่อมเสร็จ แล้วก็นัดผมให้มารับรถในวันศุกร์ตอนเย็น ๆ
เย็นวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนผมก็มารับรถตามนัด แต่ปรากฏว่ารถยังซ่อมไม่เสร็จ ช่างมรให้เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่ทำให้ซ่อมไม่เสร็จ และขอผัดไปเป็นเช้าวันจันทร์ของสัปดาห์ถัดไป (คือสัปดาห์นี้นั่นเอง) ผมทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องยอมรับไปตามนั้น
เมื่อเช้าวันจันทร์ของสัปดาห์นี้ผมก็มารับรถตามผัด แต่ปรากฏว่ารถก็ยังซ่อมไม่เสร็จอีก ช่างมรให้เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่ทำให้ซ่อมไม่เสร็จ และขอผัดไปเป็นเย็นวันอังคาร ฮา ผมทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องยอมรับไปตามนั้นอีกครั้ง
เมื่อเย็นวันอังคารผมก็มารับรถตามผัดที่สอง แต่ปรากฏว่ารถก็ยังซ่อมไม่เสร็จอีกอยู่ดี ช่างมรให้เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่ทำให้ซ่อมไม่เสร็จ และขอผัดไปอีกทีเป็นเย็นวันพุธ (จะฮาดีไหม?) ซึ่งผมก็ต้องจำใจยอมรับไปตามนั้นอีกครั้งอีกนั่นแหละ
พอถึงเย็นวันพุธผมก็มารับรถตามผัดที่สาม ทายซิซ่อมเสร็จไหม? กร๊ากกกกก
เฉลย ยังซ่อมไม่เสร็จเหมือนเดิม ฮา ช่างมรให้เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่ทำให้ซ่อมไม่เสร็จ และขอผัดไปเป็นเย็นวันพฤหัสบดี (อีกแล้ว) ฮา กร๊ากกกกกก
ผมควบคุมอารมณ์ให้นิ่งเย็น ให้มีแต่เมตตา มิให้มีโกรธ เกลียด เคือง แค้น เข้ามาปะปน ฮา แล้วก็บอกกับช่างมรไปว่า "ช่างโกหกผมมาสี่หนแล้วนะ อย่าให้นี่เป็นหนที่ห้า ขอให้ช่างคิดใหม่ให้ดี ๆ อีกที ว่างานมันจะเสร็จเมื่อไร แล้วค่อยนัดผม ผมไม่รีบ แต่ต้องการความจริง ช่างนัดมาใหม่เถอะ ไม่จำเป็นต้องเป็นวันพฤหัสบดีก็ได้"
"วันุศุกร์เย็น" ช่างมรตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
ผมบอกช่างมรไปว่า ผมให้โอกาสช่างคิดใหม่อีกที นัดผมใหม่อีกทีเป็นวันอื่นก็ได้ เอาที่ช่างสบายใจและมั่นใจว่างานจะต้องเสร็จแน่นนอน ชัวร์ ๆ
"วันุศุกร์เย็น เสร็จแน่นอน ผมเอาหัวเป็นประกัน" ช่างมรยืนยันวันศุกร์เย็นด้วยการวางหัวตัวเองเป็นเดิมพัน ฮา
และแล้วก็มาถึงวันศุกร์เย็น ฮา ตอนที่ผมมาถึงอู่ ผมได้เห็นเพิ่งมีการเอาก้านสูบมาประกอบเข้ากับลูกสูบได้แค่สองสูบเท่านั้นเอง ชิ้นส่วนอื่น ๆ ยังคงวางกระจัดกระจายอยู่เกลื่อนกลาด ฮา
"อย่างนี้แล้วมันจะเสร็จหรือครับ" ผมถามช่างมร
"เสร็จครับ เสร็จแน่นอน ผมไม่ให้พลาดอีกแล้ว แต่ขอเป็นค่ำ ๆ นิดนึงนะครับ" ช่างมรว่า
"โอเค ถ้างั้นผมจะรอนะครับ" ผมบอกช่างมรแล้วก็เดินหลบกองชิ้นส่วนเครื่องยนต์และเครื่องมือต่าง ๆ ไปนั่งบนม้ายาวตรงมุมหนึ่งของอู่
และแล้วก็ค่ำลง ฮา ช่างมรและลูกน้องสองสามคนยังคงง่วนอยู่กับการประกอบรถ เสียงถามหาเครื่องมือ ถามหาชิ้นส่วน เสียงโทษกันไปกันมา เมื่อหาของไม่เจอ ดังอึงมี่ไปหมด ฮา
"จะเสร็จไหมช่าง? นี่ค่ำแล้วนะ" ผมตะโกนไปถามช่างมร
"เสร็จครับ ๆ ผมจะต้องเอาให้เสร็จ พี่ได้รถคืนนี้แน่นอน" ช่างมรตะโกนตอบมา
"กี่ทุ่มล่ะ?" ผมถามอีก
"ก็ราว ๆ สามหรือสี่ทุ่มนั่นแหละครับ ผมกับลูกน้องจะทำจนเสร็จ ไม่เสร็จก็ไม่ต้องกลับบ้าน" ช่างมรว่างั้น กร๊ากกกกกกกก
"แต่ว่านี่ค่ำแล้วพี่ไม่หิวเหรอ? แถวนี้ไม่มีร้านค้าร้านข้าวอะไรทั้งนั้น ร้านในปั๊มก็ปิดแล้ว พี่เอารถผมไปกินข้าวในเมืองก่อนก็ได้" ช่างมรแสดงความเป็นห่วงผม ไม่รู้ห่วงจริงหรือมีลูกเล่นอะไร? ฮา
ผมบอกช่างมรไปว่า "ไม่เป็นไร ผมไม่กินข้าวเย็น ช่างหิวช่างก็ไปกินก่อนเถอะ ผมจะนั่งรออยู่ตรงนี้แหละ" ฮา
"ไม่ ๆ พี่ไม่กิน ผมกับลูกน้องก็ไม่กิน งานไม่เสร็จก็ไม่ต้องกิน" ช่างมรสำทับ กร๊ากกกกกก
"งั้นก็ตามใจช่างนะ ผมก็จะนั่งรอตรงนี้แหละ" ผมว่า
ค่ำลงไปอีก งานก็ยังไม่มีท่าว่าจะเสร็จ ยุงเริ่มโจมตีหนักขึ้นตามลำดับ แต่ผมเองไม่เป็นไรเพราะพก กย.15 อยู่ในเป้เสมอ และแอบทาไว้แล้วตั้งแต่หัวค่ำ แต่ทีมของช่างมรแต่ละคนยืนทำงานไปซอยเท้ายิก ๆ ไปด้วย มือไม้ที่หยิบจับเครื่องไม้เครื่องมือก็ต้องคอยปัดคอยเหวี่ยงสะเปะสะปะเพื่อหลบยุงไปด้วย คันแคะแกะเกากันไปทำงานไปอย่างทุลักทุเล ฮา
มีเสียงบนดัง ๆ ว่า ยุงเยอะชิปหาย เสียงซู้ดปากซี้ดซ้าด เวลาโดนยุงกัด เสียงตบยุ่งแปะ ๆ ประสานไปกับเสียงเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ให้ได้ยินอยู่ตลอดเวลา ฮา
"พี่ไม่โดนยุงกัดเหรอ?" ช่างมรหันมาถามเหมือนจะหยั่งวัดความอดทนของผม
"กัดครับ แต่ผมพอทนได้ คันแป๊บนึงก็หาย" ผมแสร้งตอบช่างมรไปอย่างนั้น ฮา
ที่จริงผมก็นึกสงสารช่างมรและลูกน้องแกเหมือนกันที่ต้องโดนยุงระดมกันกัดซะขนาดนั้น อยากจะแบ่ง กย.15 ให้ แต่ก็ไม่อยากจะให้พวกเขารู้ว่าผมไม่ได้โดนยุงกัดเลย อยากให้พวกเขารู้สึกว่า ผมก็ต้องทรมานมากนะที่ต้องมานั่งตากยุงรอคอยพวกเขาอยู่เนี่ย ก็เลยไม่บอกเรื่องที่ผมมี กย.15 ออกไป ฮา
เรื่องราวของช่างมรในตำนานยังมีต่ออีก และจะเข้มข้นขึ้นตามลำดับ มีเวลาแล้วผมจะมาเล่าในตอนต่อไปนะครับ
ช่างมรในตำนาน
ผมถามหาอู่ซ่อมรถจากชาวบ้านแถวนั้นก็ได้ความว่า เดินไปข้างหน้าอีกราวสองกิโลก็จะมีอู่ซ่อมรถ เรียกว่าอู่ช่างมร ตั้งอยู่ข้าง ๆ ปั๊มน้ำมันไม่มืชื่อ จากนั้นผมก็เดินไปตามที่ชาวบ้านบอก ราวสองกิโลก็ได้เจออู่ซ่อมรถตั้งอยู่จริง และก็ได้เจอกับช่างมร หลังจากที่ผมได้เล่าเรื่องรถเสียให้ช่างมรฟังแล้ว ช่างมรก็ให้ผมนำทางไปลากรถผมมาที่อู่
ผมนั่งรถช่างมรย้อนกลับไปยังจุดที่รถผมจอดเสียอยู่ได้สักครึ่งทางเห็นจะได้ รถช่างมรก็เสีย ฮา ช่างมรบอกให้ผมรออยู่ตรงนั้นก่อน ส่วนตัวแกก็เดินกลับไปอู่ ไปเอารถคันใหม่มาลากรถผม ฮา หลังจากเวลาผ่านไปเกือบเที่ยง ในที่สุดก็ลากรถผมมาที่อู่ได้ เมื่อช่างมรได้ตรวจสอบรถผมแล้วก็สรุปว่าต้องยกเครื่อง ซึ่งจะใช้เวลาสักสี่วันจึงจะซ่อมเสร็จ แล้วก็นัดผมให้มารับรถในวันศุกร์ตอนเย็น ๆ
เย็นวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนผมก็มารับรถตามนัด แต่ปรากฏว่ารถยังซ่อมไม่เสร็จ ช่างมรให้เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่ทำให้ซ่อมไม่เสร็จ และขอผัดไปเป็นเช้าวันจันทร์ของสัปดาห์ถัดไป (คือสัปดาห์นี้นั่นเอง) ผมทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องยอมรับไปตามนั้น
เมื่อเช้าวันจันทร์ของสัปดาห์นี้ผมก็มารับรถตามผัด แต่ปรากฏว่ารถก็ยังซ่อมไม่เสร็จอีก ช่างมรให้เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่ทำให้ซ่อมไม่เสร็จ และขอผัดไปเป็นเย็นวันอังคาร ฮา ผมทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องยอมรับไปตามนั้นอีกครั้ง
เมื่อเย็นวันอังคารผมก็มารับรถตามผัดที่สอง แต่ปรากฏว่ารถก็ยังซ่อมไม่เสร็จอีกอยู่ดี ช่างมรให้เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่ทำให้ซ่อมไม่เสร็จ และขอผัดไปอีกทีเป็นเย็นวันพุธ (จะฮาดีไหม?) ซึ่งผมก็ต้องจำใจยอมรับไปตามนั้นอีกครั้งอีกนั่นแหละ
พอถึงเย็นวันพุธผมก็มารับรถตามผัดที่สาม ทายซิซ่อมเสร็จไหม? กร๊ากกกกก
เฉลย ยังซ่อมไม่เสร็จเหมือนเดิม ฮา ช่างมรให้เหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่ทำให้ซ่อมไม่เสร็จ และขอผัดไปเป็นเย็นวันพฤหัสบดี (อีกแล้ว) ฮา กร๊ากกกกกก
ผมควบคุมอารมณ์ให้นิ่งเย็น ให้มีแต่เมตตา มิให้มีโกรธ เกลียด เคือง แค้น เข้ามาปะปน ฮา แล้วก็บอกกับช่างมรไปว่า "ช่างโกหกผมมาสี่หนแล้วนะ อย่าให้นี่เป็นหนที่ห้า ขอให้ช่างคิดใหม่ให้ดี ๆ อีกที ว่างานมันจะเสร็จเมื่อไร แล้วค่อยนัดผม ผมไม่รีบ แต่ต้องการความจริง ช่างนัดมาใหม่เถอะ ไม่จำเป็นต้องเป็นวันพฤหัสบดีก็ได้"
"วันุศุกร์เย็น" ช่างมรตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
ผมบอกช่างมรไปว่า ผมให้โอกาสช่างคิดใหม่อีกที นัดผมใหม่อีกทีเป็นวันอื่นก็ได้ เอาที่ช่างสบายใจและมั่นใจว่างานจะต้องเสร็จแน่นนอน ชัวร์ ๆ
"วันุศุกร์เย็น เสร็จแน่นอน ผมเอาหัวเป็นประกัน" ช่างมรยืนยันวันศุกร์เย็นด้วยการวางหัวตัวเองเป็นเดิมพัน ฮา
และแล้วก็มาถึงวันศุกร์เย็น ฮา ตอนที่ผมมาถึงอู่ ผมได้เห็นเพิ่งมีการเอาก้านสูบมาประกอบเข้ากับลูกสูบได้แค่สองสูบเท่านั้นเอง ชิ้นส่วนอื่น ๆ ยังคงวางกระจัดกระจายอยู่เกลื่อนกลาด ฮา
"อย่างนี้แล้วมันจะเสร็จหรือครับ" ผมถามช่างมร
"เสร็จครับ เสร็จแน่นอน ผมไม่ให้พลาดอีกแล้ว แต่ขอเป็นค่ำ ๆ นิดนึงนะครับ" ช่างมรว่า
"โอเค ถ้างั้นผมจะรอนะครับ" ผมบอกช่างมรแล้วก็เดินหลบกองชิ้นส่วนเครื่องยนต์และเครื่องมือต่าง ๆ ไปนั่งบนม้ายาวตรงมุมหนึ่งของอู่
และแล้วก็ค่ำลง ฮา ช่างมรและลูกน้องสองสามคนยังคงง่วนอยู่กับการประกอบรถ เสียงถามหาเครื่องมือ ถามหาชิ้นส่วน เสียงโทษกันไปกันมา เมื่อหาของไม่เจอ ดังอึงมี่ไปหมด ฮา
"จะเสร็จไหมช่าง? นี่ค่ำแล้วนะ" ผมตะโกนไปถามช่างมร
"เสร็จครับ ๆ ผมจะต้องเอาให้เสร็จ พี่ได้รถคืนนี้แน่นอน" ช่างมรตะโกนตอบมา
"กี่ทุ่มล่ะ?" ผมถามอีก
"ก็ราว ๆ สามหรือสี่ทุ่มนั่นแหละครับ ผมกับลูกน้องจะทำจนเสร็จ ไม่เสร็จก็ไม่ต้องกลับบ้าน" ช่างมรว่างั้น กร๊ากกกกกกกก
"แต่ว่านี่ค่ำแล้วพี่ไม่หิวเหรอ? แถวนี้ไม่มีร้านค้าร้านข้าวอะไรทั้งนั้น ร้านในปั๊มก็ปิดแล้ว พี่เอารถผมไปกินข้าวในเมืองก่อนก็ได้" ช่างมรแสดงความเป็นห่วงผม ไม่รู้ห่วงจริงหรือมีลูกเล่นอะไร? ฮา
ผมบอกช่างมรไปว่า "ไม่เป็นไร ผมไม่กินข้าวเย็น ช่างหิวช่างก็ไปกินก่อนเถอะ ผมจะนั่งรออยู่ตรงนี้แหละ" ฮา
"ไม่ ๆ พี่ไม่กิน ผมกับลูกน้องก็ไม่กิน งานไม่เสร็จก็ไม่ต้องกิน" ช่างมรสำทับ กร๊ากกกกกก
"งั้นก็ตามใจช่างนะ ผมก็จะนั่งรอตรงนี้แหละ" ผมว่า
ค่ำลงไปอีก งานก็ยังไม่มีท่าว่าจะเสร็จ ยุงเริ่มโจมตีหนักขึ้นตามลำดับ แต่ผมเองไม่เป็นไรเพราะพก กย.15 อยู่ในเป้เสมอ และแอบทาไว้แล้วตั้งแต่หัวค่ำ แต่ทีมของช่างมรแต่ละคนยืนทำงานไปซอยเท้ายิก ๆ ไปด้วย มือไม้ที่หยิบจับเครื่องไม้เครื่องมือก็ต้องคอยปัดคอยเหวี่ยงสะเปะสะปะเพื่อหลบยุงไปด้วย คันแคะแกะเกากันไปทำงานไปอย่างทุลักทุเล ฮา
มีเสียงบนดัง ๆ ว่า ยุงเยอะชิปหาย เสียงซู้ดปากซี้ดซ้าด เวลาโดนยุงกัด เสียงตบยุ่งแปะ ๆ ประสานไปกับเสียงเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ให้ได้ยินอยู่ตลอดเวลา ฮา
"พี่ไม่โดนยุงกัดเหรอ?" ช่างมรหันมาถามเหมือนจะหยั่งวัดความอดทนของผม
"กัดครับ แต่ผมพอทนได้ คันแป๊บนึงก็หาย" ผมแสร้งตอบช่างมรไปอย่างนั้น ฮา
ที่จริงผมก็นึกสงสารช่างมรและลูกน้องแกเหมือนกันที่ต้องโดนยุงระดมกันกัดซะขนาดนั้น อยากจะแบ่ง กย.15 ให้ แต่ก็ไม่อยากจะให้พวกเขารู้ว่าผมไม่ได้โดนยุงกัดเลย อยากให้พวกเขารู้สึกว่า ผมก็ต้องทรมานมากนะที่ต้องมานั่งตากยุงรอคอยพวกเขาอยู่เนี่ย ก็เลยไม่บอกเรื่องที่ผมมี กย.15 ออกไป ฮา
เรื่องราวของช่างมรในตำนานยังมีต่ออีก และจะเข้มข้นขึ้นตามลำดับ มีเวลาแล้วผมจะมาเล่าในตอนต่อไปนะครับ