มาเล่าประสบการณ์แบบสุดๆของชีวิตการเป็นผู้หญิงให้ฟังนะคะ ยังไม่มีลูกค่ะ กำลังวางแผนการมีลูกอยู่ ปล่อยมา5 เดือนแล้วยังไม่สำเร็จคุณหมอเลยให้ไปตรวจท่อนำไข่กลัวว่าจะตัน เพราะแฟนเชื้อปกติ แข็งแรงดี เลยน่าจะมีปัญหาที่เราค่ะ อายุมากแล้ว (30) อยากมีลูกแล้วค่ะ
เราเพิ่งไปฉีดมาที่ รพ.นนทเวช เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมาค่ะ หมอนัดเวลาบ่ายสอง หลังจากประจำเดือนหมดสนิท (ปจด.วันแรก 19 ต.ค. หมด 23 ต.ค.)
ตอนทำก็รู้สึกหน่วงๆเหมือนเวลาเมนส์มาแต่ปวดมาก เหมือนมันไปดันมดลูกไว้น่ะค่ะ พอทำเสร็จแล้วก็หายปวดแต่ยังหน่วงๆท้องอยู่
ก่อนไปเรามีเพศสัมพันธ์คืนก่อนด้วย ทางที่ดีแนะนำว่าอย่ามีเพศสัมพันธ์ไปก่อนเลยค่ะ และก็ให้โทรไปนัดกับทางโรงพยาบาลที่เราตั้งใจจะไปตรวจล่วงหน้าก่อนนะคะ เพราะบางที่ไปแล้วอาจจะไม่มีคิวนะคะ ของเราตอนแรกจะไปศิริราชแต่คุณหมอบอกว่าศิริราชคิวยาวเลย (คุณหมอคลินิกที่ดูแลอยู่ศิริราช) เลยไปเอกชนแถวบ้านแทนค่ะ ค่าเสียหายทั้งหมด 5,945 บาท
หลังทำเรานั่งแทกซี่กลับบ้านค่ะ ไปคนเดียวด้วย แฟนติดงาน ตั้งใจไม่ขับรถไปกลัวขับไม่ไหวตอนกลับ ซึ่งหลังทำเสร็จเราก็เดินเหินอะไรปกติดี ยังไม่มีอาการปวดใดๆเลยค่ะ แค่หน่วงๆท้อง แนะนำให้เตรียมผ้าอนามัยไปด้วยนะคะ ของเราหลังทำเสร็จเลือดออกมาเหมือนประจำเดือนมาเลยค่ะ ดีที่เตรียมผ้าอนามัยไปด้วย และเราก็เตรียมยาแก้ปวดแบบรุนแรง(เม็ดสีชมพูอ่ะค่ะ) ติดกระเป๋าไปด้วย แต่ไม่ได้ทานก่อนที่จะทำนะคะ พอฟังหมอ คุณหมอบอกว่าท่อนำไข่ไม่ตัน ไม่ได้เป็นหมัน แต่เหมือนมีพังผืด แต่ก็ไม่ชัดเจนจากฟิล์มที่ดู เลยแนะนำให้เรากลับไปทำการบ้านเองก่อน คุณหมอน่ารักดีนะคะ แนะนำการทำการบ้านว่าจะต้องทำยังไง อะไรบ้างมาให้ด้วย
พอตกเย็นถึงบ้าน นอนอยู่ที่โซฟาก็รู้สึกแบบหนาวๆ เลยคิดว่าอากาศคงเริ่มเย็น และเราก็ยังไม่กินยาแก้ปวด เพราะเราไม่ค่อยชอบกินยาพร่ำเพรื่อ เรานอนอยู่ที่โซฟา เดินไปเข้าห้องน้ำบ้าง เดินไปเดินมาบ้าง ยังไม่มีอาการอะไร จนหัวค่ำเริ่มรู้สึกปวดแบบเหมือนเป็นเมนส์แต่ปวดมาก และก็มากขึ้นเรื่อยๆ เราจึงยอมกินยาแก้ปวดเม็ดสีชมพู และจะรีบขึ้นไปอาบน้ำ กลัวจะเป็นไข้ตามมา แต่ทว่าเราเดินขึ้นบันไดไม่ได้เลยค่ะ แบบมันปวดมากกก
ปวดแบบเหมือนมดลูกจะร่วงลงมาเวลาเราเดินน่ะค่ะ จนแฟนต้องพยุงกึ่งๆอุ้มขึ้นไปอาบน้ำให้ อาบแค่พอสะอาดแป๊บเดียวก็ไม่ไหวค่ะ หนาวสั่น อาการไข้มาเลยค่ะ รีบนอนแต่ก็นอนไม่ได้เพราะปวดมาก จะขยับตัวด้วยความปวดยังขยับไม่ได้เลยค่ะ แล้วก็ปวดขึ้นเป็นลำดับๆ มากขึ้นๆ เราไม่เคยเป็นตะคริวนะคะ แต่เราคิดว่าอาการน่าจะเหมือนตะคริวกินน่ะค่ะ มันเหมือนตะคริวกินอยู่ในท้องเรา ในมดลูกเราเลยค่ะ ปวดทรมานมากจนหลับไปเลยค่ะ ตื่นมาตอนเช้าก็ยังปวดอยู่แต่ก็ยังดีขึ้นกว่าตอนกลางคืนค่ะ แล้ววันรุ่งขึ้นเราก็ตั้งใจจะไปวางดอกไม้จันท์ด้วย ก็ภาวนาและเช็คอาการตัวเองตลอดว่าดีขึ้นหรือยัง พอครบรอบบ่ายสอง เวลาที่ฉีดเมื่อวันก่อน มันก็เบาขึ้นค่ะ เลยออกไปวางได้
หลังจากนั้น เราก็เอาผลการตรวจจากนนทเวชมาให้คุณหมอที่ดูแลเราเรื่องการมีบุตรอยู่อ่านดู แล้วก็เล่าอาการให้ฟัง คุณหมอบอกว่าเราน่าจะมีพังผืดอยู่ในมดลูกข้างขวา เพราะถ้าคนไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไรจะไม่อักเสบขนาดนี้ คุณหมอก็ซาวด์ดูไข่ให้ ปรากฏว่าไข่ข้างขวาโต 2 ใบใหญ่เลยค่ะ แต่ข้างซ้ายมีใบนึง กลางๆ คุณหมอบอกว่าก็มีโอกาสที่จะทำติดตามธรรมชาติ ถ้าไม่ติดรอบนี้ก็จะให้ไปขูดมดลูกเอาพังผืดออกแล้วค่อยเริ่มกันใหม่ในการมีบุตรค่ะ เราท้อมากเลยค่ะตอนนี้ ได้แต่ภาวนาว่าหลังจากวันที่ 20 พ.ย.ไป เราจะตวจเจอ 2 ขีดกะเค้าบ้าง เพราะเราไม่อยากไปขูดมดลูกเลย เรากลัวเจ็บมดลูกเหมือนที่ฉีดสีท่อนำไข่ในครั้งนี้ มันทรมานเหลือเกินค่ะ แต่ถ้าครั้งนี้ไม่ติดเราก็จะขอหยุดพักก่อนค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ยาวหน่อย ใครมีประสบการณ์การฉีดสีท่อนำไข่เป็นยังไงบ้าง มาแชร์กันนะคะ เห็นบางคนบอกว่า ไปฉีดสีกลับมาไม่กี่เดือนก็ได้ลูกเลย อยากเป็นแบบนั้นจังเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้กับทางเราด้วยนะคะ ฮืออออออออออ
เมื่อฉันต้องไปฉีดสีท่อนำไข่ หลังจากพยายามปล่อยมีลูกมาหลายเดือนแล้วยังไม่สำเร็จ
เราเพิ่งไปฉีดมาที่ รพ.นนทเวช เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมาค่ะ หมอนัดเวลาบ่ายสอง หลังจากประจำเดือนหมดสนิท (ปจด.วันแรก 19 ต.ค. หมด 23 ต.ค.)
ตอนทำก็รู้สึกหน่วงๆเหมือนเวลาเมนส์มาแต่ปวดมาก เหมือนมันไปดันมดลูกไว้น่ะค่ะ พอทำเสร็จแล้วก็หายปวดแต่ยังหน่วงๆท้องอยู่
ก่อนไปเรามีเพศสัมพันธ์คืนก่อนด้วย ทางที่ดีแนะนำว่าอย่ามีเพศสัมพันธ์ไปก่อนเลยค่ะ และก็ให้โทรไปนัดกับทางโรงพยาบาลที่เราตั้งใจจะไปตรวจล่วงหน้าก่อนนะคะ เพราะบางที่ไปแล้วอาจจะไม่มีคิวนะคะ ของเราตอนแรกจะไปศิริราชแต่คุณหมอบอกว่าศิริราชคิวยาวเลย (คุณหมอคลินิกที่ดูแลอยู่ศิริราช) เลยไปเอกชนแถวบ้านแทนค่ะ ค่าเสียหายทั้งหมด 5,945 บาท
หลังทำเรานั่งแทกซี่กลับบ้านค่ะ ไปคนเดียวด้วย แฟนติดงาน ตั้งใจไม่ขับรถไปกลัวขับไม่ไหวตอนกลับ ซึ่งหลังทำเสร็จเราก็เดินเหินอะไรปกติดี ยังไม่มีอาการปวดใดๆเลยค่ะ แค่หน่วงๆท้อง แนะนำให้เตรียมผ้าอนามัยไปด้วยนะคะ ของเราหลังทำเสร็จเลือดออกมาเหมือนประจำเดือนมาเลยค่ะ ดีที่เตรียมผ้าอนามัยไปด้วย และเราก็เตรียมยาแก้ปวดแบบรุนแรง(เม็ดสีชมพูอ่ะค่ะ) ติดกระเป๋าไปด้วย แต่ไม่ได้ทานก่อนที่จะทำนะคะ พอฟังหมอ คุณหมอบอกว่าท่อนำไข่ไม่ตัน ไม่ได้เป็นหมัน แต่เหมือนมีพังผืด แต่ก็ไม่ชัดเจนจากฟิล์มที่ดู เลยแนะนำให้เรากลับไปทำการบ้านเองก่อน คุณหมอน่ารักดีนะคะ แนะนำการทำการบ้านว่าจะต้องทำยังไง อะไรบ้างมาให้ด้วย
พอตกเย็นถึงบ้าน นอนอยู่ที่โซฟาก็รู้สึกแบบหนาวๆ เลยคิดว่าอากาศคงเริ่มเย็น และเราก็ยังไม่กินยาแก้ปวด เพราะเราไม่ค่อยชอบกินยาพร่ำเพรื่อ เรานอนอยู่ที่โซฟา เดินไปเข้าห้องน้ำบ้าง เดินไปเดินมาบ้าง ยังไม่มีอาการอะไร จนหัวค่ำเริ่มรู้สึกปวดแบบเหมือนเป็นเมนส์แต่ปวดมาก และก็มากขึ้นเรื่อยๆ เราจึงยอมกินยาแก้ปวดเม็ดสีชมพู และจะรีบขึ้นไปอาบน้ำ กลัวจะเป็นไข้ตามมา แต่ทว่าเราเดินขึ้นบันไดไม่ได้เลยค่ะ แบบมันปวดมากกก
ปวดแบบเหมือนมดลูกจะร่วงลงมาเวลาเราเดินน่ะค่ะ จนแฟนต้องพยุงกึ่งๆอุ้มขึ้นไปอาบน้ำให้ อาบแค่พอสะอาดแป๊บเดียวก็ไม่ไหวค่ะ หนาวสั่น อาการไข้มาเลยค่ะ รีบนอนแต่ก็นอนไม่ได้เพราะปวดมาก จะขยับตัวด้วยความปวดยังขยับไม่ได้เลยค่ะ แล้วก็ปวดขึ้นเป็นลำดับๆ มากขึ้นๆ เราไม่เคยเป็นตะคริวนะคะ แต่เราคิดว่าอาการน่าจะเหมือนตะคริวกินน่ะค่ะ มันเหมือนตะคริวกินอยู่ในท้องเรา ในมดลูกเราเลยค่ะ ปวดทรมานมากจนหลับไปเลยค่ะ ตื่นมาตอนเช้าก็ยังปวดอยู่แต่ก็ยังดีขึ้นกว่าตอนกลางคืนค่ะ แล้ววันรุ่งขึ้นเราก็ตั้งใจจะไปวางดอกไม้จันท์ด้วย ก็ภาวนาและเช็คอาการตัวเองตลอดว่าดีขึ้นหรือยัง พอครบรอบบ่ายสอง เวลาที่ฉีดเมื่อวันก่อน มันก็เบาขึ้นค่ะ เลยออกไปวางได้
หลังจากนั้น เราก็เอาผลการตรวจจากนนทเวชมาให้คุณหมอที่ดูแลเราเรื่องการมีบุตรอยู่อ่านดู แล้วก็เล่าอาการให้ฟัง คุณหมอบอกว่าเราน่าจะมีพังผืดอยู่ในมดลูกข้างขวา เพราะถ้าคนไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไรจะไม่อักเสบขนาดนี้ คุณหมอก็ซาวด์ดูไข่ให้ ปรากฏว่าไข่ข้างขวาโต 2 ใบใหญ่เลยค่ะ แต่ข้างซ้ายมีใบนึง กลางๆ คุณหมอบอกว่าก็มีโอกาสที่จะทำติดตามธรรมชาติ ถ้าไม่ติดรอบนี้ก็จะให้ไปขูดมดลูกเอาพังผืดออกแล้วค่อยเริ่มกันใหม่ในการมีบุตรค่ะ เราท้อมากเลยค่ะตอนนี้ ได้แต่ภาวนาว่าหลังจากวันที่ 20 พ.ย.ไป เราจะตวจเจอ 2 ขีดกะเค้าบ้าง เพราะเราไม่อยากไปขูดมดลูกเลย เรากลัวเจ็บมดลูกเหมือนที่ฉีดสีท่อนำไข่ในครั้งนี้ มันทรมานเหลือเกินค่ะ แต่ถ้าครั้งนี้ไม่ติดเราก็จะขอหยุดพักก่อนค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ยาวหน่อย ใครมีประสบการณ์การฉีดสีท่อนำไข่เป็นยังไงบ้าง มาแชร์กันนะคะ เห็นบางคนบอกว่า ไปฉีดสีกลับมาไม่กี่เดือนก็ได้ลูกเลย อยากเป็นแบบนั้นจังเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้กับทางเราด้วยนะคะ ฮืออออออออออ