คือเราคบกับแฟนมาร่วม 10 ปี ตั้งแต่เราเป็นลูกจ้าง(ที่มีเงินเดือน 2 เดือนออกครั้ง) คบสัปดาห์แรกเค้าก็ขอยืมเงิน อ้างยืมใช้หนี้ให้พ่อแม่ เพราะเงินเดือนออกไม่ทัน(ตอนนั้นเค้าก็เป็นลูกจ้างในหน่วยงานภาครัฐที่น่าเชื่อถือกว่าเรา)
คบได้ปีนึงเราเบื่อระบบงานก็ลาออกไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ เพราะหวังเปิดหูเปิดตาและถ้ามีโอกาสก็จะได้ทำงานหาเงินมาใช้หนี้ให้แม่จะได้หมดเร็วก่อนกำหนด แต่ครอบครัวเราพอกินพอใช้นะไม่ลำบากเรื่องการใช้จ่ายนัก ซึ่งเราก็เหลือแม่เพียงคนเดียวที่เป็นเสาหลักของบ้าน แม้จะอยู่คนละฟากโลกเค้าก็ยังโทรหาขอยืมด้วยเงินหลักพัน ทั้งที่เรายังไม่ได้เริ่มทำงานเลย แต่ทว่าอยู่ได้ 2 เดือนเศษก็มีหนังสือเรียกเราไปบรรจุเข้ารับราชการ ซึ่งบัญชีตำแหน่งที่เราสอบได้มีอัตราขาดแคลน หน่วยงานเจ้าของบัญชีเค้าเลยรีบปิดบัญชีเรียกบรรจุก่อนบัญชีหมดอายุ ทำให้ลำดับการขึ้นบัญชีที่เราได้ลำดับ 2 ใน 3 ของผู้ขึ้นบัญชีได้รับการเรียกบรรจุ (ทั้งนี้เราสอบไว้ก่อนรู้จักกับแฟน)
พอเราได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ (ซึ่งกำลังจะเข้าปีที่3 ที่คบกัน)เค้าให้เรายื่นกู้ โดยที่เค้าจะรับผิดชอบชำระให้ เพียงแต่เป็นชื่อ (แต่เราไม่เคยได้จับเงินทุกก้อนที่กู้เลย อนุมัติปุ๊บเค้าจ่อรับโอนปั๊บ) เราก็ยอมทำเพราะเห็นใจภาระที่เค้าต้องรับผิดชอบแทนพ่อ และเราก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเท่าเค้า และไหนเค้าจะต้องส่งน้องที่เพิ่งเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาอีก
หลังจากเรายื่นกู้ไม่ถึงครึ่งปี เค้าก็ได้บรรจุเป็นข้าราชการเช่นกัน แต่แทนที่เค้าจะกู้มาปิดให้เรา กลับบอกไม่พอจ่ายที่มีอยู่เลยก็มาปิดบางส่วนก่อน พอน้องเรียนจบก็ได้รับราชการ (รับราชการทีหลังแต่เงินเดือนมากกว่าเราทั้งคู่เลยจ้า) ไอ้เราก็คิดว่าจะกู้มาปิดให้เราได้ แต่กลับไปกู้เพิ่มเพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ และหลายสิ่งที่อำนวยความสะดวก จนเราเริ่มได้ชำระเงินกู้เองแบบไม่รู้ตัวเพราะเค้าให้เราออกไปก่อนเดี๋ยวคืนให้ พอทวงถามก็ว่าเงินไม่ออก เราบอกให้น้องช่วยรับผิดชอบสิ บอกน้องต้องรับค่าใช้จ่ายในบ้าน (เป็นซะงั้น) จนถึงปัจจุบันนี้ก็ 9 ปีมาแล้ว ยังไม่ได้คืนเลย เป็นหนี้ในระบบให้ไม่พอยังให้เราหายยืมให้จนเป็นหนี้นอกระบบในหลักแสนให้ด้วย (ใช้แทนให้พร้อม)
แต่ทางบ้านเราทั้งคู่ไม่รู้ เพราะเค้าอยากให้สมาชิกในครอบครัวภูมิใจที่เค้าเลี้ยงดูได้ ส่วนทางเรารู้ไม่ได้เลย ก็คงตัดสายเลือดกันเลยทีเดียวนัครับ!! แต่เราก็ให้แม่เดือนละหมื่นอยู่แต่บอกเค้าว่าไม่ได้ให้แถมยังขอแม่ใช้อีก โชคดีของเราที่ทางบ้านไม่เคยขอใช้ด้วย เราเลยให้เค้าได้ทุกบาททุกสตางค์ แต่เค้าก็ยังแบ่งให้เราใช้เฉลี่ยสำปดาห์ละ 1,000 บาท ทั้งยังออกค่าใช้จ่ายให้เราตอนเรียน ป.โทด้วย (ลืมบอกทางบ้านเค้าพ่อเกษียณราชการก่อนกำหนด เพราะสุขภาพไม่อำนวย แม่เป็นแม่บ้าน ส่วนพ่อเราเสียแล้ว แม่รับราชการ)
พอเราเห็นทางบ้านเค้ามีพร้อมในสิ่งที่ควรมีแล้ว เราก็เลยขอให้รับผิดชอบหนี้สินที่เป็นชื่อเราที่ก่อจากเค้าแทนบอกและขอร้องทุกปีแต่มีค่าเท่ากับศูนย์ เราก็อยากมีทุกสิ่งอย่างที่มาจากน้ำพักน้ำแรงเรานะ แต่นี่ไปลงที่ครอบครัวเค้าทุกบาททุกสตางค์ (จนเราถามตัวเองบ่อยครั้งว่าเราอยู่ส่วนไหนของครอบครัวเค้าที่ต้องมารับผิดชอบให้ทั้งที่บ้านเราก็มีแม่เป็นหนี้ ทำไมไม่เอาเงินนี้ไปช่วยทางบ้านตัวเองดีกว่า) เวลาเราเห็นเค้ากับน้องเค้าดูแลพ่อแม่ ไม่ว่าจะซื้อของ ทานข้าว เที่ยวพักผ่อนก็จะสะท้อนกลับ เพราะเราก็อยากจะทำอย่างนั้นกับครอบครัวตัวเองเหมือนกัน เพียงแต่เราไม่มีทุนพอ
เราเคยคิดจะเลิกกับเค้านะเพราะน้อยใจกับสิ่งที่เค้าทำกับเราและเราต้องมารับหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นแทนเค้า ในระยะที่คบกันมาเค้าเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายนะ ดูแลใส่ใจห่วงใยเรากับครอบครัวไม่ต่างที่เค้าดูแลสมาชิกที่บ้าน และพ่อกับแม่เค้าก็ดีกับเรา ก็แอบใจหายไม่ได้ถ้าต้องเลิกจริงๆ แต่ต่อให้เราเลิกกันเราก็ต้องใช้หนี้แทนเค้าอยู่ดี เพราะทุกอย่างอยู่ภายใต้ชื่อเรา แต่ถ้าคบต่อเราจะทำอย่างไรดี เพราะมันก็คงเป็นเช่นนี้ตลอดไป(สังเกตจาก 9 ปีที่ผ่านมา) ....
ท้ายสุดนี้ เราอาจเท้าความยาวหน่อยนะ เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้โอกาสเปิดเผยต่อบุคลที่สาม ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
ปล.ยอมให้ต่อว่า ตำหนิ ติเตียนกับสิ่งเราตัดสินใจทำลงไป แต่อย่าลืม!! ช่วยเราหาแนวทางเพื่อปลดปล่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยนะคะ.....🙏🏻🙏🏻🙏🏻
ช่วยหาแนวทางแก้ไขหน่อยค่ะ เราเป็นหนี้ให้แฟน ไม่ได้เงินด้วย แต่กลับต้องใช้หนี้แทน จะทำอย่างไรดีค่ะ
คบได้ปีนึงเราเบื่อระบบงานก็ลาออกไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ เพราะหวังเปิดหูเปิดตาและถ้ามีโอกาสก็จะได้ทำงานหาเงินมาใช้หนี้ให้แม่จะได้หมดเร็วก่อนกำหนด แต่ครอบครัวเราพอกินพอใช้นะไม่ลำบากเรื่องการใช้จ่ายนัก ซึ่งเราก็เหลือแม่เพียงคนเดียวที่เป็นเสาหลักของบ้าน แม้จะอยู่คนละฟากโลกเค้าก็ยังโทรหาขอยืมด้วยเงินหลักพัน ทั้งที่เรายังไม่ได้เริ่มทำงานเลย แต่ทว่าอยู่ได้ 2 เดือนเศษก็มีหนังสือเรียกเราไปบรรจุเข้ารับราชการ ซึ่งบัญชีตำแหน่งที่เราสอบได้มีอัตราขาดแคลน หน่วยงานเจ้าของบัญชีเค้าเลยรีบปิดบัญชีเรียกบรรจุก่อนบัญชีหมดอายุ ทำให้ลำดับการขึ้นบัญชีที่เราได้ลำดับ 2 ใน 3 ของผู้ขึ้นบัญชีได้รับการเรียกบรรจุ (ทั้งนี้เราสอบไว้ก่อนรู้จักกับแฟน)
พอเราได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ (ซึ่งกำลังจะเข้าปีที่3 ที่คบกัน)เค้าให้เรายื่นกู้ โดยที่เค้าจะรับผิดชอบชำระให้ เพียงแต่เป็นชื่อ (แต่เราไม่เคยได้จับเงินทุกก้อนที่กู้เลย อนุมัติปุ๊บเค้าจ่อรับโอนปั๊บ) เราก็ยอมทำเพราะเห็นใจภาระที่เค้าต้องรับผิดชอบแทนพ่อ และเราก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเท่าเค้า และไหนเค้าจะต้องส่งน้องที่เพิ่งเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาอีก
หลังจากเรายื่นกู้ไม่ถึงครึ่งปี เค้าก็ได้บรรจุเป็นข้าราชการเช่นกัน แต่แทนที่เค้าจะกู้มาปิดให้เรา กลับบอกไม่พอจ่ายที่มีอยู่เลยก็มาปิดบางส่วนก่อน พอน้องเรียนจบก็ได้รับราชการ (รับราชการทีหลังแต่เงินเดือนมากกว่าเราทั้งคู่เลยจ้า) ไอ้เราก็คิดว่าจะกู้มาปิดให้เราได้ แต่กลับไปกู้เพิ่มเพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ และหลายสิ่งที่อำนวยความสะดวก จนเราเริ่มได้ชำระเงินกู้เองแบบไม่รู้ตัวเพราะเค้าให้เราออกไปก่อนเดี๋ยวคืนให้ พอทวงถามก็ว่าเงินไม่ออก เราบอกให้น้องช่วยรับผิดชอบสิ บอกน้องต้องรับค่าใช้จ่ายในบ้าน (เป็นซะงั้น) จนถึงปัจจุบันนี้ก็ 9 ปีมาแล้ว ยังไม่ได้คืนเลย เป็นหนี้ในระบบให้ไม่พอยังให้เราหายยืมให้จนเป็นหนี้นอกระบบในหลักแสนให้ด้วย (ใช้แทนให้พร้อม)
แต่ทางบ้านเราทั้งคู่ไม่รู้ เพราะเค้าอยากให้สมาชิกในครอบครัวภูมิใจที่เค้าเลี้ยงดูได้ ส่วนทางเรารู้ไม่ได้เลย ก็คงตัดสายเลือดกันเลยทีเดียวนัครับ!! แต่เราก็ให้แม่เดือนละหมื่นอยู่แต่บอกเค้าว่าไม่ได้ให้แถมยังขอแม่ใช้อีก โชคดีของเราที่ทางบ้านไม่เคยขอใช้ด้วย เราเลยให้เค้าได้ทุกบาททุกสตางค์ แต่เค้าก็ยังแบ่งให้เราใช้เฉลี่ยสำปดาห์ละ 1,000 บาท ทั้งยังออกค่าใช้จ่ายให้เราตอนเรียน ป.โทด้วย (ลืมบอกทางบ้านเค้าพ่อเกษียณราชการก่อนกำหนด เพราะสุขภาพไม่อำนวย แม่เป็นแม่บ้าน ส่วนพ่อเราเสียแล้ว แม่รับราชการ)
พอเราเห็นทางบ้านเค้ามีพร้อมในสิ่งที่ควรมีแล้ว เราก็เลยขอให้รับผิดชอบหนี้สินที่เป็นชื่อเราที่ก่อจากเค้าแทนบอกและขอร้องทุกปีแต่มีค่าเท่ากับศูนย์ เราก็อยากมีทุกสิ่งอย่างที่มาจากน้ำพักน้ำแรงเรานะ แต่นี่ไปลงที่ครอบครัวเค้าทุกบาททุกสตางค์ (จนเราถามตัวเองบ่อยครั้งว่าเราอยู่ส่วนไหนของครอบครัวเค้าที่ต้องมารับผิดชอบให้ทั้งที่บ้านเราก็มีแม่เป็นหนี้ ทำไมไม่เอาเงินนี้ไปช่วยทางบ้านตัวเองดีกว่า) เวลาเราเห็นเค้ากับน้องเค้าดูแลพ่อแม่ ไม่ว่าจะซื้อของ ทานข้าว เที่ยวพักผ่อนก็จะสะท้อนกลับ เพราะเราก็อยากจะทำอย่างนั้นกับครอบครัวตัวเองเหมือนกัน เพียงแต่เราไม่มีทุนพอ
เราเคยคิดจะเลิกกับเค้านะเพราะน้อยใจกับสิ่งที่เค้าทำกับเราและเราต้องมารับหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นแทนเค้า ในระยะที่คบกันมาเค้าเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายนะ ดูแลใส่ใจห่วงใยเรากับครอบครัวไม่ต่างที่เค้าดูแลสมาชิกที่บ้าน และพ่อกับแม่เค้าก็ดีกับเรา ก็แอบใจหายไม่ได้ถ้าต้องเลิกจริงๆ แต่ต่อให้เราเลิกกันเราก็ต้องใช้หนี้แทนเค้าอยู่ดี เพราะทุกอย่างอยู่ภายใต้ชื่อเรา แต่ถ้าคบต่อเราจะทำอย่างไรดี เพราะมันก็คงเป็นเช่นนี้ตลอดไป(สังเกตจาก 9 ปีที่ผ่านมา) ....
ท้ายสุดนี้ เราอาจเท้าความยาวหน่อยนะ เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้โอกาสเปิดเผยต่อบุคลที่สาม ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
ปล.ยอมให้ต่อว่า ตำหนิ ติเตียนกับสิ่งเราตัดสินใจทำลงไป แต่อย่าลืม!! ช่วยเราหาแนวทางเพื่อปลดปล่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยนะคะ.....🙏🏻🙏🏻🙏🏻