การเดินทางของความรู้สึก
ตอนที่ 2 (part 2)
“.........................”
ธเนศอ้าปากค้าง เขาแทบจะสร่างเมาทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของคนข้างล่าง
“ผมจะไปรอที่ห้องของคุณ” ชายหนุ่มผู้นั้นดูเหมือนจะเมินเฉยกับท่าทีของธเนศ ราวกับว่าเขาสะใจที่ทำให้ธเนศอ้าปากค้างได้ ก่อนที่จะลุกเดินออกจากชั้นดาดฟ้า
ธเนศในสภาพที่ยังคงช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น เดินลงบันไดตามชายหนุ่มกลับเข้าห้องพัก เขาไม่เคยนึกว่าเขาจะเห็นคนกระโดดตึกตายต่อหน้า ใจของ
เขาสั่น เขาเห็นภาพของการสูญเสียแบบนี้ตลอดระยะเวลาที่เขาอายุสามสิบสองปี เขากลัวว่าวันใดวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้า เขาอาจจะต้องกระโดดตึกและจบชีวิตอย่างคนไร้จุดหมาย ดั่งเช่นที่ผู้หญิงคนนั้นที่โผออกจากหน้าต่างชั้นเจ็ด เธอแน่วแน่ในการตัดสินใจยุติชีวิตตน เขาถือขวดเหล้าที่เพิ่งดื่มมันไปนิดหน่อย ตอนนี้แอลกอฮอล์ในเลือดของเขาเหือดแห้งไปจากตัว เขาตื่นตัวมากขึ้นเมื่อสิ่งที่ชายหนุ่มอายุคราวเดียวกันพิสูจน์ให้เห็นเป็นเรื่องจริง เขาคงไม่แคลงใจว่าชายหนุ่มผู้นั้นล่วงรู้อนาคตล่วงหน้า
“ผมขอสูบบุหรี่อีกรอบหนึ่งนะครับ” ชายหนุ่มนั่งอยู่ในห้องตรงโซฟา
“คุณทำแบบนั้นได้อย่างไร”
“ผมหมายถึง คุณรู้อนาคตได้แม่นยำขนาดนี้ คุณมีเครื่องมืออะไรช่วยอยู่หรือเปล่า” น้ำเสียงของธเนศนิ่งลงจากเมื่อยี่สิบนาทีก่อนมาก
“เราคงคุยกันรู้เรื่องเสียทีนะครับ” ชายหนุ่มคีบบุหรี่ออกจากปาก “ก่อนอื่น การที่ผมทำนายเหตุการณ์ต่างๆล่วงหน้าได้ถูกต้อง มันไม่เกี่ยวกันเท่าไรเมื่อเทียบกับภารกิจที่ผมจะมาช่วยคุณนะครับ ผมแค่ใช้ไม้ตายเดิมๆที่ผมใช้ทุกครั้ง กับทุกคนที่ผมต้องการจะช่วยเหลือ การทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้ามันเป็นอุบายที่ทำให้ผมและคนอย่างพวกคุณคุยกันอย่างเปิดอก และรู้เรื่องมากกว่า”
“ความจริงแล้ว การย้อนเวลาต่างหากที่ผมจะบอกคุณในตอนนี้ ผมใช้เครื่องย้อนเวลาย้อนมันมาจากอนาคต คงหลังจากนี้สักร้อยปีพอดี ผมรู้เหตุการณ์ที่ผมทำนายได้ ก็เพราะผมอยู่ในห้วงเวลาอนาคตไงครับ”
“หมายความว่าคุณมาจากอนาคต’งั้นหรือ” ชายหนุ่มพยักหน้า เข้าคีบบุหรี่อีกมวนเข้าปาก
“ครับ เรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรหากคุณจะเชื่อ ผมมาจากอนาคต”
“ผมใช้เครื่องย้อนเวลากลับมาในปีนี้ เพราะผมได้รับคำสั่งมาจากเบื้องบนอีกที กรณีของคุณถือเป็นกรณีพิเศษทีเดียวนะครับ เมื่อเทียบกับกรณีอื่นๆ ผมคงไม่บอกเหตุผลละกันครับ ว่าคำสั่งนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร และกรณีของคุณมันต่างจากกรณีอื่นๆอย่างไร แต่ผมกำลังจะบอกหนทางที่คุณจะไม่ต้องเผชิญ เหมือนกับคนที่คุณเห็นมาเมื่อสักครู่นี้ละกันครับ” ชายหนุ่มพูดจบ ธเนศนึกถึงหญิงสาวผู้จบชีวิตลงจากตึกชั้นที่เจ็ด
“หากให้ผมเดาความ คุณกำลังหาทางออกให้กับชีวิตของผม ด้วยการให้ผมย้อนเวลากลับไปเพื่อช่วยรินะออกจากร้านอาหารนั่นเมื่อปีก่อนใช่ไหม”
“ครับ นั่นคือเป้าหมายหลักทีเดียว”
“แล้วหลังจากที่ผมช่วยรินะออกจากสถานที่นั้น ผมจะต้องทำอย่างไรต่อไป”
“ใจเย็นๆนะครับ อย่าเพิ่งคิดไปถึงขั้นนั้น” เขาดับบุหรี่ลงในแก้วน้ำของธเนศ “ผมต้องขอโทษด้วยที่ดับบุหรี่ลงในแก้วน้ำ แล้วก็กรุณาใจเย็นๆลงเพื่อฟังสิ่งที่ผมจะพูดด้วยครับ”
“คุณอยากดื่มเหล้าไหม คราวนี้ผมถามคุณด้วยความบริสุทธิ์ใจ” ธเนศถามชายหนุ่ม เพราะตัวเขาเองก็อยากให้จนเองได้ใจเย็นลงเช่นกัน
“ด้วยความยินดี” ชายหนุ่มตอบกลับ เขายิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อย ธเนศรินเหล้ายินใส่แก้วใบใหม่เกือบค่อนแก้ว ทั้งสองกระดกมันขึ้น กลิ่นฉุนของเหล้ายินทำให้ธเนศต้องกลั้นหายใจ
“สิ่งที่ผมต้องการให้คุณทำ นั่นก็คือขอคุณรินะ ไอซาวะแต่งงานให้สำเร็จ เพราะผมทราบมาว่าคุณกำลังจะขอเธอแต่งงานในวันนั้น”
“คุณคงต้องไปให้ถึงก่อนเวลาที่ฆาตกรนั่นจะเข้ามายิงเธอ ผมไม่รู้ว่าคุณรินะจะเดินเข้ามานั่งในร้านอาหารกี่โมงนะครับ แต่เมื่อเธอไปก่อนที่คุณจะมาถึงนานๆ นั่นก็เป็นโอกาสที่ดีของคุณในการใช้ช่องว่างของเวลาระหว่างที่เธอเดินเข้าร้าน และก่อนที่ฆาตกรจะมาถึง คุณต้องขอเธอแต่งงาน และทำทุกอย่างให้เสร็จ ก่อนที่เธอจะถูกยิง เมื่อคุณขอแต่งงานเธอได้แล้ว คุณอาจเพียงใช้เครื่องย้อนเวลาย้อนกลับมาที่เดิม คือปี2006 นี่คือสมมุติฐานของผมที่ผมจะมอบให้คุณไว้ได้”
“สมมุติฐานหรือ” ธเนศแคลงใจอีกครั้ง
“ครับ ผมพูดกับคุณไปเมื่อครู่นี้ว่ากรณีของคุณค่อนข้างพิเศษกว่าคนอื่น ๆ”
“คุณพอจะเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ว่าผมแตกต่างจากคนอื่นๆอย่างไร” ธเนศรินเหล้ายินให้ตัวเองเกือบถึงครึ่งแก้ว ก่อนที่จะชูขวดเป็นนัยยะว่าจะเติมเหล้าให้ชายหนุ่มอีก ชายหนุ่มปฏิเสธพร้อมกลับไปสูบบุหรี่อีกครั้ง จะว่าไปแล้วชายหนุ่มแทบจะสูบบุหรี่แบบมวนต่อมวนเลยทีเดียว เขาสูดมันเข้าไปให้ลึกจนทั่วปอด ก่อนที่จะผ่อนลมหายใจออกไปอย่างช้าๆ ควันบุหรี่มาร์โบโร่อบอวนห้องของธเนศ
“ความจริง ผมไม่ควรจะบอกเรื่องนี้กับคุณเลย” ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปสักพัก “แต่ผมว่าควรจะบอกคุณนะครับ คิดว่าเบื้องบนคงจะเข้าใจวัตถุประสงค์ของผมเช่นกัน”
“ผมผ่านการช่วยเหลือให้กับบุคคลที่มีปมปัญหาชีวิตมาเนิ่นนาน บางทีอาจจะมากกว่าสองร้อยห้าสิบกรณีด้วยซ้ำ ทุก ๆ กรณีที่ผมเข้าไปยื่นมือ จะมีรูปแบบหรือแพทเทิร์นคล้ายคลึงกันเสียหมด ผมเดินทางไปช่วยเหลือทุกคน ตั้งแต่ที่โลกผลิตดาบเป็นอาวุธหลักด้วยซ้ำ’มั้งครับ ผมใช้เครื่องย้อนเวลา เสนอแนวทางให้คนเหล่านั้นยอมรับเงื่อนไขของผม และก็ออกเดินทาง ไปตามอุโมงค์เวลา แก้ไขเงื่อนปมต่างๆให้เข้าที่ และย้อนเวลากลับมาในที่ๆเดิมอีกครั้ง พร้อมกับชีวิตใหม่ของพวกเขา โดมิโน่ที่ถูกแก้ไขได้เรียงร้อยใหม่ เป็นเส้นทางชีวิตใหม่ของพวกเหล่านั้น”
“แต่กรณีของคุณ” เขาก้มหน้า “หนักหนาสาหัสพอควรเลยครับ วิธีที่ผมจะใช้กับคุณ ผมไม่แน่ใจว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า”
“ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมคุณซึ่งอายุคราวเดียวหรือไล่เลี่ยกับผมจึงพยายามจะเข้าใจผมขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ช่วงอายุของพวกเราใกล้เคียงกันขนาดนี้ น่าจะสนทนากันง่ายกว่า” ธเนศผายมือเชิงอธิบาย
“เรื่องนี้ผมคงพูดไม่ได้จริง ๆ ครับ หากพูดถึงความน่าจะเป็นในกรณีของคุณ มันก็ไม่แน่เช่นกันว่ากรณีของคุณอาจสำเร็จเหมือนกับกรณีอื่น ๆ หากวัดกันตามทฤษฎีจริง”
“แปลว่าการย้อนเวลาของผมอาจล้มเหลวหรือ” ชายหนุ่มนิ่งเฉย แสร้งว่าไม่ได้ยินคำถามของธเนศ
“อย่างนั้นผมขอถามคุณตรงๆ” ธเนศซักไซ้ต่อ “ทำไมคุณไม่ปล่อยให้ผมย้อนเวลากลับไปฆ่าคนที่ยิงรินะ และใช้ชีวิตอยู่ในปีที่แล้วต่อเนื่อง ในเมื่อผมใช้ตัวเองย้อนเวลากลับไปเพียงคนเดียว ก็ไม่ใช่เรื่องของใครคนอื่นอีกแล้วมิใช่หรือ ผมรู้ว่าฆาตกรนั่นจะต้องเข้ามายิงเธอในเวลาหนึ่งทุ่มตรง ผมอาจจะลงมือเก็บคนร้ายก่อนที่มันจะหยิบปืนมายิงรินะแทน
ชายหนุ่มคิ้วขมวด เขาพยายามทวนคำถามของธเนศในหัว ก่อนที่จะตอบกลับ “ถ้าเช่นนั้นคุณอาจจะกลายเป็นฆาตกรแทน เพราะคนร้ายยังไม่ได้ลงมือทำร้ายใครเลยในตอนนั้นนะครับ คนร้ายมุ่งประสงค์จะยิงคุณรินะ แฟนของคุณเพียงผู้เดียวเท่านั้น หากคุณตัดสินใจเก็บฆาตกรนั่นจริง คุณก็จะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าคนตาย คนร้ายอาจหนีพ้นจากเงื้อมือตำรวจได้ แต่คุณคงหนีตำรวจไปกับแฟนของคุณไม่ได้แน่ๆ ดังนั้นมันจำเป็นที่คุณจะต้องย้อนเวลากลับมาในปีนี้ เพราะอย่างน้อยที่สุด คุณจะหลุดพ้นจากตัวคนร้าย เขาจะไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่ใดในตอนนั้น เปรียบให้เห็นง่ายๆนะครับ คนร้ายอยู่ในปี2005 ส่วนคุณกับแฟนของคุณอยู่ในปี2006 ไทม์ไลน์ของคุณกับคุณรินะ และไทม์ไลน์ของฆาตกรจะแยกส่วนกัน ฆาตกรจะไม่มีวันหาคุณเจอได้แน่ๆ” ธเนศนิ่งเงียบ เขาเห็นด้วยกับคำอธิบายของชายหนุ่มทุกประการ
(มีต่อ)
การเดินทางของความรู้สึก ตอนที่ 2 (part 2)
ตอนที่ 2 (part 2)
“.........................”
ธเนศอ้าปากค้าง เขาแทบจะสร่างเมาทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของคนข้างล่าง
“ผมจะไปรอที่ห้องของคุณ” ชายหนุ่มผู้นั้นดูเหมือนจะเมินเฉยกับท่าทีของธเนศ ราวกับว่าเขาสะใจที่ทำให้ธเนศอ้าปากค้างได้ ก่อนที่จะลุกเดินออกจากชั้นดาดฟ้า
ธเนศในสภาพที่ยังคงช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น เดินลงบันไดตามชายหนุ่มกลับเข้าห้องพัก เขาไม่เคยนึกว่าเขาจะเห็นคนกระโดดตึกตายต่อหน้า ใจของ
เขาสั่น เขาเห็นภาพของการสูญเสียแบบนี้ตลอดระยะเวลาที่เขาอายุสามสิบสองปี เขากลัวว่าวันใดวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้า เขาอาจจะต้องกระโดดตึกและจบชีวิตอย่างคนไร้จุดหมาย ดั่งเช่นที่ผู้หญิงคนนั้นที่โผออกจากหน้าต่างชั้นเจ็ด เธอแน่วแน่ในการตัดสินใจยุติชีวิตตน เขาถือขวดเหล้าที่เพิ่งดื่มมันไปนิดหน่อย ตอนนี้แอลกอฮอล์ในเลือดของเขาเหือดแห้งไปจากตัว เขาตื่นตัวมากขึ้นเมื่อสิ่งที่ชายหนุ่มอายุคราวเดียวกันพิสูจน์ให้เห็นเป็นเรื่องจริง เขาคงไม่แคลงใจว่าชายหนุ่มผู้นั้นล่วงรู้อนาคตล่วงหน้า
“ผมขอสูบบุหรี่อีกรอบหนึ่งนะครับ” ชายหนุ่มนั่งอยู่ในห้องตรงโซฟา
“คุณทำแบบนั้นได้อย่างไร”
“ผมหมายถึง คุณรู้อนาคตได้แม่นยำขนาดนี้ คุณมีเครื่องมืออะไรช่วยอยู่หรือเปล่า” น้ำเสียงของธเนศนิ่งลงจากเมื่อยี่สิบนาทีก่อนมาก
“เราคงคุยกันรู้เรื่องเสียทีนะครับ” ชายหนุ่มคีบบุหรี่ออกจากปาก “ก่อนอื่น การที่ผมทำนายเหตุการณ์ต่างๆล่วงหน้าได้ถูกต้อง มันไม่เกี่ยวกันเท่าไรเมื่อเทียบกับภารกิจที่ผมจะมาช่วยคุณนะครับ ผมแค่ใช้ไม้ตายเดิมๆที่ผมใช้ทุกครั้ง กับทุกคนที่ผมต้องการจะช่วยเหลือ การทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้ามันเป็นอุบายที่ทำให้ผมและคนอย่างพวกคุณคุยกันอย่างเปิดอก และรู้เรื่องมากกว่า”
“ความจริงแล้ว การย้อนเวลาต่างหากที่ผมจะบอกคุณในตอนนี้ ผมใช้เครื่องย้อนเวลาย้อนมันมาจากอนาคต คงหลังจากนี้สักร้อยปีพอดี ผมรู้เหตุการณ์ที่ผมทำนายได้ ก็เพราะผมอยู่ในห้วงเวลาอนาคตไงครับ”
“หมายความว่าคุณมาจากอนาคต’งั้นหรือ” ชายหนุ่มพยักหน้า เข้าคีบบุหรี่อีกมวนเข้าปาก
“ครับ เรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรหากคุณจะเชื่อ ผมมาจากอนาคต”
“ผมใช้เครื่องย้อนเวลากลับมาในปีนี้ เพราะผมได้รับคำสั่งมาจากเบื้องบนอีกที กรณีของคุณถือเป็นกรณีพิเศษทีเดียวนะครับ เมื่อเทียบกับกรณีอื่นๆ ผมคงไม่บอกเหตุผลละกันครับ ว่าคำสั่งนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร และกรณีของคุณมันต่างจากกรณีอื่นๆอย่างไร แต่ผมกำลังจะบอกหนทางที่คุณจะไม่ต้องเผชิญ เหมือนกับคนที่คุณเห็นมาเมื่อสักครู่นี้ละกันครับ” ชายหนุ่มพูดจบ ธเนศนึกถึงหญิงสาวผู้จบชีวิตลงจากตึกชั้นที่เจ็ด
“หากให้ผมเดาความ คุณกำลังหาทางออกให้กับชีวิตของผม ด้วยการให้ผมย้อนเวลากลับไปเพื่อช่วยรินะออกจากร้านอาหารนั่นเมื่อปีก่อนใช่ไหม”
“ครับ นั่นคือเป้าหมายหลักทีเดียว”
“แล้วหลังจากที่ผมช่วยรินะออกจากสถานที่นั้น ผมจะต้องทำอย่างไรต่อไป”
“ใจเย็นๆนะครับ อย่าเพิ่งคิดไปถึงขั้นนั้น” เขาดับบุหรี่ลงในแก้วน้ำของธเนศ “ผมต้องขอโทษด้วยที่ดับบุหรี่ลงในแก้วน้ำ แล้วก็กรุณาใจเย็นๆลงเพื่อฟังสิ่งที่ผมจะพูดด้วยครับ”
“คุณอยากดื่มเหล้าไหม คราวนี้ผมถามคุณด้วยความบริสุทธิ์ใจ” ธเนศถามชายหนุ่ม เพราะตัวเขาเองก็อยากให้จนเองได้ใจเย็นลงเช่นกัน
“ด้วยความยินดี” ชายหนุ่มตอบกลับ เขายิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อย ธเนศรินเหล้ายินใส่แก้วใบใหม่เกือบค่อนแก้ว ทั้งสองกระดกมันขึ้น กลิ่นฉุนของเหล้ายินทำให้ธเนศต้องกลั้นหายใจ
“สิ่งที่ผมต้องการให้คุณทำ นั่นก็คือขอคุณรินะ ไอซาวะแต่งงานให้สำเร็จ เพราะผมทราบมาว่าคุณกำลังจะขอเธอแต่งงานในวันนั้น”
“คุณคงต้องไปให้ถึงก่อนเวลาที่ฆาตกรนั่นจะเข้ามายิงเธอ ผมไม่รู้ว่าคุณรินะจะเดินเข้ามานั่งในร้านอาหารกี่โมงนะครับ แต่เมื่อเธอไปก่อนที่คุณจะมาถึงนานๆ นั่นก็เป็นโอกาสที่ดีของคุณในการใช้ช่องว่างของเวลาระหว่างที่เธอเดินเข้าร้าน และก่อนที่ฆาตกรจะมาถึง คุณต้องขอเธอแต่งงาน และทำทุกอย่างให้เสร็จ ก่อนที่เธอจะถูกยิง เมื่อคุณขอแต่งงานเธอได้แล้ว คุณอาจเพียงใช้เครื่องย้อนเวลาย้อนกลับมาที่เดิม คือปี2006 นี่คือสมมุติฐานของผมที่ผมจะมอบให้คุณไว้ได้”
“สมมุติฐานหรือ” ธเนศแคลงใจอีกครั้ง
“ครับ ผมพูดกับคุณไปเมื่อครู่นี้ว่ากรณีของคุณค่อนข้างพิเศษกว่าคนอื่น ๆ”
“คุณพอจะเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ว่าผมแตกต่างจากคนอื่นๆอย่างไร” ธเนศรินเหล้ายินให้ตัวเองเกือบถึงครึ่งแก้ว ก่อนที่จะชูขวดเป็นนัยยะว่าจะเติมเหล้าให้ชายหนุ่มอีก ชายหนุ่มปฏิเสธพร้อมกลับไปสูบบุหรี่อีกครั้ง จะว่าไปแล้วชายหนุ่มแทบจะสูบบุหรี่แบบมวนต่อมวนเลยทีเดียว เขาสูดมันเข้าไปให้ลึกจนทั่วปอด ก่อนที่จะผ่อนลมหายใจออกไปอย่างช้าๆ ควันบุหรี่มาร์โบโร่อบอวนห้องของธเนศ
“ความจริง ผมไม่ควรจะบอกเรื่องนี้กับคุณเลย” ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปสักพัก “แต่ผมว่าควรจะบอกคุณนะครับ คิดว่าเบื้องบนคงจะเข้าใจวัตถุประสงค์ของผมเช่นกัน”
“ผมผ่านการช่วยเหลือให้กับบุคคลที่มีปมปัญหาชีวิตมาเนิ่นนาน บางทีอาจจะมากกว่าสองร้อยห้าสิบกรณีด้วยซ้ำ ทุก ๆ กรณีที่ผมเข้าไปยื่นมือ จะมีรูปแบบหรือแพทเทิร์นคล้ายคลึงกันเสียหมด ผมเดินทางไปช่วยเหลือทุกคน ตั้งแต่ที่โลกผลิตดาบเป็นอาวุธหลักด้วยซ้ำ’มั้งครับ ผมใช้เครื่องย้อนเวลา เสนอแนวทางให้คนเหล่านั้นยอมรับเงื่อนไขของผม และก็ออกเดินทาง ไปตามอุโมงค์เวลา แก้ไขเงื่อนปมต่างๆให้เข้าที่ และย้อนเวลากลับมาในที่ๆเดิมอีกครั้ง พร้อมกับชีวิตใหม่ของพวกเขา โดมิโน่ที่ถูกแก้ไขได้เรียงร้อยใหม่ เป็นเส้นทางชีวิตใหม่ของพวกเหล่านั้น”
“แต่กรณีของคุณ” เขาก้มหน้า “หนักหนาสาหัสพอควรเลยครับ วิธีที่ผมจะใช้กับคุณ ผมไม่แน่ใจว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า”
“ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมคุณซึ่งอายุคราวเดียวหรือไล่เลี่ยกับผมจึงพยายามจะเข้าใจผมขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ช่วงอายุของพวกเราใกล้เคียงกันขนาดนี้ น่าจะสนทนากันง่ายกว่า” ธเนศผายมือเชิงอธิบาย
“เรื่องนี้ผมคงพูดไม่ได้จริง ๆ ครับ หากพูดถึงความน่าจะเป็นในกรณีของคุณ มันก็ไม่แน่เช่นกันว่ากรณีของคุณอาจสำเร็จเหมือนกับกรณีอื่น ๆ หากวัดกันตามทฤษฎีจริง”
“แปลว่าการย้อนเวลาของผมอาจล้มเหลวหรือ” ชายหนุ่มนิ่งเฉย แสร้งว่าไม่ได้ยินคำถามของธเนศ
“อย่างนั้นผมขอถามคุณตรงๆ” ธเนศซักไซ้ต่อ “ทำไมคุณไม่ปล่อยให้ผมย้อนเวลากลับไปฆ่าคนที่ยิงรินะ และใช้ชีวิตอยู่ในปีที่แล้วต่อเนื่อง ในเมื่อผมใช้ตัวเองย้อนเวลากลับไปเพียงคนเดียว ก็ไม่ใช่เรื่องของใครคนอื่นอีกแล้วมิใช่หรือ ผมรู้ว่าฆาตกรนั่นจะต้องเข้ามายิงเธอในเวลาหนึ่งทุ่มตรง ผมอาจจะลงมือเก็บคนร้ายก่อนที่มันจะหยิบปืนมายิงรินะแทน
ชายหนุ่มคิ้วขมวด เขาพยายามทวนคำถามของธเนศในหัว ก่อนที่จะตอบกลับ “ถ้าเช่นนั้นคุณอาจจะกลายเป็นฆาตกรแทน เพราะคนร้ายยังไม่ได้ลงมือทำร้ายใครเลยในตอนนั้นนะครับ คนร้ายมุ่งประสงค์จะยิงคุณรินะ แฟนของคุณเพียงผู้เดียวเท่านั้น หากคุณตัดสินใจเก็บฆาตกรนั่นจริง คุณก็จะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าคนตาย คนร้ายอาจหนีพ้นจากเงื้อมือตำรวจได้ แต่คุณคงหนีตำรวจไปกับแฟนของคุณไม่ได้แน่ๆ ดังนั้นมันจำเป็นที่คุณจะต้องย้อนเวลากลับมาในปีนี้ เพราะอย่างน้อยที่สุด คุณจะหลุดพ้นจากตัวคนร้าย เขาจะไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่ใดในตอนนั้น เปรียบให้เห็นง่ายๆนะครับ คนร้ายอยู่ในปี2005 ส่วนคุณกับแฟนของคุณอยู่ในปี2006 ไทม์ไลน์ของคุณกับคุณรินะ และไทม์ไลน์ของฆาตกรจะแยกส่วนกัน ฆาตกรจะไม่มีวันหาคุณเจอได้แน่ๆ” ธเนศนิ่งเงียบ เขาเห็นด้วยกับคำอธิบายของชายหนุ่มทุกประการ
(มีต่อ)