สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ ผมอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้ไปเที่ยวประเทศอินโดนีเซียครับ
ประเทศอินโดนีเซียมีค่าครองชีพในการกินอยู่ก็พอๆกับบ้านเรา
โดยทริปนี้เราไปกัน 5 คน ใช้เวลา 5 วัน 4 คืน รวมทุกอย่างแล้วทั้งตั๋วเครื่องบินไป-กลับ คนละประมาณ 20,000 บาท
วันที่ 1
เดินทางจากสนามบินดอนเมืองประมาณ 07.00 ไปยังสนามบินสุราบายา(อินโดนีเซีย) โดยต้องเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์(มาเลเซีย)
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชม. เมื่ออินโดนีเซียเราก็ไปแลกงิน โดยเราแลกเป็นเงินดอลล่าไว้ก่อน แล้วค่อยแรกเป็นเงินรูเปียร์
จากนั้นเราพบกับคนขับรถที่ได้คุยไว้ ละก็เดินทางไปยังภูเขาไฟโบรโม่ทันที
ระยะทางจากสนามบินไปภูเขาไฟโบรโม่ แค่ประมาณ150 กม. แต่ใช้เวลาเดินทาง 6ชม. (ถนนบ้านเค้าเป็นแบบสวนกันตลอด)
กว่าจะถึงก็ 3 ทุ่มกว่า นั่งรถกันจนตูดชาเลยทีเดียว
คืนนี้เราพักกันที่โรงแรกใกล้ๆโบรโม่ มองไม่เห็นอะไรแล้ว เห็นแต่ดาว

อากาศค่อนข้างเย็น ประมาณ 14 องศา เราจึงรีบแยกย้ายไปนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางตีสามเพื่อไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้น
วันที่ 2
เราเดินทางไปจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่อยู่ใกล้ๆโบรโม่ ชื่ออะไรจำไม่ได้ 5555
ที่นี่พระอาทิตย์จะขึ้นเร็วกว่าบ้านเรา ประมาณ05.30 ก็สว่างแล้ว
ที่เห็นข้างหลังนั่นคือภูเขาไฟโบโม่ เราว่าตรงนี้มันยังไม่ค่อยสุด เพราะพระอาทิตย์มันขึ้นคนละทางกับภูเขาไฟ
ดูตอนตกน่าจะสวยกว่า
เราลงจากตรงจุดชมวิว เพราะอยู่มาจะสองชั่วโมงละ ลมแรงมากน้ำมูกไหลไม่หยุด
สถานีต่อไปคือโบรโม่ ระหว่างทางพี่คนขับก็แวะให้เราถ่ายรูปกับรถจีป

ต่อไปเราจะต้องเดินเพื่อเข้าไปที่บริเวณด้านล่างภูเขาไฟ ระยะทางประมาณ 1 กม. ซึ่งเค้าก็มีม้าให้ขี่นะ แต่พวกเราเลือกที่จะเดิน

จากนั้นเราก็ต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณ 500 ม.

ควรออกกำลังกายมาบ้างพอสมควร 55555
ขึ้นไปถึงข้างบน ทางเดินมันจะเป็นแค่เล็กๆแคบๆ ไม่เหมาะอย่างิ่งสำหรับคนที่กลัวความสูง

ข้างในปล่องจะเป็นเสียงของภูเขาไฟ เค้าบอกว่าเป้นเสียงลมหายใจของเทพเจ้า ให้อธิษฐานแล้วโยนดอกไม้ลงไป
เรากลับไปเช็คเอาท์ที่โรงแรมเพื่อเดินทางต่อไปยังคาวาอีเจี้ยน ระหว่างทางคนขับรถของเราก็ได้แวะน้ำตกอะไรไม่รู้ 55555
ต้องเดินเข้าไปไกลพอสมควร

ออกจากน้ำตกเราก็มุ่งหน้าไปคาวาอีเจี้ยนต่อ กว่าจะถึงก็ค่ำอีกเช่นเคย
คืนนี้เราต้องรีบนอนพักเพราะว่าต้องตื่นตีหนึ่ง
วันที่ 3
เราตื่น 01.00 ใช้เวลาจากที่พักไปคาวาอีเจี้ยนอีกครึ่งชม. แวะเข้าห้องน้ำห้องท่าเรียบร้อย กว่าจะเริ่มออกเดินก็ 02.00
การเดินแบ่งเป็นสองช่วง ในช่วงแรกนั้นจะเป็นทางเดินขึ้นตลอดจนถึงปากปล่องภูเขา จากนั้นจึงลัดเลาะลงไปในปล่อง
รวมแล้วใช้เวลาในการเดินประมาณ 2 ชม.
ลงไปถึงข้างล่างเราเห็นเป็นไฟสีฟ้าๆที่ถูกปกคลุมไปด้วยควัน ไม่รู้จะถ่ายยังไงให้สวยเหมือนในรูปที่เคยเห็นมา 5555

บลูเฟลมมมม

พอฟ้าเริ่มสว่างบลูเฟลมก็จะเริ่มหายไป
เราเดินกลับขึ้นไปข้างบนปากปล่อง เพื่อที่จะลงจากคาวาอีเจี้ยน

(ต้องใส่หน้ากากกันแก๊สด้วย เพราะควันที่ลอยๆอยู่เป็นก๊าซกำมะถัน)
ลงจากอีเจี้ยนแล้วสถานีต่อไปของเราคือเกาะบาหลีโดยนั่งเรือเฟอรี่ข้ามไป
หมดทริปลำบากของเราสักที 55555
สถานที่แรกในบาหลีที่เราจะไปก็คือ Pura Tanah lot

เมืองที่เราจะไปพักกันในคืนนี้คือเมืองอูบุด จะเป็นเหมือนศูนย์กลางของเกาะบาหลี มีตลาด มีร้านอาหาร มีบาร์
หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาสองวัน ก็ได้เวลาผ่อนคลายกันสักหน่อย คืนนี้จะได้กลับสบาย

good night Bali
วันที่ 4
เราตื่นเช้ามาพบกับข่าวร้ายเมื่อเพื่อนเราที่เคยปอดรั่วอาการกำเริบ เราจึงยกเลิกแพลนทั้งหมดละไปโรงพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลที่นี่ค่อนข้างแพง ทำให้เราคิดได้ว่าต่อไปนี้จะไปเที่ยวไหนควรทำประกันการเดินทาง
เราตัดสินใจไปพักผ่อนที่พักที่ใกล้สนามบินเลย ซึ่งก็คือเมืองคูต้า
เราให้เพื่อนนอนพักที่ห้อง ส่วนเราก็ไปเล่นเซิฟกันที่หาดคูต้า ไม่ต้องห่วงว่าจะเล่นไม่เป็น เค้ามีครูสอนให้

หลังเล่นเซิฟเหนื่อยๆ

พระอาทิตย์ตกที่หาดคูต้า
วันที่ 5
วันนี้เป็นวันที่เราต้องเดินทางกลับ มีเที่ยวบินตรงจากบาหลีกลับดอนเมืองเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้ของเรา

ขอให้กระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่วางแผนจะเดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซียไม่มากก็น้อย
ปล.กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
[CR] BROMO - KAWAHIJEN - BALI 5วัน4คืน ทริปเฟี้ยวๆสำหรับคนเวลาน้อย
ประเทศอินโดนีเซียมีค่าครองชีพในการกินอยู่ก็พอๆกับบ้านเรา
โดยทริปนี้เราไปกัน 5 คน ใช้เวลา 5 วัน 4 คืน รวมทุกอย่างแล้วทั้งตั๋วเครื่องบินไป-กลับ คนละประมาณ 20,000 บาท
วันที่ 1
เดินทางจากสนามบินดอนเมืองประมาณ 07.00 ไปยังสนามบินสุราบายา(อินโดนีเซีย) โดยต้องเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์(มาเลเซีย)
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชม. เมื่ออินโดนีเซียเราก็ไปแลกงิน โดยเราแลกเป็นเงินดอลล่าไว้ก่อน แล้วค่อยแรกเป็นเงินรูเปียร์
จากนั้นเราพบกับคนขับรถที่ได้คุยไว้ ละก็เดินทางไปยังภูเขาไฟโบรโม่ทันที
ระยะทางจากสนามบินไปภูเขาไฟโบรโม่ แค่ประมาณ150 กม. แต่ใช้เวลาเดินทาง 6ชม. (ถนนบ้านเค้าเป็นแบบสวนกันตลอด)
กว่าจะถึงก็ 3 ทุ่มกว่า นั่งรถกันจนตูดชาเลยทีเดียว
คืนนี้เราพักกันที่โรงแรกใกล้ๆโบรโม่ มองไม่เห็นอะไรแล้ว เห็นแต่ดาว
อากาศค่อนข้างเย็น ประมาณ 14 องศา เราจึงรีบแยกย้ายไปนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางตีสามเพื่อไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้น
วันที่ 2
เราเดินทางไปจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่อยู่ใกล้ๆโบรโม่ ชื่ออะไรจำไม่ได้ 5555
ที่นี่พระอาทิตย์จะขึ้นเร็วกว่าบ้านเรา ประมาณ05.30 ก็สว่างแล้ว
ที่เห็นข้างหลังนั่นคือภูเขาไฟโบโม่ เราว่าตรงนี้มันยังไม่ค่อยสุด เพราะพระอาทิตย์มันขึ้นคนละทางกับภูเขาไฟ
ดูตอนตกน่าจะสวยกว่า
เราลงจากตรงจุดชมวิว เพราะอยู่มาจะสองชั่วโมงละ ลมแรงมากน้ำมูกไหลไม่หยุด
สถานีต่อไปคือโบรโม่ ระหว่างทางพี่คนขับก็แวะให้เราถ่ายรูปกับรถจีป
ต่อไปเราจะต้องเดินเพื่อเข้าไปที่บริเวณด้านล่างภูเขาไฟ ระยะทางประมาณ 1 กม. ซึ่งเค้าก็มีม้าให้ขี่นะ แต่พวกเราเลือกที่จะเดิน
จากนั้นเราก็ต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณ 500 ม.
ควรออกกำลังกายมาบ้างพอสมควร 55555
ขึ้นไปถึงข้างบน ทางเดินมันจะเป็นแค่เล็กๆแคบๆ ไม่เหมาะอย่างิ่งสำหรับคนที่กลัวความสูง
ข้างในปล่องจะเป็นเสียงของภูเขาไฟ เค้าบอกว่าเป้นเสียงลมหายใจของเทพเจ้า ให้อธิษฐานแล้วโยนดอกไม้ลงไป
เรากลับไปเช็คเอาท์ที่โรงแรมเพื่อเดินทางต่อไปยังคาวาอีเจี้ยน ระหว่างทางคนขับรถของเราก็ได้แวะน้ำตกอะไรไม่รู้ 55555
ต้องเดินเข้าไปไกลพอสมควร
ออกจากน้ำตกเราก็มุ่งหน้าไปคาวาอีเจี้ยนต่อ กว่าจะถึงก็ค่ำอีกเช่นเคย
คืนนี้เราต้องรีบนอนพักเพราะว่าต้องตื่นตีหนึ่ง
วันที่ 3
เราตื่น 01.00 ใช้เวลาจากที่พักไปคาวาอีเจี้ยนอีกครึ่งชม. แวะเข้าห้องน้ำห้องท่าเรียบร้อย กว่าจะเริ่มออกเดินก็ 02.00
การเดินแบ่งเป็นสองช่วง ในช่วงแรกนั้นจะเป็นทางเดินขึ้นตลอดจนถึงปากปล่องภูเขา จากนั้นจึงลัดเลาะลงไปในปล่อง
รวมแล้วใช้เวลาในการเดินประมาณ 2 ชม.
ลงไปถึงข้างล่างเราเห็นเป็นไฟสีฟ้าๆที่ถูกปกคลุมไปด้วยควัน ไม่รู้จะถ่ายยังไงให้สวยเหมือนในรูปที่เคยเห็นมา 5555
บลูเฟลมมมม
พอฟ้าเริ่มสว่างบลูเฟลมก็จะเริ่มหายไป
เราเดินกลับขึ้นไปข้างบนปากปล่อง เพื่อที่จะลงจากคาวาอีเจี้ยน
(ต้องใส่หน้ากากกันแก๊สด้วย เพราะควันที่ลอยๆอยู่เป็นก๊าซกำมะถัน)
ลงจากอีเจี้ยนแล้วสถานีต่อไปของเราคือเกาะบาหลีโดยนั่งเรือเฟอรี่ข้ามไป
หมดทริปลำบากของเราสักที 55555
สถานที่แรกในบาหลีที่เราจะไปก็คือ Pura Tanah lot
เมืองที่เราจะไปพักกันในคืนนี้คือเมืองอูบุด จะเป็นเหมือนศูนย์กลางของเกาะบาหลี มีตลาด มีร้านอาหาร มีบาร์
หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาสองวัน ก็ได้เวลาผ่อนคลายกันสักหน่อย คืนนี้จะได้กลับสบาย
good night Bali
วันที่ 4
เราตื่นเช้ามาพบกับข่าวร้ายเมื่อเพื่อนเราที่เคยปอดรั่วอาการกำเริบ เราจึงยกเลิกแพลนทั้งหมดละไปโรงพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลที่นี่ค่อนข้างแพง ทำให้เราคิดได้ว่าต่อไปนี้จะไปเที่ยวไหนควรทำประกันการเดินทาง
เราตัดสินใจไปพักผ่อนที่พักที่ใกล้สนามบินเลย ซึ่งก็คือเมืองคูต้า
เราให้เพื่อนนอนพักที่ห้อง ส่วนเราก็ไปเล่นเซิฟกันที่หาดคูต้า ไม่ต้องห่วงว่าจะเล่นไม่เป็น เค้ามีครูสอนให้
หลังเล่นเซิฟเหนื่อยๆ
พระอาทิตย์ตกที่หาดคูต้า
วันที่ 5
วันนี้เป็นวันที่เราต้องเดินทางกลับ มีเที่ยวบินตรงจากบาหลีกลับดอนเมืองเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้ของเรา
ขอให้กระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่วางแผนจะเดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซียไม่มากก็น้อย
ปล.กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย