ธอร์ภาค 3 ที่กลายมาเป็นจุดยืนยันชัดเจนว่าธอร์ล้มเหลวสิ้นเชิงในฐานะหนังฮีโรที่จะยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง และมีค่าเพียงแค่เป็นตัวประกอบให้หนังมาร์เวลเรื่องอื่นๆ จากที่ภาคแรกพอจะดูมีสง่าราศีกับเขาบ้าง พอมาภาค 2 เริ่มแสดงปัญหาว่าดันไม่ขึ้น พอมาภาค 3 เลยเปลี่ยนแนว เปลี่ยนธีมสไตล์ให้มีสีสันสดใสเหมือนวิดีโอเกมย้อนยุค รวมถึงลดทอนปมดรามาออกไปให้หมด แล้วใส่มุกตลกเบาสมองและอาจจะเบาปัญญาเข้ามาให้เต็มเรื่อง แล้วแปะยี่ห้อมาร์เวลหลอกขายคนดูไปอีกเรื่อง

สีสันที่แปลกใหม่ของเรื่องก็ดูดีในโฆษณานะ แต่พอมาในหนังแล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะว่าเนื่อเรื่อง และบทหนังมันกลวงแทบไม่ต่างจากตลกคาเฟ ที่แค่เอาตัวละครอย่างธอร์และฮัลค์มาเจอกัน แล้วทำท่าตลก ทำท่าน่ารัก เข้าหากัน ตลอดเรื่อง มุกตลกก็ฝืดซะส่วนใหญ่ ทำได้แค่หัวเราะแหะๆ มุกตลกเด็ดๆพอมีบ้าง แต่ก็ดันไม่ตลก เพราะถูกมุกตลกฝืดๆทำเสียบรรยากาศไปแล้ว และมุกตลกห่วยๆเหล่านี้ ทำให้ธอร์และฮัลค์เสียราคาในฐานะพระเอกฮีโรของมาร์เวลไปเยอะ

ฉากแอคชันก็เน้นเอฟเฟคหลอกคนดูสไตล์มาร์เวล แต่เหมือนไม่ได้มีคิวบู๊หรือการออกแบบฉากต่อสู้อะไรให้คนดูได้ลุ้นเลย ข้อดีบางอย่างของหนังคงอยู่ที่ตัวร้าย เทพแห่งความตาย ที่รับบทโดย เคท แบลนเช็ท ที่ดูดีกว่าตัวร้ายคนอื่นๆของมาร์เวลหน่อย แต่เธอก็ไม่ได้แสดงแบบทุ่มเทหรือน่าประทับใจอะไรมาก บวกกับเนื่อเรื่องแย่ๆก็ไม่ได้ทำให้เธอมีโอกาสโชว์ฝีมืออะไรเท่าไร

ให้แค่ผ่านนะ ยังไงหนังมาร์เวลก็ยังพอดูขำๆ แก้เบื่อได้อยู่

2 ดาวครึ่ง


ติดตามแฟนเพจสารวัตรโรงหนังกันได้นะครับ ตามลิงค์นี้ https://www.facebook.com/moviepolice

รีวิวหนังตามความจริง ไม่มีรับเงินจากค่ายหนัง ต้องสารวัตรโรงหนังเท่านั้น