สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขอฝากเนื้อฝากตัวกับสมาชิกทุกท่าน และต้องขออภัยถ้าผมเขียนผิดๆถูกๆ เนื่องด้วยเป็นคนที่ภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรงครับ...
เรื่องทั้งหมดเริ่มจากการที่มีฝันครับ อยากพาแม่เที่ยว.... แม่ผมทํางานทั้งชีวิต ไม่เคยได้หยุดหรือมีโอกาสได้กินได้ใช้เหมือนหลายๆบ้าน แต่แม่ก็พอใจกับสิ่งที่มีเสมอ... แต่ก็จะมีอารมณ์น้อยใจกับโชคชตาบ้างตามภาษา... 5555+
ส่วนผมก็คิดและอยากพาไป และได้สัญญากับแม่ว่า, จะพาไป... ก็ได้แต่เฝ้ารอคําว่าพร้อม... จนกระทั้งเวลาผ่านไปเกือบ 3 ปี... ก็ยังไม่พร้อมซักที จนกระทั้งคิดว่า, ไม่รอพร้อมละ, จะไปก็ไปเลย... 5555+ ตอนนั้นมีเงินในบัญชีอยู่ประมาณ 5-60,000 บาทครับ... ก็เลยตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินเลย 2 ใบ... หาอยู่ซักพัก, ไปเจอสายการบิน Singapore Airline, ตกราคาใบละประมาณ 22,000 บาทครับ (Transit ที่ Singapore ทั้งขาไปและกลับ) ราคาเป็นแบบ non-refundable, ซื้อแล้วหนิ, จะไม่ไปได้ไง ! 😅
ซื้อตั๋วเสร็จ จริงๆกะว่าจะรอวันแม่แล้วค่อยบอก... เผอิญนั่งอยู่ด้วยกัน เก็บไม่ไหว, เลยบอกไป...
ผม: แม่, เราจะไปยุโรปกัน
แม่: ไปสิ, เดี๋ยวแม่ไปเก็บกระเป๋าก่อน (*นึกว่าผมล้อเล่น)
ผม: จริงๆแม่... เราจะไปกันจริงๆ *พร้อมกับให้ดูใบเสร็จในมือถือ
แม่: จริงหรอลูก? *ผมกับรอยยิ้มที่มีความสุข
(รอยยิ้มนั้น ทําให้ผมรู้สึกว่า จํานวนเงินไม่สําคัญเลย เมื่อเปรียบกับความสุขที่เราอยากให้คนที่เรารัก)
ต้องขออนุญาตเล่าเพิ่มว่า, ผมทํางานแบบ freelance ครับ, เงินเข้าออกแบบไม่ตรงตามแผนซักเท่าไหร่... บางเดือนก็ได้, บางเดือนก็บ่นตามสถานการณ์ไป
หลังจากนั่นก็เริ่มเตรียมและวางแผนเดินทาง... ตั๋วที่ผมจองเป็นแบบ
Bangkok - Singapore - Amsterdam (ขาไป)
Zurich - Singapore - Bangkok (ขากลับ)
(ไปทั้งหมด 15 คืน / 16 วัน ครับ) ประเทศที่ไปคือ The Netherlands, Switzerland และ Italy ครับ... เหตุผลที่เลือกพวกนี้คือ 1. ผมเคยได้มีโอกาสไปมาเมื่อก่อน 2. รู้สึกว่าผู้ใหญ่สามารถไปได้ 3. ทั้ง 3 ประเทศนี้มีจุดเด่นไม่เหมือนกันครับ *แต่อันนี้ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ... จริงๆแล้วหลายๆประเทศในยุโรปก็มีดีของแต่ละประเทศเหมือนกันครับ
มาเริ่มเรื่องรายระเอียดกันครับ... ต้องแจ้งว่า, ผมจะไม่ใช้รถแท็กซี่หรือการเช่ารถส่วนตัวใดๆทั้งสิ้น... เน้นรถไฟอย่างเดียวครับ... *วิธีเดินทางก็มีหลายแบบ, ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของแต่ละท่านครับ... อันนี้เป็นเพียงความเห็นของผม, ซึ่งถ้าเพื่อนๆมีวิธีหรือข้อมูลดีๆ มาแชร์กันได้นะครับ....
ผมเริ่มทําการเลือกเมืองที่อยากไปก่อน... สรุปได้ว่าไปตามนี้ครับ:
Amsterdam (The Netherlands) - 2 คืน
Lucerne (Switzerland) - 5 คืน
Rome, Florence, Venice และ Milan (Italy) - 7 คืน
จะเล่าเรื่องความผิดพลาดของผมครับ... ด้วยความที่รีบจองตั๋วเครื่องบิน, ผมไม่ได้เช็คอะไรเลย, และได้ค้นพบว่า... รถไฟหรือกระเช้าสําหรับขึ้นภูเขาหลายสายปิดเพื่อบํารุงรักษาช่วงที่ควรจะต้องไป Switzerland ... และแล้วก็งานเข้า, เลยต้องโยกจากที่จะจบด้วยสวิสแล้วบินกลับกรุงเทพจาก Zurich เลยตามที่ได้จองตั๋วเครื่องบินเอาไว้, กลับกลายเป็นว่าต้องโยกไปเที่ยวสวิสก่อน แล้วค่อยเที่ยวอิตาลี *แล้วก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟแยก จากอิตาลีเพื่อไปสวิสสํบหรับวันที่จะบินกลับกรุงเทพ...
*เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า, อย่าทําอะไรรีบร้อนเหมือนผมครับ.... 5555+
Tip: รถไฟและกระเช้าที่สวิสจะมีการปิดเพื่อบํารุงรักษาปีละ 1-2 ครั้งแล้วแต่สถานที่ ควรเช็คก่อนวางแผนครับ
หลังจากได้เมืองที่จะไปแล้ว, ก็เริ่มหาโรงแรมครับ... ทุกๆโรงแรมที่ผมหา จะอยู่ใกล้ Center Station (สถานีกลางของแต่ละเมือง)ครับ... ส่วนนี้ก็แล้วแต่ชอบ, แต่ผมมองว่า, ลงจากเครื่องบิน, ขึ้นรถไฟ, มาถึงเมือง โรงแรมอยู่ใกล้ๆ, และเดินทางง่าย เพราะหลายๆประเทศในยุโรป สถานีกลางจะมี Metro, Bus, City line และ Airport Link เชื่อมกันหมด... ซึ่งทําให้ง่ายต่อการเดินทางและไม่ต้องลากกระเป๋าไกลครับ... สิ่งที่ผมเล็งก็คือโรงแรมไม่แพงมาก, ขอแค่ดูไม่น่ากลัว, มีห้องนํ้าส่วนตัว เป็นว่าใช้ได้ ... เพราะแม่เข้าห้องนํ้าบ่อย
Tip: โรงแรมในยุโรปมีทั้งแบบ Share และ Private Bathroom ครับ, ควรเช็คดูดีๆก่อนทําการจองครับ
เรื่องโรงแรมใช้เวลาอยู่นานนนนนนนนนน พอสมควรครับ... ประมาณว่า 12-15 วันได้ (ดูวันละ 1-2 ชั่วโมง)... 5555+ คงงงว่าทําไมนาน? อะไรที่ผมตัดสินแล้ว ผมจะทําเร็วมากครับ... ส่วนอะไรที่ผมลังเล โดยเฉพาะถ้ามีตัวเลือก อย่างเช่น ดีพอๆกัน, ราคาไม่ห่างกัน... ผมจะใช้เวลาตัดสินเลือกนานพอสมควรครับ.... 😅
เลร็จเรื่องโรงแรม, ผมก็หันมาจองตั๋วรถไฟและเครื่องบินเพื่อเดินทางระหว่างเมืองและระหว่างประเทศอื่นที่จะไปเลยครับ...
ถ้าในประเทศเช่นอิตาลี ผมจะเลือกนั่งรถไฟข้ามเมืองทั้งหมดครับ... ประหยัดเวลา Check In, โหลดกระเป๋า, เดินในสนามบินและอื่นๆ เพียงแค่เดินไป Center station ก็นั่งไปได้เลย...
ทั้งหมดนี้ผมจองและพยายามจ่ายเลย (เป็นวิธีที่ไม่แนะนําครับ) เพราะผมวัดใจกับคนให้วีซ่า... แพลนเราครบ, จองแล้ว และชัดเจน... คุณก็ต้องให้วีซ่า... 5555+
คือเงินในบัญชีของทั้งผมและแม่มีไม่เยอะครับ.. ซึ่งต้องใช้ statement ย้อนหลัง 6 เดือนในการขอยื่นวีซ่า เลยลองวัดดวงเลยครับ ... 🤣
Tip: ไม่ควรจ่ายค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นก่อนยื่นขอวีซ่า ควรให้วีซ่าผ่านก่อนแล้วค่อยชําระ หรือจองแบบยกเลิกได้ แต่*ราคาจะสูงกว่าแบบ non-refundable
พอจองทุกอย่างเสร็จก็เตรียมทําการยื่นขอวีซ่าเลยครับ... โดยกรณีนี้ ผมต้องไปยื่นที่ VFS - Italy
Tip: การยื่นขอวีซ่า ให้ดูจํานวนวันที่เราอยู่ในแต่ละประเทศ, ให้ไปยื่นของประเทศที่เราอยู่นานสุด ... หรือถ้าจํานวนวันเท่ากัน ให้ยื่นที่ศูนย์ของประเทศแรกที่เราเข้าครับ
*ในกรณีของผม, ผมอยู่อิตาลีนานสุด ก็ไปขอของอิตาลีครับ
เอาหละ! เดี๋ยวผมกลับมาเล่าต่อนะครับ... ส่วนใครมีคําถามอะไรถามได้เลยนะครับ...
พาแม่ท่องยุโรปและรายระเอียดต่างๆ
เรื่องทั้งหมดเริ่มจากการที่มีฝันครับ อยากพาแม่เที่ยว.... แม่ผมทํางานทั้งชีวิต ไม่เคยได้หยุดหรือมีโอกาสได้กินได้ใช้เหมือนหลายๆบ้าน แต่แม่ก็พอใจกับสิ่งที่มีเสมอ... แต่ก็จะมีอารมณ์น้อยใจกับโชคชตาบ้างตามภาษา... 5555+
ส่วนผมก็คิดและอยากพาไป และได้สัญญากับแม่ว่า, จะพาไป... ก็ได้แต่เฝ้ารอคําว่าพร้อม... จนกระทั้งเวลาผ่านไปเกือบ 3 ปี... ก็ยังไม่พร้อมซักที จนกระทั้งคิดว่า, ไม่รอพร้อมละ, จะไปก็ไปเลย... 5555+ ตอนนั้นมีเงินในบัญชีอยู่ประมาณ 5-60,000 บาทครับ... ก็เลยตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินเลย 2 ใบ... หาอยู่ซักพัก, ไปเจอสายการบิน Singapore Airline, ตกราคาใบละประมาณ 22,000 บาทครับ (Transit ที่ Singapore ทั้งขาไปและกลับ) ราคาเป็นแบบ non-refundable, ซื้อแล้วหนิ, จะไม่ไปได้ไง ! 😅
ซื้อตั๋วเสร็จ จริงๆกะว่าจะรอวันแม่แล้วค่อยบอก... เผอิญนั่งอยู่ด้วยกัน เก็บไม่ไหว, เลยบอกไป...
ผม: แม่, เราจะไปยุโรปกัน
แม่: ไปสิ, เดี๋ยวแม่ไปเก็บกระเป๋าก่อน (*นึกว่าผมล้อเล่น)
ผม: จริงๆแม่... เราจะไปกันจริงๆ *พร้อมกับให้ดูใบเสร็จในมือถือ
แม่: จริงหรอลูก? *ผมกับรอยยิ้มที่มีความสุข
(รอยยิ้มนั้น ทําให้ผมรู้สึกว่า จํานวนเงินไม่สําคัญเลย เมื่อเปรียบกับความสุขที่เราอยากให้คนที่เรารัก)
ต้องขออนุญาตเล่าเพิ่มว่า, ผมทํางานแบบ freelance ครับ, เงินเข้าออกแบบไม่ตรงตามแผนซักเท่าไหร่... บางเดือนก็ได้, บางเดือนก็บ่นตามสถานการณ์ไป
หลังจากนั่นก็เริ่มเตรียมและวางแผนเดินทาง... ตั๋วที่ผมจองเป็นแบบ
Bangkok - Singapore - Amsterdam (ขาไป)
Zurich - Singapore - Bangkok (ขากลับ)
(ไปทั้งหมด 15 คืน / 16 วัน ครับ) ประเทศที่ไปคือ The Netherlands, Switzerland และ Italy ครับ... เหตุผลที่เลือกพวกนี้คือ 1. ผมเคยได้มีโอกาสไปมาเมื่อก่อน 2. รู้สึกว่าผู้ใหญ่สามารถไปได้ 3. ทั้ง 3 ประเทศนี้มีจุดเด่นไม่เหมือนกันครับ *แต่อันนี้ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ... จริงๆแล้วหลายๆประเทศในยุโรปก็มีดีของแต่ละประเทศเหมือนกันครับ
มาเริ่มเรื่องรายระเอียดกันครับ... ต้องแจ้งว่า, ผมจะไม่ใช้รถแท็กซี่หรือการเช่ารถส่วนตัวใดๆทั้งสิ้น... เน้นรถไฟอย่างเดียวครับ... *วิธีเดินทางก็มีหลายแบบ, ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของแต่ละท่านครับ... อันนี้เป็นเพียงความเห็นของผม, ซึ่งถ้าเพื่อนๆมีวิธีหรือข้อมูลดีๆ มาแชร์กันได้นะครับ....
ผมเริ่มทําการเลือกเมืองที่อยากไปก่อน... สรุปได้ว่าไปตามนี้ครับ:
Amsterdam (The Netherlands) - 2 คืน
Lucerne (Switzerland) - 5 คืน
Rome, Florence, Venice และ Milan (Italy) - 7 คืน
จะเล่าเรื่องความผิดพลาดของผมครับ... ด้วยความที่รีบจองตั๋วเครื่องบิน, ผมไม่ได้เช็คอะไรเลย, และได้ค้นพบว่า... รถไฟหรือกระเช้าสําหรับขึ้นภูเขาหลายสายปิดเพื่อบํารุงรักษาช่วงที่ควรจะต้องไป Switzerland ... และแล้วก็งานเข้า, เลยต้องโยกจากที่จะจบด้วยสวิสแล้วบินกลับกรุงเทพจาก Zurich เลยตามที่ได้จองตั๋วเครื่องบินเอาไว้, กลับกลายเป็นว่าต้องโยกไปเที่ยวสวิสก่อน แล้วค่อยเที่ยวอิตาลี *แล้วก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟแยก จากอิตาลีเพื่อไปสวิสสํบหรับวันที่จะบินกลับกรุงเทพ...
*เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า, อย่าทําอะไรรีบร้อนเหมือนผมครับ.... 5555+
Tip: รถไฟและกระเช้าที่สวิสจะมีการปิดเพื่อบํารุงรักษาปีละ 1-2 ครั้งแล้วแต่สถานที่ ควรเช็คก่อนวางแผนครับ
หลังจากได้เมืองที่จะไปแล้ว, ก็เริ่มหาโรงแรมครับ... ทุกๆโรงแรมที่ผมหา จะอยู่ใกล้ Center Station (สถานีกลางของแต่ละเมือง)ครับ... ส่วนนี้ก็แล้วแต่ชอบ, แต่ผมมองว่า, ลงจากเครื่องบิน, ขึ้นรถไฟ, มาถึงเมือง โรงแรมอยู่ใกล้ๆ, และเดินทางง่าย เพราะหลายๆประเทศในยุโรป สถานีกลางจะมี Metro, Bus, City line และ Airport Link เชื่อมกันหมด... ซึ่งทําให้ง่ายต่อการเดินทางและไม่ต้องลากกระเป๋าไกลครับ... สิ่งที่ผมเล็งก็คือโรงแรมไม่แพงมาก, ขอแค่ดูไม่น่ากลัว, มีห้องนํ้าส่วนตัว เป็นว่าใช้ได้ ... เพราะแม่เข้าห้องนํ้าบ่อย
Tip: โรงแรมในยุโรปมีทั้งแบบ Share และ Private Bathroom ครับ, ควรเช็คดูดีๆก่อนทําการจองครับ
เรื่องโรงแรมใช้เวลาอยู่นานนนนนนนนนน พอสมควรครับ... ประมาณว่า 12-15 วันได้ (ดูวันละ 1-2 ชั่วโมง)... 5555+ คงงงว่าทําไมนาน? อะไรที่ผมตัดสินแล้ว ผมจะทําเร็วมากครับ... ส่วนอะไรที่ผมลังเล โดยเฉพาะถ้ามีตัวเลือก อย่างเช่น ดีพอๆกัน, ราคาไม่ห่างกัน... ผมจะใช้เวลาตัดสินเลือกนานพอสมควรครับ.... 😅
เลร็จเรื่องโรงแรม, ผมก็หันมาจองตั๋วรถไฟและเครื่องบินเพื่อเดินทางระหว่างเมืองและระหว่างประเทศอื่นที่จะไปเลยครับ...
ถ้าในประเทศเช่นอิตาลี ผมจะเลือกนั่งรถไฟข้ามเมืองทั้งหมดครับ... ประหยัดเวลา Check In, โหลดกระเป๋า, เดินในสนามบินและอื่นๆ เพียงแค่เดินไป Center station ก็นั่งไปได้เลย...
ทั้งหมดนี้ผมจองและพยายามจ่ายเลย (เป็นวิธีที่ไม่แนะนําครับ) เพราะผมวัดใจกับคนให้วีซ่า... แพลนเราครบ, จองแล้ว และชัดเจน... คุณก็ต้องให้วีซ่า... 5555+
คือเงินในบัญชีของทั้งผมและแม่มีไม่เยอะครับ.. ซึ่งต้องใช้ statement ย้อนหลัง 6 เดือนในการขอยื่นวีซ่า เลยลองวัดดวงเลยครับ ... 🤣
Tip: ไม่ควรจ่ายค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นก่อนยื่นขอวีซ่า ควรให้วีซ่าผ่านก่อนแล้วค่อยชําระ หรือจองแบบยกเลิกได้ แต่*ราคาจะสูงกว่าแบบ non-refundable
พอจองทุกอย่างเสร็จก็เตรียมทําการยื่นขอวีซ่าเลยครับ... โดยกรณีนี้ ผมต้องไปยื่นที่ VFS - Italy
Tip: การยื่นขอวีซ่า ให้ดูจํานวนวันที่เราอยู่ในแต่ละประเทศ, ให้ไปยื่นของประเทศที่เราอยู่นานสุด ... หรือถ้าจํานวนวันเท่ากัน ให้ยื่นที่ศูนย์ของประเทศแรกที่เราเข้าครับ
*ในกรณีของผม, ผมอยู่อิตาลีนานสุด ก็ไปขอของอิตาลีครับ
เอาหละ! เดี๋ยวผมกลับมาเล่าต่อนะครับ... ส่วนใครมีคําถามอะไรถามได้เลยนะครับ...