ในเมื่อความสูงพัฒนาได้ยากกว่าฝีมือ ก็โกงความสูงมันซะเลย

เวลาโดนติ่งทีมต่างชาติด่าว่า อบต บ้านนอก มันก็เจ็บใจนะ
แต่พฤติกรรมของผู้ใหญ่ในวงการวอลเลย์บอลบ้านแรามันก้น่าโดนด่าจริงๆ
ตอนดันเด็กตัวเองเข้าติดทีมชาติ นั่นก็ว่าแย่แล้ว
แต่มันยังหาอะไรมาจับผิดแบบตรงๆ ไม่ได้ เพราะ ถ้าฝีมือ พวกเกมรับ เกมตบ การต่อบอลอะไรพวกนี้ มันเป็นการวัดเชิงคุณภาพ ประเมินด้วยความรู้สึกและสายตา ถ้ามันต่างกันแค่เล็กน้อย จะดันเด็กตัวเองที่ด้อยกว่าสักนิดเข้าไป ใครจะด่าตรงๆ หรือจับให้มั่นคั้นให้ตายก็ยากจะออกมายอมรับ

แต่นี่คือ ความสุง ซึ่งมันเป็นการวัดเชิงปริมาณ
ไม่ใช่ประเมินด้วยสายแบบ eyeballing ที่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกหรือแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
แต่ความสูงมันวัดออกมาด้วยค่ามาตรฐาน 1 2 3 4 5
ปัญญาอ่อนหรือเปล่า โกงว่าเด็กสูง 179
โง่จนถึงขนาดคิดไม่ออกเหรอว่า มันวัดออกมาเป็นตัวเลข วัดด้วยเครื่องมือมาตรฐานเมื่อไหร่ มันก็ย่อมออกมาเท่ากันทุกครั้ง อาจจะต่างกันได้แค่เล็กน้อย
หรือแค่เอาไปยืนเทียบกับเด็กที่สูง 179 cm จริง ยังไงมันก็เตี้ยกว่าเขาอยู่แล้ว

จะโกงไปเพื่ออะไร

ส่อให้เห็นอะไร ส่อให้เห็นถึงความขี้โกง โกงแบบหน้าด้านๆ
โกงไม่พอ ยังแสดงให้เห็นถึงความโง่ด้วย เพราะปลอมแปลงตัวเลขที่ใครๆก้สามารถเอาความจริงมาหักล้างได้ง่ายๆ

เริ่มต้นกันตั้งแต่วงการการศึกษา ครูหาเด็กโกง สอนให้เด็กโกง แบบหน้าด้านๆ
แทนที่ประเทศมันกลับจะก้าวหน้าไปได้มากกว่านี้ แต่ก็อยู่ได้เท่านี้ เพราะคนเลวๆแบบนี้
จะขำก็ขำไม่ออก ได้แต่สมเพชและอนาถใจกับความคิดของครูในบ้านนี้เมืองนี้ ที่โกงกันแบบหน้าด้านๆ

ดีแล้วที่มีคนออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ แม้จะไม่เปิดเผยชื่อก็ตาม
ให้คนทำมันได้ละอายแก่ใจบ้าง
ต้อง...... และ ........ ขนาดไหน ถึงจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
เรื่องโกงความสูงนี่ผมไม่ซีเรียสนะ เพราะโรงเรียนต่างๆใช้เครื่องวัดความสูงต่างกัน ตัวเลขอาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง

แต่สมาคมใช้เครื่องวัดความสูงอันเดียวกันสำหรับทุกคน ใครสูงเท่าไหร่ก็บันทึกให้เป็นทางการไป

แต่เรื่องที่ผมซีเรียสคืออยากให้สมาคมอย่าเพิ่งตัดสินว่าเด็กคนไหนขาดทักษะในการเล่นวอลเลย์บอลจากการวัดทักษะเพียงวันเดียว เพราะเด็กสูงย่อมมีความคล่องตัวน้อยกว่าเด็กเตี้ยอยู่แล้ว

ดูตัวอย่างปลื้มจิตร์ก็เห็นชัด

"พี่ปลื้มได้เริ่มเล่นวอลเลย์ตอนมัธยม 1 ซึ่งตอนนั้นพี่ปลื้มไม่มีพื้นฐานของวอลเลย์บอลแม้แต่นิดเดียวจึงได้เป็นสำรองตลอด เสิร์ฟน้ำ เก็บบอล มันก็ไม่สนุกอ่ะสิ พี่ปลื้มก็เลยเลิกเล่นวอลเลย์บอลเกือบปี จนตอนมัธยม 3 โค้ชเห็นว่าพี่ปลื้มตัวสูงปี๊ดก็เลยลองชวนให้เล่นวอลเลย์บอลอีกครั้ง ก็ได้ฝึกพื้นฐานวอลเลย์บ้าง ได้ลงเล่นกับเพื่อนบ้าง ได้ไปแข่งในรายการระดับจังหวัด จนมีแมวมองชวนให้ไปอยู่โรงเรียนบดินทร์เดชา …พี่ปลื้มก็ย้ายไปเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนนี้และได้เล่นวอลเลย์บอลให้กับที่นี่(เป็นสำรองอยู่) ในขณะนั้นนักวอลเลย์ทีมชาติขาดนักกีฬาไป 3 คน โค้ชทีมชาติเห็นแววในตัวพี่ปลื้มก็เลยเรียกเข้าไปฝึกซ้อมในแคมป์ทีมชาติ (น่าอิจฉาไหมละ เป็นตัวสำรองของทีมโรงเรียนแต่ติดทีมชาติก่อนเพื่อนๆในทีม) ด้วยความพยายามหมั่นเพียรในการฝึกซ้อมก็ทำให้ฝีมือพี่ปลื้มพัฒนาขึ้นและโค้ชอ๊อตได้เปลี่ยนตำแหน่งให้พี่ปลื้มจากหัวเสาเป็นบอลกลางก็เลยทำให้ดูรุ่งเข้าไปอีกกกก จนปี 2001 พี่ปลื้มก็ได้ติดทีมชาติอย่างเป็นทางการ …"

ปลื้มจิตร์ก็ใช่ว่าเล่นปั๊บเก่งปุ๊บ อยู่มัธยมปลายก็เป็นตัวสำรองของโรงเรียน จนกระทั่งโค้ชทีมชาติเอาไปฝึกเพิ่มเติมจึงเริ่มฉายแสงจนติดทีมชาติ

เตยหัตถยาก็ทำนองเดียวกัน กว่าจะติดทีมชาติได้ก็โดนตัดตัวออกไม่รู้กี่ครั้ง

ผมถึงอยากให้สต๊าฟโค้ชคัดเลือก U17 และ U19 ให้โอกาสเด็กสูง อย่าเพิ่งตัดตัวออกเร็วนัก ควรให้โอกาสฝึกทักษะเพิ่มเติมมากกว่าเด็กเตี้ยเสียอีก
ความคิดเห็นที่ 7
โกงมาก็คัดออกไป
จดชื่อโรงเรียนไว้ ถึงไม่ประกาศแต่คนวงในเขาก็รู้กันหมดแล้วล่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่