เลิกกันเพราะคำว่า “เรียนให้จบก่อนค่อยมีแฟน” บทสรุปที่สมควรแล้ว???

เรากับแฟนเลิกกันมาได้3สัปดาห์แล้ว โดยที่คบกันมา5เดือน ระหว่างที่คบกันเราสนิทกันมากแทบไม่ทะเลาะกันเลย มีเรื่องทุกข์ใจก็ปลอบโยนต่อกันให้กำลังใจกันเสมอ เวลาเรียนก็ช่วยกันเรียน คบกันไม่เสียการเรียน ชีวิตดีทุกอย่าง...
แต่แล้ววันนึง แม่แฟนรู้ว่าเราคบกัน เลยบอกให้เลิกๆไปซะ ไว้เรียนให้จบก่อนค่อยมีแฟน....เราไม่รู้นะว่าแฟนเราไปพูดอะไรกับเเม่เค้าบ้าง
เราถามแฟนแฟนก็บอกว่า เเม่จะให้เลิกอย่างเดียว....
และแฟนก็จะทำตามคำบอกของแม่แฟน ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อยากทำให้ครอบครัวเสียใจ และอยากเปิดโอกาสให้เราเจอกับคน
ใหม่ที่ดีกว่าเดิม (เอ้า ก็เรารักคนนี้เท่านั้นจะให้หาใหม่ทำไม?!) แถมบอกด้วยว่าความรักไม่มีอะไรแน่นอนหรอก (เห้ย ที่ผ่านมาเราคบกันผ่านมาได้ด้วยดี เเถมไม่มีอะไรเสียหายด้วย อยากน้อยยังมั่นคงต่อกะนไม่ใช่เหรอ??) เราพยายามหาเหตุเพื่อเปลี่ยนความตั้งใจของแฟนแต่ก็ไม่ได้ผล

เพราะสุดท้ายสิ่งที่แฟนเลือกคือครอบครัวไม่ใช่เรา!!!
เราเสียใจมากถึงมากที่สุด แต่ก็ต้องปล่อยเค้าไปเพราะไม่อยากเป็นตัวปัญหาให้ครอบครัวนั้น
ในภายหลัง.....เเละเรารักเค้ามากด้วยถึงได้เคารพการตัดสินใจของเค้า ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม
คนเรารักกันไม่ใช่คบกันเป็นแฟนกันเท่านั้น แค่เป็นเพื่อนกันรู้สึกดีต่อกันก็พอ เราพยายามคิดเเง่บวกเข้าไว้ แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเลย....
เราไม่ต้องการเพื่อนเพิ่มเข้ามาอีกคน เราต้องการคนรักที่จะอยู่เคียงข้างไปตลอดต่างหาก....

เราอำลาอวยพรชีวิตในวันข้างหน้าต่อกัน  ลบสถานะในเฟสบุ๊ก สุดท้ายบอกว่า “มีอะไรก็ทักหากันได้นะ”
คือทักคุยในสถานะเพื่อนน่ะมันก็ได้แต่ความรู้สึกมันไม่ใช่....
เรื่องราวก็ผ่านมาแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ ตอนนี้เราก็ตั้งใจเรียนกันเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ได้คิดเปิดให้ใครเข้ามาเช่นกัน
....ไม่รู้สิ....เรายังหวังลึกๆว่า เราจะกลับมาคบกันได้อีกครั้ง.....

ในหัวมีคำถามว่า จบแบบนี้สมควรแล้วเหรอ? ทำไมรักกับเรียนถึงไปด้วยกันไม่ได้?
ใครมีประสบการณ์แบบนี้แชร์เล่าสู่กันฟังนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่