🎄🎄🎄ทวิธราดล🎄🎄🎄(ตอนที่5 เบื้องหน้าประตู)

ตอนที่ 5 เบื้องหน้าประตู
    



     "ฉะนั้น เจ้าทั้งสี่จงฟังเราให้ดี ที่พวกเจ้ามาที่นี่ในครั้งนี้ก็เพราะ.."ลักษณ์นาราตรัส ริมโอษฐ์แย้มพระสรวลเล็กน้อย พระเนตรราวกับจะสาดแสงลงมาแผดเผาทั้งสี่ให้มอดไหม้ ก่อนจะตรัสต่อว่า

     "เพราะเจ้าทั้งสามคน"พระนางยกดัชนีชี้มาที่ แป๋ว กระต่าย เอ





     "จะต้องถึงฆาต ชะตาขาดในวันนี้แล้ว"


    



    

    


    
    

      "เพล้งง!!!"เสียงแก้วตกลงพื้นแตกกระจายดังสนั่นลั่นห้อง
     ไม่นาน เสียงฝีเท้าที่วิ่งอย่างรีบเร่งดังตุบตับๆใกล้เข้ามา ประตูออกเปิดออก
     "ยัยเฟื่อง!!! เป็นอะไร"มุกถามด้วยความตกใจ กวาดสายตามองไปรอบห้อง เห็นเฟื่องกำลังยืนตัวสั่น เอามือกุมหน้าอก ที่พื้นมีแก้วตกแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ มุกรีบเดินเข้ามาในห้อง เขย่งเท้าหลบเศษแก้วคมๆ แล้วมาโอบประคองเพื่อนรักไปนั่งที่เตียง
     "จะเป็นลมหรือเฟื่อง หน้ามืดรึเปล่า เอายาลมไหม"มุกถามด้วยความเป็นห่วง
     "เปล่าๆ ฉันไม่เป็นอะไรหรอกมุก แค่รู้สึกแปลกๆสังหรณ์ใจเหมือนตาฟ้ากำลังตกอยู่ในอันตราย"เฟื่องตอบทำท่าอกสั่นขวัญแขวน
     "คิดมากเฟื่อง ตำรวจยังไม่ได้ข่าวอะไรเลย อย่าฟุ้งซ่านสิ"มุกปลอบ เฟื่องเอามือปิดหน้าส่ายหัวไปมา พอเริ่มสงบก็ตั้งท่าก้มลงจะเก็บเศษแก้ว
     "ไม่ต้องๆ เดี๋ยวฉันเก็บเอง สติไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวอยู่ด้วย เดี๋ยวเศษแก้วก็บาดมือเลือดราดเข้าเท่านั้น เธอพักผ่อนเถอะ ฉันเก็บเอง"มุกบอก ค่อยๆก้มลงเก็บเศษแก้วใส่ที่ตักผง
     เฟื่องมองดูอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ค่อยๆเอนตัวลงนอนบนเตียง แต่ไม่ได้หลับตา
     "นี่เธอแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะไปเชียงใหม่ ไม่รอข่าวจากตำรวจให้แน่ชัดก่อนเหรอ"มุกถาม
     "ฉันทนรออยู่นี่ไม่ไหวหรอกมุก ลูกฉันทั้งคน ฉันต้องไปดูให้ได้ ว่าฟ้าคิดจะทำอะไร แล้วหายไปที่ไหน ลูกฉันอาจจะยังไม่เป็นไร"เฟื่องพูดอย่างมีความหวัง
     มุกไม่ได้พูดอะไรต่อ ค่อยๆยกที่ตักผงไปเทลงในถังขยะ ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดไฟในห้อง
     "พักผ่อนให้มากๆนะเฟื่อง อย่าห่วงลูกจนลืมดูแลตัวเอง หยิบจับอะไรก็ระวังหน่อยล่ะ"มุกเตือน เปิดประตูจะเดินออกไป
     "มุก เธอรู้ไหมทำไมฉันถึงทำแก้วตกแตก"เฟื่องถาม มุกที่กำลังจะเปิดประตูออกไปจึงยืนชะงักค้างอยู่
     "ทำไมล่ะ หลุดมือหรอ?"มุกถามกลับ
     "เธอจะเชื่อรึเปล่า ฉันไม่รู้นะ แต่ฉันเหมือนเห็นแสงสีแดงอะไรสักอย่างแวบเข้ามา แสงสีแดงที่แปลกมาก เหมือนไม่ใช่เกิดจากธรรมชาติ ฉันตกใจเลยปล่อยแก้วตกแตก"เฟื่องพูดเบาๆ
     มุกที่ยืนฟังนิ่งอยู่ หันมามองเฟื่องแวบหนึ่งแล้วค่อยๆเดินออกจากห้องไปด้วยอาการครุ่นคิด




       


   
  
     ผู้ที่เฟื่องกำลังคิดถึงอยู่ในขณะนี้ หาได้รับรู้ถึงความเป็นห่วงของมารดาไม่ เพราะกำลังตกอยู่สภาวะเหนือธรรมชาติที่อธิบายไม่ได้ แม้แต่สถานที่ก็ลี้ลับราวกับจะอยู่คนละโลกฉะนั้น


     หลังจากที่ลักษณ์นาราตรัสคำประกาศิตจบ กระต่าย แป๋ว และเอ นั่งตาค้าง หน้าซีดเผือด พูดอะไรไม่ออก
     เอนิ่งงันไปราวกับจะถูกสาป ส่วนกระต่ายและแป๋วนั่งกอดกันด้วยความหวาดหวั่น เหมือนทั้งสามจะหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ความกลัวที่มีต่อลักษณ์นาราและประกาศิตของพระนาง ดูราวกับจะดูดวิญญาณของทั้งสามออกไปจนหมดสิ้น
     ฟ้าหลังจากที่ตั้งสติ หลุดพ้นจากอาการช๊อคได้ก็รีบหันหน้าไปทางลักษณ์นารา และกราบลงไปแทบพื้น
     "พระองค์หมายถึงอะไรพระเจ้าข้า หม่อมฉันไม่เข้าใจ ถึงฆาตอะไรกัน พระองค์ต้องเข้าพระทัยผิดแน่ๆพระเจ้าข้า"ฟ้าพูดออกไป แม้จะกลัวสักเท่าใด แต่ความตกใจเรื่องที่เพื่อนจะตายก็ได้ไล่ความกลัว
ให้สลายไปหมด
     นางผู้ทรงรัศมีสีแดงรอบพระวรกายอันมโหฬาร ได้ทอดพระเนตรมาที่ฟ้า จับจ้องจนฟ้าต้องหลุบตาลง
     "เจ้าเป็นคนที่มีไหวพริบเป็นเลิศ แต่สติปัญญาของเจ้า ทั้งมันสมอง ความคิดต่างๆนาๆ เจ้าอย่าคิดว่าจะมากกว่าเรา ความรู้ในโลกมนุษย์นั้นมีขีดจำกัด ไม่สามารถบรรลุหรือแตกฉานได้ในบั้นปลาย ไม่สามารถเทียบกับเราได้ เช่นนั้นแล้ว จงอย่ากำแหงหาญมาว่าข้าเข้าใจผิด"ลักษณ์นาราตรัสด้วยเสียงเรียบเฉย ไม่ได้ทรงกริ้วแต่อย่างใด แต่ฟ้าก็รู้สึกว่าคำพูดของพระนางแฝงไปด้วยความเย็นชา
     "หม่อมฉันและเพื่อนๆขออภัย ไม่ว่าจะเรื่องล่วงล้ำแดน หรือเรื่องอื่นใด พวกของหม่อมฉันไม่มีเจตนาใดใด ได้โปรดยกเว้นโทษตายให้แก่พวกของผมด้วยพระเจ้าข้า"ฟ้าอ้อนวอน
     "เจ้าคิดว่าตัวข้า จะพรากชีวิตสหายของเจ้าทั้งสามคนไปอย่างนั้นหรือ ครานี้เจ้าเป็นฝ่ายที่เข้าใจเราผิดบ้างแล้ว มนุษย์น้อยเอ๋ย ข้านั้นมิได้จะพรากชีวิตผู้ใด แต่เพื่อนของเจ้าทั้งสามต่างหากที่จะต้องสิ้นชีวีในวันนี้ด้วยแรงกรรมที่มาตัดรอนของพวกเขาเอง หาเกี่ยวกับข้าไม่"ลักษณ์นาราตรัส
     ฟ้านิ่งอึ้งไปสักพักด้วยความไม่เข้าใจ ราวกับจะล่วงรู้ความคิดของฟ้า ลักษณ์นาราตรัสต่อไปว่า
     "ในโลกมนุษย์ ถ้ามีผู้ใดถึงคราวตาย ไม่ว่าจะด้วยความชรา อุบัติเหตุ ตัวเจ้าเองสามารถหยุด สามารถห้ามได้หรือไม่ ไม่สามารถทำได้ เพราะอะไร ก็เพราะแรงกรรมของคนเหล่านั้นได้มาถึงที่ตายแล้ว เฉกเช่นสหายทั้งสามของเจ้าก็เหมือนกัน"
    
     ฟ้ารู้สึกว่าพื้นที่นั่งอยู่ยวบลงไปในพริบตา เขาเข้าใจในคำพูดของนางแล้ว เพื่อนทั้งสามนั้นไม่ได้จะตายเพราะลักษณ์นาราคร่าชีวิตแต่จะตายเพราะสิ้นอายุขัยนั่นเอง ที่ฟ้ารู้สึกเสียใจก็เพราะต่อให้เพื่อนทั้งสามจะอยู่ในโลกมนุษย์ ที่มหาวิทยาลัย หรือที่บ้านก็ไม่สามารถหนีความตายที่จะมาถึงในครั้งนี้ได้พ้น
     "แล้วหม่อมฉันล่ะพระเจ้าข้า"ฟ้าทูลถาม
     "ตัวของเจ้าจะได้กลับไปยังโลกมนุษย์ตามเดิม ส่วนวิญญาณของสหายเจ้าทั้งสามจะต้องอยู่รับใช้ข้าที่นี่ไปชั่วกาล"ลักษณ์นาราตอบ
     กระต่าย แป๋ว เอ สะดุ้งเฮือก ตอนนี้ทั้งสามคนต่างพากันร้องไห้น้ำตานองหน้า ก้มลงกราบแทบพื้นลักษณ์นาราเพื่อร้องขอชีวิต
     "ฟ้า เรายังไม่อยากตาย พ่อแม่เราล่ะ เรายังไม่ได้ลาท่านเลย เราตายในป่าในเขาแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ ฟ้าช่วยพูดกับเขาทีสิ ช่วยขอร้องท่านให้ยืดอายุเราได้ไหม"กระต่ายร่ำร้องเขย่าแขนฟ้า
     "ข้าไม่มีอำนาจจะยืดอายุใครได้ดอก เด็กผู้น่าสงสาร ข้าไม่มีอำนาจถึงเพียงนั้น อย่าว่าแต่ข้า แม้แต่ท้าวมหาพรหมก็ช่วยมิได้ เพราะกรรมใครก็กรรมมัน"ลักษณ์นาราตรัสราวกับล่วงรู้ทุกสิ่งอย่าง
    
     ความเงียบได้ปกคลุมไปทั่วบริเวณนั้นอยู่นาน แม้แต่คัพธัพวดีก็นั่งก้มหน้านิ่งเงียบไป


     "ไม่ได้!!!"ฟ้าพูดเสียงดัง รีบลุกขึ้นยืน ทำเอาเพื่อนทั้งสามที่ร้องไห้ผงะด้วยอารามตกใจ
     "ผมไม่ยอม ถ้าจะให้ผมรอดไปคนเดียว คนอื่นก็ต้องไปทั้งหมด"ฟ้าพูดด้วยความโกรธ นี่มันไม่ยุติธรรมเลย เขาจะให้เพื่อนมาตายแล้วเขารอดคนเดียวไม่ได้ เขาเป็นคนชวนทุกคนมาเชียงใหม่ และมาที่ถ้ำนี่ เท่ากับว่าเขาชักนำเพื่อนมาตายชัดๆ เขายอมไม่ได้
     "หยุดนะ!!!! เจ้าคนอวดดี กล้าดียังไงถึงยืนพูดกับพระองค์ นั่งลงกราบขอชีวิตกับพระเทวีเดี๋ยวนี้ เจ้าคนสามหาว"คัพธัพวดีชี้หน้าฟ้า ร้องออกมากึกก้องด้วยความโกรธ
     "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร คัพธัพวดี"ลักษณ์นาราตรัสยิ้มๆ ยกพระหัตถ์อันมโหฬารขึ้นปรามคัพธัพวดี พระนางดูไม่ทรงกริ้วเลยสักนิด ทว่ากลับจะดูอารมณ์ดีขึ้นซะอีก
     "เจ้าก็รู้ว่าข้าทำไม่ได้ ยังไงความตายของเพื่อนเจ้าก็ต้องมาถึง ไม่มีอะไรหยุดได้ เหมือนการโคจรของดวงจันทร์ ยังไงก็ต้องเกิดขึ้น ส่วนตัวเจ้าเอง รีบกลับไปเถิด นี่ยังไม่ถึงเวลาของเจ้า จงรีบรักษาตัวให้รอดก่อนเถิด ก่อนที่จะมาห่วงผู้อื่น เพราะยังไงเจ้าก็ช่วยพวกเขาไม่ได้"ลักษณ์นาราตรัส
     "ผมเข้าใจพระองค์นะครับ"ฟ้าเลิกใช้ศัพท์แสงชั้นสูง และดูเหมือนลักษณ์นาราจะไม่ถือตัวอะไีร
     "แต่ผมจะไม่ยอมให้เพื่อนมาทิ้งชีวิตที่นี่แน่ๆ ผมเป็นต้นเหตุทุกอย่าง ได้โปรดเถอะครับ ช่วยให้เราทั้งสี่คนรอดไปพร้อมกันได้ไหมครับ"ฟ้าวิงวอน หยุดพูดไปสักพัก แล้วค่อยๆพูดต่อมาว่า
     "ถ้าจะพรากชีวิต ก็ต้องพรากชีวิตผมอีกคนด้วย ผมจะไม่เห็นแก่ตัวหนีไปคนเดียวแน่นอนครับ"ฟ้าพูด
     "ฟ้าา!!!"เพื่อนทั้งสามร้องออกมา
     "ทำไมพูดแบบนั้น"แป๋วพูดเสียงดัง
     ฟ้าจับมือเพื่อนๆอีกสามคนไว้ เป็นความหมายแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมทิ้งกันเด็ดขาด
     องค์เทวีผู้เรืองฤทธิ์เลิกพระขนงขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกพระทัย ตรัสว่า
     "เอาชีวิตเจ้าไปอีกคน?  ข้าจะเอาชีวิตเจ้าไปด้วยเหตุอันใด ในเมื่อข้าทำไม่ได้เพราะเจ้ายังไม่ถึงฆาต  การที่เจ้าจะมาตายพร้อมกับสหายของเจ้า แล้วมารดาของเจ้าล่ะ เจ้าลืมผู้มีพระคุณคนนั้นแล้วหรือ ถึงจะเอาชีวิตมาทิ้งขว้างเช่นนี้"
     ฟ้านึกขึ้นได้ในทันทีทันใด ว่าเขาก็มีคนที่อยู่ข้างหลังที่รักและเป็นห่วงเขาเช่นกัน ถ้าเขาจากไป แม่ที่เขาเคารพรักคงจะเสียใจใหญ่หลวงและจะกลายเป็นการอกตัญญูอย่างยิ่ง แต่เขาก็ไม่สามารถทิ้งเพื่อนๆได้เช่นกัน
     น้ำตาอุ่นๆค่อยๆไหลลงอาบแก้มของฟ้า เมื่อนึกถึงแม่ของตน
     "ผมต้องการให้ทุกคนรอด ผมแค่ไม่อยากให้ใครตายเท่านั้นเองครับ"ฟ้าตอบ ก้มลงร้องไห้เบาๆ ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยภาวะที่กดดัน
     "งั้นเจ้าจะยอมทิ้งแม่ของเจ้าโดยการตายแทนเพื่อนๆของเจ้าหรือไม่ ข้าจะเอาชีวิตเจ้าแค่คนเดียว ส่วนอีกสามคนข้าจะปล่อยไป และวิญญาณของเจ้าจะอยู่รับใช้ข้าไปชั่วกาล"ลักษณ์นาราเสนอข้อแลกเปลี่ยน
     "ไม่นะฟ้า! อย่านะ!"กระต่ายและแป๋วกรีดร้องออกมาพร้อมกัน
     "อย่าทำแบบนั้นนะฟ้า"เอพูดขึ้นมาอีกคน จับมือฟ้าแน่น

     ฟ้าสะอื้น ไม่ตอบ ยังไงเขาก็ไม่มีทางทิ้งแม่ผู้ให้กำเนิดแน่นอน
     ลักษณ์นาราผู้อ่านใจทุกคนทะลุปรุโปร่งได้จึงตรัสว่า
     "ข้ารู้ใจเจ้าดี เจ้ามิได้มีความเห็นแก่ตัวใดใด แต่เจ้าก็ทิ้งมารดาเจ้าไม่ได้ เช่นนั้น ข้าจะให้ทางเลือกสุดท้ายแก่เจ้า"

     "ข้าจะปล่อยเจ้าทั้งสี่กลับไป แต่เจ้า"ลักษณ์นาราจ้องมองลงมาที่ฟ้า"เจ้ามีเวลาในโลกมนุษย์อีกแค่5ปีเท่านั้น จงใช้เวลา5ปีนี้ที่ข้าให้นี้ ทดแทนคุณมารดาเจ้าให้ถึงพร้อม เมื่อครบ5ปีเมื่อใด เจ้าจะสิ้นชีวี และจะต้องมาเป็นวิญญาณรับใช้ข้าไปตลอดกาล"ลักษณ์นาราตรัส

     ฟ้าเงยหน้าขึ้นมององค์เทวี ในใจวิ่งวุ่น หัวสมองกำลังขบคิดทางเลือกสุดท้ายที่พระนางให้มาอย่างถี่ถ้วน
     "ไม่นะฟ้า เธอทำแบบนี้ไม่ได้ อย่าไปฟังเขา เธอสามารถรอดได้ เธอต้องรอดออกไปก่อน เราสามคนจะหาทางทีหลัง"กระต่ายพูด เอและแป๋วรีบพยักหน้า
     "นั่นไม่ใช่กิจของเจ้า!!!"ลักษณ์นาราตรัสด้วยเสียงก้อง เสียงของพระนางดังสนั่นหวั่นไหวเข้าไปในหูของทั้งสาม จนเพื่อนทั้งสามของฟ้าต้องทรุดตัวเอามืออุดหูไว้ เสียงของพระนางทำเอาความมืดรอบด้านสั่นครืน พระเนตรของนางวูบวาบวาววับราวกับจะสาดลงมาเป็นไฟบรรลัยกัลป์มอดไหม้ทุกชีวิตให้ดับดิ้น นี่เป็นครั้งแรกที่ลักษณ์นาราทรงพระพิโรธ
     "นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องเลือกเอง เจ้าไม่มีสิทธิ์ไปชักนำเขา"ลักษณ์นาราตรัส ทั้งสามคนนิ่งเงียบไป
     "ข้ารอคำตอบจากเจ้าอยู่ มนุษย์"ลักษณ์นาราทวง
     ฟ้าที่นั่งเงียบไปนาน ค่อยๆตอบไปว่า
     "ถ้าผมยอมรับ พระองค์จะปล่อยเพื่อนทั้งสามไปโดยไม่ตามยุ่งเกี่ยวอะไรอีกใช่ไหมครับ"
     "เป็นเช่นนั้น มนุษย์"
     "งั้นผมยอมรับ"
     "ฟ้าไม่"
     "ฟ้าทำบ้าอะไรเนี่ย"
     "ฟ้าอย่านะ"
     เพื่อนทั้งสามเอ็ดตะโรขึ้นมาทันที
     "เงียบนะ เราเลือกแล้ว"ฟ้าตวาดใส่เพื่อนๆ กระต่ายรีบมากอดฟ้าไว้
     "ที่ฟ้าทำอย่างนี้ก็เพราะจะช่วยพวกเรา แล้วฟ้าคิดว่าพวกเราจะหนีเอาตัวรอดงั้นหรอ ดูถูกน้ำใจพวกเรามากเกินไปแล้วฟ้า ถ้าจะไปก็ไปด้วยกัน ถ้าฟ้าจะมาตายที่นี่คนเดียว หรืออีก5ปีข้างหน้า เราก็ไม่ยอมทั้งนั้น"กระต่ายพูดทั้งน้ำตา
     "เราไม่มีทางเลือกแล้วต่าย ดีกว่าเราจะมาตายกันทั้งหมด นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด"ฟ้าบอกเพื่อน
     กระต่ายกับแป๋วสะอึกสะอื้น ส่วนเอนั่งหน้าเครียด
    
   

   
     ลักษณ์นาราโบกพระหัตถ์ช้าๆ ดอกไม้สีแดงเล็กๆดอกหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ ลอยหมุนวนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆลอยต่ำลงมาเรื่อยๆมาตกตรงหน้าฟ้า
     "กลืนดอกไม้นั้นเข้าไปในกายเจ้า เมื่อเจ้ากลืนเข้าไปแล้วจะถือว่าให้สัจจะกับข้า จะถอนมิได้ และอีก5ปี มันจะนำเจ้ากลับมาหาข้าที่นี่"ลักษณ์นาราตรัส
     ฟ้าค่อยๆหยิบดอกไม้สีแดงดั่งเลือดนั้นขึ้นมาในมือ
     "ฟ้า ฟ้าจะทำอะไร"เอถาม
     "ฟ้า เราขอร้องอย่าทำแบบนี้"แป๋วดึงแขนฟ้าไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่