รู้สึกขยะแขยงแม่ตัวเอง ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย

ตั้งแต่จำความได้ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก ถึงจะไม่ได้ร่ำรวยเงินทองอะไรมากมายแต่เราก็มีความสุขดี พอเข้ามหาลัยตอนนั้นเราเครียดมากไม่มีความสุขกับคณะที่ตัวเองเรียนก็เลยตัดสิดใจซิ่วซึ่งพ่อแม่เราก็ไม่ได้ค้านอะไร ท่านก็ยังสนับสนุนเราทุกอย่าง ซึ่งถ้าใครที่มีลูกหลานหรือคนรอบตัวเคยซิ่วจะรู้เลยว่ามันเสียเงินไปไม่น้อยเลยนะคะ เราไม่รู้เลยว่าพ่อแม่เป็นหนี้เยอะมากเพื่อส่งเราเรียนมหาวิทยาลัยดีๆ อยู่ในสังคมดีๆ (ท่านไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย)

เราคิดว่าการที่บ้านเราเป็นหนี้นี่แหละอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่เราเปลี่ยนไป พ่อเราทำงานหนักขึ้นก็เลยอาจจะไม่ได้เอาอกเอาใจแม่บ่อยนัก มีหลายครั้งที่พ่อตวาดหรือพูดจาเสียงดังเหมือนคนหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลาใส่ทั้งแม่และเรา (เอาจริงๆ มันก็หยาบมากๆ แหละ) จนบางทีเราก็แอบเก็บไปน้อยใจว่าทำไมต้องพูดจาแบบนั้นด้วย นั่นแหละค่ะ แม่ก็คงรู้สึกแบบเดียวกับเรา

ตอนนั้นเราเล่นเกมในโทรศํพท์ของแม่อยู่ๆ ก็มีข้อความในเฟซบุ๊คเด้งขึ้นมาเป็นผู้ชายที่ไหนไม่รู้พูดจาแนวๆ ที่คนรู้จักกันหรือแค่เพื่อนกันไม่พูดน่ะค่ะ ตอนนั้นเราโกรธมือสั่นไปหมด เราถามแม่ว่าใครส่งข้อความมาแม่รีบมาคว้าโทรศัพท์แล้วเดินหนีไปเลย มีหลายครั้งที่เราแอบจับได้ว่าแม่แอบคุยกับผู้ชายคนอื่นแต่เราไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครเลย เราคิดว่าแม่จะเลิกแต่ไม่เลยแม่เคยแอบออกไปเที่ยงกลางคืน (พ่อทำงานอยู่คนละจังหวัดนะคะ) แล้วก็กินเหล้าบ่อยๆ และบอกให้เราเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ (จนถึงตอนนี้เราไม่รู้จริงๆ ว่าแม่กับผู้ชายคนนั้นไปถึงขั้นไหน) เราไม่อยากให้ครอบครัวมีปัญหากลัวพ่อจะเสียใจ กลัวพ่อกับแม่เลิกกัน กลัวไปหมดเลยเก็บเรื่องพวกนี้ไว้คนเดียว จนวันหนึ่งเราทนไม่ไหวเลยบอกแม่ว่าเรารู้ว่าแม่แอบคุยกับคนอื่นแล้ว แม่สัญญานะคะ สัญญาว่าจะเลิกทุกอย่างจะปรับปรุงตัว เราเชื่อใจแม่ค่ะเพราะคิดว่าแม่รักเรากับพ่อ แม่คงไม่ผิดสัญญา แต่อีกแล้วค่ะ แม่แอบคุยกับผู้ชายคนใหม่อีกแต่คราวนี้ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่จับได้ พ่อเรารู้เรื่องนี้แล้วค่ะ ตอนนี้ครอบครัวที่เคยอบอุ่นของเรามันมีแต่ปัญหาเต็มไปหมด เราไม่มีความสุขที่เห็นพ่อกับแม่เป็นแบบนี้เลย เมื่อก่อนพอวันหยุดยาวๆ หรือปิดเทอมเราอยากกลับบ้านไปหาครอบครัวมาก แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเราหาข้ออ้างทุกอย่างเพื่อที่จะไม่กลับไ

รู้นะคะว่ามันไม่ดีที่รู้สึกขยะแขยงแม่ตัวเองแบบนี้แต่เราทำใจที่จะไม่รู้สึกแบบนี้กับแม่ไม่ได้จริงๆ ค่ะ เราควรทำยังไงต่อไปคะ ควรกลับไปคุยกับแม่เหมือนเดิมแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นไหมคะ (เอาจริงๆ เราก็ไม่แน่ใจว่าเราจะแกล้งทำแบบนั้นได้นานแค่ไหนน่ะค่ะ)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่