[CR] (หนังรางวัล) Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) - ต้นกำเนิดหนังกำลังภายในยุคใหม่ที่สร้างกระแสฟีเวอร์ไปทั่วโลก

Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) : พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก

" Crouching Tiger, Hidden Dragon... เสือหมอบซุ่ม มังกรซ่อนเร้น "

     หนังกำลังภายในเป็นหนังอีกแนวหนึ่งที่เราคนไทยคุ้นเคยกันมานาน ดูมาตั้งแต่เด็กยันโต ในวันนี้ ผมอยากจะมาเสนอหนังกำลังภายในเรื่องเยี่ยม เยี่ยมในระดับออสการ์ภาพยนตร์ต่างประเทศ มันดังขนาดเข้าชิงออสการ์ 10 สาขาและกวาดมาได้ 4 รางวัล อีกทั้งยังได้รางวัลจากเทศกาลหนังต่างๆมากมาย สร้างกระแสฟีเวอร์ไปทั่วโลก ซึ่งก็น่าสนใจตรงที่มันเป็นหนังกำลังภายในนี่แหละ แต่มันเข้าไปทำให้สร้างความฮือฮาฝรั่งได้อย่างไรนี่คือสิ่งที่น่าสนใจ



มารู้จักกับ Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000)
     หนังกำลังภายในส่วนใหญ่เรารู้ๆแนวกันหมดละว่ามันมาแนวไหน ฝึกวิชาเอาชนะศัตรู เรื่องบุญคุณความแค้นทั้งหลาย และ Crouching Tiger, Hidden Dragon ก็เป็นแนวนี้แหละ แต่ทว่าความรู้สึกหนังกลับต่างออกไปจากหนังกำลังภายในที่มีอยู่ในท้องตลาด อีกทั้งยังปลุกกระแสให้หนังกำลังภายในสามารถผงาดได้ในเวทีภาพยนตร์โลก เพราะว่า หลังจาก Crouching Tiger, Hidden Dragon ก็มีหนังกำลังภายในดีๆ ที่ทะลวงไปถึงเวทีออสการ์ในเวลาต่อมา อย่างเช่น Hero (2002) รวมถึงสไตล์หนังกำลังภายในยุคใหม่ที่เน้นความสมจริง ความเข้มข้นเนื้อเรื่อง รวมถึงการใช้ Slow-Motion หนังที่ดังๆ ก็อย่างเช่น House of Flying Daggers (2004) (ทั้งสองเรื่องที่ว่าเป็นของจาง อี้โหมว)

     Crouching Tiger, Hidden Dragon จึงเปรียบเสมือนก้าวแรกของหนังกำลังภายในในการก้าวข้ามไปสู่อีกระดับ พร้อมกับเป็นต้นแบบแรงบันดาลใจให้กับหนังยุคหลัง
     Crouching Tiger, Hidden Dragon กำกับโดย Ang Lee ผู้กำกับไต้หวันเจ้ารางวัล ผลงานดังเช่น Brokeback Mountain (2006) , Life of pi (2012) ส่วนในเรื่องนี้แกก็จะมาแนวกำลังภายใน ถ่ายทอดเรื่องราวของโลกยุทธจักรที่เต็มไปด้วยวังวนการฆ่าฟัน การแก้แค้น ชำระหนี้เลือด

     Crouching Tiger, Hidden Dragon เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคราชวงศ์ชิง หลี่ มู๋ไป๋ (โจว เหวินฟะ) จอมยุทธที่เลื่องลือนามคิดจะวางมือจากยุทธจักร และใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบกับ ซู เหลียน (มิเชลล์ โหยว) จอมยุทธหญิงเจ้าของสำนักคุ้มภัย หลี่ มู๋ไป๋มอบกระบี่ชะตาฟ้า กระบี่วิเศษประจำตัวเขาให้แก่ขุนนางผู้ใหญ่ผู้หนึ่ง แต่แล้วคืนหนึ่ง กระบี่ก็ถูกขโมยไปจากจวนขุนนาง 
     อีกด้านหนึ่ง อวี้ เจียวหลง (จาง จื่ออี๋) ลูกสาวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่อีกผู้หนึ่ง เธอดูเหมือนหญิงสาวที่เป็นกุลสตรีในตระกูลสูงส่ง แต่แท้จริง เธอเป็นผู้หลงใหลในวรยุทธ มีนิสัยเป็นตัวของตัวเอง รักอิสระเหมือนม้าพยศ โดยสิ่งสำคัญก็คือ เธอดันเป็นลูกศิษย์ของ นางจิ้งจอกหยก (เจิ้ง เพ่ยเพ่ย) ศัตรูตัวฉกาจของหลี่ มู่ไป๋ และในช่วงเวลาเดียวกัน พ่อของเธอก็กำลังจะจับเธอแต่งงาน ซึ่งเธอก็ไม่ต้องการเลย    

     หลังจากที่กระบี่วิเศษหายไป หลี่ มู๋ไป๋ จึงต้องหวนกลับสู่ยุทธจักรอีกครั้งเพื่อตามหากระบี่วิเศษนี้...

Crouching Tiger, Hidden Dragon - " เสือหมอบซุ่ม มังกรซ่อนเร้น "
     ความดีงามของ Crouching Tiger, Hidden Dragon อยู่ที่การเข้าถึงแก่นปรัชญาหนังกำลังภายใน แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับโลกยุทธจักร มีเรื่องความรัก การไล่แก้แค้น ฆ่าฟันกันไปมาตามสไตล์หนังกำลังภายใน Crouching Tiger, Hidden Dragon ยังคงคอนเซปต์เหล่านี้ไว้อย่างครบถ้วน แถมยิ่งจมดิ่งลึกลงไปกว่าเดิม พร้อมกับใส่ความลึก มิติหนัง ความสมจริงเข้าไป ทำให้หนังเสมือนบรรลุถึงขั้นสูงสุดของกำลังภายใน เพราะหนังสามารถเล่าถึงแก่นความเป็นมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม

    ดังนั้นแก่นของ Crouching Tiger Hidden Dragon จะไม่ได้อยู่ที่ฉากแอ็คชันมันส์ๆอย่างหนังเรื่องอื่น แต่อยู่ที่ปมเรื่องราวที่หักมุมไปมา ความคมคาย และปรัชญาโลกตะวันออก

    ถ้าเทียบแล้ว แต่ละช็อตของหนังก็เหมือน " กระบี่คมๆ ที่กวัดแกว่งเพียงเบาบาง แต่การแกว่งแต่ละครั้งลุ่มลึกและเหนือชั้น "
     อีกจุดที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ก็คือ หนังมีบทเรื่องที่ดี มีการลำดับเนื้อเรื่องให้เรื่องราวพลิกไปมาจนน่าติดตาม พร้อมกับแฝงนามธรรมและคำพูดอันคมคายไว้ในเรื่อง ทำให้หนังมีความงดงาม มีชั้นเชิง มีศิลปะ ในส่วนวิธ๊การดำเนินเรื่องก็ค่อนข้างเนิบๆ ไม่หวือหวาสักเท่าไร มาด้วยคอนเซ็ปต์นิ่งแต่คม และอิงแนวคิดด้านธรรมชาติพอสมควร (สไตล์เซน ลัทธิเต๋าอะไรพวกนี้นะแหละ) หนังเลยเงียบ ไม่พูดกันเยอะ แต่ให้ภาพช่วยเล่าเรื่องเล่าความรู้สึกแทน

     " อวี้ เจียวหลง ก็เหมือนกับม้าพยศ เสือร้ายที่ซุ่มซ่อนด้วยศักยภาพพร้อมเฉิดฉาย แต่ยังไม่ได้ถูกขัดเกลาให้เชื่อง ตรงกันข้ามกับ หลี่ มู๋ไป๋ที่เจนโลก เข้าใจถึงแก่นแท้ฝีมือและการปล่อยวาง ดั่งมังกรที่อยู่เหนือยุทธจักร "

     จุดด้อยของเรื่องมีเล็กน้อย คือมีช่วงเอื่อยบ้าง (เหมือนจะออกทะเล) เช่น ช่วงที่ อวี้ เจียวหลง ได้ไปพบรักกับหัวหน้าโจรหนุ่มที่ทะเลทราย เป็นช่วงที่ค่อนข้างเอื่อยและดูไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไร แต่ก็เข้าใจว่าผู้กำกับต้องการจะสอดแทรกเรื่องความรัก และเล่าภูมิหลัง ซึ่งจะกลายเป็นเหตุผลของเหตุการณ์บางอย่างในอนาคต

ฉากแอ็คชัน - แรงบันดาลใจแก่หนังกำลังภายในยุคใหม่
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Crouching Tiger Hidden Dragon [BEST Fight Scene]

     จุดที่พลาดไม่ได้เลย ถือเป็นไม้เด็ดไประจำเรื่องก็คือ ฉากแอ็คชันอันสวยงาม กำลังภายในของเรื่องนี้ถูกตีความใหม่ วิชากำลังภายในไม่ได้เป็นพลังที่สามารถปล่อยออกได้ทุกเมื่ออย่างหนังแฟนตาซี (แบบปล่อยลำแสง) แต่วิชากำลังภายในเป็นเสมือนพละกำลังกายที่แฝงอยู่ในร่างกายจอมยุทธ

 [ ฉากสู้กันในป่าไผ่สวยงามมาก ]
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Fight in Bamboo Forest

     อย่างวิชาตัวเบาในเรื่องนี้ ก็จะไม่ไม่ได้เว่อร์ระดับเดินบนอากาศได้อย่างสะดวกสบาย แต่เน้นว่าเป็นการเกร็งกำลังภายในเพื่อกระโดดสูงและทรงตัวอะไรประมาณนี้ หรืออย่างการใช้อาวุธต่อสู้กัน ก็แสดงออกมาเหมือนการสู้กันสมจริงในโลกความจริง อาจจะมีเวอร์บ้างภาษาหนังบู๊ แต่ก็อยู่ในข่ายรับได้ ซึ่งการตีความแบบนี้ผมชอบนะ มันดูเรียลดีและดูเป็นสากล แบบฝรั่งดูก็ไม่ตะขิดตะขวงใจ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ฉากสู้กันในโรงเตี๊ยม

     แถมการใช้มุมกล้องและช็อต Slowmotion แต่ละช็อตทำโคตรสวยเลย เห็นว่าเป็นต้นแบบเทคนิคหนังแอ็คชันกำลังภายในยุคหลังๆด้วย ช็อต Slowmotion ใช้ได้คุ้มค่า ไม่ปล่อยมาพร่ำเพรื่อ แต่การปล่อยแต่ละครั้งคือ การสร้างปมเด่นให้แก่หนัง

     ดนตรีประกอบภาพยนตร์ก็ช่วยสร้างบรรยากาศความเป็นจีนสไตล์กำลังภายในได้ดี ดนตรีเด่นแต่เน้นผสานเข้ากับหนัง ไม่เด่นนำหน้าหนัง อย่างเสียงกลองรัวเวลาสู้กัน ผสานในซีนต่อสู้ ส่วนเรื่อง Location ต่างๆ ในเรื่อง ก็เลือกมาได้สื่อถึงโลกยุทธจักรได้เยี่ยม
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Crouching Tiger, Hidden Dragon - The Sword Thief (2000)

มุมนักแสดง

     สำหรับนักแสดงนำมีอยู่สามคน โจว เหวินฟะ , มิเชล โหย่ว และจาง ซี้ยี่
     คนแรกที่ผมว่าเป็นเดอะแกรนต์มาสเตอร์ประจำเรื่อง ก็คือ โจว เหวินฟะ แสดงโคตรดี ชนิดที่เห็นแล้วรู้ว่าเป็นระดับชั้นครูมาแสดง แม้ในหนังจะไม่ได้รับบทเยอะมาก แต่โผล่มาทุกครั้งก็แย่งสายตาได้ตลอด เท่ สุขุม ลุ่มลึก
     มิเชล โหย่ว  ในมาดจอมยุทธหญิงสุดแกร่ง อีกคนที่ผมว่าน่าเซอร์ไพร์ส ปกติผมไม่ค่อยจะได้เห็นการแสดงของเธอในบทแบบถึงลูกถึงคนของสักเท่าไร แต่มาในเรื่องนี้ เธอดึงศักยภาพการแสดงออกมาได้เยี่ยม ทั้งในซีนต่อสู้และซีนดราม่า

     คนสุดท้าย จาง ซี้ยี่ ราชีนีดาวบู๊ เธอได้รับบทมากที่สุดในเรื่อง ซึ่งก็แสดงได้ดีเลยแหละ แต่ถ้าเทียบกับสองคนด้านบน ก็รู้สึกว่าจะโดนกลบรัศมีไปพอสมควร เพราะทั้งโจว เหวินฟะกับมิเชล โหย่ว แสดงกันได้พีคจริง

สรุป
     สำหรับผม Crouching Tiger Hidden Dragon ผมให้คะแนน 8.7/10 จัดเป็นหนังจีนที่ถ่ายทอดความเป็นกำลังภายในได้เยี่ยม เป็นหนังที่งามและคมคาย แม้ว่าเนื้อเรื่องจะวนเวียนตามทรงหนังกำลังภายใน สำหรับผม พอดูจบก็รู้สึกว่าไม่แปลกที่หนังได้ออสการ์ เพราะ องค์ประกอบหนังต่างๆ ทำได้สมบูรณ์สวยงาม ไม่ว่าจะบทหนัง การดำเนินเรื่อง แนวคิดหนัง รวมทั้งฉากแอ็คชัน นักแสดง ซาวแทร็คหนัง มีความเป็นสากลในฉบับชาวตะวันออกและเดาว่าตะวันตกคงไม่เคยเห็นเรื่องราวแบบนี้ ถึงได้ยกนิ้วให้

     Crouching Tiger, Hidden Dragon กลายเป็นหนังกำลังภายในที่ผมชอบที่สุดเลย เหตุผลที่ชอบที่สุดเป็นเพราะว่า มันคือหนังกำลังภายในที่เป็นกำลังภายในจริงๆ ไม่ได้ไปเล่นเรื่องความรักเน้นๆ ขายช็อตแอ็คชันต่อสู้สวยๆ หรือมาทรงหนังชีวประวัติอิงประวัติศาสตร์ใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องนี้เป็น "เพียวกำลังภายใน" ที่เก็บคอนเซ็ปต์จากพวกนิยายกำลังภายในทั้งหลายมาได้ครบถ้วน สอดคล้องกับชื่อเรื่องที่ว่า "เสือหมอบซุ่ม มังกรซ่อนเร้น"

     สำหรับหลายๆ ท่านดูเรื่องนี้แล้วอาจจะไม่ได้ชอบอะไรมาก เพราะเป็นแนวหนังกำลังภายในที่คุ้นเคยมาอยู่แล้ว อีกทั้งหนังค่อนข้างนิ่งเงียบ ไม่หวือหวา ถ้าเป็นคอหนังแอ็คชันชอบแบบบู๊เดือดๆ ก็คงไม่เหมาะที่จะมาดู อย่างไรก็ตามก็จัดว่าเป็นหนังชั้นเยี่ยมที่ผมว่าน่าสนใจ น่าลอง น่าโดน น่าท้าทาย และคุ้มค่า

" ยิ่งชนะ ยิ่งต้องปล่อยวาง... ยิ่งหยิ่งทรนงในตน ย่อมบดบังแก่นแท้แห่งฝีมือ. "

8.7/10
----------------------------------------------------------------------

ชื่อสินค้า:   Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่