ประสบการณ์จากคนที่ติดเที่ยว ติดเหล้า ติดบุหรี่

กระทู้คำถาม
วันนี้ว่างๆก็เลยอยากจะมาเล่ามาแชร์ประสบการณ์ของตัวเราเองค่ะ  จากคนที่ติดเที่ยว ติดเหล้าเบียร์ ติดบุหรี่
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ5ปีที่แล้ว เราเป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามาเรียนอยู่ที่กรุงเทพ.บวกกับการทำงานไปด้วย ช่วงปีแรกที่มาอยู่จะไม่ค่อยได้ออกไปไหนเพราะมาอยู่กับพี่ชาย เราจะออกเด็กเรียนนิดนึงถือว่าเป็นเด็กในกรอบเลยแหล่ะ ช่วงแรกๆเราจะไม่รู้อะไรมากแต่เราก็สามารถปรับตัวได้เร็วกับที่ๆ เราไม่คุ้นเคย ผ่านมาอีกปีเราขอพ่อกับแม่ย้ายไปอยู่ใกล้ๆที่เราเรียนจะได้สะดวก เราก็ได้ย้ายมาอยู่คนเดียวบวกกับทำงานไปเหมือนเดิม เราได้เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ได้รู้จักเพื่อนคนนึง นี่แหล่ะคือจุดเปลี่ยนของชีวิตเลย เปลี่ยนยังไงอ่ะเหรอ? เราเป็นคนที่ไม่กินเหล้าเบียร์ ไม่สูบบุหรี่ พอมาเจอเพื่อนคนนี้เราลองมาทุกอย่าง ถ้าถามว่าเพื่อนดีมั้ย เราบอกก่อนเลยว่าดีปัจจุบันนี้ก็เป็นเพื่อนรักกันไปแล้ว  เราเริ่มจากการเที่ยวกลางคืน ช่วงแรกๆก็ไม่กล้ากินหรอกมันขม แต่พอหลังๆมานี่เลิกงานที่ไร ต้องไปทุกวันขาดไม่ได้มันเลยทำให้เราติดไปแล้ว และกล้ากินของที่ตัวเองไม่ชอบ เราใช้ชีวิตแบบนี้ปีแล้วปีเล่า (บอกก่อนเลยพ่อแม่ พี่ชายเรารับรู้อยู่ว่าเราเที่ยว ก็มีแอบดุเตือนอยู่บ่อยมาก) จนทำให้เราเป็นคนติดเที่ยวกลางคืน ติดเพื่อน ติดเหล้า วันไหนไม่ได้ออกนี่เหมือนจะลุกไปทำงานไม่ไหว เหล้าเบียร์ก็เคยล่ะตามมาก็บุหรี่ เราเข้ามาอยู่ในสังแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เรายังไม่รู้ตัวเลย รู้ตัวอีกทีก็ติดมันไปแล้ว เราเริ่มบุหรี่ตัวแรกจากการเลิกกับแฟน และมันยิ่งทำให้เราเที่ยวหนักมากขึ้น บางวันถึงเช้าไม่ได้นอนเลยแถมต้องไปทำงานต่ออีก คิดในหัวทันที เอาวะเที่ยวได้ก็ต้องทำงานได้ เออก็ไหวอยู่นะ  หลังจากนั้นเราก็เริมสูบบุหรี่บ่อยขึ้นจากการไปเที่ยวในแต่ล่ะคืน คืนนึงเราไม่ต่ำกว่า8มวนหรือว่าเป็นซองก็ได้ ยิ่งเวลาเราเครียดที่ทำงานด้วยแล้วเรายิ่งมีความอยากสูบบุหรี่มากเพื่อที่จะคลายความเครียดลง ใช้ชีวิตแบบนี้มาหลายปี กิน เที่ยว ทำงาน วนไปอยู่อย่างนี้ (แต่เราไม่ได้ทิ้งการเรียนนะ)

หลังจากที่ใช้ชีวิตแบบนีมานานร่างกายของเราเริ่มจะรับไม่ไหว ป่วยเข้าโรงพยาบาล เพลียง่าย เหนื่อยเร็ว แน่นหน้าอกบ่อย คิดว่าตัวเองใกล้จะตายรึเปล่า  ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งเครียดและมีความคิดที่อยากจะเลิกสิ่งพวกนี้ แต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับคนที่เที่ยวหนักแบบเรา ใครสายเที่ยวคงเข้าใจหัวอกเรา ช่วงแรกๆเราพยายามที่จะปฎิเสธการชวนของเพื่อน ทำได้เป็นบางวัน บุหรี่ก็ลดให้น้อยลง เราซื้อหนังสือธรรมมะมาอ่าน อ่านได้พักนึงเหนื่อยล่ะไม่ไหวธรรมมะเกิน พยายามไม่เจอเพื่อนไม่ทำตัวเองให้ว่าง นอนให้เร็วขึ้น4ทุ่มงี้ต้องอยู่บนที่นอนแล้วจำกัดตัวเองทุกอย่าง  ช่วงแรกๆเหมือนมันจะตายเลยเหล้าเอย บุหรี่เอย เพื่อนเอย สีสันตอนกลางคืนเอย แบบอยากกลับไปมากแต่ต้องห้ามใจตัวเองให้ได้ จนในที่สุดเราก็ทำได้เราใช้เวลาในการเลิกสิ่งพวกนี้ไม่นานเท่าไหร่ แต่โคตรลำบากตัวเองมากแต่ดีใจที่ตัวเองทำได้ เราเลิกขาดได้แบบจริงจังตั้งแต่เมษายน60 จนตอนนี้เรายังไม่แตะสิ่งพวกนั้นสักครั้งเลย บางครั้งที่ได้กลิ่นบุหรี่เราก็แอบบ่นเหม็นนะ ทั้งๆที่ตัวเองก็เคยสูบมาก่อนผิดกับจริตตัวเองมากเลย สิ่งสำคัญที่สุดคือพ่อแม่ที่เราเลิกได้ทุกอย่างขนาดนี้กลัวจะตายก่อนเขากลัวไม่ได้อยู่กับเขาอีก ทุกคนย่อมมีช่วงชีวิตที่ผิดพลาดกันได้ ถ้าพลาดแล้วรู้จักแก้ก็ดีไป ถ้าพลาดแล้วแก้ไม่ได้นี่หนักเลย
อาจจะยาวและน่าเบื่อหน่อยเขียนผิดถูกบ้างนะคะ แต่เราก็อยากฝากเตือนคนที่เป็นแบบเราอยู่ตอนนี้ เราสียเงินเสียทองยังหากลับมาได้แต่ถ้าเสียสุขภาพล้มป่วยไปคนที่เสียใจคือพ่อแม่เรานะคะ.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่