
>>> สำหรับทริปนี้ เป็นการเดินทางครั้งแรกกับแฟนที่ไกลพอสมควร ผมกับแฟนถึงขั้นวางแพลนข้ามปีกันเลยทีเดียว ^_^
เราเริ่มกันเลยนะครับ
DAY 1
(11 ตุลาคม พ.ศ.2560)
เราเดินทางจากสนามบินเชียงราย ไปสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบิน Air Asia (เราจองช่วงโปร 0 บาท ฮี่ๆๆ ^^)

เราค้างที่ กทม. 1 คืน เพราะพรุ่งนี้เราต้องขึ้นเครื่องเช้าเลย ทั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณพี่นัท(ญาติของแฟน) ที่ให้พักที่คอนโดด้วยนะครับ วิวชั้นดาดฟ้าของคอนโดสวยมาก ผมกับแฟนจึงไม่พลาดที่จะขึ้นไปถ่ายรูปเล่นครับผม

DAY 2
(12 ตุลาคม พ.ศ. 2560)
เราตื่นเช้ามากก สภาพตาปรือครับผม =.=" ไฟท์ไปหาดใหญ่ของเราคือ 06.45 น. Let GO!!

เราถึงสนามบินหาดใหญ่ประมาณ 08.15น. จะมีรถตู้มารอรับหน้าสนามบิน ส่วนตัวผมคิดว่าพี่รถตู้บริการดีมากนะ ทางบริษัทโทรนัดเวลา สถานที่ขึ้นรถก่อน 1 วันเดินทาง ลงเครื่องปุ๊บพี่คนขับก็โทรมาย้ำอีกทีเรื่องป้ายทะเบียนรถ สถานที่จอด ส่วนเรื่อง รถตู้(ไป-กลับ) ท่าเรือปากบารา เรือสปีดโบ๊ท(ไป-กลับ) เราจองจากเพจ Lipe lover ซึ่งจะมีแอดมินชื่อพี่จูคอยรับเรื่อง+ทักมาถามเรื่องการเดินทางอยู่ตลอด ตรงนี้สบายใจ หายห่วงได้เลย (ลิ้งด้านล่าง)
https://www.facebook.com/lipelovers/
ตัวนอกรถผมลืมถ่ายมา เพราะรีบเอาของเก็บกว่าจะนึกได้รถออกพอดี รถออกจากสนามบินประมาณ 08.30 น. แวะพัก 1 ครั้ง ให้เข้าห้องน้ำ ซื้อขนม 15 นาที ที่ปั๊ม ปตท. ครับผม

ระหว่างทาง แม่เจ้า O.O!! ฝนกระหน่ำ ตกตลอดทาง ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจว่าไปถึงเกาะขออย่าตกเลย (-/\-)"
เรามาถึงท่าเรือประมาณ 11 โมง เห็นข้างหลังมั้ยครับ ฟ้าเปิดแล้ววววว ฝนเริ่มซา ^.^ .... นี่สินะฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ ถึงเวลาตุนเสบียงครับผม เราเดินไป 7-11 แถวๆท่าเรือ เพราะแอบเห็นรีวิวของชาว Pantip บอกว่าของ 7-11 บนเกาะแพงมาก!! ((( แล้วมันก็แพงจริงๆครับผม บางชิ้นราคา x2 ไปเลย ))) ซื้อของเสร็จ เราก็เดินเข้าท่าเรือปากบาราเพื่อไปรอขึ้นเรือสปีดโบ๊ท ตรงทางเข้าท่าเรือ จะมีค่าธรรมเนียมเข้าท่าเรือคนละ 20 บาทด้วยนะครับ

เดินทางช่วงโลวซีซั่นต้องทำใจครับ ธรรมดาอากาศคาดเดาไม่ได้เลย ตอนเรือออกจากท่าแรกๆจะปกติธรรมดาครับ แต่พอเริ่มออกห่างจากท่าเรือ คลื่นจะยิ่งสูง ซึ่งทำให้เรือขึ้นๆลงๆ ปะทะคลื่นแรงๆอยู่บ่อยครั้ง พูดได้ว่าต้องมีสมาธิในการนั่งเรือครับผม 5555555+ แต่ผมว่าก็สนุกอีกแบบนะ เพราะในเรือมีแต่เสียงกริ๊ด เหมือนกับขึ้นเครื่องเล่นในสวนสนุกเลย >///< พอผ่านคลื่นหลายๆลูกมาได้ เรือเข้าใกล้เกาะมากขึ้น สิ่งที่เห็นคือน้ำทะเลก็จะสีฟ้าสดใสสะท้อนเสียงแดดวิ๊งๆ ทำให้หายเหนื่อยกับการเดินทางแบบหลายๆต่อเลยกันเลยทีเดียว

สปีดโบ๊ทจะจอดให้เราลงตรงโป๊ะ จุดนี้เราต้องจ่ายค่าเรือหางยาวอีกคนละ 50 บาท เพื่อขึ้นเรือหางยาวไปเกาะอีกทีนึง ใกล้แล้วๆอีกนิดเดียว \\^O^//

เป็นไงล่ะครับ พอเห็นน้ำใสจนเห็นทรายเท่านั้นแหละ ลืมเรื่องการเดินทางที่แสนจะยากเย็นตอนมาไปหมดเลย เราลงจะเรือหางยาวเพื่อขึ้นฝั่งหาดซันไรซ์ก็จะเจอรถของรีสอร์ทมารอรับครับผม เราพักที่ Akira Beach Resort Lipe ห้อง Deluxe Pool Access ไปถึงก็เช็คอินเสร็จสรรพ มีพนักงานพาเราไปที่ห้อง พักผ่อนเก็บแรง จัดของ คิดไว้ว่าสักประมาณ 14.00 น. ค่อยออกไปลุยต่อกัน
บรรยากาศห้องพักคร่าวๆครับ


ถึงเวลาแล้ว พร้อมสุดๆตอนนี้ แดดแรงเอาเรื่อง >..<" ก่อนอื่นครับ กองทัพต้องเดินด้วยท้องฮ่าๆๆ เราเลยออกไปหาไรกินที่หน้ารีสอร์ท มื้อแรกบนเกาะของเราจึงเป็นร้านอาหารของรีสอร์ทนั่นเอง ระหว่างทางเก็บภาพมาฝากครับ





รอติดตามต่อนะครับ zzZZ
[CR] >>> Lipe Island 3 วัน 2 คืน Low season จากเหนือสุดมุ่งสู่เกาะที่สวยงามไม่แพ้ใคร ^_^
>>> สำหรับทริปนี้ เป็นการเดินทางครั้งแรกกับแฟนที่ไกลพอสมควร ผมกับแฟนถึงขั้นวางแพลนข้ามปีกันเลยทีเดียว ^_^
เราเริ่มกันเลยนะครับ
DAY 1
(11 ตุลาคม พ.ศ.2560)
เราเดินทางจากสนามบินเชียงราย ไปสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบิน Air Asia (เราจองช่วงโปร 0 บาท ฮี่ๆๆ ^^)
เราค้างที่ กทม. 1 คืน เพราะพรุ่งนี้เราต้องขึ้นเครื่องเช้าเลย ทั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณพี่นัท(ญาติของแฟน) ที่ให้พักที่คอนโดด้วยนะครับ วิวชั้นดาดฟ้าของคอนโดสวยมาก ผมกับแฟนจึงไม่พลาดที่จะขึ้นไปถ่ายรูปเล่นครับผม
DAY 2
(12 ตุลาคม พ.ศ. 2560)
เราตื่นเช้ามากก สภาพตาปรือครับผม =.=" ไฟท์ไปหาดใหญ่ของเราคือ 06.45 น. Let GO!!
เราถึงสนามบินหาดใหญ่ประมาณ 08.15น. จะมีรถตู้มารอรับหน้าสนามบิน ส่วนตัวผมคิดว่าพี่รถตู้บริการดีมากนะ ทางบริษัทโทรนัดเวลา สถานที่ขึ้นรถก่อน 1 วันเดินทาง ลงเครื่องปุ๊บพี่คนขับก็โทรมาย้ำอีกทีเรื่องป้ายทะเบียนรถ สถานที่จอด ส่วนเรื่อง รถตู้(ไป-กลับ) ท่าเรือปากบารา เรือสปีดโบ๊ท(ไป-กลับ) เราจองจากเพจ Lipe lover ซึ่งจะมีแอดมินชื่อพี่จูคอยรับเรื่อง+ทักมาถามเรื่องการเดินทางอยู่ตลอด ตรงนี้สบายใจ หายห่วงได้เลย (ลิ้งด้านล่าง)
https://www.facebook.com/lipelovers/
ตัวนอกรถผมลืมถ่ายมา เพราะรีบเอาของเก็บกว่าจะนึกได้รถออกพอดี รถออกจากสนามบินประมาณ 08.30 น. แวะพัก 1 ครั้ง ให้เข้าห้องน้ำ ซื้อขนม 15 นาที ที่ปั๊ม ปตท. ครับผม
ระหว่างทาง แม่เจ้า O.O!! ฝนกระหน่ำ ตกตลอดทาง ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจว่าไปถึงเกาะขออย่าตกเลย (-/\-)"
เรามาถึงท่าเรือประมาณ 11 โมง เห็นข้างหลังมั้ยครับ ฟ้าเปิดแล้ววววว ฝนเริ่มซา ^.^ .... นี่สินะฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ ถึงเวลาตุนเสบียงครับผม เราเดินไป 7-11 แถวๆท่าเรือ เพราะแอบเห็นรีวิวของชาว Pantip บอกว่าของ 7-11 บนเกาะแพงมาก!! ((( แล้วมันก็แพงจริงๆครับผม บางชิ้นราคา x2 ไปเลย ))) ซื้อของเสร็จ เราก็เดินเข้าท่าเรือปากบาราเพื่อไปรอขึ้นเรือสปีดโบ๊ท ตรงทางเข้าท่าเรือ จะมีค่าธรรมเนียมเข้าท่าเรือคนละ 20 บาทด้วยนะครับ
เดินทางช่วงโลวซีซั่นต้องทำใจครับ ธรรมดาอากาศคาดเดาไม่ได้เลย ตอนเรือออกจากท่าแรกๆจะปกติธรรมดาครับ แต่พอเริ่มออกห่างจากท่าเรือ คลื่นจะยิ่งสูง ซึ่งทำให้เรือขึ้นๆลงๆ ปะทะคลื่นแรงๆอยู่บ่อยครั้ง พูดได้ว่าต้องมีสมาธิในการนั่งเรือครับผม 5555555+ แต่ผมว่าก็สนุกอีกแบบนะ เพราะในเรือมีแต่เสียงกริ๊ด เหมือนกับขึ้นเครื่องเล่นในสวนสนุกเลย >///< พอผ่านคลื่นหลายๆลูกมาได้ เรือเข้าใกล้เกาะมากขึ้น สิ่งที่เห็นคือน้ำทะเลก็จะสีฟ้าสดใสสะท้อนเสียงแดดวิ๊งๆ ทำให้หายเหนื่อยกับการเดินทางแบบหลายๆต่อเลยกันเลยทีเดียว
สปีดโบ๊ทจะจอดให้เราลงตรงโป๊ะ จุดนี้เราต้องจ่ายค่าเรือหางยาวอีกคนละ 50 บาท เพื่อขึ้นเรือหางยาวไปเกาะอีกทีนึง ใกล้แล้วๆอีกนิดเดียว \\^O^//
เป็นไงล่ะครับ พอเห็นน้ำใสจนเห็นทรายเท่านั้นแหละ ลืมเรื่องการเดินทางที่แสนจะยากเย็นตอนมาไปหมดเลย เราลงจะเรือหางยาวเพื่อขึ้นฝั่งหาดซันไรซ์ก็จะเจอรถของรีสอร์ทมารอรับครับผม เราพักที่ Akira Beach Resort Lipe ห้อง Deluxe Pool Access ไปถึงก็เช็คอินเสร็จสรรพ มีพนักงานพาเราไปที่ห้อง พักผ่อนเก็บแรง จัดของ คิดไว้ว่าสักประมาณ 14.00 น. ค่อยออกไปลุยต่อกัน
บรรยากาศห้องพักคร่าวๆครับ
ถึงเวลาแล้ว พร้อมสุดๆตอนนี้ แดดแรงเอาเรื่อง >..<" ก่อนอื่นครับ กองทัพต้องเดินด้วยท้องฮ่าๆๆ เราเลยออกไปหาไรกินที่หน้ารีสอร์ท มื้อแรกบนเกาะของเราจึงเป็นร้านอาหารของรีสอร์ทนั่นเอง ระหว่างทางเก็บภาพมาฝากครับ