📌📌📌part 1📌📌📌
กาลครั้งหนึ่ง จำเธอชั่วนิรันดร์
• ตั้งแต่รู้ว่าท้องหนู แม่แพ้ท้องมากถึง3เดือน ไม่เหมือนตอนท้องพี่เอิร์ท เพราะตอนท้องพี่เอิร์ท แพ้เเค่2วัน แม่ฝากท้องกับโรงบาล มศว.ที่เดียวกับที่คลอดพี่เอิร์ท แต่ตอนพี่เอิร์ทฝากแบบธรรมดา แต่ท้องหนูแม่ฝากพิเศษ ตอนท้อง หกเดือนหมอซาวด์บอกว่า 70%เป็นผู้หญิง แม่ดีใจมาก เพราะพี่เอิร์ทเป็นผู้ชายล่ะ แต่พอเกือบเก้าเดือนหมอซาวด์อีกทีสรุปหมอบอกเป็นผู้ชายชัวร์ครับ 555+ แต่ยังไงก็ดีใจตื่นเต้นอยู่ดี หมอบอกว่ากำหนดคลอดวันที่ 25กรกฏาคม 2557
• วันจันทร์ที่7กรกฏาคม2557 วันนี้มาหาคุณหมอตามนัด คุณหมอบอกว่า ปากมดลูกเปิด หนึ่งเซนเเล้วให้รออีกชั่วโมงแล้วเรียกตรวจอีกรอบ คราวนี้เปิดสามเซนแล้ว หมอเลยบอกว่าให้รอคลอดเลยนะ หมอให้พยาบาลพาไปห้องรอคลอด ผ่นไปไม่ถึงชั่วโมง ปากมดลูกเปิดเพิ่มเป็น หกเซน แต่หลังจากนั้นหลายชั่วโมงก้อไม่เปิดเพิ่มอีกเลย ความปวดเริ่มมากขึ้นๆหมอขึ้นมาดูทุกชั่วโมงๆแต่ก้อไม่เปิดเพิ่ม หมอบอกจะผ่าคลอด แต่เเม่ไม่ยอม จนสุดท้ายต้องยอมเพราะนานมากแล้วน้ำคล่ำเริ่มเเห้ง หมอพาเข้าห้องผ่าคลอด หนูคลอดออกมาตอน 15:11น. น้ำหนัก 2,530 กรัม หลังจากหลอดหนูแล้ว แม่ไปรอบนห้องพักฟื้น รอกว่าจะได้เห็นหน้าหนูเกือบสองทุ่ม พยาบาลเอาหนูมาให้ดูแค่เเปปเดียว แล้วเอาหนูไป บอกว่าเดี๋ยวเอาไปเลี้ยงให้ก่อน
• เช้าวันรุ่งขึ้น ย่ากับพี่เอิร์ทมาหานู๋ พยาบาลให้ไปเยี่ยมหนูอีกห้อง แม่เริ่มแปลกใจนิดๆล่ะ แต่ก็คิดว่าคงไม่มีไรหรอกเนอะ คราวนี้ตอนบ่ายสอง มีหมอเดินเข้ามาคุยกับแม่ บอกว่ หนูเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว ห๊ะ!อะไรนะหมอ ได้ยินแค่นี้เหมือนโลกหยุดหมุนไปเลย อยู่ๆน้ำตาก็เริ่มไหล ร้องไห้ไม่หยุด คิดไปต่างๆนาๆ ว่าทำไมหนูถึงเป็น ทำไมต้องเป็นหนู เพราะอะไร ทั้งๆที่ตอนท้องฝากอย่างดี กินดี บำรุงดีกว่าตอนท้องพี่เอิร์ทซะอีก โอ๊ย!แม่ใจสลาย พ่อแม่ยาย บนบานศาลกล่าวที่สำคัญๆมากมาย เพื่อขอให้หนูดีขึ้น ขอให้หนูหาย คุณหมอให้แม่กลับบ้านก่อนเพราะหนูต้องนอนในnicu ก่อน ระหว่างที่หนูยังอยู่ รพ. แม่ก้อพยามมาหาบ่อยๆแต่ก็มาทุกวันไม่ได้ เพราะเเผลผ่าเจ็บมาก แม่ได้แต่คอยเวลารอหนูกลับบ้าน คุณหมอเริ่มให้หัดไปเลี้ยงหนูป้อนนม อาบน้ำได้สองสามวัน
• วันที่ 18 กค 57 หมอไปรับหนูกลับมาเลี้ยงที่บ้านได้ แม่ดีใจมาก แต่อีกใจก็กังวลนะกลัวจะดูแลหนูได้ไม่ดีพอ หลังจากที่หนูได้กลับมาบ้านแม่ก็พยามดูแลหนูให้ดีที่สุดเท่าที่แม่ทำได้ แต่เเม่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจเลย กแต่ก็พยามศึกษาแม่เริ่มเข้าเล่นเฟสในกลุ่มแม่ๆลูกๆจนได้เจอกับแม่หญิงแม่ของพี่ตุลย์ ซึ่งพี่ตุลย์เป็นเด็กโรคหัวใจเหมือนกันและได้รับการผ่าตัดแล้ว แม่หญิงคอยแนะนำและให้กำลังใจแม่ตลอดเลย และโชคดีที่หนูเป็นเด็กเลี้ยงง่ายมากไม่งอแง แต่แค่ติดแม่มากเท่านั้นเอง แม่เลยลองปรึกษากับป้าหญิงแม่ของพี่ตุลย์ ว่าจะลองตั้งกลุ่มในเฟสรับเฉพาะบรรดาครอบครัวที่มีลูกเป็นโรคหัวใจ ในนามกลุ่มชื่อ ``หัวใจดวงน้อยของลูก” หลังจากที่ตั้งกลุ่มนี้มาได้สักพัก ก็เริ่มมีสมาชิกเข้ามาเรื่อยๆจนทำให้รู้ว่า เด็กเป็นโรคหัวใจเยอะมาก แม่ได้รับความรู้มากมายจากแม่ๆในกลุ่ม
• ตั้งแต่หนูออกจาก รพ. มาอยู่บ้าน หนูต้องกินยาเป็นประจำทุกวันคือลาน๊อกซิน,ลาซิก,วิตามิน ดูจากภายนอกหนูเหมือนเด็กปกติทั่วไป ไม่เหนื่อยไม่หอบไม่เคยเขียว เพียงแต่ตัวเล็กและน้ำหนักน้อยกว่าเด็กคนอื่นๆ ไม่คลาน คว่ำก็ช้า กว่าจะคว่ำได้ก็เจ็ดเดือนกว่าๆแถมยังชันคอไม่ได้เลย แต่ไม่เป็นรัยหรอก คอยๆเป็นคอยๆไปเนอะ แม้ต้องคอยสังเกตุเรื่องน้ำเข้าน้ำออกจากร่างกายหนูเพราะถ้ากินน้ำเยอะแต่ฉี่ออกน้อยไม่ดีแน่ๆรวมถึงเรื่องอาหารเรื่องเค็มเน้นมากๆ
• กว่าฟันจะขึ้นก็ตอนสิบเดือนกว่าๆ เริ่มกัดหัวนมแม่ด้วยความที่หนูคงคันเหงือก พอแม่บอกว่าเจ็บและทำหน้าดุทำท่าจะตี หนูก็หัวเราะชอบใจแล้วค่อยปล่อย พอสักพักก็กัดอีก555
• 1ขวบแล้วนะครับ หนูเริ่มนั่งได้จากการที่แม่จับนั่งแต่ยังลุกเพื่อนั่งเองยังไม่ได้ เริ่มใช้ก้นถัดพื้นเพื่อที่จะไปที่อื่นๆ และค่อยๆพัฒนาเกาะยืน เริ่มเข็นรถพลักพลักเดินได้บ้าง นู๋เริ่มหัดเล่นบล็อกไม้ต่อตัวabcแค่เดือนเดียวหนูก็สามารถจำตัวอักษรเพื่อวางเองได้ทุกตัว หนูเป็นเด็กเก่ง ฉลาด สะอาด เจ้าระเบียยมาก ยิ่งเริ่มโตขึ้นทุกวันๆ หนูก็เรียนรู้สิ่งต่างๆได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆเเม่จำได้ดีทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวหนู
• พอขวบสามเดือนหนูเริ่ม เรียกแม่ได้ครั้งแรก แม่ดีใจมาก😍
• พอขวบหกเดือนหนูก็เริ่มตั้งไข่ได้
• ขวบเจ็ดเดือนกว่าๆก็เริ่มเดินได้แล้วครับ
• ขวบสิบเดือน แม่เริ่มวิ่งไล่จับหนูได้เเล้ว หนูเริ่มวิ่งได้ทั้งๆที่ยังวิ่งไม่ค่อยเเข็งแรง แต่เรื่องอื่นๆเก่งมาก ชอบช่วยแม่ตากผ้า ชอบแกล้งแม่ ชอบช่วยเก็บบ้าน เวลาพี่เอิร์ทกับพ่อทำรกชอบมาฟ้องแม่ ใครเข้าห้องน้ำไม่ปิดประตูไม่ปิดไฟเป็นต้องวิ่งมาฟ้องแม่ พี่เอิร์ทเลยชอบเเกล้งไม่ปิดบ่อยๆ เวลาหนูาบน้ำในห้องน้ำ ถ้ามีขี้จิ้งจกที่พื้นไม่ได้เล๊ย ต้องให้ล้างไป ไม่ล้างให้ไม่ได้ด้วยนะ หนูจะโวยวายเลย555พออาบน้ำเสร็จจะต้องให้เเม่เก็บกะละมังและคว่ำขันน้ำให้เรียบร้อย หนูชอบแปรงฟัน เก่งนะรู้จักบ้วนยาสีฟันออกไม่กลืนลงคอ อะไรที่ตกกับพื้นเศษเล็กเศษน้อยหนูก็ไม่เคยหยิบเข้าปาก มีแต่หยิบมาให้แม่ไม่ก็หยิบทิ้งถังขยะ
ย้อนไปต้นปี58 ประมาณกุมภาพันธ์
• แม่ได้รับข่าวสารจากการแนะนำของแม่ๆภายในกลุ่มของเรา เรื่อง โครงการผ่าตัดฟรีเด็กโรคหัวใจ กับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ในสมเด็จพระพี่นางฯ ที่จะเปิดตัวโครงการที่ รพ.ศิครินทร์บางในประมาณเดือน เมษายน 58แม่ดีใจมากกะว่าจะได้พาหนูไป และแม่ก็ได้รู้จักกับป้าสร้อย เป็นเจ้าหน้าที่ใน รพ.ศิครินทร์และเป็นสมาชิดในกลุ่มเราด้วย ป้าสร้อยได้คุยกับแม่ว่าอยากให้แม่หาเด็กในกลุ่มมาห้าเคสในวันเปิดแถลงข่าว แม่เลยเลือกเด็กในกลุ่มเรามาสี่คน และไม่ลืมที่จะเลือกหนูเป็นหนึ่งในห้านั้นด้วย จะว่าเป็นเจ้าของกลุ่มที่เห็นแก่ตัวก็ได้เนอะที่เอาลูกตัวเองเข้าด้วยแต่ความเป็นแม่เราก็ต้องการให้ลูกเราหายเหมือนกัน สรุปเราได้ไปในวันที่ 11 มีนาคม 2558 นู๋ได้เป็นเคสตัวอย่างในวันนั้นด้วย เป็นเกียรติอย่างมากมายเลย ผ่านไปสามสี่เดือน ทางมูลนิธิก็ติดต่อมาว่าได้ รพ.บำรุงราษฏร์ อะโห้!!รพ.ไฮโซมากอันดับต้นๆของประเทศเลย แม่ดีใจมาก เชื่อมั่นในตัวหมอและเชื่อว่าหนูต้องทำได้ ว่ายังไงหนูก็ต้องหายเป็นปกติ
• วันที่ 23กรกฏาคม2558 รพ.นัดหนูไปตรวจ ผลคือยังผ่าไม่ได้ เพราะ น้ำหนักน้อย และผลตรวจคือพบว่าหนูไม่มีลิ้นหัวใจ ผนังกั้นหัวใจห้องล่างรั่วขนาดใหญ่มาก เส้นเลือดไปปอดโต ลุงหมอให้หยุดยาประจำตัวที่เคยกิน เพื่อจะดูว่าหยุดยาแล้วน้ำหนักจะขึ้นไม๊ กลับมาสองวันแรกหนูฉี่ออกน้อยมาก แม่กังวลจนต้องโทรหาลุงหมอ พอเข้าสามสี่วันก็เริ่มฉี่เป็นปกติ
• วันที่ 28กรกฏาคม2558 ลุงหมอนัดมาตรวจปกติ และทุกอย่างก็ปกติดี ก็เลยให้หยุดยามาเรื่อยๆ ผ่านมาได้เดือนกว่าๆ หนูก็เริ่มป่วย ต้องแอดมิด
• วันที่ 5ตุลาคม 2558 แม่พาหนูไปหาหมอเพราะหนูไอมาสองสามวันแล้ว ผลสรุปคือหมอบอกว่า เป็นปอดอักเสบปอดบวม มีอาการเหนื่อย ต้องให้อ๊อกฯ ต้องพ่นยาทุก 4ชั่วโมง ดูดเสมหะทุก 6ชั่วโมง ทุกครั้งที่หนูต้องไปดูดเสมหะ แค่หนูเห็นพยาบาลจะมาอุ้มหนูก็ร้องไห้แล้ว เพราะหนูรู้ว่าหนูจะต้องโดนอะไร แม่สงสารหนูมากเลยลูก สายตาที่หนูมองเเม่เเล้วร้อง เหมือนหนูอยากจะบอกแม่ว่า ช่วยหนูด้วย แต่แม่ก็ช่วยหนูไม่ได้แม่ต้องปล่อยให้หนูไปเพื่อหนูจะได้หายไวๆ หนูโดนให้น้ำเกลืออยู่สามวัน อ๊อกฯสี่วัน ได้กลับบ้านวันที่15ตุลาคม2558 นอนไป 11 วัน (#ปอดบวมครั้งที่1)
• วันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 และแล้วแอดมิดรอบสองจนได้ อาการเหมือนเดิมคือ น้ำมูก ไอ แค่ สองวันแต่รอบนี้ไม่ค่อยมากเท่าไหร่ เพราะวันที่ 21หมอก็ให้กลับบ้านได้ แต่เช้าวันที่ 22 ให้กลับมาพ่นยาที่ห้องฉุกเฉิน สรุปพ่นยา แล้วมีอาการหายใจเร็ว เเซดต่ำ หมอเลยให้นอนพักแปปนึง รอพ่นอีกรอบ พอพ่นอีกรอบก็ยังไม่ดีขึ้น จนหมอต้องพ่นรอบที่สาม แล้วให้ขึ้นไปเอ๊กซเรย์ ผลคือปอดเปรอะมาก เลยต้องนอน รพ.(อีกแล้ว) ทุกครั้งที่หนูต้องนอน แม่นี้สงสารหนูจับใจอยากจะเป็นแทนเหลือเกิน รอบนี้ได้กลับบ้านวันที่25 รวมๆแล้วนอน ระ 7 วัน (#ปอดบวมครั้งที่2)
• วันที่ 15 มีนาคม 2559 รอบนี้เป็นหนักมาก มีทั้งไข้ ไอ น้ำมูก อ๊อกซิเจ้นในเลือดต่ำกว่าปกติ ตอนแรกอาจารย์หมอจะให้เข้า icu เพราะครั้งนี้ค่อนข้างเป็นเยอะกว่าทุกครั้ง แต่คุณหมอบอกว่าถ้าเข้า icu ก็กลัวจะร้องไห้หนักกว่าเดิมเพราะเเม่เฝ้าไม่ได้ เดี๋ยวหนูจะยิ่งเหนื่อยอีกอย่างหนูติดนมแม่อีกด้วย คุณหมอเลยให้ย้ายเตียง มาอยู่หน้าเคาเตอร์พยาบาลเลย จะได้ใกล้ๆเพราะหนูต้องใช้ยากระตุ้นหัวใจ ต้องอยู่ใกล้ๆคุณพยาบาลและต้องติดเครื่องวัดหัวใจกับความดัน แซดไว้ตลอด รอบนี้มีอาการปอดแฟบเพิ่มมาอีก และต้องให้ยาขับปัสสาวะ ยาฆ่าเชื้อ น้ำเกลือ เจาะเลือด ดูดเสลด พ่นยา โอ๊ย!!สารพัดจะโดนน่าสงสารเหลือเกินลูกเอ้ย รอบนี้ซึมเลยไม่คึกคักเหมือนครั้งก่อนๆที่มาแอดมิด กว่าจะผ่านไปได้เกือบแย่ แต่หนูไอซ์ลูกแม่ก็ผ่านมันมาได้ หนูเก่งมากๆ สู้ไม่เคยท้อเลย ในที่สุด วันที่ 22 มีนาคม 2559 เราก็ได้กลับบ้านกันเเล้ว (ปอดบวมครั้งที่ 3)
• วันที่ 19เมษายน 2559 รพ.บำรุงราษฏร์ นัดตรวจ แต่สรุปว่าทาง รพ.โทรมาเลื่อนนัด เป็นวันที่ 4 กรกฏาคม 2559 เพราะคุณหมอไปต่างประเทศ
• วันที่ 14 มิถุนาคม 2559 ไอ น้ำมูก หายใจเร็ว แอดมิดจนได้ อุตส่าห์ว่าไม่เป็นอะไรมาสักพักเเล้วเชียวนะ รอบนี้เป็นไม่ค่อยหนักมาก นอน รพ 4 วัน ออกจาก รพ.วันที่ 20 มิถุนายน 2559 แต่เกลือแร่ยังค่อนข้างต่ำ หมอเลยนัดให้มาตรวจเกลือแร่ในวันที่ 27 มิถุนายน 2559 มาตรวจตามนัดแต่ค่าเกลือแร่ก็ยังต่ำอยู่ เลยนัดมาอีกที่ วันที่ 5กรกฏาคม 2559
• วันที่ 4 กรกฏาคม 2559 วันนี้คุณลุงหมอ( อ.ปรีชา เลาหคุณากร) นัดมาตรวจหัวใจหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานตั้ง 8 เดือน วันนี้น้ำหนัก 7.8กิโลกรัม สูง 81 เซนติเมตร จากนั้นลุงหมอให้หนูไปนั่งรอทำ แอคโค่ วันนี้หนูเก่งมากๆเพราะวันนี้ไม่ต้องกินยานอนหลับ ปกติจะต้องกินก่อนทำ พี่พยาบาลยังบอกว่า หนูโชคดีนะได้ลองเครื่องตัวใหม่เพิ่งมาจากอเมริกา ตัวนึงเป็นสิบๆล้านเลย วันนี้หนูนอนให้ลุงหมอตรวจเฉยเลย ลุงหมอบอกว่าหนูเก่งมาก ✌✌ สักพัก…ลุงหมอหะนมาถามแม่ว่า ….บ้านอยู่ไหน !! ….ตกลงผ่าตัดนะ!!😲 ห๊ะ!!แม่อึ้ง…ตกใจนิดนึง ลุงหมอดูจากสีหน้าแม่แล้วเลยถามว่า …..``ไม่ได้เตรียมตัวมาใช่ไม๊ “ งั้นวันนี้ให้กลับบ้านไปเตรียมตัวก่อนแล้วรอเรียกไม่เกิน หนึ่งอาทิตย์เจอกัน จริงๆก็รู้อยู่แล้วว่าสักวันจะต้องผ่าตัด ก็คิดไว้บ้าง แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ตั้งตัวไม่ติดเหมือนกัน ยอมรับว่าตกใจมาก
• วันที่ 5 กรกฏาคม 2559 วันนี้แม่พาหนูมาตามนัด เจาะเลือดตรวจค่าเกลือแร่ ที่ รพ มศว. ระหว่างที่รอคุณหมอเรียกตรวจ ป้าแอน(เจ้าหน้าที่ รพ บำรุงราษฏร์ที่คอยประสานงานเรื่องน้องไอซ์กับมูลนิธิ) โทรมาแจ้งว่า พรุ่งนี้ให้เเม่พาหนูไป 🏥รพ.9โมง ให้เตรียมของไปด้วย เพื่อรอผ่าตัด
ใจแม่เต้นแรงมาก บอกไม่ถูกว่าจะดีใจก็ดีใจ ที่หนูจะได้ผ่าตัดลูกแม่จะได้หายสักที แต่อีกใจหนึ่งก็ตั้งตัวไม่ทัน
ขอแชร์ประสบการและเรื่องราวของลูกชายคนเล็กที่เสียไปเมื่อ วันที่ 7กันยายน 2559 icekung ค่ะ ปล.อาจจะยาวไปนิดนะคะ
กาลครั้งหนึ่ง จำเธอชั่วนิรันดร์
• ตั้งแต่รู้ว่าท้องหนู แม่แพ้ท้องมากถึง3เดือน ไม่เหมือนตอนท้องพี่เอิร์ท เพราะตอนท้องพี่เอิร์ท แพ้เเค่2วัน แม่ฝากท้องกับโรงบาล มศว.ที่เดียวกับที่คลอดพี่เอิร์ท แต่ตอนพี่เอิร์ทฝากแบบธรรมดา แต่ท้องหนูแม่ฝากพิเศษ ตอนท้อง หกเดือนหมอซาวด์บอกว่า 70%เป็นผู้หญิง แม่ดีใจมาก เพราะพี่เอิร์ทเป็นผู้ชายล่ะ แต่พอเกือบเก้าเดือนหมอซาวด์อีกทีสรุปหมอบอกเป็นผู้ชายชัวร์ครับ 555+ แต่ยังไงก็ดีใจตื่นเต้นอยู่ดี หมอบอกว่ากำหนดคลอดวันที่ 25กรกฏาคม 2557
• วันจันทร์ที่7กรกฏาคม2557 วันนี้มาหาคุณหมอตามนัด คุณหมอบอกว่า ปากมดลูกเปิด หนึ่งเซนเเล้วให้รออีกชั่วโมงแล้วเรียกตรวจอีกรอบ คราวนี้เปิดสามเซนแล้ว หมอเลยบอกว่าให้รอคลอดเลยนะ หมอให้พยาบาลพาไปห้องรอคลอด ผ่นไปไม่ถึงชั่วโมง ปากมดลูกเปิดเพิ่มเป็น หกเซน แต่หลังจากนั้นหลายชั่วโมงก้อไม่เปิดเพิ่มอีกเลย ความปวดเริ่มมากขึ้นๆหมอขึ้นมาดูทุกชั่วโมงๆแต่ก้อไม่เปิดเพิ่ม หมอบอกจะผ่าคลอด แต่เเม่ไม่ยอม จนสุดท้ายต้องยอมเพราะนานมากแล้วน้ำคล่ำเริ่มเเห้ง หมอพาเข้าห้องผ่าคลอด หนูคลอดออกมาตอน 15:11น. น้ำหนัก 2,530 กรัม หลังจากหลอดหนูแล้ว แม่ไปรอบนห้องพักฟื้น รอกว่าจะได้เห็นหน้าหนูเกือบสองทุ่ม พยาบาลเอาหนูมาให้ดูแค่เเปปเดียว แล้วเอาหนูไป บอกว่าเดี๋ยวเอาไปเลี้ยงให้ก่อน
• เช้าวันรุ่งขึ้น ย่ากับพี่เอิร์ทมาหานู๋ พยาบาลให้ไปเยี่ยมหนูอีกห้อง แม่เริ่มแปลกใจนิดๆล่ะ แต่ก็คิดว่าคงไม่มีไรหรอกเนอะ คราวนี้ตอนบ่ายสอง มีหมอเดินเข้ามาคุยกับแม่ บอกว่ หนูเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว ห๊ะ!อะไรนะหมอ ได้ยินแค่นี้เหมือนโลกหยุดหมุนไปเลย อยู่ๆน้ำตาก็เริ่มไหล ร้องไห้ไม่หยุด คิดไปต่างๆนาๆ ว่าทำไมหนูถึงเป็น ทำไมต้องเป็นหนู เพราะอะไร ทั้งๆที่ตอนท้องฝากอย่างดี กินดี บำรุงดีกว่าตอนท้องพี่เอิร์ทซะอีก โอ๊ย!แม่ใจสลาย พ่อแม่ยาย บนบานศาลกล่าวที่สำคัญๆมากมาย เพื่อขอให้หนูดีขึ้น ขอให้หนูหาย คุณหมอให้แม่กลับบ้านก่อนเพราะหนูต้องนอนในnicu ก่อน ระหว่างที่หนูยังอยู่ รพ. แม่ก้อพยามมาหาบ่อยๆแต่ก็มาทุกวันไม่ได้ เพราะเเผลผ่าเจ็บมาก แม่ได้แต่คอยเวลารอหนูกลับบ้าน คุณหมอเริ่มให้หัดไปเลี้ยงหนูป้อนนม อาบน้ำได้สองสามวัน
• วันที่ 18 กค 57 หมอไปรับหนูกลับมาเลี้ยงที่บ้านได้ แม่ดีใจมาก แต่อีกใจก็กังวลนะกลัวจะดูแลหนูได้ไม่ดีพอ หลังจากที่หนูได้กลับมาบ้านแม่ก็พยามดูแลหนูให้ดีที่สุดเท่าที่แม่ทำได้ แต่เเม่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจเลย กแต่ก็พยามศึกษาแม่เริ่มเข้าเล่นเฟสในกลุ่มแม่ๆลูกๆจนได้เจอกับแม่หญิงแม่ของพี่ตุลย์ ซึ่งพี่ตุลย์เป็นเด็กโรคหัวใจเหมือนกันและได้รับการผ่าตัดแล้ว แม่หญิงคอยแนะนำและให้กำลังใจแม่ตลอดเลย และโชคดีที่หนูเป็นเด็กเลี้ยงง่ายมากไม่งอแง แต่แค่ติดแม่มากเท่านั้นเอง แม่เลยลองปรึกษากับป้าหญิงแม่ของพี่ตุลย์ ว่าจะลองตั้งกลุ่มในเฟสรับเฉพาะบรรดาครอบครัวที่มีลูกเป็นโรคหัวใจ ในนามกลุ่มชื่อ ``หัวใจดวงน้อยของลูก” หลังจากที่ตั้งกลุ่มนี้มาได้สักพัก ก็เริ่มมีสมาชิกเข้ามาเรื่อยๆจนทำให้รู้ว่า เด็กเป็นโรคหัวใจเยอะมาก แม่ได้รับความรู้มากมายจากแม่ๆในกลุ่ม
• ตั้งแต่หนูออกจาก รพ. มาอยู่บ้าน หนูต้องกินยาเป็นประจำทุกวันคือลาน๊อกซิน,ลาซิก,วิตามิน ดูจากภายนอกหนูเหมือนเด็กปกติทั่วไป ไม่เหนื่อยไม่หอบไม่เคยเขียว เพียงแต่ตัวเล็กและน้ำหนักน้อยกว่าเด็กคนอื่นๆ ไม่คลาน คว่ำก็ช้า กว่าจะคว่ำได้ก็เจ็ดเดือนกว่าๆแถมยังชันคอไม่ได้เลย แต่ไม่เป็นรัยหรอก คอยๆเป็นคอยๆไปเนอะ แม้ต้องคอยสังเกตุเรื่องน้ำเข้าน้ำออกจากร่างกายหนูเพราะถ้ากินน้ำเยอะแต่ฉี่ออกน้อยไม่ดีแน่ๆรวมถึงเรื่องอาหารเรื่องเค็มเน้นมากๆ
• กว่าฟันจะขึ้นก็ตอนสิบเดือนกว่าๆ เริ่มกัดหัวนมแม่ด้วยความที่หนูคงคันเหงือก พอแม่บอกว่าเจ็บและทำหน้าดุทำท่าจะตี หนูก็หัวเราะชอบใจแล้วค่อยปล่อย พอสักพักก็กัดอีก555
• 1ขวบแล้วนะครับ หนูเริ่มนั่งได้จากการที่แม่จับนั่งแต่ยังลุกเพื่อนั่งเองยังไม่ได้ เริ่มใช้ก้นถัดพื้นเพื่อที่จะไปที่อื่นๆ และค่อยๆพัฒนาเกาะยืน เริ่มเข็นรถพลักพลักเดินได้บ้าง นู๋เริ่มหัดเล่นบล็อกไม้ต่อตัวabcแค่เดือนเดียวหนูก็สามารถจำตัวอักษรเพื่อวางเองได้ทุกตัว หนูเป็นเด็กเก่ง ฉลาด สะอาด เจ้าระเบียยมาก ยิ่งเริ่มโตขึ้นทุกวันๆ หนูก็เรียนรู้สิ่งต่างๆได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆเเม่จำได้ดีทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวหนู
• พอขวบสามเดือนหนูเริ่ม เรียกแม่ได้ครั้งแรก แม่ดีใจมาก😍
• พอขวบหกเดือนหนูก็เริ่มตั้งไข่ได้
• ขวบเจ็ดเดือนกว่าๆก็เริ่มเดินได้แล้วครับ
• ขวบสิบเดือน แม่เริ่มวิ่งไล่จับหนูได้เเล้ว หนูเริ่มวิ่งได้ทั้งๆที่ยังวิ่งไม่ค่อยเเข็งแรง แต่เรื่องอื่นๆเก่งมาก ชอบช่วยแม่ตากผ้า ชอบแกล้งแม่ ชอบช่วยเก็บบ้าน เวลาพี่เอิร์ทกับพ่อทำรกชอบมาฟ้องแม่ ใครเข้าห้องน้ำไม่ปิดประตูไม่ปิดไฟเป็นต้องวิ่งมาฟ้องแม่ พี่เอิร์ทเลยชอบเเกล้งไม่ปิดบ่อยๆ เวลาหนูาบน้ำในห้องน้ำ ถ้ามีขี้จิ้งจกที่พื้นไม่ได้เล๊ย ต้องให้ล้างไป ไม่ล้างให้ไม่ได้ด้วยนะ หนูจะโวยวายเลย555พออาบน้ำเสร็จจะต้องให้เเม่เก็บกะละมังและคว่ำขันน้ำให้เรียบร้อย หนูชอบแปรงฟัน เก่งนะรู้จักบ้วนยาสีฟันออกไม่กลืนลงคอ อะไรที่ตกกับพื้นเศษเล็กเศษน้อยหนูก็ไม่เคยหยิบเข้าปาก มีแต่หยิบมาให้แม่ไม่ก็หยิบทิ้งถังขยะ
ย้อนไปต้นปี58 ประมาณกุมภาพันธ์
• แม่ได้รับข่าวสารจากการแนะนำของแม่ๆภายในกลุ่มของเรา เรื่อง โครงการผ่าตัดฟรีเด็กโรคหัวใจ กับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ในสมเด็จพระพี่นางฯ ที่จะเปิดตัวโครงการที่ รพ.ศิครินทร์บางในประมาณเดือน เมษายน 58แม่ดีใจมากกะว่าจะได้พาหนูไป และแม่ก็ได้รู้จักกับป้าสร้อย เป็นเจ้าหน้าที่ใน รพ.ศิครินทร์และเป็นสมาชิดในกลุ่มเราด้วย ป้าสร้อยได้คุยกับแม่ว่าอยากให้แม่หาเด็กในกลุ่มมาห้าเคสในวันเปิดแถลงข่าว แม่เลยเลือกเด็กในกลุ่มเรามาสี่คน และไม่ลืมที่จะเลือกหนูเป็นหนึ่งในห้านั้นด้วย จะว่าเป็นเจ้าของกลุ่มที่เห็นแก่ตัวก็ได้เนอะที่เอาลูกตัวเองเข้าด้วยแต่ความเป็นแม่เราก็ต้องการให้ลูกเราหายเหมือนกัน สรุปเราได้ไปในวันที่ 11 มีนาคม 2558 นู๋ได้เป็นเคสตัวอย่างในวันนั้นด้วย เป็นเกียรติอย่างมากมายเลย ผ่านไปสามสี่เดือน ทางมูลนิธิก็ติดต่อมาว่าได้ รพ.บำรุงราษฏร์ อะโห้!!รพ.ไฮโซมากอันดับต้นๆของประเทศเลย แม่ดีใจมาก เชื่อมั่นในตัวหมอและเชื่อว่าหนูต้องทำได้ ว่ายังไงหนูก็ต้องหายเป็นปกติ
• วันที่ 23กรกฏาคม2558 รพ.นัดหนูไปตรวจ ผลคือยังผ่าไม่ได้ เพราะ น้ำหนักน้อย และผลตรวจคือพบว่าหนูไม่มีลิ้นหัวใจ ผนังกั้นหัวใจห้องล่างรั่วขนาดใหญ่มาก เส้นเลือดไปปอดโต ลุงหมอให้หยุดยาประจำตัวที่เคยกิน เพื่อจะดูว่าหยุดยาแล้วน้ำหนักจะขึ้นไม๊ กลับมาสองวันแรกหนูฉี่ออกน้อยมาก แม่กังวลจนต้องโทรหาลุงหมอ พอเข้าสามสี่วันก็เริ่มฉี่เป็นปกติ
• วันที่ 28กรกฏาคม2558 ลุงหมอนัดมาตรวจปกติ และทุกอย่างก็ปกติดี ก็เลยให้หยุดยามาเรื่อยๆ ผ่านมาได้เดือนกว่าๆ หนูก็เริ่มป่วย ต้องแอดมิด
• วันที่ 5ตุลาคม 2558 แม่พาหนูไปหาหมอเพราะหนูไอมาสองสามวันแล้ว ผลสรุปคือหมอบอกว่า เป็นปอดอักเสบปอดบวม มีอาการเหนื่อย ต้องให้อ๊อกฯ ต้องพ่นยาทุก 4ชั่วโมง ดูดเสมหะทุก 6ชั่วโมง ทุกครั้งที่หนูต้องไปดูดเสมหะ แค่หนูเห็นพยาบาลจะมาอุ้มหนูก็ร้องไห้แล้ว เพราะหนูรู้ว่าหนูจะต้องโดนอะไร แม่สงสารหนูมากเลยลูก สายตาที่หนูมองเเม่เเล้วร้อง เหมือนหนูอยากจะบอกแม่ว่า ช่วยหนูด้วย แต่แม่ก็ช่วยหนูไม่ได้แม่ต้องปล่อยให้หนูไปเพื่อหนูจะได้หายไวๆ หนูโดนให้น้ำเกลืออยู่สามวัน อ๊อกฯสี่วัน ได้กลับบ้านวันที่15ตุลาคม2558 นอนไป 11 วัน (#ปอดบวมครั้งที่1)
• วันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 และแล้วแอดมิดรอบสองจนได้ อาการเหมือนเดิมคือ น้ำมูก ไอ แค่ สองวันแต่รอบนี้ไม่ค่อยมากเท่าไหร่ เพราะวันที่ 21หมอก็ให้กลับบ้านได้ แต่เช้าวันที่ 22 ให้กลับมาพ่นยาที่ห้องฉุกเฉิน สรุปพ่นยา แล้วมีอาการหายใจเร็ว เเซดต่ำ หมอเลยให้นอนพักแปปนึง รอพ่นอีกรอบ พอพ่นอีกรอบก็ยังไม่ดีขึ้น จนหมอต้องพ่นรอบที่สาม แล้วให้ขึ้นไปเอ๊กซเรย์ ผลคือปอดเปรอะมาก เลยต้องนอน รพ.(อีกแล้ว) ทุกครั้งที่หนูต้องนอน แม่นี้สงสารหนูจับใจอยากจะเป็นแทนเหลือเกิน รอบนี้ได้กลับบ้านวันที่25 รวมๆแล้วนอน ระ 7 วัน (#ปอดบวมครั้งที่2)
• วันที่ 15 มีนาคม 2559 รอบนี้เป็นหนักมาก มีทั้งไข้ ไอ น้ำมูก อ๊อกซิเจ้นในเลือดต่ำกว่าปกติ ตอนแรกอาจารย์หมอจะให้เข้า icu เพราะครั้งนี้ค่อนข้างเป็นเยอะกว่าทุกครั้ง แต่คุณหมอบอกว่าถ้าเข้า icu ก็กลัวจะร้องไห้หนักกว่าเดิมเพราะเเม่เฝ้าไม่ได้ เดี๋ยวหนูจะยิ่งเหนื่อยอีกอย่างหนูติดนมแม่อีกด้วย คุณหมอเลยให้ย้ายเตียง มาอยู่หน้าเคาเตอร์พยาบาลเลย จะได้ใกล้ๆเพราะหนูต้องใช้ยากระตุ้นหัวใจ ต้องอยู่ใกล้ๆคุณพยาบาลและต้องติดเครื่องวัดหัวใจกับความดัน แซดไว้ตลอด รอบนี้มีอาการปอดแฟบเพิ่มมาอีก และต้องให้ยาขับปัสสาวะ ยาฆ่าเชื้อ น้ำเกลือ เจาะเลือด ดูดเสลด พ่นยา โอ๊ย!!สารพัดจะโดนน่าสงสารเหลือเกินลูกเอ้ย รอบนี้ซึมเลยไม่คึกคักเหมือนครั้งก่อนๆที่มาแอดมิด กว่าจะผ่านไปได้เกือบแย่ แต่หนูไอซ์ลูกแม่ก็ผ่านมันมาได้ หนูเก่งมากๆ สู้ไม่เคยท้อเลย ในที่สุด วันที่ 22 มีนาคม 2559 เราก็ได้กลับบ้านกันเเล้ว (ปอดบวมครั้งที่ 3)
• วันที่ 19เมษายน 2559 รพ.บำรุงราษฏร์ นัดตรวจ แต่สรุปว่าทาง รพ.โทรมาเลื่อนนัด เป็นวันที่ 4 กรกฏาคม 2559 เพราะคุณหมอไปต่างประเทศ
• วันที่ 14 มิถุนาคม 2559 ไอ น้ำมูก หายใจเร็ว แอดมิดจนได้ อุตส่าห์ว่าไม่เป็นอะไรมาสักพักเเล้วเชียวนะ รอบนี้เป็นไม่ค่อยหนักมาก นอน รพ 4 วัน ออกจาก รพ.วันที่ 20 มิถุนายน 2559 แต่เกลือแร่ยังค่อนข้างต่ำ หมอเลยนัดให้มาตรวจเกลือแร่ในวันที่ 27 มิถุนายน 2559 มาตรวจตามนัดแต่ค่าเกลือแร่ก็ยังต่ำอยู่ เลยนัดมาอีกที่ วันที่ 5กรกฏาคม 2559
• วันที่ 4 กรกฏาคม 2559 วันนี้คุณลุงหมอ( อ.ปรีชา เลาหคุณากร) นัดมาตรวจหัวใจหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานตั้ง 8 เดือน วันนี้น้ำหนัก 7.8กิโลกรัม สูง 81 เซนติเมตร จากนั้นลุงหมอให้หนูไปนั่งรอทำ แอคโค่ วันนี้หนูเก่งมากๆเพราะวันนี้ไม่ต้องกินยานอนหลับ ปกติจะต้องกินก่อนทำ พี่พยาบาลยังบอกว่า หนูโชคดีนะได้ลองเครื่องตัวใหม่เพิ่งมาจากอเมริกา ตัวนึงเป็นสิบๆล้านเลย วันนี้หนูนอนให้ลุงหมอตรวจเฉยเลย ลุงหมอบอกว่าหนูเก่งมาก ✌✌ สักพัก…ลุงหมอหะนมาถามแม่ว่า ….บ้านอยู่ไหน !! ….ตกลงผ่าตัดนะ!!😲 ห๊ะ!!แม่อึ้ง…ตกใจนิดนึง ลุงหมอดูจากสีหน้าแม่แล้วเลยถามว่า …..``ไม่ได้เตรียมตัวมาใช่ไม๊ “ งั้นวันนี้ให้กลับบ้านไปเตรียมตัวก่อนแล้วรอเรียกไม่เกิน หนึ่งอาทิตย์เจอกัน จริงๆก็รู้อยู่แล้วว่าสักวันจะต้องผ่าตัด ก็คิดไว้บ้าง แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ตั้งตัวไม่ติดเหมือนกัน ยอมรับว่าตกใจมาก
• วันที่ 5 กรกฏาคม 2559 วันนี้แม่พาหนูมาตามนัด เจาะเลือดตรวจค่าเกลือแร่ ที่ รพ มศว. ระหว่างที่รอคุณหมอเรียกตรวจ ป้าแอน(เจ้าหน้าที่ รพ บำรุงราษฏร์ที่คอยประสานงานเรื่องน้องไอซ์กับมูลนิธิ) โทรมาแจ้งว่า พรุ่งนี้ให้เเม่พาหนูไป 🏥รพ.9โมง ให้เตรียมของไปด้วย เพื่อรอผ่าตัด
ใจแม่เต้นแรงมาก บอกไม่ถูกว่าจะดีใจก็ดีใจ ที่หนูจะได้ผ่าตัดลูกแม่จะได้หายสักที แต่อีกใจหนึ่งก็ตั้งตัวไม่ทัน