เที่ยวโตเกียว "วัดเซนโซจิ"
จองตั๋ว
สำหรับการจองตั๋ว+ที่พักเราจองกับ Expedia เราขอรีวิวเต็ม 5 ให้ ★★★
1. ตั๋วถูก ★★★★★
2. เราขอหักคะแนนเนื่องจากเราเจอปัญหา จาก 5 เลยเหลือแค่ ★★★
พนักงานที่ดูแลเรื่องปัญหาให้เรา บริการพูดจาดี รีบติดต่อเอกสารส่งทางเมลเพื่อให้นำตัวนี้ไปยื่นกับทางธนาคารในการเอาเงินคืนแต่กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็นานพอควร... (เหตุเกิดจาก)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ราคาถูกก็จริงแต่เราเจอปัญหาค่ะ... ไม่รู้ว่าคนอื่นเคยเจอแบบเรามั้ย เรื่องมีอยู่ว่าเรากดยืนยันการจองแล้วมันเด้งว่า error ให้กดใหม่ แนะนำว่าอย่าไปกดใหม่เดี๋ยวจะเป็นแบบเรา โดนหักเงินไป 2 รอบ งง มากพอโทรหาก็บอกว่าทางเขาไม่ได้กดรับเงินตรงนี้ ยังคงค้างอยู่จะได้รับเงินคืนภายใน2-3วัน อาจเป็นการกั๊กเงินไว้ของทางธนาคาร ให้ติดต่อธนาคารดู เราก็ลองติดต่อธนาคารก็บอกว่าเขาไม่สามารถดำเนินการใดๆได้นอกจากทางบริษัทจะทำการกดยกเลิก แล้วก็โทรไปหาบริษัทวนไป-มางี้ค่ะ กว่าจะคุยกันรู้เรื่องหมดเงินค่าโทรศัพท์คอลเซนเตอร์ไปหลายบาท สุดท้ายก็ได้เงินคืนจนได้... **อย่าลืมนะคะถ้าใครจองกับเว็บนี้แล้วมันขึ้น error หรือให้กดซ้ำอย่าไปกดค่ะ
จริงๆ แล้วการจองตั๋วกับนายหน้ามีความเสี่ยง แนะนำให้ตรวจสอบดูรีวิวอะไรต่างๆดีๆนะคะ แนะนำให้เช็คเพื่อความมั่นใจโทรเช็คกับสายการบินด้วยตัวเองอีกรอบ รวมถึงเช็คกับโรงแรมว่ามีการจองจริงหรือไม่ ก่อนเดินทางจะดีกว่า ค่อนข้างยุ่งยากนะ555 เป็นไปได้รีบจองทางเว็บสายการบินโดยตรงเองปลอดภัยล้านเปอร์เซ็น

27/5/2017 เดินทางจากดอนเมือง-นาริตะด้วยสายการบิน AirasiaX ให้ ★★★★
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แอร์หนาวอย่างกับFrozen รู้ว่าอยากขายผ้าห่มแต่แบบใจเย็นเนอะ ลดแอร์อีกหน่อยก็ดี... แต่โดยรวมก็โอเคยกเว้นเรื่องแอร์
เราเดินทางด้วยเที่ยวบิน AE9LPV 23:45 ถึงนู้น 8 โมงเช้า
หลังจากถึงสนามบินกว่าจะได้เช็คอินก็นู้นบ่ายสอง เราจึงแพลนที่เที่ยวแบบแวะเรื่อยๆจนกว่าจะถึงที่พักอ่ะ555
เราพักที่ MY STAYS HOTEL ย่าน Higashi-Ikebukuro และใช้การเดินทางหลักด้วยรถไฟใต้ดิน Keisei Skyliner + Metro
แผนที่รถไฟ METRO ในโตเกียวก็หน้าตาประมาณนี้ ทีนี้จะไปไหนก็ไปตามสายเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มันดูเยอะๆสับสนหน่อยนะ แต่ว่าสะดวกมาก เพราะสถานีส่วนใหญ่ติดกับที่เที่ยวทั้งนั้นเลยเดินไปนิดเดียวเอง
♥ ออกจากนาริตะทาง Terminal2 ขึ้น Keisei Skyliner มาลงปลายทางที่ Ueno ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
ข้างในรถไฟเป็นแบบนี้
วิวระหว่างทางจะสังเกตุว่าชานเมืองรอบนอกไม่ค่อยมีตึกใหญ่ๆน่าอยู่มากๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ่ายผ่านกระจกรถไฟวิ่งเร็วมาก เลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ขออภัย555
อันนี้เป็นชานชลาที่ Ueno ค่ะนั่งสาย G16 ไปลงที่สถานี Asakusa G19 กันเลย
คนเฒ่าคนแก่ที่ญี่ปุ่นแข็งแรงมากค่ะ ไม่ค่อยชอบนั่งกันส่วนใหญ่ชอบยืนมากกว่า โซนนี้เป็นโซนสำหรับสตรีมีครรภ์และคนชรา (แอบถ่ายคิคิ)
เจอนางแบบที่เราชอบอยู่บนรถไฟด้วยค่ะ (โปสเตอร์555) กิโกะน่ารักกกก
1. Asakusa Temple (วัดเซนโซจินั่นเอง)
ถึงแล้ววู้วว!!!
ก่อนไปวัดเราขอแวะร้าน Family mart สักหน่อยยังไม่กินข้าวเช้าเลย555
ระหว่างเดินไปวัดก็เดินไปกินไปค่ะ จะสังเกตุเห็นผู้คนใส่ชุดยูกาตะกัน น่ารักมากเลย
ที่นี่ยังอนุรักษ์วิถีดั่งเดิมกันอยู่ค่ะ เช่น รถแบบใช้คนลาก (เรียกอะไรไม่รู้ขออภัยค่ะ

)
ทางเข้าวัดก็จะมีร้านค้ามากมายเลยค่ะ มีแต่สินค้าดั้งเดิมญี่ปุ่น ถ้าใครชอบกลิ่นอายสไตล์ดั่งเดิมมาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน แต่อย่างที่เห็นมีคนเยอะมากกกก แนะนำให้รีบมาแต่เช้าค่ะ ไม่งั้นคนจะแออัดมากเพราะเป็นวัดดัง ขึ้นชื่อที่ใครๆมาเยียมโตเกียวต้องไม่ลืมที่จะแวะมาวัดแห่งนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ว่ากันว่ามีประวัติยาวนานและเป็นวัดที่มีความเก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว โดยสร้าง เมื่อประมาณปี ค.ศ. 628 ตามตำนานเริ่มจากการที่ชาวประมงสองพี่น้องออกหาปลาทุกวันที่แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) อยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก แต่แล้ววันหนึ่งสองพี่น้องก็จับปลาไม่ได้สักตัว จึงได้อธิษฐานขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้จับปลาได้ พอลองทอดแหดู กลับได้มาเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมทองคำ สูงประมาณ 5 นิ้วแทน ทั้งสองจึงได้นำกลับมาที่หมู่บ้าน เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านได้ทราบเรื่อง ก็ได้ปรับปรุงบ้านของตนแล้วสร้างเป็นวัดเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมเพื่อให้คนได้มาสักการะบชูา เนื่องจากสิ่งที่ขอพรเป็นจริงอยู่เสมอ จึงมีผู้คนจากทั่วสาระทิศเดินทางมาเพื่อสักการะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมนี้
ทางเข้าวัดจะมีโคมแดงใหญ่ๆแบบนี้ และมีอักษรภาษาจีนที่มีความหมายมงคล
ข้างวัดก็จะมีเจดีย์ 9 ชั้น
นี่เป็นตัววัดมีความใหญ่โตและงดงามสไตล์ดั้งเดิม
ภายในประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมทองคำไว้
ตรงกลางจะพบกระถางธูปขนาดใหญ่ ให้อธิฐานแล้วปัดควันใส่หัว
ขวามือจะมีที่ชำระล้างร่างกาย วิธีคือ ล้างมือซ้าย → ล้างมือขวา → ล้างปาก → ล้างมือซ้าย → ล้างกระบวย
ซ้ายมือจะเห็นป้าย “みくじ(Mikuji)” คือ เสี่ยงเซียมซี ถ้าไม่ด่ีให้ผูกไว้ที่เสา
“お礼 お守り (Orei Omamori)” ร้านขายเครื่องราง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราก็ไปสอยมา 1 อันราคา 500 เยนค่ะ เป็นเครื่องรางนำโชคเรื่องการเรียน
หลังจากไหว้พระ ทำกิจกรรมสิริมงคลต่างๆเสร็จแล้วก็อย่าลืมที่จะเดินชมรอบๆวัดกัน
มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายชุดพรีเว้ดดิ้งกันด้วยน่ารักมากเลยค่ะ อิจฉาา
จากตัววัดจะมองเห็นโตเกียวสกายทรีอยู่ตรงข้ามเลยก็ไม่รอช้าที่จะเดินไปถ่ายรูปริมแม่น้ำ และข้างสกายทรีก็มีตึกเบียร์ด้วยค่ะแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้
วิวแถวๆริมน้ำ ก็สวยไม่แพ้กัน มีเรือโดยสารที่มาจากโอไดบะด้วย
อย่าลืมที่จะไปเดินเล่น Nakamise Shopping Street กันด้วยนะคะ ของอร่อยๆ เยอะมาก
ของกินที่ไม่ควรพลาดเวลาไปเซนโซจิคือ ขนมปังจัมโบ้เมล่อนขึ้นชื่อของวัดที่ร้าน คะเก็ทสึโดะ ((花月堂, Kagetsudo) หน้าตาก็จะเป็นแบบนี้ เป็นขนมโบราณ และอร่อยมากค่ะ
สำหรับเที่ยววัดเซนโซจิเราก็ขอรีวิวเพียงเท่านี้ เต็ม 10 ให้ 9★
ติดที่ว่าคนเยอะมากๆ แนะนำให้ไปแต่เช้านะคะจะได้บรรยากาศดีๆ ถ่ายรูปง่าย แถวซอยต่างๆก็มีความเก่าแก่บ้านดั้งเดิม
รวมไปถึงผู้คน หากหาสถานที่ดีๆในการถ่ายรูปกับชุดยูกาตะแนะนำที่นี่เลยจ้า
หวังว่าจะสนุกกันนะคะ ครั้งหน้าเดี๋ยวมาตั้งกระทู้เที่ยวที่อื่นต่อ ฝันดีค่า 
[รีวิว]เที่ยวโตเกียว#1 วัดเซนโซจิ [by PokoPoki]
2. เราขอหักคะแนนเนื่องจากเราเจอปัญหา จาก 5 เลยเหลือแค่ ★★★
พนักงานที่ดูแลเรื่องปัญหาให้เรา บริการพูดจาดี รีบติดต่อเอกสารส่งทางเมลเพื่อให้นำตัวนี้ไปยื่นกับทางธนาคารในการเอาเงินคืนแต่กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็นานพอควร... (เหตุเกิดจาก)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราพักที่ MY STAYS HOTEL ย่าน Higashi-Ikebukuro และใช้การเดินทางหลักด้วยรถไฟใต้ดิน Keisei Skyliner + Metro
แผนที่รถไฟ METRO ในโตเกียวก็หน้าตาประมาณนี้ ทีนี้จะไปไหนก็ไปตามสายเลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้างในรถไฟเป็นแบบนี้
วิวระหว่างทางจะสังเกตุว่าชานเมืองรอบนอกไม่ค่อยมีตึกใหญ่ๆน่าอยู่มากๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้เป็นชานชลาที่ Ueno ค่ะนั่งสาย G16 ไปลงที่สถานี Asakusa G19 กันเลย
คนเฒ่าคนแก่ที่ญี่ปุ่นแข็งแรงมากค่ะ ไม่ค่อยชอบนั่งกันส่วนใหญ่ชอบยืนมากกว่า โซนนี้เป็นโซนสำหรับสตรีมีครรภ์และคนชรา (แอบถ่ายคิคิ)
เจอนางแบบที่เราชอบอยู่บนรถไฟด้วยค่ะ (โปสเตอร์555) กิโกะน่ารักกกก
ถึงแล้ววู้วว!!!
ก่อนไปวัดเราขอแวะร้าน Family mart สักหน่อยยังไม่กินข้าวเช้าเลย555
ระหว่างเดินไปวัดก็เดินไปกินไปค่ะ จะสังเกตุเห็นผู้คนใส่ชุดยูกาตะกัน น่ารักมากเลย
ที่นี่ยังอนุรักษ์วิถีดั่งเดิมกันอยู่ค่ะ เช่น รถแบบใช้คนลาก (เรียกอะไรไม่รู้ขออภัยค่ะ
ทางเข้าวัดก็จะมีร้านค้ามากมายเลยค่ะ มีแต่สินค้าดั้งเดิมญี่ปุ่น ถ้าใครชอบกลิ่นอายสไตล์ดั่งเดิมมาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน แต่อย่างที่เห็นมีคนเยอะมากกกก แนะนำให้รีบมาแต่เช้าค่ะ ไม่งั้นคนจะแออัดมากเพราะเป็นวัดดัง ขึ้นชื่อที่ใครๆมาเยียมโตเกียวต้องไม่ลืมที่จะแวะมาวัดแห่งนี้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทางเข้าวัดจะมีโคมแดงใหญ่ๆแบบนี้ และมีอักษรภาษาจีนที่มีความหมายมงคล
ข้างวัดก็จะมีเจดีย์ 9 ชั้น
นี่เป็นตัววัดมีความใหญ่โตและงดงามสไตล์ดั้งเดิม
ภายในประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมทองคำไว้
ตรงกลางจะพบกระถางธูปขนาดใหญ่ ให้อธิฐานแล้วปัดควันใส่หัว
ขวามือจะมีที่ชำระล้างร่างกาย วิธีคือ ล้างมือซ้าย → ล้างมือขวา → ล้างปาก → ล้างมือซ้าย → ล้างกระบวย
ซ้ายมือจะเห็นป้าย “みくじ(Mikuji)” คือ เสี่ยงเซียมซี ถ้าไม่ด่ีให้ผูกไว้ที่เสา
“お礼 お守り (Orei Omamori)” ร้านขายเครื่องราง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากไหว้พระ ทำกิจกรรมสิริมงคลต่างๆเสร็จแล้วก็อย่าลืมที่จะเดินชมรอบๆวัดกัน
มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายชุดพรีเว้ดดิ้งกันด้วยน่ารักมากเลยค่ะ อิจฉาา
จากตัววัดจะมองเห็นโตเกียวสกายทรีอยู่ตรงข้ามเลยก็ไม่รอช้าที่จะเดินไปถ่ายรูปริมแม่น้ำ และข้างสกายทรีก็มีตึกเบียร์ด้วยค่ะแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้
วิวแถวๆริมน้ำ ก็สวยไม่แพ้กัน มีเรือโดยสารที่มาจากโอไดบะด้วย
อย่าลืมที่จะไปเดินเล่น Nakamise Shopping Street กันด้วยนะคะ ของอร่อยๆ เยอะมาก
ของกินที่ไม่ควรพลาดเวลาไปเซนโซจิคือ ขนมปังจัมโบ้เมล่อนขึ้นชื่อของวัดที่ร้าน คะเก็ทสึโดะ ((花月堂, Kagetsudo) หน้าตาก็จะเป็นแบบนี้ เป็นขนมโบราณ และอร่อยมากค่ะ
ติดที่ว่าคนเยอะมากๆ แนะนำให้ไปแต่เช้านะคะจะได้บรรยากาศดีๆ ถ่ายรูปง่าย แถวซอยต่างๆก็มีความเก่าแก่บ้านดั้งเดิม
รวมไปถึงผู้คน หากหาสถานที่ดีๆในการถ่ายรูปกับชุดยูกาตะแนะนำที่นี่เลยจ้า
หวังว่าจะสนุกกันนะคะ ครั้งหน้าเดี๋ยวมาตั้งกระทู้เที่ยวที่อื่นต่อ ฝันดีค่า