จะทราบได้อย่างไรว่าคู่กรณีของเราเป็นใคร

เหตุเกิดจาก จขกทลงประกาศให้เช่าบ้าน และในวันที่ 1 ตุลาคม 2560 มีคนมาขอเช่า (ขอให้ชื่อว่า เอ) ซึ่งในขณะนั้นสัญญาเช่ายังไม่เรียบร้อย โดยเอบอกว่าขอจ่ายเป็นเช็คลงวันที่ล่วงหน้า 2 ฉบับ ฉบับละ 10,000 บาท และ 20,000 บาท เพื่อขอกุญแจไปก่อน และภายในอาทิตย์หน้าค่อยมาทำสัญญากันโดยจะนำเงินมาเปลี่ยนกับเช็คที่ให้และทำสัญญาแบบบุคคลธรรมดา ซึ่งเช็คสั่งจ่ายในนามบริษัท จำกัด เออ้างว่าออฟฟิตของเอขายได้เงินจำนวนมาก คนที่มาซื้อจะรีบปรับปรุงตึกเอจึงต้องรีบย้ายออก ออฟฟิตใหม่ของเออยู่ระหว่างดำเนินการ และคิดว่าจะทำสัญญาเช่ากับ จขกท 1 ปี พนักงานที่ออฟฟิตจะย้ายไปอยู่ที่สำนักงานใหญ่ จะมีเพียง 2-3 คนมานั่งรับโทรศัพท์ที่บ้านเช่านี้

               ในวันถัดมาเอเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านเช่า และแจ้งว่าบ้านมีลักษณะไม่พร้อมอยู่ มีเห็บหมัด (ผู้เช่าคนก่อนเลี้ยงสุนัขไว้ในบ้าน) มีปลวก ไฟฟ้าไม่สวยงามและมีไฟรั่วในบางจุด ออฟฟิตเก่าของเอมีโคมไฟสวย หลายอัน จะยกมาเปลี่ยนที่บ้านนี้ แต่จขกท ต้องจ่ายค่าช่างไฟ รวมถึงประตูทางเข้าก็มีปัญหา เข้าออกหลายทางไม่ดี ควรเปลี่ยน เอได้ช่วยนัดช่างมาดูและตีราคาให้แล้ว ใช้กระจกจากออฟฟิตเก่าของเอที่ถอดออกมาได้ด้วยน่ะ ดีต่อเราทั้งคู่ และจบที่ จขกท ต้องจ่ายค่าผู้รับเหมา โดยให้โอนเงินมา ดังนี้
                    เข้าบัญชี บี ซึ่งเออ้างว่าเป็นช่างไฟ 7,000 บาท
                    เข้าบัญชี เอ 22,000 บาท ซึ่งเอจะเอาไปจ่ายทำสัญญากำจัดปลวก เห็บ หมัด และขอชื่อ จขกท ไปด้วย เพื่อทำสัญญา 1 ปี ค่าใช้จ่ายในการกำจัด 7,000 บาท ที่เหลืออีก 15,000 บาท เอจะนำไปจ่ายผู้รับเหมาเป็นค่ามัดจำทำประตูครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 30,000 บาท
                    เหตุการณ์การโอนเงินนี้เกิดระหว่างวันที่ 2-6 และ 11 ตุลาคม 2560

                   ในสัปดาห์ถัดมาที่เคยตกลงจะทำสัญญากัน เอก็อ้างว่าบ้านยังไม่พร้อมอยู่อย่างนี้จะทำสัญญาได้อย่างไร ขอให้เรื่องที่ปรับปรุงเรียบร้อยขึ้นอีกหน่อย ค่อยว่ากัน ในระหว่างนั้น จขกท ก็ขอเอกสารที่ควรได้จากการโอนเงินข้างต้นไป ได้แก่ สัญญากำจัดปลวก เห็บ หมัด ใบเสร็จรับเงินค่าบริการทำไฟ และใบเสร็จรับเงินค่ามัดจำรับเหมาทำประตู แต่เอบ่ายเบี่ยงมาตลอดว่ายังไม่เรียบร้อย ขอเบอร์บุคคลที่สามที่เออ้างว่ารับเงินไป เอก็บอกว่าเอจะจัดการเอง รวมถึงไม่ยอมทำสัญญาเช่าอีกด้วย เอจะพูดเสมอว่าขอให้เชื่อกัน เอมีฐานะและเป็นคนดี ไม่มีทางโกง จขกท เด็ดขาด
    
                ในวันที่ 11 ตุลาคม จขกท จึงเดินทางพร้อมกับแม่ของ จขกท ไปที่บ้านเช่าเพื่อพบเอ และพูดคุยกัน โดยในขณะนั้น จขกท ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพียงเพื่อเข้าไปดูว่าที่เอพูดว่ามีโคมไฟ มีการกำจัดปลวกไปแล้วครั้งนึง และมีกระจกที่จะให้ใช้นั้นมีจริงรึเปล่า จากการตรวจดู พบว่ามีกระจกเป็นจำนวนมาก ดูแล้วเหมือนเป็นของที่ถอดออกมาจากที่อื่น ไม่พบโคมไฟ และสอบถามจากคนระแวกนั้นที่เออ้างว่าพบเห็นการกำจัดปลวก ถามแล้วพบว่าไม่ทราบเรื่องเลย
                   ในวันเดียวกัน เอยังอ้างอีกว่ากระจกที่เห็นเยอะขนาดนี้ เพราะเอซื้อมาเพิ่ม เอจ่ายค่ากระจกไป 40,000 บาท เพื่อมาทำประตูที่บ้าน จขกท นี่แหละ แต่ไม่มีใบเสร็จมาแสดงเช่นเคย ทำให้ค่าทำประตูเพิ่มจาก 30,000 เป็น 60,000 บาท ต้องโอนเพิ่มอีก 25,000 บาท เพื่อเวลาจบงานจะได้จ่ายอีก 20,000 บาท และแจ้งว่าตู้เสื้อผ้าที่โดนปลวกกิน ต้องหามาเปลี่ยนให้เอด้วย เออยากได้ 2 ตู้ โดยเอบอกว่าได้ตกลงกับเพื่อนเอไว้ว่าจะรับเหมาตู้เสื้อผ้าจากเพื่อนที่โล๊ะตู้ เพราะเพื่อนจะแต่งคอนโดใหม่ มี 2 ตู้พอดี สองใบ 15,000 บาท ให้จขกท โอนมา 10,000 บาท อีก 5,000 บาท เอจะจ่ายเอง และเมื่อเอย้ายไป เอจะไม่เอาตู้เสื้อผ้าไป สรุปคือเอ ขอให้จขกทโอนเงินเพิ่มอีก 35,000 บาท และให้รีบโอนภายในวันนี้เลยน่ะ ช่างทำประตูจะได้รีบเข้ามาทำให้เสร็จก่อนกินเจ จขกท ก็แกล้งรับปากไปก่อนและพาแม่ออกจากบ้านเช่า
    
                   ในช่วงเย็นของวันนั้นเอก็ส่งไลน์มาทวงว่าโอนรึยัง จขกทก็บอกว่ายังไม่ว่างเลย ขอเป็นพรุ่งนี้แล้วกัน วันที่ 12 ตุลาคม 2560 จขกท จึงเข้าสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่สั่งจ่ายเช็ค ก็พบว่าเป็นบริษัทที่มีสถานะยังดำเนินการอยู่ แต่ส่งงบการเงินปีสุดท้าย 2556 ชื่อกรรมการที่ถือหุ้นมากที่สุดในบริษัทก็ตรงกับชื่อบัญชีที่เอแจ้งให้จขกทโอนเงิน และได้เอาเบอร์โทรของเอไปค้นใน google ก็พบมีการขายทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านที่เช่าเกือบทุกรายการ ช่วงบ่ายของวันเอก็ไลน์มาทวงเงินที่ให้โอนอีก จขกท จึงขอหลักฐานจากยอดทั้งหมด 29,000 ที่จ่ายไปก่อนหน้าจากเอ เอก็โวยวายว่าจขกทเรื่องมากโทรมาต่อว่าต่าง ๆ นา ๆ
    
                จากการหาข้อมูลทั้งหมดทำให้ทราบว่าเอไม่ได้มีฐานะเหมือนที่คุยโอ้อวดตลอดมา ธุรกิจอาจมีปัญหา ในวันที่ 15 ตุลาคม จึงบอกเอว่าให้รีบย้ายออกภายในวันที่ 31 ตุลาคม และโอนเงินทั้งหมด 29,000 บาทคืนมา เพราะไม่ได้ทำอะไรให้เลย เอก็รับปากว่าจะคืน แต่ต้องไปขอคืนจากคนที่เอได้โอนต่อไปก่อน ซึ่งต้องใช้เวลา การบอกให้ย้ายออกเป็นเพียงการตกลงกันทางโทรศัพท์
    
                   เมื่อถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เอก็ยังไม่ยอมย้ายออก เช็คที่เอเคยให้มาฉบับแรกลงวันที่ 9 ตุลาคม ฉบับที่สองลงวันที่ 20 พฤศจิกายนนั้น จขกทได้นำเช็คฉบับแรกไปเข้าบัญชีเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม และธนาคารเรียกให้ไปรับเช็คคืนเนื่องจากเป็นเช็คที่จ่ายจากบัญชีที่ปิดแล้ว ซึ่งจขกทคิดว่าเอรู้อยู่แล้วว่าบัญชีที่จ่ายเช็คปิดแล้วและจงใจออกเช็คเด้งมาแลกเปลี่ยนกับกุญแจ
    
                    จขกทได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจในวันที่ 3 ตุลาคม ร้อยเวรแนะนำให้ทำหนังสือบอกเลิกสัญญา จขกทเสียเปรียบเพราะไม่มีสัญญาเช่า หากมีสัญญาเช่าและมีข้อกำหนดที่เกิดจากการผิดสัญญา จขกท จะดำเนินได้ตามสัญญาทันที หากไม่มีจะต้องทำหนังสือแจ้งเลิกสัญญา ส่งไปรษณีย์แบบลงทะเบียนและมีใบตอบรับ จนท ตำรวจได้ให้ลงบันทึกประจำวัน และนำชื่อของเอไปคัดสำเนา แต่พบว่ามีข้อมูลไม่ตรงกับเอที่จขกทได้พบหน้า จขกทได้ก๊อปปี้รูปของเอที่ใช้เป็นรูปโปรไฟท์ในไลน์ไว้ จึงส่งให้จนท ตำรวจดูเทียบกับที่คัดสำเนาได้ จนท ตำรวจแนะนำให้ส่งจดหมายไปถามคนที่โดนแอบอ้าง เพื่อให้โทรมาให้ข้อมูล ซึ่งคนที่โดนแอบอ้างนี้มีชื่อและนามสกุลเป็นกรรมการบริษัท ที่เอเอาเช็คมาให้ และเป็นชื่อที่เอใช้แสดงในไลน์ขณะคุยกับเจ้าของกระทู้ และเป็นชื่อและนามสกุลในบัญชีเงินฝากที่ให้ จขกท โอนเงินไป
    
                จากที่เล่ามารบกวนสอบถามว่าสามารถเอาผิดเอในเรื่องใดบ้าง หากคนที่ถูกแอบอ้างไม่ติดต่อกลับมา ซึ่งอาจจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกัน หรืออาจจะเป็นคนที่เอจ้างวานให้มาเป็นกรรมการบริษัท รวมถึงมาเปิดบัญชีธนาคาร อาจกลัวความผิดไม่ติดต่อกลับมา อย่างนี้แล้ว จขกท จะทำอะไรได้ต่อไป เพราะได้แจ้งให้ จนท ตำรวจเดินทางไปที่บ้านเช่าเพื่อสอบถามเอด้วยกัน แต่จนท ตำรวจปฏิเสธ ให้จขกท ดำเนินการเอง จากเหตุการณ์นี้จขกท มีความประมาทในการโอนเงิน และเชื่อคนง่าย ไม่ตกลงทำสัญญาเช่าให้เรียบร้อยก่อน จึงเป็นเหตุแห่งความวุ่นวายในขณะนี้
    
               จดหมายบอกเลิกสัญญานั้น จขกท ส่ง ems สถานะที่ตรวจสอบได้คือจนท ไปรษณีย์ ได้นำจ่ายในวันที่ 4 พฤศจิกายน และส่งใบแจ้งให้เอไปรับเอกสารที่ไปรษณีย์ เนื่องจากเออาจไม่อยู่บ้าน หรืออาจไม่ออกมารับจดหมาย อย่างนี้ถือว่าจดหมายบอกเลิกสัญญาจะเริ่มมีผลเมื่อไร

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่