HAMBURGER ชวนนางเอกสาวหน้าหวาน มิว-นิษฐา มาคุยเกี่ยวกับการรับบทร้ายครั้งแรก ‘มิ่งหล้า’ ซึ่งได้รับคำชมอย่างท่วมท้น ในละครเรื่อง รากนคราที่เพิ่งลาจอไป และถ่ายแฟชั่นเซทท่ามกลางดอกไม้ พร้อมนาฬิกา ALBA

ขอนำบทสัมภาษณ์บางส่วนมาลงให้แฟนๆได้อ่านด้วยค่ะ
• ตอนอยู่ในกองถ่าย รากนครา ได้เรียนรู้เรื่องอะไรบ้าง?
“การได้มาเล่นละครเรื่องนี้ทำให้มิวได้พัฒนาหลายอย่างมากเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องการแสดง ที่ได้เรียนรู้เรื่องการปรับวิธีคิดให้เข้ากับคาแร็กเตอร์ เพราะก่อนหน้านี้มิวไม่เคยรับบทร้ายมาก่อน จึงต้องใช้เวลาปรับวิธีคิดอยู่พักหนึ่ง ซึ่งมิวก็ได้คำแนะนำจากพี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ผู้กำกับ และพี่ๆ นักแสดงในกองหลายๆ คนค่ะ”
• คิดนานไหมกว่าจะตอบตกลงเล่นบทร้ายใน รากนครา?
“ตัดสินใจไม่ยากเลยค่ะ มิวอยากเล่นบทร้ายๆ แบบนี้อยู่แล้วด้วย อีกอย่างก็อยากทำงานร่วมกับพี่อ๊อฟอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องจะเล่นหรือไม่เล่นนั้นไม่ได้เก็บเอามาคิดเลยค่ะ ยังไงก็เล่นอยู่แล้ว เพราะบทแบบนี้ไม่ได้เข้ามากันบ่อยๆ (หัวเราะ) จะมีคิดมากและเครียดเรื่องการพูดภาษาเหนือมากกว่า เพราะเราเองก็พูดไม่ได้ด้วย เลยกังวลว่าจะพูดออกมาได้ดีแค่ไหน ถ้าพูดสำเนียงไม่ดี แล้วคนดูจะอินกับบทของเราไหม แต่มิวก็พยายามไม่เครียด เพราะความเครียดจะทำให้รู้สึกกดดันและการแสดงจะไม่ไหลลื่น อย่างตอนเปิดกล้องมาคิวแรกๆ ขนาดพูดประโยคสั้นๆ ยังพูดผิดๆ ถูกๆ เพราะเรามัวแต่กังวลเรื่องภาษามากเกินไป อารมณ์ก็ไม่มา ทุกอย่างเลยพังหมดเลย ต้องมาเริ่มกันใหม่อีกครั้ง แต่พอเลิกกังวลเรื่องภาษาแล้ว ทุกอย่างก็ไหลลื่นไปตามปกติ สำเนียงอาจไม่ได้ก็จริง แต่ก็ส่วนตัวก็ถือว่าพึงพอใจในระดับหนึ่ง
มิวอยากเล่นบทร้ายอยู่แล้วหรือเปล่า?
“อยากเล่นมานานแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะพี่อ๊อฟด้วย ที่ทำให้มิวตอบรับมาเล่นเรื่องนี้ ถ้าเป็นผู้กำกับคนอื่นมิวอาจจะต้องคิดดูอีกทีแน่นอน เพราะมิวรู้สึกว่าการจะเปลี่ยน ไปเล่นคาแร็กเตอร์ใหม่มากๆ มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ถ้าเจ๊งก็อาจจะเจ๊งยาวไปเลย แต่มิวคิดว่ายังไงพี่อ๊อฟก็น่าจะเอาเราอยู่ พาเราไปรอดกับคาแร็กเตอร์ใหม่แน่นอน เป็นเรื่องของความมั่นใจในตัวผู้กำกับล้วนๆ เลยค่ะ เพราะตอนแรกก็แอบมีความไม่มั่นใจในตัวเองที่ต้องมาเล่นบทนี้เหมือนกัน”
อยากให้ลองประเมินผลงานการแสดงตลอด 5 ปีที่ผ่านมาของมิวให้ฟังสักหน่อย?
“ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองนะคะ แต่มิวรู้สึกว่าตัวเองโตและเก่งขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะมิวเริ่มต้นอาชีพนักแสดงจากศูนย์ ไม่เคยเรียนและไม่คิดว่าตัวเองจะเข้าทำงานด้านการแสดงเลย พอมองกลับไปในวันแรกๆ ของอาชีพนักแสดง แล้วหันมาดูตัวเองในวันนี้ ก็เห็นได้ชัดเลยว่าตัวเองมีพัฒนาการกว่าเดิมเยอะมาก ถ้าต้องให้คะแนนตัวเองเต็ม 10 มิวคิดว่าตอนนี้น่าจะได้สัก 5 แล้ว ขอให้ตัวเองปีละคะแนนก็แล้วกันค่ะ (หัวเราะ)”
• เป็นนักแสดงมา 5 ปีแล้วยังไม่มั่นใจในการแสดงของตัวเองอีกเหรอ?
“สำหรับมิว 5 ปีก็ไม่ได้เยอะนะคะ ถือว่าใหม่อยู่ประมาณหนึ่งเลยแหละ เพราะเมื่อก่อนมิวเป็นเด็กที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย เป็นเด็กขี้อาย รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นจุดเด่น อย่างเวลาทำงานกลุ่มสมัยมัธยมฯ ก็จะเป็นคนลงมือทำ แต่จะไม่ออกไปพรีเซ็นต์หน้าห้องเด็ดขาด เพราะเวลาออกไปยืนแบบนั้นเราจะสั่นมากและอายมาก”
• ตอนนั้นไม่รู้จริงๆ เหรอว่าตัวเองน่ารักขนาดไหน?
“(ยิ้ม)
เมื่อก่อนก็มีคนชมเหมือนกันว่าน่ารัก แต่มิวก็ไม่ได้มองว่าตัวเองสวยนะ คือไม่ได้คิดว่า ตัวเองขี้เหร่ รู้สึกว่าเป็นคนหน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังคิดแบบนั้นนะ (หัวเราะ)”
✿มิว-นิษฐา✿:ถ่ายแฟชั่นเซตท่ามกลางดอกไม้พร้อมนาฬิกาALBA ใน "HAMBURGER MAGAZINE"
ขอนำบทสัมภาษณ์บางส่วนมาลงให้แฟนๆได้อ่านด้วยค่ะ
• ตอนอยู่ในกองถ่าย รากนครา ได้เรียนรู้เรื่องอะไรบ้าง?
“การได้มาเล่นละครเรื่องนี้ทำให้มิวได้พัฒนาหลายอย่างมากเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องการแสดง ที่ได้เรียนรู้เรื่องการปรับวิธีคิดให้เข้ากับคาแร็กเตอร์ เพราะก่อนหน้านี้มิวไม่เคยรับบทร้ายมาก่อน จึงต้องใช้เวลาปรับวิธีคิดอยู่พักหนึ่ง ซึ่งมิวก็ได้คำแนะนำจากพี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ผู้กำกับ และพี่ๆ นักแสดงในกองหลายๆ คนค่ะ”
• คิดนานไหมกว่าจะตอบตกลงเล่นบทร้ายใน รากนครา?
“ตัดสินใจไม่ยากเลยค่ะ มิวอยากเล่นบทร้ายๆ แบบนี้อยู่แล้วด้วย อีกอย่างก็อยากทำงานร่วมกับพี่อ๊อฟอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องจะเล่นหรือไม่เล่นนั้นไม่ได้เก็บเอามาคิดเลยค่ะ ยังไงก็เล่นอยู่แล้ว เพราะบทแบบนี้ไม่ได้เข้ามากันบ่อยๆ (หัวเราะ) จะมีคิดมากและเครียดเรื่องการพูดภาษาเหนือมากกว่า เพราะเราเองก็พูดไม่ได้ด้วย เลยกังวลว่าจะพูดออกมาได้ดีแค่ไหน ถ้าพูดสำเนียงไม่ดี แล้วคนดูจะอินกับบทของเราไหม แต่มิวก็พยายามไม่เครียด เพราะความเครียดจะทำให้รู้สึกกดดันและการแสดงจะไม่ไหลลื่น อย่างตอนเปิดกล้องมาคิวแรกๆ ขนาดพูดประโยคสั้นๆ ยังพูดผิดๆ ถูกๆ เพราะเรามัวแต่กังวลเรื่องภาษามากเกินไป อารมณ์ก็ไม่มา ทุกอย่างเลยพังหมดเลย ต้องมาเริ่มกันใหม่อีกครั้ง แต่พอเลิกกังวลเรื่องภาษาแล้ว ทุกอย่างก็ไหลลื่นไปตามปกติ สำเนียงอาจไม่ได้ก็จริง แต่ก็ส่วนตัวก็ถือว่าพึงพอใจในระดับหนึ่ง
มิวอยากเล่นบทร้ายอยู่แล้วหรือเปล่า?
“อยากเล่นมานานแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะพี่อ๊อฟด้วย ที่ทำให้มิวตอบรับมาเล่นเรื่องนี้ ถ้าเป็นผู้กำกับคนอื่นมิวอาจจะต้องคิดดูอีกทีแน่นอน เพราะมิวรู้สึกว่าการจะเปลี่ยน ไปเล่นคาแร็กเตอร์ใหม่มากๆ มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ถ้าเจ๊งก็อาจจะเจ๊งยาวไปเลย แต่มิวคิดว่ายังไงพี่อ๊อฟก็น่าจะเอาเราอยู่ พาเราไปรอดกับคาแร็กเตอร์ใหม่แน่นอน เป็นเรื่องของความมั่นใจในตัวผู้กำกับล้วนๆ เลยค่ะ เพราะตอนแรกก็แอบมีความไม่มั่นใจในตัวเองที่ต้องมาเล่นบทนี้เหมือนกัน”
อยากให้ลองประเมินผลงานการแสดงตลอด 5 ปีที่ผ่านมาของมิวให้ฟังสักหน่อย?
“ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองนะคะ แต่มิวรู้สึกว่าตัวเองโตและเก่งขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะมิวเริ่มต้นอาชีพนักแสดงจากศูนย์ ไม่เคยเรียนและไม่คิดว่าตัวเองจะเข้าทำงานด้านการแสดงเลย พอมองกลับไปในวันแรกๆ ของอาชีพนักแสดง แล้วหันมาดูตัวเองในวันนี้ ก็เห็นได้ชัดเลยว่าตัวเองมีพัฒนาการกว่าเดิมเยอะมาก ถ้าต้องให้คะแนนตัวเองเต็ม 10 มิวคิดว่าตอนนี้น่าจะได้สัก 5 แล้ว ขอให้ตัวเองปีละคะแนนก็แล้วกันค่ะ (หัวเราะ)”
• เป็นนักแสดงมา 5 ปีแล้วยังไม่มั่นใจในการแสดงของตัวเองอีกเหรอ?
“สำหรับมิว 5 ปีก็ไม่ได้เยอะนะคะ ถือว่าใหม่อยู่ประมาณหนึ่งเลยแหละ เพราะเมื่อก่อนมิวเป็นเด็กที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย เป็นเด็กขี้อาย รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นจุดเด่น อย่างเวลาทำงานกลุ่มสมัยมัธยมฯ ก็จะเป็นคนลงมือทำ แต่จะไม่ออกไปพรีเซ็นต์หน้าห้องเด็ดขาด เพราะเวลาออกไปยืนแบบนั้นเราจะสั่นมากและอายมาก”
• ตอนนั้นไม่รู้จริงๆ เหรอว่าตัวเองน่ารักขนาดไหน?
“(ยิ้ม) เมื่อก่อนก็มีคนชมเหมือนกันว่าน่ารัก แต่มิวก็ไม่ได้มองว่าตัวเองสวยนะ คือไม่ได้คิดว่า ตัวเองขี้เหร่ รู้สึกว่าเป็นคนหน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังคิดแบบนั้นนะ (หัวเราะ)”