[CR] ครั้งหนึ่งในชีวิต ไปพิชิต 'ทะเลเขมร' | Once in a lifetime in Cambodia CARATRAVEL X KOH RONG


"เขมรมีอะไรให้เที่ยววะ?"
เราเจอคำถามนี้ตลอดตอนที่บอกทุกคนว่าจะไปเที่ยวประเทศกัมพูชา หรือ 'เขมร' ที่เรารู้จักกันดี
ภาพในหัวคนที่ได้ยินคำว่า ไปเที่ยวเขมร รวมถึงเราเองด้วยก็คงหนีไม่พ้นผู้คนหน้าตาคล้ายๆคนไทย แต่แฟชั่นแบบล้าหลังกว่าเราไปมากๆ แดดร้อนๆ ขอทาน อาหารไม่สะอาด ที่พักแบบพีคๆ อะไรทำนองนั้น
แต่เราอยากจะบอกว่าประสบการณ์ที่ได้จากการไปเที่ยวเขมรของเรา มันเปลี่ยนความคิดเรากับประเทศนี้ทุกอย่าง

'คนเขมรใจดีกับเรามาก'

ข้อนี้คือสิ่งที่ประทับใจเราที่สุด เราเคยไปประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่นอินโดนีเซีย ลาว เวียดนาม เรายกให้เขมรเป็นประเทศที่ Be nice กับเราที่สุด พวกเค้าต้อนรับเราอย่างดี พยายามช่วยเหลือ พยายามพูดภาษาไทย เค้าทรีทเราเหมือนเราเป็นประเทศพี่น้องของพวกเค้า จนเราเองยังต้องถามตัวเองเลยว่าแล้วคนไทยล่ะ ทรีทพวกเค้าแบบไหน?

'ทะเลเขมรสวยมาก'

เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าทะเลเขมรสวยกว่าทะเลไทย (เพราะทะเลไทยก็สวยจริงๆนั่นแหละ) แต่เราบอกได้เลยว่าทะเลเขมรบรรยากาศดีกว่ามากๆ เราชอบความเงียบสงบ ความที่ถึงจะมีบาร์ มีร้านอาหาร แต่ก็ยังมีความโลคอลของคนพื้นที่ให้เห็น มีเด็กๆ มีโรงเรียนที่พวกอาสาสมัครฝรั่งมาช่วยกันสอน มีหมาเยอะมากๆ ฝรั่งที่หนีความวุ่นวายมาอาศัยอยู่เขมร กับคนพื้นที่อยู่ด้วยกันแบบลงตัว มันเป็นความสงบแบบที่หาไม่ได้ในประเทศอื่นๆที่เจริญแล้ว

เราได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่เราไม่เคยทำที่เขมร เราไปตกปลาบนเรือ เอาปลาสดๆที่หาได้เองมาย่างกิน เราได้ไปว่ายน้ำกลางความมืดเพื่อดูแพลงตอนเรืองแสง เราได้ไปนอนอยู่บนเรือกลางทะเล ดูดาวเป็นล้านๆดวง แบบที่ชีวิตนี้ไม่เคยเห็นดาวเยอะขนาดนี้มาก่อน

วินาทีที่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นเราบอกตัวเองว่า เราตัดสินใจไม่ผิดที่มาที่นี่ เราขอบคุณตัวเองที่กล้ามาเที่ยวเขมร ทั้งที่หารีวิวแทบจะไม่ได้ ขอบคุณเพื่อนๆร่วมทริปที่กล้าไปเที่ยวที่แบบนี้กับเรา เป็นทริปที่คุ้มค่ามากจริงๆ

ด้วยรักจากน้องหล้าถึงเขมร


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


Plan : Day1 กรุงเทพ - พนมเปญ (Air asia flight 6:30 - 8:00 am.)

    พนมเปญ - สีหนุวิลล์ (เหมารถตู้ ชั่วโมง)

    สีหนุวิลล์ - เกาะรง (Speed Ferry Cambodia 4:00 pm.)

    เกาะรง (พักที่ Green Ocean Bungalow)

    Day2 ซื้อทัวร์เที่ยวของที่พัก ราคาคนละ 10USD (1:00 pm.-7:00pm.)

    Day3 เหมา Taxi Boat เที่ยว ราคาคนละ 9 USD (1:00pm. - 7:00pm.)

    Day4 เกาะรง - สีหนุวิลล์ (Speed Ferry Cambodia 12:30 pm.)

    สีหนุวิลล์ - พนมเปญ (Giant Ibis Bus 3:30pm - 8:00 pm.)

    พนมเปญ  - กรุงเทพ (Air asia flight 10:30 - 11:30 pm.)

Cost : ตั๋วเครื่องบิน = 2,500

    รถ + เรือ = 1,600

    ที่พัก = ประมาณ 600 (3คืน)

    อื่นๆ = 3,500 - 4,000




DAY 1 : การเดินทางของเหล่ารวมพลคนดวงซวย!


เช้าวันแรก เราฝืนร่างลากตัวเองออกจากเตียง มุ่งหน้าไปสนามบินดอนเมืองแบบเช้าที่สุดในชีวิตที่เคยไป เราเลือกบินกับสายการบิน Air asia นะคะ เพราะอย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าถ้าบินแถบโซนอาเซียน ถูกๆ ไฟลท์เยอะๆ คงจะเป็นสายการบินอื่นไปไม่ได้แล้วเด้ออออ เครื่องออกประมาณ 6 โมงครึ่ง เราไปถึงก่อนเวลาไม่มาก เซเว่นก็อยู่ไกลเกทเหลือเกิน เลยได้ข้าวกล่องร้านหน้าเกทมา แพงมากเวอร์ 140 บาท เป็นกะเพราที่ไม่ควรเรียกตัวเองว่าผัดกะเพรา แพงไม่โกรธ แต่โกรธตรงให้น้อย!!! ตอนขึ้นเครื่องแล้วเปิดเมนูอาหารเจอผัดกะเพราหม่อมหน่อย ราคาพอๆกัน แต่ความน่ากินแตกต่างกันม๊าก เจ็บใจมาก สาบานกับตัวเองรอบหน้ากะเพราหม่อมหน่อยกับเราต้องได้เจอกันหน่อยละ 555555 ข้ามเรื่องอาหารสนามบินไป หลับๆ ตื่นๆ ประมาณชั่วโมงเดียวก็เดินทางถึงเมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชาจ้า



ที่เราต้องเลือกไปไฟลท์เช้าที่สุดเพราะต้องต่อรถไปจังหวัดสีหนุวิลล์ และต่อเรือไปเกาะรงอีก เราไม่อยากเสียเวลาแวะพักที่พนมเปญหรือสีหนุวิลล์ อยากมุ่งหน้าตรงไปเกาะเลย บวกกับเรือรอบสุดท้ายคือ 4 โมงเย็น ขนาดเราไปเช้ามากยังแทบไม่ทันเรือ เพราะอะไรนั้นน่ะเหรออออ

ก่อนเดินทางเราได้ทำการค้นคว้าหาข้อมูลมาอย่างดี มั่นใจมากว่าทริปนี้ไม่พลาดแน่ๆ จองรถบัส จองเรือ จ่ายเงินทุกอย่างก่อนเดินทางเรียบร้อย พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม เพราะไปเที่ยวกัมพูชาคนรอบข้างค่อนข้างเป็นห่วง เราก็ปลอบใจตัวเองว่าเราเตรียมตัวมาดี คงไม่เจอเรื่องพีคๆ แน่นอน แต่แล้วก็ดูเหมือนว่าบุญเก่าที่ทำมานั้นน่าจะหมดไปแล้วจากการไม่โดนโกงที่เวียดนาม เพราะพวกเรา 8 ชีวิตตกรถบัส! นั่งเคว้งคว้างอยู่ที่สนามบินพนมเปญ 5555555 ก่อนไปเราได้จงรถบัสของบริษัท Giant Ibis ไว้ทั้งขาไปและกลับ จาดพนมเปญไปจังหวัดสีหนุวิลล์ ทีนี้ก็นัดกับรถเสร็จสรรพว่าเราจะรอที่ Park Cafe ข้างหน้าสนามบิน ทางบริษัทส่งอีเมลล์มาว่าให้เราไปรอประมาณ 9 โมงเช้า พวกเราก็ไปนั่งรอจนเกือบๆ 10 โมงแล้วก็ยังไม่มีวี่แววของรถบัส จึงได้โทรไปสอบถาม ทางพนักงานบอกเราว่าคนขับรับทราบแล้วว่าต้องแวะรับพวกเราด้วย Don’t worry อ่ะ ชะนีกับผองเพื่อนก็ Don’t Worry จ่ะ พากันเดินไปซื้อน้ำ เนื่องจากนั่งรอมานานเหลือเกิน โดยทิ้งเพื่อนให้นั่งเฝ้ารอรถบัส 2 คน กับกระเป๋า 8 ใบ หลังจากซื้อน้ำ 15 นาทีเดินกลับมา เพื่อนบอกว่าเพิ่งเห็น Miss call เบอร์ของบริษัทรถ เราก็รีบโทรกลับไปทันที พนักงานได้พูดคำที่ทำร้ายจิตใจเรามาก นั่นคือรถบัสไปแล้ว และไม่สามารถวนกลับมารับพวกเราได้ เราก็โวยวายเลยว่าทิ้งเราได้ไง เราเพิ่งโทรไปหาเองว่ารออยู่นะ พนักงานให้เหตุผลเราแค่ว่าคนขับแจ้งว่าไม่เห็นกลุ่มคน 8 คน เห็นแค่ 2 คนเท่านั้น และพนักงานได้พยายามโทรหาแล้ว แต่ไม่มีคนรับสาย คือเราเข้าใจว่าส่วนนึงเราก็ซวยเองที่เพื่อนลืมเปิดเสียงโทรศัพท์ แต่ว่าใจมันกฌโกรธที่โดนทิ้งอยู่ดี เพราะเราจ่ายเงินไปแล้ว แถมยังพยายามโทรติดต่อทางรถบัสตั้งหลายรอบ ถ้าคนขับเข้ามาถามเพื่อนเรา 2 คนที่นั่งอยู่ หรือแสดงตัวด้วยการถือป้ายหรืออะไรซักนิดเราคงไม่ตกรถแบบนี้ ก็นั่นแหละ เถียงกันไปเถียงกันมาเราก็โดนตัดสายใส่ สุดท้ายเลยไปจบด้วยการเดินหาเหมารถแถวสนามบินไปท่าเรือแทน ซึ่งก็มีตัวเลือกเข้ามามากมาย แต่ตกลงราคาแล้วเราไปจบที่คนขับตุ๊กๆ ที่เสนอว่าจะไปเอารถตู้มารับ ราคาเหมาหารกันแล้วตกคนละ 300 กว่าบาท ถูกกว่าค่ารถบัสอีก! พวกเราก็รีบนั่งรถตุ๊กๆ ออกไปกับเค้าเลยจ้า รถตุ๊กๆ ก็มีความมึนงงในตัวเอง ขับเต่าเวอร์ ขับๆ จอดๆเหมือนงงๆ ว่าต้องไปส่งพวกมันที่ไหน ตอนนั้นเริ่มใจไม่ดี นี่คงไม่ไปส่งพวกชั้นด้วยรถคันนี้หรอกนะ! หลังจากให้เรานั่งใจไม่ดีกันได้ซักพักรถตู้ก็มารับค่ะ ตอนนั้นดีใจมาก จะได้ออกจากพนมเปญสักที! แต่พี่คนขับตุ๊กๆ มีเซอร์ไพส์ ด้วยการเรียกเก็บเงินคันละ 9 ดอลลาร์ น้องหล้างงมาก ก่อนนั่งมาพี่บอกไม่คิดเงิน รวมกับค่ารถแวน สรุปต่อเหลือ 2 คัน 9 ดอลลาร์ แล้วลาจากกันไป จบ แยก!



ถ้าคุณอ่านาถึงตรงนี้ แล้วคิดว่าที่เล่าไปคือทั้งหมดทั้งมวลของโชคร้านที่พวกเราต้องเจอ จะบอกว่าคุณคิดผิด พวกเราซวยกันได้มากกว่าที่คุณคิด 555555 เมื่อเราค้นพบว่าเรากำลังจะไปไม่ทันลงเรือรอบสุดท้าย! เพราะการจราจรในพนมเปญนั้นติดขัดและลำบากม๊ากกกก ถนนเป็นลูกรังเป็นช่วงๆ และมีรถบรรทุกเยอะ ถนนเลนส์เดียวเลยขับได้ช้า พวกเรานี่เร่งคนขับแล้วเร่งอีก สวดภาวนาต่างๆ นาๆ เพราะไม่มีเงินเหลือพอจะซื้อตั๋วอะไรใหม่ได้แล้ว คิดกันถึงขนาดว่าถ้าไม่ทันจะนอนท่าเรือจริงๆ ด้วยเอาสิ 555555 สุดท้ายเราก็รอดมาได้ด้วยการโทรไปอ้อนวอนบริษัทที่เราจองเรือ ให้ช่วยรอพวกเราหน่อย ซึ่งเค้าใจดีมากๆ สรุปเราเลยไปทันเรือรอบสุดท้าย ใครสนใจจองเรือเจ้าเดียวกับเราสามารถเข้าไปจองในเว็บไซต์ http://speedferrycambodia.com/ ได้เลยเด้อ ตอนไปถึงถ้าถึงก่อนเวลาเค้าจะให้ไปเอาตั๋วที่ Yasmin Cafe ใกล้ๆ กับท่าเรือก่อนนะคะ บริการดี โทรไปก็ช่วยเหลือตลอดด้วยจ้า



DAY 1.2 : สำรวจเกาะรง


หลังจากผ่านวันที่ยาวนานเราก็มาถึงเกาะรงกันซักที ! ยิ้มสวยๆพร้อมปาดน้ำตาที่พาตัวเองมาถึงจนได้ ช่างเป็นวันที่ยาวนานจริงๆ เราเช็คอินที่พัก Green Ocean Guesthouse
https://www.booking.com/hotel/kh/green-ocean-guesthouse.en-gb.html
ตั้งอยู่ที่ Koh touch village (หมู่บ้านตรงท่าเรือ) ออกจากท่าเรือแล้วเลี้ยวซ้าย เดินแปปเดียวก็ถึงทีพักเลย ที่เราเลือกพักที่นี่ทั้ง 3 คืนเพราะเป็นย่านที่ครึกครื้นที่สุดแล้วของเกาะรง ใกล้ท่าเรือ หาของกินง่าย มีบาร์และปาร์ตี้ตอนกลางคืน ที่สำคัญคือถูก! จะหาที่พักที่ไหนที่ราคาหารละคนละ 200 ร้อยต่อคืนที่อยู่ติดทะเลแบบตื่นมาก็เจอทะเลเลยอ่ะ เดินไม่ถึง 10 ก้าวงี้ คุ้มมากเวอร์ ตกแต่งก็เกร๋ ส่วนตัวเป็นชะนีชอบต่งบ้านด้วยต้นไม้อยู่แล้ว มาพักที่นีถูกใจมาก ต้นไม้เยอะไปหมด แต่สภาพห้องนอน ห้องน้ำ มันก็ไม่ได้หรูหราอยู่สบายอะไรมากนะคะ เพราะด้วยความที่เกาะมันยังใหม่ ความเจริญมันยังเข้าไม่ถึงขนาดนั้น มี Wifi ให้ใช้ก็ดีใจจะแย่แล้ว ใครที่เป็นสายรักความสะอาดแนะนำหาโรงแรมหลายๆ ดาวเอาเด้อ มีที่พักอีกเยอะที่อยู่หาดอื่นๆ บนเกาะรงมีหาดอีกหลายหาดมากๆ แต่ว่าการเดินทางจะต้องใช้ Taxi Boat เท่านั้น เพราะตัวเกาะยังไม่เจริญขนาดมีถนนให้เช่ามอเตอร์ไซค์ขี่แบบบ้านเรา ยังไงใครจะตามรอยก็ลองไปเลือกๆ ดูเอาที่สะดวกเด้อจ้า

พื้นที่ส่วนกลางหน้าที่พัก Wifi แรงสุด มีที่ให้นั่งแช่เยอะมาก

ชิงช้าหน้าห้องพักวิวทะเลอ่ะพวกแกร

นอกจากต้นไม้แล้วที่พักยังตกแต่งด้วยภาพวาด Qoute ต่างๆ เกี่ยวกับทะเล การท่องเที่ยว นั่งอ่านไม่เบื่อเลย ชอบมากๆ


หลังจากเก็บของนั่งพัก ล้างหน้าล้างตากันให้หน่อยเหนื่อย พวกเราก็เริ่มออกเดินสำรวจแถวๆ หาดที่เราพัก เป็นหาดที่มีร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ และที่พักตลอดแนวชายหาด ระยะทางไม่ไกลมาก เดินไปมาได้แบบไม่เหนื่อย นักท่องเที่ยวที่มา 99 เปอร์เซ็นต์เป็นฝรั่ง มีแค่พวกเราที่เป็นชาวเอเชีย พวกร้านอาหาร บาร์ ส่วนใหญ่ที่เห็นเจ้าของจะไม่ใช่คนพื้นที่ คงมีนายทุนจากนอกเข้ามาลงทุน พนักงานชาวกัมพูชาแทบทุกร้านพูดภาษาอังกฤษได้ดี สื่อสารได้รู้เรื่อง บางคนพูดไทยได้ด้วยนะ!





โรงเรียนเล็กๆ ของเด็กๆที่หมู่บ้านนี้ มีอาสาสมัครชาวต่างชาติมาสอนร้องเพลง สอนภาษาอังกฤษต่างๆ เด็กๆบนเกาะเยอะมาก และทุกคนน่ารัก ดูมีความสุขกับชีวิตแบบชาวเกาะอ่ะ



ร้านข้าวตรงท่าเรือ ใครจะไปแนะนำเลย ถูกกว่าร้านอื่นๆ รสชาติพอกินได้อยู่เด้อ ควรค่า


ชื่อสินค้า:   เกาะรง ประเทศกัมพูชา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่