สวัสดีค่า ส้มเองค่ะ ^^

อีกครั้งกับกระทู้รีวิวที่สี่แล้ว
คราวนี้ขอเปลี่ยนแนวมารีวิวที่เที่ยวบ้างนะคะ

.​     .     .     .

วันนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวอยุธยากันค่ะ
ฟังชื่ออยุธยา บางคนอาจจะทำหน้าเบื่อๆใส่ หรือพนมมือรัวๆ 55555
แต่สายเกาอย่างเรา บอกเลยว่าเราจะพาทุกคนไปเที่ยวอยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน แต่ตอนนี้ ไม่แก่แน่นอนค่ะ !

จังหวัดอยุธยา เคยเป็นเมืองหลวงของไทย ตั้งแต่สมัย พ.ศ. 1893 ถึง พ.ศ. 2310
มีลักษณะเป็นเกาะ มีแม่น้ำสามสายล้อมรอบ ได้แก่ แม่น้ำป่าสักทางทิศตะวันออก
แม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตกและทิศใต้ และแม่น้ำลพบุรีทางทิศเหนือ
เดิมทีบริเวณนี้ไม่ได้มีสภาพเป็นเกาะ แต่สมเด็จพระเจ้าอู่ทองทรงดำริให้ขุดคูเชื่อมแม่น้ำทั้งสามสาย
เพื่อให้เป็นปราการธรรมชาติป้องกันข้าศึกมาโจมตีเมือง
ปัจจุบัน อยุธยายังคงเหลือสถาปัตยกรรม วัด และบ้านเรือนโบราณให้เห็นอยู่หลายที่เลยค่ะ
อีกทั้งยังห่างจากกรุงเทพเพียง 80 กิโลเมตร เหมาะสำหรับมาเที่ยวพักผ่อนหากเพื่อนๆมีเวลาจำกัด
แต่หากใครมีเวลาว่างมากพอ จะอยู่เที่ยวแบบ Slow life หลายๆวัน ก็ยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ให้ไปเลยค่ะ




.​     .     .     .



สำหรับทริปนี้ ส้มมีเวลาเพียง 2 วัน 1 คืน
เลยทำการรีบจองโรงแรมก่อน
โรงแรมที่ส้มเข้าพักวันนี้ เป็นโรงแรม Sala Ayutthaya ค่ะ
ซึ่งทางเครือศาลาเอง แน่นอนว่าเรื่องความสวยงาม และวิว เป็นอะไรที่สุดยอดอยู่แล้ว
แถมราคายังไม่แพงด้วยค่ะ สำหรับที่ศาลาอยุธยาเอง ทำให้ไม่ต้องคิดนานที่จะจองที่นี่เลย





ขับรถเพียงไม่ถีงชั่วโมง เราก็ไม่ถึงที่หมายแรกค่ะ
คือวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่อำเภอบางประอินค่ะ
ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
เมื่อเราจอดรถตรงลานจอดรถแล้ว ต้องนั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำไปค่ะ



ภาพรวมส้มไม่ได้ถ่ายมา ขออนุญาติใช้ภาพจาก Bloggang ของคุณ Bpearl นะคะ
(https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=bpearl&month=02-2011&date=26&group=7&gblog=5)

ซึ่งค่าโดยสาร ทางวัดจะไม่ได้เก็บเป็นอัตราที่แน่อนค่ะ
จะมีกล่องให้บริจาค ตามสมควรเลยค่ะ ถือว่าช่วยค่าน้ำค่าไฟวัดด้วย



รู้สึกตื่นเต้นมาก 5555 วันที่ไปอากาศไม่ร้อนด้วยค่ะ สนุกเลย <3


ขอเล่าความเป็นมาของวัดคร่าวๆ
วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวหาร ถูกสร้างขึ้นในสมัย พศ.2419
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล
เมื่อเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน
มีลักษณะพิเศษคือ ใช้สถาปัตยกรรมแบบตะวันตก
พระอุโบสถคล้ายโบสถ์ฝรั่งในศาสนาคริสต์ เป็นศิลปะแบบกอธิค (Gothic)
ภายในวัตยังมีอาคารต่างๆ ทีสร้างแบบฝรั่งทั้งหมด
ไม่เหมือนอยู่ในเมืองไทยเลยล่ะค่ะ




ภายในวัด มีการปลูกต้นไม้อย่างร่มรื่น
ทั้งยังสะอาด และดูเหมือนเพื่งสร้างใหม่ๆเลยค่ะ



แต่ในวัด ไม่ค่อยพบเห็นพระสงฆ์เท่าไหร่ค่ะ
วันที่ส้มไป เห็นแค่เณร ไม่กี่รูป คอยทำความสะอาดวัดอยู่ค่ะ


เมื่อเดินมาอีกเล็กน้อย จะเจอพระอุโบสถค่ะ วันนั้น มีคู่แต่งงานมาถ่ายรูป Pre wedding ด้วยนะคะ ซึ่งไม่ได้ผิดกฎทางวัดค่ะ


(แถมรูปตากล้องหน่อย ปกติไม่ค่อยยอมเข้าเฟรมเลยล่ะค่ะ ><)




ภายในพระอุโบสถเองก็งดงามไม่แพ้กันค่ะ
ซึ่งภายในอุโบสถประดิษฐาน "พระพุทธนฤมลธรรโมภาส" เป็นพระประธาน ออกแบบโดยพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าประดิษฐวรการ
โดยลักษณะที่ผสมผสานศิลปะแบบประเพณีนิยม และศิลปะแบบตะวันตกเข้าด้วยกัน ซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายสามัญชน
นอกจากนี้บริเวณฐานชุกชีก็มีลักษณะเหมือนที่ตั้งไม้กางเขนแบบโบสถ์คริสต์เลยค่ะ





ภายในวัดเอง มีอาคารสวยงามอีกเยอะแยะเลยค่ะ ถ่ายมาไม่หมด เพราะบางจุดมีเณรอยู่ ไม่กล้ารบกวน
ใครชอบถ่ายรูปก็น่าจะชอบนะคะ ทางวัดเองไม่ได้ห้ามถ่าย แต่ขอให้อยู่ในกาละเทศที่สมควร
ขากลับ ก็อย่าลืมหยอดเงินทำบุญ ช่วยค่าน้ำค่าไฟ ค่าทำนุบำรุงวัดด้วยนะคะ








.​     .     .     .






จากนั้นเราก็เดินทางเข้าที่พัก ที่ ศาลาอยุธยานั่นเองค่ะ
ขับจากวัดมาเข้าตัวเมือง ไม่ไกลมากค่ะ ประมาณ 15 นาทีก็ถึง


อย่างที่เคยอ่านรีวิวค่ะ
"ที่จอด​" คือปัญหาหลักของที่นี่เลย
ต้องจอดริมถนนค่ะ ที่จอดหน้าโรงแรมก็มีไม่พอ
แต่ที่ดีคือพี่ รปภ. บริการดีมากค่ะ คอยโบกรถ จัดที่จอดอย่างกระตือรือร้นมาก


แต่ที่แปลกสำหรับเราอีกอย่างหนึ่ง
คือปกติเวลาเราเข้าพักโรงแรม 1 ห้อง ก็จะใช้สำเนาบัตรประชาชนของใครก็ได้ 1 คน ใช่มั้ยคะ
ที่นี่ เข้าพักกี่คน กี่ห้องก็แล้วแต่ ขอสำเนาบัตรประชาชนทุกคนเลยค่ะ
แปลกมาก หรือไม่ได้ไปนอนนอกบ้านนานก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆก็คือให้เค้าไปนั่นล่ะค่ะ 555555


(ที่นี่ไม่มี welcome drink ด้วยค่ะ ขนาดไม่ร้อนเท่าไหร่ยังหิวน้ำจะแย่ ไม่มีน้ำให้ด้วย น้อยใจจัง)







ติดกับตรง reception จะเป็นเหมือนห้องแสดงศิลปะขนาดย่อมๆค่ะ
มีงานศิลปะแสดงอยู่หลายชิ้นเลยทีเดียว เดินชมได้เพลินๆค่ะ
โซนนี้ ผู้ที่ไม่ได้เข้าพักก็มาเข้าชมได้นะคะ





เข้าห้องพักกันค่ะ


มุมแรกที่เข้ามาเจอ คือ day bed อันนี้ค่ะ
ซึ่งมองลงไปเห็นสระน้ำพอดี นอนเล่นระหว่างวัน ชมวิวสระเพลินๆได้เลยค่ะ






พอเดินตรงเข้ามา ด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนห้องน้ำและอ่างอาบน้ำค่ะ




ตรงไปจะเป็นเตียงนอน และตรงกันข้ามจะเเป็นระเบียง และทีวี



มุมจากระเบียงค่ะ





ตรงชั้นด้านล่างทีวี มีขนมเป็นพวกผลไม้แห้งไว้ให้ค่ะ (ก้านสับปะรดแอบแห้งอร่อยมากค่ะ)




ในส่วนของห้องพัก ส้มค่อนข้างพอใจค่ะ
เพราะมีขนาดโอเค วิวสวย ที่สำคัญคือ แอร์เย็น น้ำแรง และอุ่นค่ะ 555






จากนั้น ลงไปถ่ายรูปข้างล่างกันค่ะ !









เดินลงมาจากห้องพัก จะเจอส่วนของสระว่ายน้ำค่ะ
ซึ่งมุมสระจะขออวดในพาร์ทถัดไปนะคะ
เดี๋ยวจะพาไปในส่วนของมุม Signature ของที่นี่ก่อน ;)




ประตูตรงนี้ เป็นส่วนกันโซนของผู้เข้าพัก และแขกนอกค่ะ
ซึ่งแขกนอกก็สามารถเข้ามาในส่วนนี้ได้ เนื่องจากเป็นทางเชื่อมไปยังร้านอาหาร
แต่ข้อเสียคือมีแขกที่ไม่น่ารักบางท่าน เข้ามาในส่วนของผู้เข้าพัก ทำให้บางทีไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวเท่าที่ควรค่ะ




และนี่คือช่องอิฐที่เป็น Signature ของที่นี้ ฮี่ๆ
ด้านหลังเป็นประตูที่เชื่อมกับส่วนของห้องแสดงงานศิลปะค่ะ
อีกฝั่งคือวิวร้านอาหารและแม่น้ำเจ้าพระยา
แต่บังเอิญว่ามีแขกท่านอื่นถ่ายรูปอยู่ค่ะ เลยได้มุมนี้มา
แต่สวยไม่แพ้กันเนอะ ;)



ภาพดูเหงาๆ แต่ความจริงคนเป็นล้านนนน 55555












.​     .     .     .







เช้าแล้ว ทานเข้ากันค่ะ !


วิวอาหารเช้าของเราวันนี้ ที่ห้องอาหารของศาลาอยุธยาค่ะ
อยู่ริมแม่น้ำพอดี มองเห็นวัดพุทไธศวรรย์ในยามเช้า สวยสุดๆเลยค่ะ

อาหารจะเป็น A la cart นะคะ สั่งได้ตามเมนู
ส่วนตัวแล้ววิวชนะเลิศค่ะ อาหารไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ เลยไม่ได้ถ่ายมาค่ะ



มีมุมเบียร์สดด้วยค่ะ แต่น่าจะเอาไว้บริการในมือเย็น









ทานข้าวเสร็จแล้ว ไปชมสระว่ายน้ำกันค่ะ


สระว่ายน้ำที่นี่จะมีความเล่นระดับค่ะ


มุมด้านหลังเรา จะเป็นสวนและทางเดินออกไปยังห้องแสดงศิลปะ


ส่วนมุมพ่อหนุ่มลึกลับนี้ เป็นสระว่ายน้ำค่ะ


มี day bed เก๋ๆ ให้นั่งพักเวลาเล่นน้ำ หรือนั่งรับลม (ร้อน) เล่นๆ ถ้าไม่อยากอุดอู้อยู่ในห้อง







ถ่ายรูปสวยๆ แช่น้ำเก๋ๆ
แต่ว่ายให้เหนื่อย ไม่รู้ต้องว่ายกี่รอบ เพราะมันเล็กมากจริงๆ 55555






.​     .     .     .





ในส่วนของวันนี้ ขอรีวิวแค่เท่านี้นะคะ

เดี๋ยวจะมาต่อร้าน "บ้านข้าวหนม" ร้านขนมไทยน่ารักๆ ไม่ไกลจากโรงแรมค่ะ

เนื่องจากตัวอกษรเต็มแล้ว บ่นอะไรเยอะขนาดนั้นนนนน

รีวิวต่อในคอมเมนท์นะคะ