สืบเนื่องจากเมื่อวานเดินเยอะมาก เลยเพลียสลบตื่นมาซักผ้าอาบน้ำกินข้าว แล้วก็ออกเดินทาง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลา 11.00 น. T^T งงตัวเองว่ามาเที่ยวหรือมานอน แต่ไหนๆก็ตื่นมาละ ไปต่อกันเลยดีกว่าครับกับ...
ตอนที่ 1.2
Taipei City Tour

เช้านี้ผมตั้งใจจะไปไหว้พระขอพรที่วัด Longshan โดยจากที่พักผมโดยสารรถประจำทางสาย 601 ไปลงที่ Wanhua station แล้วเดินเอาหน่อยนึง จริงๆมาทาง MRT ก็ได้นะครับแต่ผมขี้เกียจต่อรถไฟ แล้วก็รถเมล์แค่ 15 NT$ เอง แถมได้นั่งชมเมืองไปเรื่อยๆ

ระหว่างเดินไปป้ายรถเมล์ก็เจอกับเด็กน้อยกลุ่มนี้มาใน ธีม Halloween น่าร๊ากกกกก!

ต้องบอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยอินกับวัดแต่ก็อยากไปถ่ายรูป ไปเห็นสักครั้ง วัดนี้สถาปัตยกรรมคล้ายกับวัดจีนทั่วๆไป แต่ผสมกลิ่นอายญี่ปุ่นนิดๆ และทราบมาว่าเป็นวัดที่ชาวไต้หวันเคารพและศรัทธาอย่างมาก ก่อนออกจากวัดสามารถซื้อเครื่องรางเสริมดวงได้ด้วยน้าาา คล้ายๆญี่ปุ่นเลยครับ มีทั้งเรื่องงาน สุขภาพ ความรัก ลองไปต่อแถวซื้อกันดูนะครับ

พอถ่ายรูปเสร็จแล้ว(ใช้เวลาเร็วมาก) ก็ไปเดินเที่ยวในตลอกตลาดสดข้างวัดกะจะหาอะไรกินที่นั่นแต่ก็ไม่มีร้านถูกใจเลยคิดว่าไปหากินเอาข้างหน้าแล้วกัน

จากวัด Longshan ผมตัดสินใจไป check in ที่ Chiang Kai Shek memorial hall จากใน map บอกว่าเพียงแค่ 2 กิโลเมตรเลยตัดสินใจเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเราก็ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมกลางเมืองของกรุงไทเปไปพลางๆ
สืบเนื่องจากเมื่อคืนลืมตามหาตึกแดงที่ Ximending เลยเอาตึกนี้แทนละกันเนอะ!

ป้อมประการอะไรสักอย่างคล้ายๆที่เกาหลีเลย

Taipei สะอาดและร่มรื่นมากครับ (อยากให้ กทม สวยแบบนี้บ้างจัง)

จนมาถึงจุดหมายปลายทางในบ่ายนี้ จัตุรัสขนาดใหญ่ กลางเมือง Taipei
Chiang Kai-shek Memorial Hall

ระหว่างเดินเที่ยวรอบๆลานกว้างบริเวณหน้า Memorial Hall ก็สังเกตเห็นคู่รัก LGBT มาถ่ายรูปสวีทกันเยอะมาก ก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมไต้หวันดูเยอะและเปิดเผยจัง มาถึงบางอ้อก็ตอนเดินออกมาทางด้านหน้าซุ้มประตู ออกมาก็เจอกับขบวนพาเหรดของกลุ่ม LGBT ถึงทำให้ทราบว่าวันนี้ที่ Taipei จัดงาน Taipei Gay Pride 2017 ขบวนพาเหรดเคลื่อนไปตามถนนใหญ่มาก มีการปิดถนนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาร่วมเดินขบวน

หลังจากยืนชมขบวนพาเหรดได้สักพัก ก็ถึงเวลาที่เราต้องไปจุดต่อไป คือ
Huashan 1914 creative park
ผมขึ้นรถเมล์อีกเช่นเคย แต่หากใครจะโดยสาร MRT ก็ให้โดยสาร MRT Blue Line (Bannan Line) แล้วมาลงที่ Zhong Xiao Xing Sheng Station ออก Exit 1 ได้เช่นกันครับ
สถานที่แห่งนี้จะมีผู้คนมาโชว์ความเฟี้ยวกัน มีลานกิจกรรม อาคารแสดงสินค้า โดยอาคารที่นี่จะแทรกความ creative เอาไว้ในทุกซอกทุกมุม

เดินชมการแสดงจนเพลินเกือบลืมไปว่ายังมี อีกตั้ง 2 check point เลยต้องรีบเดินไปหน้าห้างฝั่งตรงข้ามเพื่อขึ้นรถเมล์ไปลงที่
Sun Yat-sen Memorial Hall

ถ่ายรูปพอหอมปากหอมคอ ก็ต้องรีบไปต่อ โดยเดินทะลุ Sun Yat-sen Memorial Hall เข้าไป อีกฝั่งนึงจะมีป้ายรถเมล์ สาย 266 หรือ 288 shuttle เราก็ขึ้น แล้วไปลงที่ป้าย Wu Xing Elementary School (Song Ren) ซึ่งอยู่ตีนเขาเลยครับ เดินข้าม 4 แยกไปฝั่ง 7/11 แล้วตรงขึ้นไปก็จะถึงจุดเริ่มต้นของเส้นทางครับ
จุดชมวิวจะมี 2 level
1. ที่ 350 เมตร
2. ที่ 450 เมตร
สำหรับผมเลือกไปมัน 2 จุดเลยครับ แค่จุดแรกก็หอบแล้ววว 😂😂😂 แต่พกเครื่องดื่มชูกำลังมาด้วย จุดนี้สู้ตายย แต่......เอ๊ะ......เดี๋ยวก่อน...... ลืมยาดมมมม 😭😭😭
วิวจาก Level 1

ส่วนใครไหวอันไหนก็ตามนั้นครับ จุดที่ 2 จะเป็นจุดที่มีก้อนหินต่อคิวอยู่ครับ คิวยาวมาก ยอมแพ้ (จริงๆไม่มีคนถ่ายรูปให้ 555)
Level 2 มี 2 จุดชมวิว จุดแรกคือบริเวณโขดหิน

ช่วงพลบค่ำวิวจะสวยเป็นพิเศษแบบนี้

หลังจากชื่นชมวิวเสร็จแล้วก็ถึงเวลาลง ชิวๆๆๆๆ เข่าจะพัง 555 เอาจริงๆ ไม่เหนื่อยมากครับพอรับได้วิวสวย เห็นแล้วก็หายเหนื่อยละครับ 555++
หลังจากวันนี้ทำสถิติเดินมาราธอนตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เป็นเวลา 19.00 น. ร่างกายก็เพรียกหาอาหาร ผมจึงเซิสหา Night Market ไกล้ๆก็พบว่ามีอันที่น่าสนใจอยู่ คือ
Roahe Night Market

การเดินทาง : โดยสาร MRT มาลง MRT Songshan Station หรือถ้าใครจะนั้งรถบัสหลังจากลงเขาก็ทำได้โดย ลงมาที่ตีนเขา แล้วรอรถบัสสาย 266 ที่ป้ายตรงข้ามโรงเรียน Wu Xing Elementary School คือป้ายเดิมที่เราลงตอนแรกนั่นแหละ หรือถ้าไม่อยากข้ามถนนหลังลงเขา ก็ให้ยืนรอรถตรงข้ามป้ายที่เราลง เพราะรถบัสสาย 266 มันจะไปยูเทิร์นกลับมารับฝั่งตรงข้ามอยู่ดี ไอเราก็ไม่รู้ตาลีตาเหลือกจะไปขึ้นฝั่งตรงข้ามให้ทัน ขี้เกียจรอนาน ขึ้นรถเจอหน้าคนขับ คุณลุงพูดภาษาจีนบอกประมาณว่ารอตรงนั้นก็ได้ จะวิ่งมาเพื่ออออออ T^T ก็หนูไม่รู้นี่นาาาาาา หลังจากนั้นนั่งมาลงที่ป้าย City Government แล้วข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามจะเจอป้ายรถบัสคันถัดไปที่เราจะโดยสายคือบัสสาย 611 แล้วไปลงที่ป้าย Songshan Station เช่นกัน ครับ ตามนี้เด้ออออ

มาถึงก็ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามที่มีวัดสวยๆอยู่ ตลาดอยู่ตรงนั้นเลย คึกคักมากกกกกกก

ก้าวข้ามประตูมาก็เจอด่านแรกเลยครับ คนต่อคิวกันยาวมากกับซาลาเปาร้านดัง แต่ผมขี้เกียจรอ แล้วก็ลองที่อื่นมาแล้วขอผ่านครับ

วันนี้คนแน่นมากกกกก ไม่รู้วันอื่นเป็นแบบนี้มั๊ยย ฟิลลิ่งตลาดนี้จะดู เล็ก และ Local กว่า Shilin Night Market เน้นไปทางของกินมากกว่าช๊อปปิ้ง ส่วนตัวผมชอบที่นี่มากกว่า ไม่ใหญ่จนเกินไป เดินวนไปกลับก็กำลังพอดี

เดินมาก็เยอะละ หิวมากด้วย มารีวิวอาหารกันดีกว่า ต่อไปนี้เป็นอาหารที่ผมเห็นว่ามันน่าลองเมื่อมาตลาดนี้นะครับ จริงๆมีอีกหลายอย่างที่อยากลองแต่อิ่มมากกกก ไปดูกันเลยดีกว่า
ไส้กรอกคอไก่ (รึเปล่านะ) : อร่อยดีอันนี้ผ่านครับ อ้วนๆ

คอหมูย่าง : ผ่านเช่นกันครับ แต่บ้านเราหร่อยที่สุดด

เสี่ยวหลงเปาทอด : อันนี้ก็อร่อยยยย

ต่อกันด้วย ป๋วยเล้ง ไต้หวัน ทานกับข้าว : น้ำซุปยาจีนครับ เนื้อกระดูกเปื่อย อร่อยแบบจีนๆครับ ทานคู่กับซอสพริกของทางร้านช่วยเพิ่มความอร่อยได้ครับ

อันนี้วันที่ไปตลาด Shilin Night Market ไม่กล้าลองเพราะเดินผ่านแล้วกลิ่นแบบเหม็นมาก เหมือนขี้ไก่ ไม่ไหวจริงๆ แต่ร้านนี้พอเดินผ่านกลิ่นไม่แรงมาก เลยอยากลองสักครั้ง สรุป อร่อยจร้าาาา 555 ชอบๆ เนื้อสัมผัสแน่นกว่าเต้าหู้ทอดของไทย แต่ในใจอยากได้น้ำจิ้มถั่วของไทยมากินแทน 5555

คือถ้าจะกินต่อจากทั้งหมดนี้ก็คงจะท้องแตกตาย จริงๆอยากลองหอยทอดไต้หวันด้วยแต่ไม่ไหวละเลยขอตัดจบของคาวด้วยของหวานกันเลยครับ

ขนมถังแตก peanut butter : อร่อยยยย หอมเนยถั่วมาก

ตัดเลี่ยนด้วยน้ำชาวุ้นมะนาว(น้ำกบ 555)

และแล้วก็จบไปอีก 1 วันในไต้หวันครับ อิ่มมากกก อิ่มที่สุด เกินคำว่ากิน อิ่มแล้วก็เหนื่อยมากเลยครับวันนี้ เลยตรงกลับที่พักทันที โดยรถบัสอีกตามเคย ผมว่านั้งบัสสะดวกกว่ารถไฟอีกนาาา ไม่ต้องเดินไกล ประหยัดกว่าด้วย แล้วการใช้ google map ในการค้นหาเส้นทางโดยรถบัสก็สะดวกและแม่นยำมากๆ เลยครับ วันนี้ขอตัวลาไปก่อน เจอกันพรุ่งนี้กับวันสุดท้ายใน Taipei เพราะตอนบ่ายเราจะเหินฟ้าไปยัง Busan ประเทศเกาหลีไต้กันครับ สำหรับคืนนี้ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ ครับทุกคนนนน
มหากาพย์ 20 วัน เที่ยว ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น แบบเรียลๆ ที่ใครก็เที่ยวได้ EP.3
ตอนที่ 1.2
Taipei City Tour
เช้านี้ผมตั้งใจจะไปไหว้พระขอพรที่วัด Longshan โดยจากที่พักผมโดยสารรถประจำทางสาย 601 ไปลงที่ Wanhua station แล้วเดินเอาหน่อยนึง จริงๆมาทาง MRT ก็ได้นะครับแต่ผมขี้เกียจต่อรถไฟ แล้วก็รถเมล์แค่ 15 NT$ เอง แถมได้นั่งชมเมืองไปเรื่อยๆ
ระหว่างเดินไปป้ายรถเมล์ก็เจอกับเด็กน้อยกลุ่มนี้มาใน ธีม Halloween น่าร๊ากกกกก!
ต้องบอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยอินกับวัดแต่ก็อยากไปถ่ายรูป ไปเห็นสักครั้ง วัดนี้สถาปัตยกรรมคล้ายกับวัดจีนทั่วๆไป แต่ผสมกลิ่นอายญี่ปุ่นนิดๆ และทราบมาว่าเป็นวัดที่ชาวไต้หวันเคารพและศรัทธาอย่างมาก ก่อนออกจากวัดสามารถซื้อเครื่องรางเสริมดวงได้ด้วยน้าาา คล้ายๆญี่ปุ่นเลยครับ มีทั้งเรื่องงาน สุขภาพ ความรัก ลองไปต่อแถวซื้อกันดูนะครับ
พอถ่ายรูปเสร็จแล้ว(ใช้เวลาเร็วมาก) ก็ไปเดินเที่ยวในตลอกตลาดสดข้างวัดกะจะหาอะไรกินที่นั่นแต่ก็ไม่มีร้านถูกใจเลยคิดว่าไปหากินเอาข้างหน้าแล้วกัน
จากวัด Longshan ผมตัดสินใจไป check in ที่ Chiang Kai Shek memorial hall จากใน map บอกว่าเพียงแค่ 2 กิโลเมตรเลยตัดสินใจเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเราก็ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมกลางเมืองของกรุงไทเปไปพลางๆ
สืบเนื่องจากเมื่อคืนลืมตามหาตึกแดงที่ Ximending เลยเอาตึกนี้แทนละกันเนอะ!
ป้อมประการอะไรสักอย่างคล้ายๆที่เกาหลีเลย
Taipei สะอาดและร่มรื่นมากครับ (อยากให้ กทม สวยแบบนี้บ้างจัง)
จนมาถึงจุดหมายปลายทางในบ่ายนี้ จัตุรัสขนาดใหญ่ กลางเมือง Taipei
Chiang Kai-shek Memorial Hall
ระหว่างเดินเที่ยวรอบๆลานกว้างบริเวณหน้า Memorial Hall ก็สังเกตเห็นคู่รัก LGBT มาถ่ายรูปสวีทกันเยอะมาก ก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมไต้หวันดูเยอะและเปิดเผยจัง มาถึงบางอ้อก็ตอนเดินออกมาทางด้านหน้าซุ้มประตู ออกมาก็เจอกับขบวนพาเหรดของกลุ่ม LGBT ถึงทำให้ทราบว่าวันนี้ที่ Taipei จัดงาน Taipei Gay Pride 2017 ขบวนพาเหรดเคลื่อนไปตามถนนใหญ่มาก มีการปิดถนนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาร่วมเดินขบวน
หลังจากยืนชมขบวนพาเหรดได้สักพัก ก็ถึงเวลาที่เราต้องไปจุดต่อไป คือ Huashan 1914 creative park
ผมขึ้นรถเมล์อีกเช่นเคย แต่หากใครจะโดยสาร MRT ก็ให้โดยสาร MRT Blue Line (Bannan Line) แล้วมาลงที่ Zhong Xiao Xing Sheng Station ออก Exit 1 ได้เช่นกันครับ
สถานที่แห่งนี้จะมีผู้คนมาโชว์ความเฟี้ยวกัน มีลานกิจกรรม อาคารแสดงสินค้า โดยอาคารที่นี่จะแทรกความ creative เอาไว้ในทุกซอกทุกมุม
เดินชมการแสดงจนเพลินเกือบลืมไปว่ายังมี อีกตั้ง 2 check point เลยต้องรีบเดินไปหน้าห้างฝั่งตรงข้ามเพื่อขึ้นรถเมล์ไปลงที่ Sun Yat-sen Memorial Hall
ถ่ายรูปพอหอมปากหอมคอ ก็ต้องรีบไปต่อ โดยเดินทะลุ Sun Yat-sen Memorial Hall เข้าไป อีกฝั่งนึงจะมีป้ายรถเมล์ สาย 266 หรือ 288 shuttle เราก็ขึ้น แล้วไปลงที่ป้าย Wu Xing Elementary School (Song Ren) ซึ่งอยู่ตีนเขาเลยครับ เดินข้าม 4 แยกไปฝั่ง 7/11 แล้วตรงขึ้นไปก็จะถึงจุดเริ่มต้นของเส้นทางครับ
จุดชมวิวจะมี 2 level
1. ที่ 350 เมตร
2. ที่ 450 เมตร
สำหรับผมเลือกไปมัน 2 จุดเลยครับ แค่จุดแรกก็หอบแล้ววว 😂😂😂 แต่พกเครื่องดื่มชูกำลังมาด้วย จุดนี้สู้ตายย แต่......เอ๊ะ......เดี๋ยวก่อน...... ลืมยาดมมมม 😭😭😭
วิวจาก Level 1
ส่วนใครไหวอันไหนก็ตามนั้นครับ จุดที่ 2 จะเป็นจุดที่มีก้อนหินต่อคิวอยู่ครับ คิวยาวมาก ยอมแพ้ (จริงๆไม่มีคนถ่ายรูปให้ 555)
Level 2 มี 2 จุดชมวิว จุดแรกคือบริเวณโขดหิน
ช่วงพลบค่ำวิวจะสวยเป็นพิเศษแบบนี้
หลังจากชื่นชมวิวเสร็จแล้วก็ถึงเวลาลง ชิวๆๆๆๆ เข่าจะพัง 555 เอาจริงๆ ไม่เหนื่อยมากครับพอรับได้วิวสวย เห็นแล้วก็หายเหนื่อยละครับ 555++
หลังจากวันนี้ทำสถิติเดินมาราธอนตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เป็นเวลา 19.00 น. ร่างกายก็เพรียกหาอาหาร ผมจึงเซิสหา Night Market ไกล้ๆก็พบว่ามีอันที่น่าสนใจอยู่ คือ Roahe Night Market
การเดินทาง : โดยสาร MRT มาลง MRT Songshan Station หรือถ้าใครจะนั้งรถบัสหลังจากลงเขาก็ทำได้โดย ลงมาที่ตีนเขา แล้วรอรถบัสสาย 266 ที่ป้ายตรงข้ามโรงเรียน Wu Xing Elementary School คือป้ายเดิมที่เราลงตอนแรกนั่นแหละ หรือถ้าไม่อยากข้ามถนนหลังลงเขา ก็ให้ยืนรอรถตรงข้ามป้ายที่เราลง เพราะรถบัสสาย 266 มันจะไปยูเทิร์นกลับมารับฝั่งตรงข้ามอยู่ดี ไอเราก็ไม่รู้ตาลีตาเหลือกจะไปขึ้นฝั่งตรงข้ามให้ทัน ขี้เกียจรอนาน ขึ้นรถเจอหน้าคนขับ คุณลุงพูดภาษาจีนบอกประมาณว่ารอตรงนั้นก็ได้ จะวิ่งมาเพื่ออออออ T^T ก็หนูไม่รู้นี่นาาาาาา หลังจากนั้นนั่งมาลงที่ป้าย City Government แล้วข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามจะเจอป้ายรถบัสคันถัดไปที่เราจะโดยสายคือบัสสาย 611 แล้วไปลงที่ป้าย Songshan Station เช่นกัน ครับ ตามนี้เด้ออออ
มาถึงก็ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามที่มีวัดสวยๆอยู่ ตลาดอยู่ตรงนั้นเลย คึกคักมากกกกกกก
ก้าวข้ามประตูมาก็เจอด่านแรกเลยครับ คนต่อคิวกันยาวมากกับซาลาเปาร้านดัง แต่ผมขี้เกียจรอ แล้วก็ลองที่อื่นมาแล้วขอผ่านครับ
วันนี้คนแน่นมากกกกก ไม่รู้วันอื่นเป็นแบบนี้มั๊ยย ฟิลลิ่งตลาดนี้จะดู เล็ก และ Local กว่า Shilin Night Market เน้นไปทางของกินมากกว่าช๊อปปิ้ง ส่วนตัวผมชอบที่นี่มากกว่า ไม่ใหญ่จนเกินไป เดินวนไปกลับก็กำลังพอดี
เดินมาก็เยอะละ หิวมากด้วย มารีวิวอาหารกันดีกว่า ต่อไปนี้เป็นอาหารที่ผมเห็นว่ามันน่าลองเมื่อมาตลาดนี้นะครับ จริงๆมีอีกหลายอย่างที่อยากลองแต่อิ่มมากกกก ไปดูกันเลยดีกว่า
ไส้กรอกคอไก่ (รึเปล่านะ) : อร่อยดีอันนี้ผ่านครับ อ้วนๆ
คอหมูย่าง : ผ่านเช่นกันครับ แต่บ้านเราหร่อยที่สุดด
เสี่ยวหลงเปาทอด : อันนี้ก็อร่อยยยย
ต่อกันด้วย ป๋วยเล้ง ไต้หวัน ทานกับข้าว : น้ำซุปยาจีนครับ เนื้อกระดูกเปื่อย อร่อยแบบจีนๆครับ ทานคู่กับซอสพริกของทางร้านช่วยเพิ่มความอร่อยได้ครับ
อันนี้วันที่ไปตลาด Shilin Night Market ไม่กล้าลองเพราะเดินผ่านแล้วกลิ่นแบบเหม็นมาก เหมือนขี้ไก่ ไม่ไหวจริงๆ แต่ร้านนี้พอเดินผ่านกลิ่นไม่แรงมาก เลยอยากลองสักครั้ง สรุป อร่อยจร้าาาา 555 ชอบๆ เนื้อสัมผัสแน่นกว่าเต้าหู้ทอดของไทย แต่ในใจอยากได้น้ำจิ้มถั่วของไทยมากินแทน 5555
คือถ้าจะกินต่อจากทั้งหมดนี้ก็คงจะท้องแตกตาย จริงๆอยากลองหอยทอดไต้หวันด้วยแต่ไม่ไหวละเลยขอตัดจบของคาวด้วยของหวานกันเลยครับ
ขนมถังแตก peanut butter : อร่อยยยย หอมเนยถั่วมาก
ตัดเลี่ยนด้วยน้ำชาวุ้นมะนาว(น้ำกบ 555)
และแล้วก็จบไปอีก 1 วันในไต้หวันครับ อิ่มมากกก อิ่มที่สุด เกินคำว่ากิน อิ่มแล้วก็เหนื่อยมากเลยครับวันนี้ เลยตรงกลับที่พักทันที โดยรถบัสอีกตามเคย ผมว่านั้งบัสสะดวกกว่ารถไฟอีกนาาา ไม่ต้องเดินไกล ประหยัดกว่าด้วย แล้วการใช้ google map ในการค้นหาเส้นทางโดยรถบัสก็สะดวกและแม่นยำมากๆ เลยครับ วันนี้ขอตัวลาไปก่อน เจอกันพรุ่งนี้กับวันสุดท้ายใน Taipei เพราะตอนบ่ายเราจะเหินฟ้าไปยัง Busan ประเทศเกาหลีไต้กันครับ สำหรับคืนนี้ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ ครับทุกคนนนน